(^人^) อิ่มหมีพีมันทริป @ กัปตันฮุครีสอร์ท เกาะกูด (^人^)
ห่างหายจากการอัพเดท blog มานาน คราวนี้ได้โอกาสพา TAG BP รุ่นล่าสุดไปเที่ยวค่ะ แน่นอนเที่ยวทะเลอีกแล้น ทำไงได้เนอะ ก้อคนมันรักทะเลหนิ อิอิ ทริปนี้ลงตัวที่เกาะกูดค่ะ นี่ไม่ใช่การเยือนเกาะกูดครั้งแรกของเรา เคยไปตั้งแต่ปี 2005 แต่คราวนั้นพักเกาะกูดอ่าวพร้าวบีชรีสอร์ท คราวนี้ไปเยือนอีกครั้งขอเปลี่ยนรีสอร์ทมั่ง หลังจากได้ยินคำร่ำลือมานานนมว่ากัปตันฮุคดีมากๆ อยากจะพิสูจน์ด้วยตัวเอง พอดีรีสอร์ทได้ไปออกงานไทยเที่ยวไทยเมื่อเดือนกันยาที่ผ่านมา เลยไปสอยแพคเกจมาซะ ได้ลด%นิดหน่อยถ้าซื้อในงาน เราไปตกคนละ 5800 บาท สำหรับแพคเกจ 3 วัน 2 คืน ไม่รวมค่าเดินทางจากกรุงเทพค่ะ แต่รีสอร์ทมีรถตู้รับส่งค่ะ คิดคนละ 700 บาท ไปกลับกรุงเทพ-ท่าเรือเอาหละ ตามมาเที่ยวด้วยกันเล้ยยยยยยยย ได้เวลาพา TAG ไปเที่ยวแล้ว แต่ไม่เห็นมีใครมาทักแฮะ ฮ่าๆ นั่ง speed boat มาประมาณชั่วโมงนึงจากฝั่ง สิ่งที่เห็นคือน้ำทะเลสีเขียวๆฟ้า โอ้วววว สวยมากๆจริงๆ ในบริเวณรีสอร์ทก้อมีมุมถ่ายรูปน่ารักๆเต็มไปหมด เก้าอี้นั่งชิลด์ริมทะเล มี pool bar ด้วย (เบียร์ช้างกระป๋องละ 40 บาท) แม้ว่าจะอยู่บนเกาะ อยู่ริมทะเล แต่ก้อยังมีสระว่ายน้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่ในรีสอร์ท ว่ายน้ำไปมองทะเลไป ถ้าว่ายตอนเย็นจะเห็นพระอาทิตย์ตกด้วยค่ะที่นี่จะมีคายัคให้บริการนะคะ คลื่นไม่แรง น้ำไม่ได้ลึกมาก เหมาะแกการพายคายัคมากๆ พายไปชมวิวไป ชิลด์สุดๆเข้ามาดูห้องนอนกัน ของเราเป็นบ้าน 1 หลังนอนได้ 3-4 คนค่ะ ที่ห้อยกุญแจเค้าเก๋ดีมาก มีไฟฟ้าใช้ 24 ชม.ค่ะ แต่ว่าแอร์เปิดปิดเป็นเวลา ห้องน้ำก้อกึ่งๆ open air ใบไม้ สิงสาราสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย เดินกันให้ว่อน ไม่อยากจะบอกว่าห้องนอนเป็นสิ่งที่ไม่ชอบที่สุดในรีสอร์ทนี้ค่ะ คือบนที่นอนจะมีฝุ่นดำๆ คราบอะไรซักอย่าง เหมือนกะหล่นมาจากฝ้าหลังคาอ่ะค่ะ มีตั้งแต่ check-in เข้าห้องแล้วค่ะ บนเตียงจะสยองมากๆ ไม่กล้าจะนอนเลย ยิ่งปัดยิ่งเป็นด่างๆ พวกกลุ่มเราเดากันว่าเป็นพวกขี้จิ้งจก หรือเศษฝุ่นที่มันสะสมอยู่บนเพดานอ่ะค่ะ ไม่ค่อยอยากจะอยู่ในห้องซักเท่าไหร่ ออกมาดูพระอาทิตย์ตกดีกว่า บรรยากาศดีมากๆ มาถึงไฮไลท์ของที่นี่ค่ะ คืออาหารสุดอลังการ ได้ยินกิตติศัพท์มานานละว่าอาหารที่นี่อร่อยมาก เติมได้ไม่อั้น อิอิ อ้วนกันหละคราวนี้ อาหารที่นี่หลากหลายสุดๆ ต้องชมแม่ครัวที่นี่มากๆ สร้างสรรค์กับข้าวได้เก่งมาก ทำให้แขกที่มาพักมีทางเลือกมากมาย อาหารก้ออร่อย เติมได้ไม่อั้นขอบอกเริ่มของคาวนะคะ มื้อเช้ามีข้าวต้มเลือดหมู (เป็นหม้อๆเหมือนร้านข้าวต้มมาเองเลยค่ะ) มีข้าวต้มกุ๊ย มีไข่ทอด แพนเค้ก มากมายนับไม่ถ้วน สายๆเราจะเห็นถังไอติมมาวาง อิอิ ของโปรด เราไปสามวัน เปลี่ยนรสไม่ซ้ำ แต่รสหลักๆจะเป็นรสกะทิ แล้วจะมีรสพิเศษอีกรส สามวันสามรสเลย ทั้งรสใบเตย เผือก สตรอเบอรี่ กินได้ถึงเย็นจนกว่าไอติมจะหมดถัง อ่อ ข้าวเหนียวอร่อยมาก มื้อกลางวันจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ค่ะ มีเป็นข้าวผัด น้ำพริก ข้าวมันไก่ ข้าวคลุกกะปิ ราดหน้าทะเล กับข้าวตักๆ แกงเลียง แกงจืด ต้มแซบกระดูกหมู ทะเลลวกจิ้ม กุ้งทอด ก๋วยเตี๋ยว (อันนี้ก้อมีตู้มาตั้งเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวมืออาชีพด้วยค่ะ) มากมายนับไม่ถ้วนค่ะ มื้อบ่าย มีส้มตำค่ะ มีทับทิมกรอบ เฉาก๊วย บัวลอย เค้าจะตั้งประมาณบ่าย 2-4 โมง พวกที่ไปเที่ยวน้ำตก กะไปดำน้ำมา จะโหยหาของกินมาก ซึ่งเหมาะเหม็งไปเล้ยมาถึงมื้อเย็นที่รอคอย จาได้กินปูแว้ววววว มื้อเย็นวันแรกจะเป็นปูม้านึ่ง มีบาร์บีคิวกะทะร้อนด้วย ปิ้งๆย่างๆอ่ะค่ะ ปลาตัวใหญ่ หอยเชลล์ มื้อเย็นอีกวัน จะเป็นปูทะเลนึ่ง กุ้งเผา ปลาหมึกย่าง คอหมูย่าง ปลาทอดน้ำปลา โอ๊ยมากมาย คือตอนเราไปอยู่ที่รีสอร์ท 3 วัน 2 คืน เรียกได้ว่ากินทุกๆ 2 ชม. เลยค่ะ แป๊บๆก้อมีของกินมาตั้ง เปรมปรีดามากๆ (กลับมาอ้วนขึ้น 2 โล ) ที่กัปตันฮุคพนักงานบริการดีมากๆค่ะ วันกลับพนักงานจะมายืนส่งแขกที่ท่าเรือ สังเกตว่าพนักงานเค้าเยอะจริงๆค่ะ รวมๆแล้วชอบที่นี่มาก ไม่ชอบอย่างเดียวคือความฉกปกของเตียงนอน แต่หักลบกลบกะอาหารมากมายแสนอร่อยแล้ว เราให้ผ่านค่ะ อิอิ ปิดท้ายด้วยน้องหมาของกัปตันฮุคค่ะ จะมี 4 ตัว ทุกตัวใจดีมาก ตัวสีน้ำตาลชอบว่ายน้ำด้วย น้องหมาตัวใหญ่สีดำเนี่ยขอมือแล้วให้ด้วยนะ ส่วนเจ้าตัวเล็ก 2 ตัวก้อน่ารักมากค่ะ ชอบมานั่งใต้โต๊ะ ประจบประแจง ลาไปด้วยภาพน้องหมานะคะ แล้วโอกาสหน้ามารีวิวใหม่ค่า
^^ เที่ยวทะเลจันทบุรี Al Medina Beach House -- Moroccan styled resort ^^
เที่ยวทะเลมาจนไม่รู้จะไปไหนแล้ว ทั้งหัวหิน ชะอำ ระยอง พัทยา ไปถึงเกาะแก่งทั้งตะวันออก อ่าวไทย และอันดามัน แต่คนมันรักทะเลอะนะ ก้อต้องเสาะหาที่ใหม่ๆที่ไม่เคยไป จนมาลงตัวที่ทะเลจันทบุรี จริงๆแล้วสนใจที่ตัวรีสอร์ท Al Medina beah house มากกว่า เป็นสไตล์โมรอคโค ตั้งอยู่ที่หาดคุ้งวิมาน (ชื่อหาดเพราะมาก) แล้วก้ออีกตามเคย ไปได้แพคเกจมาจากงานไทยเที่ยวไทย เริ่มดูรีวิวกันเลย ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 3.5 ชั่วโมงค่ะ มาตามป้ายหาดคุ้งวิมาน มาถึงเจอรีสอร์ทสีขาวโดดเด่น แต่ขอสารภาพว่า คิดว่ารีสอร์ทจะใหญ่กว่านี้ แต่มาถึงเห็นด้วยตาจริงๆ ดูเล็กๆ มีอยู่ทั้งหมด 9 ห้องค่ะ เป็นตึก 2 ชั้น มีดาดฟ้าด้วยบรรยากาศด้านหน้าแถวๆ front desk กระเบื้องสีๆนี่เป็นสไตล์ของโมรอคโคเลย ก่อนเข้าห้องพัก ขึ้นไปสำรวจบนดาดฟ้ากันหน่อย อันนี้คนละวัน วันแรกที่ไปถึงฟ้ามืด ฝนตก แต่อีกวันแดดแรงมาก เลยเอารูปให้ดูทั้ง 2 อารมณ์ วิวบนดาดฟ้าจะสวยมากค่ะ ด้านหลังรีสอร์ทจะเป็นเขา แล้วรีสอร์ทก้อจะอยู่ริมสุดของหาดพอดี ตอนเย็นๆ ดูพระอาทิตย์ตกได้คะ บรรยากาศดีมาดูห้องพักกันดีกว่า เราพักห้องเบอร์ 9 ชื่อห้อง Tangier กุญแจห้องเป็นน้องหมี Jim Thomson ห้องนี้จะเป็นห้อง 2 เตียง (รู้สึกจะเป็นห้องเดียวที่มี 2 เตียง ห้องอื่นๆเค้าเป็น king size เหมาะจะไปสวีท ) อ่อ ห้องนี้อยู่ชั้น 2 ค่ะ แล้วห้องนี้ก้อแปลกมากๆ ไขประตูห้องมา เจอห้องน้ำเลยอ่ะค่ะ แบบว่าก้าวเข้าประตูห้องมา คืออยู่ในห้องน้ำเลย (คือถ้าจะเดินไปนอน ต้องเดินผ่านห้องน้ำก่อน) โบราณเค้าว่า มีลูกผู้หญิงเหมือนมีส้วมอยู่บ้าน เราเลยบอกกะเพื่อนว่า ชั้นขอเรียกห้องนี้ว่า ห้องผู้หญิง แล้วกัน เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอ shower อยู่ทางซ้าย ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีฟ้าน้ำเงิน สวยดีนะ ด้านขวามือจะเป็นอ่างล้างหน้ากะโถส้วม พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำ+โลชั่น ครบครันเดินเข้ามาข้างในส่วนของห้องนอนก้อจะเจอตู้เสื้อผ้าสีสันจัดจ้านค่ะ สีเขียวด้านซ้ายเป็นของห้อง Tangier ส่วนเหลืองด้านขวาเป็นของห้องเบอร์ 1 Essaouira ค่ะพูดถึงห้อง Essaouira แล้วมาชมห้องนี้กันเลย พอดีไปกลุ่มใหญ่พักกันหลายห้อง เลยมีโอกาสไปสิงสถิตย์+ชมห้องหลายห้อง อิอิ ห้องนี้อยู่ด้านล่างค่ะ ริมสุดของรีสอร์ท ตกแต่งด้วยสีขาว แต่ถ้าดูจากเว็บหรือโฆษณา เค้าจะตกแต่งด้วยผ้าออกแนวสีแดงๆ จัดจ้านๆหน่อย แต่วันที่เราไปดันเอาสีหวานๆมาใช้ เลยคิดว่าไม่ค่อยโมรอคโคเท่าไหร่อ่ะ ห้องนี้นอนได้ 3 คนนะ เพราะมี day bed อยู่ด้านข้าง ห้องกว้างกว่าห้องเบอร์ 9 เยอะค่ะ ห้องน้ำก้ออยู่ด้านหลังด้วย (ค่อยยังชั่ว) มาดูอีกห้องนึง อันนี้ห้องเบอร์ 3 ชื่อห้อง Rabat ห้องนี้อยู่ชั้นล่างเหมือนกัน ใกล้ๆกะห้องเบอร์ 1 เราไม่ได้นอนห้องนี้ แต่เราชอบห้องนี้ที่สุดอ่ะ ดูการจัด layout ของห้องแล้ว practical ที่สุด ตอนกลางคืนจะมีคนเอา chocolate มาวางให้บนเตียง พร้อมกับพยากรณ์อากาศสำหรับวันพรุ่งนี้ค่ะ ส่วนคืนก่อนที่จะ check-out เค้าจะเอา chocolate มาให้ บวกกับตุ๊กตาหมี (ชอบ chocolate อร่อย )มาถึงอาหารเช้าดีกว่า มีให้เลือกระหว่าง ABF หรือข้าวต้ม เราพัก 2 คืน เลยกินทั้ง 2 อย่าง ในชุดจะมีน้ำผลไม้ กะ ชา/กาแฟ/โอวัลติน ด้วยค่ะมาดูทะเลกันบ้าง รีสอร์ทเค้าจะมีเก้าอี้ชายหาด โต๊ะ ตั้งอยู่ริมทะเล หน้ารีสอร์ทเลย ไปนั่งชิลด์ ดูทะเลได้ แต่จะว่าไปแล้วหาดนี้ไม่สวยเอาซะเลยอ่ะ ทรายไม่ละเอียด ออกแนวทรายก่อสร้างไงไม่รู้ จบแล้วมินิรีวิวของ Al Medina รู้สึกว่าคาดหวังกะที่นี่ไว้เยอะ ในส่วนของความอลังการของห้องพักและการตกแต่ง เนื่องจากราคาห้องตกอยู่ที่คืนละประมาณ 4-5 พันบาท แต่พอมาพักจริงๆ มันไม่ได้เป็นเหมือนที่คิดไว้ ออกจะธรรมดาไปหน่อย ถ้าซักคืนละ 3 พันน่าจะ reasonable สิ่งที่ไม่ค่อยชอบคือ มีมดกะแมลงเยอะมากๆอ่ะ มดนี่เดินยั้วเยี้ยในห้องเต็มไปหมดอ่ะ อีกอย่างคือไม่ชอบประตูห้องพักเอาซะเลย รู้สึกเป็นสิ่งที่ไม่ practical เอามากๆ เช่น จะต้องมีคนเดินมาล๊อคประตู เพราะประตูมันล๊อคไม่ได้ด้วยตัวเอง คือถ้าคนนึงจะออกไปข้างนอกห้อง แต่อีกคนนึงจะนั่งเล่นในห้อง ก้อต้องเดินไปล๊อค จะเกิดความลำบากทุกครั้ง แต่สิ่งที่ชอบคือบริการค่ะ อ่อ กะ chocolate ด้วย อร่อย
-:-:-:- อีกซักครั้งกับหัวหินที่ไม่มีทะเล @ เทวัญ ดารา รีสอร์ทแอนด์สปา -:-:-:-
คราวนี้พาไปเที่ยวหัวหิน (อีกแล้ว) พักรีสอร์ทสวยๆ แต่ไม่ติดทะเลนะ คราวนี้ไปพักที่เทวัญดารา รีสอร์ทแอนด์สปา รีวิวนี้เน้นห้องพักนะคะ นี่ทางเข้าค่ะ รีสอร์ทไปทางเดียวกับวัดห้วยมงคลห้องที่เราพักเป็นแบบ Two bedrooms premier pool villa นี่ทางเข้าบ้านค่ะจะแบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้อง ซ้ายขวา ตรงกลางเป็นห้องนั่งเล่นค่ะมาดูห้องนอนห้องแรกกัน ห้องนี้จะมีสีสันหน่อย มี day bed ด้วย นอนได้อีก 1 คนวิลล่านี้เพดานสูงดี ชอบค่ะ มันดูไม่อึดอัด นี่ห้องน้ำค่ะ กว้างมาก ด้านนึงเป็นโถส้วม ห้องนี้มีกล้วยไม้ (ปลอม) มาประดับตามช่อง น่ารักดี ส่วนตรงกลางเป็นที่อาบน้ำค่ะ เพดานใส มองเห็นท้องฟ้า (+ สายฝน) อีกด้านนึงเป็นอ่างล้างหน้า ข้ามมาดูห้องนอนอีกห้องค่ะ อันนี้จะโทนขรึม มีโต๊ะทำงาน ต่อ Wi-fi ได้ค่ะ ฟรีโลด ไปขอ user password ได้ที่ front desk โคมไฟเป็นไม้ๆ สังเกตกำแพงจะมีเปลือกหอยมาประดับ ด้านหลังเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้งใหญ่ด้วยห้องนอนด้านนี้มีอ่างอาบน้ำ กึ่งๆ open-air นะส่วนห้องน้ำ ก้อคล้ายๆฝั่งโน้น มี shower ตรงกลาง มีผ้าเช็ดตัว เช็ดหน้าให้พร้อม ด้านหลังโถส้วมฝั่งนี้จะตกแต่งด้วยแก้วใส่เทียน จุดได้ด้วยนะ (ห้องนอนนู้นใช้กล้วยไม้ตกแต่ง)ในห้องนอนทั้งสองห้อง จะมีเสื้อคลุม ไม้แขวน รองเท้าแตะ ร่ม และอุปกรณ์อาบน้ำให้ค่ะทีนี้มาดูห้องนั่งเล่นส่วนกลาง มีโซฟา+ หมอนสีสันงามตามีห้องครัวด้วยค่ะอันนี้ถ่ายให้มันสะท้อนวิวนอกบ้าน เห็นชัดมั่งไม่ชัดมั่ง 555 มาดูสระกันมั่ง ไฮไลท์เลย วันที่ไปฝนตก เห็นพื้นเปียกๆมั้ยสระอยู่หน้าบ้านเลยค่ะ มองจากห้องนอนทั้ง 2 หรือจะมองจากห้องนั่งเล่นก้อเห็นหน้าบ้านมีศาลาให้พักผ่อนด้วย (ถ้าในบ้านนอนไม่พอ มานอนตรงนี้ได้ ฮ่าๆ )ออกไปดูนอกบ้านบ้าง มีสระว่ายน้ำส่วนกลางค่ะ จะมีโต๊ะปิงปอง สนามบาส โต๊ะสนุกด้วยอันนี้เป็นห้องสมุดค่ะ มีอินเตอร์เน็ตให้เล่น ฟรีค่ะนี่ระหว่างทาง บรรยากาศในรีสอร์ท ตกแต่งแบบธรรมชาติดีอันนี้หน้าทางเข้า แถวๆ front desk จะมีมุมถ่ายรูปมากมาย จบแล้วค่า รีวิวให้ดูเผื่อเป็นทางเลือก ห้องที่นี่สวยดีค่ะ วันๆอยู่แต่ในห้องไม่ได้ออกไปไหนเลย อิอิ ใครสนใจเข้าไปดูได้ในเวบเค้านะคะ มีราคาพร้อม แพงใช้ได้เลย แต่เราไปฟรี ฮ่าๆ //www.dhevan-dara.com/rates.html
เกาะหมาก - เกาะขาม ในช่วงซัมเมอร์ที่ฝนตก (อีกแล้ว)
ทริปนี้เป็นทริปช่วยชาติ เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก ไปได้แพคเกจมาจากงานท่องเที่ยวไทยเมื่อเดือนมีนาคม ซื้อแพคเกจของเกาะหมากรีสอร์ทไว้ ราคาแบบถูกมากๆ ลดกระหน่ำมากๆอ่ะ ไม่ไปไม่ได้แล้ว ราคาแพคเกจคนละ 2300 บาท ราคานี้รวม- Speed boat ไปกลับแหลมงอบ รีสอร์ท- ที่พัก 2 คืน + อาหารเช้า - เที่ยวเกาะขาม- นั่งรถเที่ยวรอบเกาะหมาก- BBQ Dinner 1 มื้อราคานี้คุ้มแสนคุ้ม ตอนที่จองไปก้อลุ้นๆอยู่ว่าถูกขนาดนี้ จะดีจริงๆหรือป่าว บ้านพักที่เห็นจากเวบไซค์เค้าดูดีมาก ตอนที่มาออกบูธที่งานเที่ยวไทยก้อเหมือนกัน ดูแล้วน่าไปจริงๆ เอาหละ เริ่มเดินทางกันเลย เดินทางโดยรถทัวร์ขึ้นที่เอกมัย ไปกะเชิดชัยทัวร์ รถทัวร์ออกเวลา 23:30 น. ตรงเวลาเป๊ง (ค่ารถไปกลับ 456 บาท) ไปถึงที่พักรถเชิดชัยที่ตราด ประมาณตีสี่ได้ นั่งพัก นั่งเล่น จนถึงประมาณเกือบ 6 โมง ก้อนั่งรถสองแถว (หน้าที่พักรถนี่แหละ) ไปแหลมงอบ คิดค่ารถคนละ 50 บาท ไปถึงท่าเรือเช้ามืดเลย ฟ้ายังไม่สว่างเลย นั่งรอจน 9.30 น. เรือออก (ถ้าเอารถไปเอง คงไม่เหนื่อยขนาดนี้) มาถึงรีสอร์ทประมาณ 10:30 น. ฝนตกมากมาย อย่างเซ็ง แต่คิดในใจมาถึงได้อย่างปลอดภัยก้อบุญแล้น เข้าที่พักกันเลยดีกว่า เราพักห้อง Luxury Beachfront Busaracum ที่พักที่นี่เห็นวิวทะเลทุกห้องเลย หาดเค้ายาวมาก ห้องที่เราพักเป็นหลังด้านซ้ายล่างนะ ส่วนบ้านด้านขวาคือบ้านที่อยากพัก แต่มีแค่ 4 หลังเอง จองไม่ได้ อันนี้ภายในห้องนอนแบบ Luxury Beachfront Busaracum นอนได้ 2 คน มี day bed อีกหนึ่ง จริงๆ นอนได้ 3 คน สบายๆอันนี้เป็นวิวภายในรีสอร์ท มีสระว่ายน้ำ มีบาร์ตรงสระ มองจากห้องพักก้อเห็นหาดทราย และทะเลแล้ว รูปด้านซ้ายนี้เป็นห้องแบบไฮโซสุด สวยมั่กๆ ไว้มาสวีทกะคู่รัก มีขายในงานเที่ยวไทยเหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิด ราคา 2990 ต่อคน สิ่งที่ได้ก้อเหมือนข้างบน แต่เปลี่ยนจาก BBQ Dinner เป็น Romantic Dinner แล้วก้อนอนห้องโรแมนติกกว่านี่หาดหน้ารีสอร์ทค่ะ มองจากห้องอาหาร มองจากบ้านพัก แล้วนี่ก้อน้องหมาของเจ้าของ (มั้ง)นี่สะพานเทียบเรือ เป็นอีกวิวไว้ถ่ายรูป ด้านซ้ายบนถ่ายเข้าหารีสอร์ท ด้านขวาบนถ่ายย้อนขึ้นไปที่เห็นนั่นก้อคือเกาะขามค่ะ ใกล้นิดเดียวพูดถึงเกาะขามแล้วข้ามไปเกาะขามเลยดีกว่า ขึ้นเกาะขามเนี่ยเสียค่าขึ้นเกาะ 100 บาท ถ้าซื้อแพคเกจไว้ ก้อไปรับคูปองขึ้นเกาะได้ ฟรีโลด คูปองเอาไว้แลก 1 ดริงก์ เป็นน้ำอัดลมอ่ะค่ะ เรือที่ใช้ข้ามไปก้อคือเรือเล็กๆ อย่างที่เห็นภาพล่างขวาค่ะ ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีก้อถึงค่ะ ใกล้นิดเดียวเกาะขามมีจุดเด่นหลักๆอยู่ที่หินภูเขาไฟค่ะ ไปถึงจะเห็นหินสีดำๆมากมายๆ แต่ละก้อนก้อใหญ่ๆทั้งนั้น แถมหาดทรายก้อขาว น้ำใสด้วย เสียดายมากๆ ตอนที่เราไปฝนตก พายุมา อดเห็นน้ำทะเลสีฟ้าตัดกะแสงอาทิตย์เลย อย่างเซ็ง กลับมาที่เกาะหมากต่อ ตอนเย็นถ้าฝนไม่ตก จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินค่ะ สวยมากๆ ทีนี้มาดูอาหารกันบ้างดีกว่า อาหารเช้าเค้ามีเมนูให้เลือกค่ะ คนนึงเลือกอาหารได้ 2 อย่าง สำหรับคนที่รีบ ข้าวต้มจะมาเร็วกว่าพวกไข่ดาวหมูแฮมนะ ที่เราสั่งก้อมีแพนเค้กกล้วย ข้าวต้มกุ้ง ข้าวต้มปลา อาหารโอเคค่ะ โดยเฉพาะแพนเค้ก ถ้าใครจะสั่งต้องระบุเลยนะคะว่าจะเอากล้วยหรือสัปปะรด ถ้าไม่บอกจะได้แพนเค้กเปล่าๆแพคเกจที่เราซื้อไม่รวมอาหารกลางวันค่ะ ก้อเลยต้องหากินตามร้านอาหารของโรงแรม อันนี้สั่งส้มตำปูม้าไป ก้ออร่อยดี จานนี้ราคา 150 บาท มาถึงไฮไลท์ของอาหารในทริปนี้ BBQ Dinner ค่ะ ตอนแรกก้อคิดว่าเอ จะอิ่มมั้ยน้อ ราคาแพคเกจถูกขนาดนี้ เค้าคงไม่ได้ให้กินไรมากมายหรอก แต่ปรากฎว่าดีเกินคาด!!!!!! อาหารทะเลเต็มๆ มีทั้งปลาหมึกย่าง (จานใหญ่) ปูม้านึ่ง (คนละตัว) กุ้งทอด ปลาเผา ข้าวผัดปูจานอย่างใหญ่ มีซุปให้คนละถ้วย BBQ คนละไม้ ตบท้ายด้วยผลไม้ล้างปาก กินกันไม่หวาดไม่ไหวเลยอ่ะ อิ่มมากๆ ยิ่งคิดยิ่งคุ้มสุดๆไปเลย อาหารทะเลสดมาก เยอะ อร่อย มื้อเนี้ยะประทับใจสุด ทั้งอิ่ม ถูกและดี ตอนอยู่บนเกาะก้อไม่ได้ทำอะไรมาก ไม่ไปดำน้ำด้วย เพราะคิดว่าทางใต้สวยกว่าอยู่แล้ว เลยกะชิลด์ๆ บนเกาะ แต่เสียดายที่ฝนตกเลยได้อยู่แต่ในห้อง เราไป 3 วัน 2 คืน โชคดีที่วันสุดท้ายได้เห็นแสงแดด ฝนไม่ตก ถามว่าเกาะหมากสวยมั้ย เราว่าเฉยๆนะ เราชอบเกาะกูดมากกว่า แต่เกาะขามเราว่าดีนะ เป็นเกาะเล็กๆ น้ำทะเลใสดี เหมาะแก่การพักผ่อน แต่ได้ข่าวมาว่าจะมีรีสอร์ทไฮโซๆ มาเปิด (ตอนนี้สร้างอยู่) เกาะหมากที่ประทับใจก้อเพราะแพคเกจราคาย่อมเยาของเกาะหมากรีสอร์ทเนี่ยแหละ เราใช้ไปทั้งหมด 3700 บาท รวมค่าแพคเกจ ค่าเดินทางจากกรุงเทพ ค่าอาหารที่จ่ายเองทุกมื้อ ถือว่าไม่แพงเลย ใครสนใจที่นี่ลองเข้าไปดูนะ เวบเค้าสวยดีค่ะ //www.kohmakresort.com/สุดท้ายขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมค่ะ ทริปต่อไปกลับไปหัวหินเหมือนเดิม ฮ่าๆ
++ A K A G u t i . . . . . หัวหินที่ไม่มีทะเล ++
สืบเนื่องจากการไปเดินงานไทยเที่ยวไทยอีกเช่นเคย ได้ package ของ AKA Resort Hua Hin มา เคยอ่านรีวิวมานานแล้ว เห็นว่าที่พักสวยดี แล้วก้อมีงงบ้าง ว่า AKA กะ AKA Guti มันต่างกันยังไง แล้วเราควรพักที่ไหนดี เราซื้อ package เป็นแบบ member ในราคา 11500 บาท ได้ห้อง one-bedroom pool villa 1 คืน กะ two-bedrooms pool villa อีก 1 คืน แล้วก้อยังมี spa, cocktail, ice-cream, yoga class อีก เลือกได้ว่าจะพักที่ AKA หรือ AKA Guti ราคานี้เพื่อนบอกว่าคุ้มแล้ว มันเลยจัดการซื้อไป ไอ้เราเลยโชคดีไป อิอิ อย่างที่รู้กันทั้ง AKA กะ AKA Guti อยู่บนเขา ไม่ได้ติดทะเลเฉกเช่นรีสอร์ทในหัวหินทั่วๆไป นี่ก้อเป็นครั้งแรกที่มาหัวหินแล้วไม่ได้สัมผัสไอทะเลเลย ขึ้นเขามา นึกว่าไปเขาใหญ่ เราเลือกพักที่ AKA Guti เนื่องจากว่ามันค่อนข้างจะโล่งๆ มองวิวได้กว้าง ดูแล้วไม่อึดอัด มาถึงรีสอร์ทแล้ว ความรู้สึกแรกที่เห็นตอนมาถึง คือรูปลักษณ์ การตกแต่ง ให้ความรู้สึกเหมือนไปเที่ยวเมืองเหนือ มันแบบเป็นหลังคาใบจาก สีที่ใช้ (ไม่รู้เรารู้สึกไปเองป่าวนะ) อันนี้ก้อเป็นบ้านแบบ two-bedrooms เหมาะกับการมาเป็นหมู่คณะเนื่องจากเรามากะเพื่อนสาว (เสียของเนอะ แทนที่จะมาสวีทกะแฟน ฮ่าๆ) one-bedroom ก้อโอเชแล้ว นี่เป็นรูปจากในห้องนอน ห้องใหญ่มากๆ แบ่งเป็นโซนห้องรับแขก มีทีวี มี day bed ให้ อีกโซนเป็นห้องนอน อีกโซนเป็นห้องน้ำ ห้องกว้างมากๆ เราว่านอนได้เป็นสิบคนสบายๆ ของใช้ในห้องค่ะมาดูห้องน้ำกัน อุปกรณ์ครบครัน ห้องน้ำนี่ก้อใหญ่มากเหมือนกัน จะแบ่งเป็น 3 โซน ฝั่ง shower อยู่ซ้าย ฝั่งห้องน้ำอยู่ขวา มีอ่างน้ำอยู่โซนกลาง กึ่งๆ open-air ไฮไลท์คือ pool นี่แหละค่ะ เปิดหน้าต่างจากห้องนอนไป ก้อเดินลง pool ได้เลย ถือว่า pool ใหญ่เหมือนกันนะสำหรับไว้แช่ เอาโรแมนติก (มากะเพื่อนสาว โรแมนติกไม่ออก ฮ่าๆ) ชิลด์ๆ มองวิว แต่ถ้าจะจ้วงว่ายน้ำกันแบบเอาให้เหนื่อยนี่ ต้องเชิญสระใหญ่ส่วนกลางค่ะ เราว่านี่เป็นข้อดีของการพัก AKA Guti นะ เพราะเวลาลง pool มันจะมองเห็นวิวมุมกว้าง ท้องฟ้า ภูเขา + บ้านข้างๆ ฮ่าๆ ห้องนอนแจ่มแล้ว ไปดูอาหารเช้ากัน เราสามารถทานอาหารเช้าได้ที่ทั้ง AKA กะ AKA Guti ค่ะ (ที่พักห่างกัน 5 นาทีอะถ้าขับรถ) พนักงานบอกว่า ที่ AKA อาหารจะเยอะกว่า มี chef ทำตามสั่ง มีบุฟเฟ่ต์อลังการ เราพักที่ AKA Guti ก้อไปทานที่ AKA ได้ เลยถือโอกาสไปชมที่ AKA ด้วยเลย ไปถึงคนเยอะมากๆ รู้สึกได้เลยว่าดีแล้วที่พักที่ AKA Guti ดูสงบกว่า อาหารแจ่มจริงๆ ทั้งสลัด ขนมปัง เครื่องดื่ม ที่ชอบมากนี่คือให้มะพร้าวทั้งลูกเลย มีน้ำผลไม้อีกมากมาย ขนมปังอีกเซ็ตนึง อร่อยด้วย ส่วน main dish นี่เลือกเอาจากเมนูกินกันจนอิ่มอ่ะ อร่อยนะ คิดไม่ผิดที่มากินที่นี่ ได้เวลาเดินย่อยอาหาร นี่เป็นทาง front desk ของ AKA ตกแต่งดู boutique คนละแบบกับทาง Guti ที่ดูจะเป็นธรรมชาติดิบๆ มากกว่า ที่นี่ต้นไม้จะดูเขียวๆกว่า ดูแล้วสดชื่นกว่า ในส่วนของส่วนกลางนะ ของ Guti จะเป็นภูเขาๆ ซึ่งหน้าร้อนภูเขามันก้อแห้งๆ ออกสีน้ำตาลหน่อยๆ ดูแล้วไม่สดชื่นเท่า (ดูได้จากภาพแรก) แต่บ้านพักที่ AKA จะมีกำแพงสูงมาก อยู่ในบ้านมองไม่เห็นอะไรนอกบ้านเลย ความรู้สึกเราคือเราว่ามันอึดอัดไปนะ หมดแล้ว 2 วัน 1 คืนนี่ผ่านไปรวดเร็วมาก เหมือนไม่ได้มาหัวหินเลย อารมณ์แบบเที่ยวป่าเที่ยวเขา หัวหินที่ไม่มีทะเลมันเป็นอย่างนี้นี่เอง!!! แต่ก้อดีนะ คิดอยู่ว่าถ้ามาหน้าหนาว อากาศต้องเย็นสบาย ต้นไม้เขียวๆ คงจะสวยกว่านี้ ขอบคุณที่แวะมาชมค่ะ