(^_^) ชิวชิวริมทะเลภูเก็ต กับรีสอร์ทสุดสวย กะตะธานี ภูเก็ตบีช รีสอร์ท (^_^)
มาอีก 1 รีสอร์ทที่จะนำเสนอนะค่ะ ""กะตะธานี ภูเก็ตบีช รีสอร์ท ชื่อก้อบอกอยู่แล้ว ว่าอยู่หาดกะตะ ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัว เพราะว่ามีรีสอร์ทเดียว มีหาดเป็นของตัวเอง หาดทรายหน้ารีสอร์ทยาวมากค่ะ เหมาะกะจะไปชิวชิว อีกรูป คลื่นแรงมากๆ อ่ะ เล่นน้ำไม่ได้ด้วย แต่เค้าบอกว่าถ้าเป็นหน้าร้อนนะ ทะเลจะสวยมาก โดดลงน้ำไปเลย รู้สึกบนโขดหิน-ภูเขาลูกที่เห็น จะเป็นรีสอร์ทหม่อมตรีค่ะนี่เป็นรูปแบบที่พักค่ะ เค้าจะแบ่งเป็นส่วนธานี กะส่วนบุรีค่ะ ส่วนธานี จะหันหน้าออกทะเลเป็นแผงเลยค่ะ ทุกห้องเห็นวิวเดียวกันหมดเลย แบบนี้ สระว่ายน้ำฝั่งนี้มีตั้ง 3 สระแหนะค่ะ น่าว่ายสุดๆ ว่ายไปก้อมองเห็นทะเล นี่เป็นห้องทานอาหารเช้าค่ะ ชื่อห้องชมทะเล ก้อสมชื่อค่ะ เพราะเห็นวิวทะเลเต็มๆ มาส่วนของห้องพัก นี่เป็นแบบ Junior Suite ค่ะ ราคาประมาณ 3 พันกว่าๆ ขึ้นอยู่กะช่วง ห้องแบบนี้มีอ่างแช่น้ำด้วยนะ อันนี้เป็นวิวด้านหลัง แถวห้อง Junior Suite ค่ะ เป็นแนวสวนๆ ต่อมาพาข้ามถนนเล็กๆ ไปส่วนบุรี wing ค่ะ จะอยู่ด้านหลังนิดนึง เค้าออกแบบตึกให้เป็นรูปตัว U ค่ะ แล้วมีสระว่ายน้ำตรงกลาง จะมีแผงนึงที่เห็นทะเล เหมือนกับทางธานี wing ส่วนอีก 2 ข้าง จะเห็นวิวสระว่ายน้ำแทนส่วนของห้องพักฝั่งนี้จะเป็นแบบ Superior อยู่ประมาณ 2600 บาท (แล้วแต่ช่วง) ห้องน้ำจะมีเหมือนสวนเล็กๆ แล้วก้อน้ำพุ ไม่รู้เรียกถูกรึป่าวนี่วิวที่ถ่ายจากระเบียงหน้าห้องค่ะ จะเห็นวิวสระว่ายน้ำอีกมุม ดูแล้วสะอาดตาดี อันนี้เป็นการตกแต่งในส่วนบุรี wingอันนี้จะเป็นส่วนที่นั่งเล่น มีบริการเครื่องดื่มเหมือนเป็นบาร์สบายๆ แล้วก้อมี Internet ให้บริการ เราชอบการตกแต่งของเค้าดูเหมือนบ้านดี มองไปทางขวาก้อจะเห็นทะเลแจ่มๆที่ชอบที่สุดคือเก้าอี้ตัวนี้ เก๋มาก เหมือนรังนกเลย เหมาะกับการถ่ายรูปจริงๆ นี่เป็นห้องอาหารชื่อ Cinnamon เป็นแนวโล่งๆดูไม่อึดอัดสุดท้ายน่ารักมาก เค้ามีให้บริการ Kids Care ด้วย เด็กๆคงชอบสรุปแล้ว เราชอบโรงแรมนี้มากเลย ถ้าเป็นไปอยากกลับไปอีกตอนหน้าร้อน จะได้ Aloha ท้าแดดซะหน่อย บรรยากาศในโรงแรมดีมากๆ เหมาะกะมาสวีทกะคู่รัก แนะนำๆ
พักผ่อนในวันสบายๆ ณ Hilton Phuket Arcadia Resort & Spa
มาต่อกับการรีวิวโรงแรมต่อดีกว่า คราวนี้ถึงตา Hilton Phuket Arcadia Resort & Spa โรงแรมนี้อยู่แถวหาดกะรน โรงแรมแถวนี้จะไม่ติดทะเลเลย เพราะว่ามีถนน 2 เลนคั่น แต่ทะเลที่นี่ก้อเล่นไม่ได้อยู่แล้ว เห็นปักธงแดงตลอดเลย เห็นคนในพื้นที่เค้าบอกว่าหาดที่กะรน มันจะมีคลื่นใต้น้ำ ดูดตัวเราลงไป ฟังดูน่ากลัววววว ตอนที่เราไปคลื่นแรงมั่กๆ เป็นหน้ามรสุม โรงแรมฮิลตันนี้ใหญ่มาก เหมือนเป็นอาณาจักรๆ นึงเลย กว่าจะเข้าไปถีงตัวโรงแรมคิดว่าไกลเป็นกิโลเลยอ่ะ ก้อเลยมีรถให้บริการ นี่นั่งอยู่บนรถ จะเห็นโรงแรมอยู่ลิบๆ มาถึงตัว Lobby แล้ว ด้วยความที่โรงแรมใหญ่มาก เค้าเลยมีป้ายบอกแผนผังอยู่ในหลายๆ จุด สงสัยกลัวแขกหลงอ่ะ (เราก้อหลงไปหลายที) เค้าจะแบ่งส่วนของห้องพักเป็น 3 ส่วนค่ะ มีอันดามัน โลตัส ไทรทอง แล้วก้อจะเห็นว่าที่โรงแรมมี facilities มากมายนี่เป็นบรรยากาศแถวๆ Lobby ค่ะ เค้าจะตกแต่งออกสีไม้ๆ น้ำตาลเข้มอ่อน ดูแล้วสบายตาดีค่ะมองจาก Lobby ก้อจะเห็นสระว่ายน้ำใหญ่มาก มี 2 ชั้น มีสไลเดอร์ด้วยเวลาอยู่ในโรงแรม เราจะได้ยินเสียงร้องแปลกๆ อ๊ะอ๊ะ อย่าตกใจว่าเป็นเสียงผีหรืออะไร ที่มาของเสียงที่ว่าคือ นกยูงจ้า พนักงานบอกว่าที่โรงแรมจะมีนกยูงอาศัยอยู่ 23 ตัว กระจายอยู่ทั่วโรงแรมเลย แล้วพวกนี้มันจะเป็นงานมากๆ รับแขกได้สบายๆ มันจะรำแพนบ่อยมากๆ ครั้งละนานๆอันนี้ก่อนรำแพน อยู่ไปซักพักเริ่มเห็นว่ามีคนดูอยู่ ก้อเลยโชว์ออฟซะหน่อย (ไม่เคยเห็นนกยูงที่ไหน รำแพนนานขนาดนี้ เกิน 15 นาทีอีก) ต่อมามาดูห้องพักกันเลย (แต่ถ่ายมาไม่เยอะมาก) เราพักห้องโซนโลตัส ตึกมันจะเป็นกลมๆ แบบนี้นี่บรรยากาศในห้อง จะเห็นว่าห้องน้ำเปิดประตู มาถึงห้องนอนได้เลย เก๋มั้ยหละห้องน้ำก้อมีทั้งอ่างแช่ แล้วก้อแบบห้อง มีโต๊ะทำงานด้วยจ้าอันนี้มองจากระเบียงหน้าห้อง เห็นทะเลลิบๆอันนี้ซูมสุดฤทธิ์ จะเห็นว่าคลื่นค่อนข้างแรง มองไปด้านขวามือ จะเห็นหอเตือนภัยสึนามิ อยู่ใกล้ๆมาทัวรืโรงแรมต่อดีกว่า อันนี้เป็นห้องอาหารเช้า ชื่อ Sail จะเห็นเรือเต็มไปหมดเลย อาหารเช้าที่นี่เยอะดี ชอบๆ มีทั้งแนว American breakfast, ติ่มซำ, อาหารญี่ปุ่น, ขนมปังมากมายอันนี้เป็นสปาค่ะ (แต่ไม่ได้เข้าไปทำ) มีห้องส่วนตัวด้วย มีเตียงนวด อ่างแช่ ที่อาบน้ำ open air เห็นแล้วอยากทำ spa มากๆ แต่ต้องเก็บเงินก่อนนะ เพราะ spa ในโรงแรมก้อแพงอยู่แล้วอ่ะอันนี้เป็นที่นั่งเก๋ๆ อยู่ใกล้ spa ค่ะ เป็นชิงช้าแต่ก้อนั่งสบายดีค่ะ มุมสวยๆ เหมาะกับการถ่ายรูปค่ะที่นี่มี Mini-theater ชื่อ Cinebar ค่ะ ไปใช้บริการได้ (รู้สึกจะฟรี) ฉายวันละ 3 เรื่อง มีโปรแกรมอยู่ข้างหน้า (ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ)รวมๆ ตึกดูค่อนข้างเก่า แต่พื้นที่กว้างมากๆ เดินไม่ทั่วอ่ะค่ะ มีที่ให้ทำกิจกรรมเยอะค่ะ แค่นี้ก้อเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ส่วนราคาห้องพัก อยู่ที่ประมาณ 3-4 พันบาทต่อคืน เพราะไปกับที่ทำงาน ไม่ได้จ่ายตังค์เอง (ช้อบ ชอบ) แต่ถ้าใครสนใจ ลองเข้าไปดูที่ Website เค้านะคะ //www.hilton.com จบแล้วค่ะ ยังไงติดตามโรงแรมอื่นๆ ที่ภูเก็ตต่อนะคะ
ฟ้าใสในหน้าฝนที่ภูเก็ต @ Crowne Plaza Karon Beach
มา review โรงแรมกันอีกดีกว่า คราวนี้เรามีโอกาสได้ไปทำงานที่ภูเก็ตค่ะ ทุกอย่างเลยฟรี ไม่ต้องจ่ายตังค์เอง ทั้งค่าเครื่องบิน อาหาร และที่พัก (ช้อบ ชอบ) ก้อเลยถือโอกาสเอารูปมาให้ดูกัน จริงๆไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย เพราะทำงานอยู่แต่ในโรงแรมน่ะค่ะ เลยมีแต่บรรยากาศในโรงแรม บอกตามตรง ไม่เคยได้ยินชื่อโรงแรม Crowne Plaza Karon Beach มาก่อนเลย แต่ได้ยินว่า 5 ดาว โรงแรมนี้อยู่ที่หาดกะรนจ้า อยู่ถัดจาก Hilton ไม่ไกลกันเท่าไหร่เข้าไปเห็นโรงแรมครั้งแรก โอ้โห รู้สึกดีมากๆ ตั้งแต่บริเวณ Lobby ดูโอ่โถง ตกแต่งสวยมากเลย มีทั้งนก และกรงนกใหญ่ยักษ์ ถามพนักงานเค้าบอกว่า มีห้องอาหารชื่อ Kinnaree กินรี อยู่แถวๆนั้น เลยตกแต่งให้เข้ากันอยู่แถวๆ Lobby ก้อจะมองเห็นสระว่ายน้ำสีฟ๊า ฟ้า ดูเด่นสะดุดตามากๆ เนื่องจากมีซุ้มรูปร่างคล้ายเห็ดตั้งอยู่ (สงสัยเอาไว้ให้หลบแดด) สระเป็นรูปโค้งไปโค้งมา ดูสวยดี แถมมีสไลเดอร์ด้วย มี bar ให้บริการด้วยจ้า เล่นน้ำเหนื่อยๆ หาเครื่องดื่มให้ชื่นจายยยยอีกมุมนึง ตกแต่งสวยดีส่วนเรื่องห้องพัก ที่โรงแรมนี้เค้าให้มีทั้งแบบตึก กะแบบวิลล่า ถ้าเป็นแบบตึกก้อจะมองเห็นทะเล แล้ววิวของทางโรงแรม ถ้าเป็นวิลล่าก้อจะมีความเป็นส่วนตัวมากๆ อันแรกให้ดูเป็นห้องบนตึก ในห้องก้อตกแต่งสวยมากๆข้างเตียงจะมีเก้าอี้นั่งเล่นอีกชุดนึงจะเห็นประตูเปิดทะลุถึงห้องน้ำ เก๋อีกแล้วนี่เป็นห้องน้ำค่ะอันนี้เป็นวิวที่มองจากระเบียงหน้าห้องค่ะ เห็นทั่วทั้งโรงแรม และมองเห็นทะเลด้วยนะต่อมาเดินสำรวจห้องแบบอื่นกันดีกว่า พอดีขอเค้าเข้าไปดูห้อง Family suite ด้วยค่ะ มี 3 ห้องนอนค่ะ นอนได้ประมาณ 6 คนค่ะ อันนี้หน้าบ้านเข้าไปจะเจอห้องนั่งเล่นค่ะ สีสันสวยงามนี่เป็นเตียงห้องใหญ่นี่เป็นอีกห้องนึงจ้า ใหญ่ไม่แพ้กันด้านหลังแอบมีตียง 2 ชั้นด้วยมีห้องน้ำ Open-air ด้วยค่ะห้องน้ำธรรมดาก้อมีนะ อ่างสวยเชียวอารมณ์เหมือนกับบ้านหนึ่งหลังเลย แต่เราคงไม่มีโอกาสได้พักหรอก ได้ข่าวว่าคืนนึงเป็นหมื่นหนะ ก้อน่าอยู่หรอก นอนได้เยอะขนาดนั้น นี่เป็นบ้านอีกประเภทนึง เป็นวิลล่า มีห้องนอนเดียว ข้างในก้อตกแต่งคล้ายๆกัน มีห้องน้ำ Open-air ด้วยอันนี้เป็นแบบ Pool Villa มี 2 แบบนะ ที่เห็นเป็นตัวตึกนี้ จะแบ่งเป็น 2 ประเภท อันนึงจะอยู่ข้างล่าง Pool อยู่หน้าห้อง แล้วแต่ว่าได้วิวอะไร บางอันวิวเป็นสระบัว บางอันเป็นวิวสวน ส่วนอีกแบบนึงจะใช้ทั้งชั้น 2-3 ชั้น 2 จะเป็นส่วนห้องนอนและห้องน้ำ แล้วจะมีบันไดขึ้นไปชั้น 3 ซึ่งเป็นส่วนของ Pool จากรูปที่เห็นก้อคือตรงที่เป็นหลังคาอ่ะค่ะ อันนี้เป็นห้องนอนค่ะ ด้านหลังเป็นห้องน้ำ มีหน้าต่างเปิดทะลุได้ด้วย สวยมากๆ อันนี้เป็น Pool ค่ะ วิวสระบัว นอนแช่ไปดูวิวไปหรือจะนอนแช่ในห้องก้อได้ค่ะอันนี้ Pool ที่อยู่ชั้น 3 ค่ะ เป็นส่วนตัวมากๆ เหมาะกะแช่กะคนรู้ใจ พาไปดูแบบห้องแล้ว นี่เป็นวิวรอบๆ โรงแรมค่ะที่นี่จัดสวยสวนค่ะ ในส่วนของห้องพักแบบวิลล่า เดินๆ อยู่สังเกตเห็นต้นสับปะรดค่ะ สังเกตดีๆ มันมีลูกด้วยค่ะอันนี้เป็นทางเข้า Spa ค่ะ ชื่อ Tea Tree Spa เค้ามีบริการ 10 กว่าห้องเดินมาเรื่อยๆ ด้านหน้าหันหน้าเข้าทะเล ก้อจะเห็นร้านอาหารสีเหลืองดำสวยๆ อยู่ริมถนนหาดกะรน ชื่อห้องอาหาร Wildfire ค่ะ บรรยากาศในร้านค่ะ ตกแต่งสวยอีกแล้วก่อนจบจะพาไปห้องอาหารอีกอัน ชื่อ Pacifica ไว้ทานอาหารเช้า และก้อจะทานอาหารกลางวันก้อได้ค่ะ แต่อาหารโรงแรมก้อแพงอยู่แล้วนะคะ เท่าที่กินมา อาหารอร่อยมากค่ะอาหารก้อจะมีทั้งฝรั่งและไทยค่ะ เค้าว่าอาหารไทยที่อร่อย ก้อเป็นเนื้อผัดกระเพราค่ะ ไงคะ หน้าตาน่ากินมั้ยเอ่ย แต่ราคา 400 กว่าบาทค่ะ จานนี้โดยรวมชอบประทับใจโรงแรมนี้มากค่ะ ทั้งอาหาร วิว การตกแต่ง เสียดายไปนิดที่ไม่ติดทะเล (มีถนนคั่น) ส่วนราคาห้องพัก ไม่ทราบค่ะ เพราะว่าไปกับพี่ทำงาน ฟรีค่า (งานนี้สบายแฮ) แต่ดูสภาพห้องและการตกแต่ง คิดว่าต้องมีอย่างต่ำ 3 พันกว่าต่อคืนค่ะ แต่ถ้าเป็นห้อง Pool Villa คงมี 5 พันเป็นอย่างต่ำ ใครสนใจเข้าไป check ราคาที่ Website เค้าดีกว่าค่ะ //www.phuket.crowneplaza.com ต้องขอโทษด้วยที่ไม่มีข้อมูลส่วนนี้มาให้ ขอบคุณที่ติดตามชม แล้วยังไงติดตาม review โรงแรมต่อไปอีกนะคะ
ทะเลสวยๆ จากหมู่เกาะอ่างทอง คือผลพลอยได้จากการไปเที่ยวสมุย
นี่เป็นภาคต่อของทริปสมุยของเราจ้า วันแรกที่ไปถึงก้อไม่ได้เที่ยวไรมาก ขับรถเที่ยวรอบเกาะ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเดียวเอง เราแวะไปกินข้าวกลางวันที่อ่าวบางปอ ร้าน seafood เยอะเลย เรากินที่บางปอซีฟู้ด (ตาโข) ก้ออ่านจาก Blueplanet นี่แหละ อาหารใช้ได้นะ กินเสร็จก้อไม่ได้แวะที่ไหน เพราะโดยส่วนตัวเราก้อไม่ชอบเที่ยวน้ำตกซักเท่าไร เลยไม่ได้แวะน้ำตกที่มีชื่อเสียงของสมุย แต่ไปสมุยทั้งทีถ้าไม่ไปแวะหินตาหินยายสงสัยจะไปไม่ถึง เราไปประมาณถึงหินตาหินยายประมาณบ่าย 4 โมง โอ้ว ร้อนมากมากเลยจ้า ไปถึงมองหาหินตาก่อนเลย อิอิ หาไม่ยากจ้า ตั้งเด่นเป็นสง่าซะขนาดนั้น แต่หินยายนี่สิ หาไม่เจอ ต้องปีนและป่ายเพื่อไปดู อืมมม ทำไมช่างเหมือนขนาดนี้แล้วนี่ก้อบรรยากาศโดยรอบ แดดเปรี๊ยงมากกก พอดูหินตาหินยายเสร็จ ก้อพลาดไม่ได้ที่จะออกมาซื้อกาละแม ชิมได้ทุกร้านเลย อร่อยมากๆ เราซื้อถุงละ 50 บาท (ประมาณครึ่งกิโล) เก็บได้ 2 อาทิตย์ไม่ต้องเข้าตู้เย็น เหมาะกะเป็นของฝากจากสมุยนะวันที่ 2 เราซื้อทัวร์ไปหมู่เกาะอ่างทอง (ราคา 1500 นั่ง speedboat มีอาหารเที่ยง เครื่องดื่ม พายคายัค) รถของทัวร์มารับที่โรงแรม 7 โมงครึ่ง ตาลีตาเหลือกตื่น ข้าวเช้ายังไม่ได้กินเล้ยยย แต่ที่ท่าเรือเค้ามีบริการกาแฟ ขนมปังปิ้งฟรี เลยพอประทังชีวิตไว้ได้บ้าง เรือออกเดินทางประมาณ 8 โมงครึ่ง ใช้เวลาไม่นานก้อมาถึงเกาะว่าว มาดำน้ำ เห็นปลาเยอะอ่ะ แต่ปะการังไม่ค่อยสวย ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แล้วก้อมุ่งหน้าไปเกาะวัวตาหลับ นี่เป็นวิวระหว่างทาง มาถึงแล้ว center ของหมู่เกาะอ่างทองหาดทรายสวยมั้ยเอ่ย มาที่นี่กิจกรรมเด่น คือการพายคายัค ทะเลไม่ค่อยมีคลื่น เลยพายสบายๆ สนุกดีค่ะ หมดแรงไปเยอะเลย ที่หมู่เกาะอ่างทองเค้ามีบริการให้เช่าเต๊นท์นอนด้วย ไปถึงจะเห็นเต๊นท์เต็มไปหมด เกือบลืมไปว่านี่อยู่บนเกาะวัวตาหลับบรรยากาศด้านขวาของเกาะ ค่อนข้างจะมีหินเยอะหน่อยอีก highlight นึงของที่นี่คือการปีนจุดชมวิวอันแสนโหด แล้วทุกคนก้อจะได้เห็นวิวเช่นนี้หลังจากที่เสียพลังงานไปเยอะ ก้อไปต่อกันที่เกาะแม่เกาะ ซึ่งมี highlight คือทะเลใน อันนี้ไม่โหดเท่าจุดชมวิวแรก แต่เห็นทางขึ้นอันแสนชันแล้วก้อท้อใจ ป้ายบอกว่าระยะทาง 150 เมตร โอเค สู้ว้อยยยนี่เป็นวิวที่ถ่ายลงมาหลังจากขึ้นไปประมาณ 20 ขั้นการปีนขึ้นไปดูทะเลใน มีหลายรสชาติจริงๆ เหมือนกับการเดินป่ายังไงยังง้าน บันไดชันมากๆ แถมยังต้องลอดช่องแคบ ดีนะที่ยังผอม ไม่ง้านผ่านไม่ได้แหงๆ ในที่สุดก้อถึงซะที ใช้เวลาขึ้นประมาณ 20 นาที ร้อนมาก แต่ก้อสวยได้ใจ น้ำแบบเขียวสุดๆอันนี้ภาพสุดท้ายทิ้งทวนจบแล้วทริปหมู่เกาะอ่างทอง นั่งเรือกลับ แล้วรถก้อมาส่งที่โรงแรมประมาณ 5 โมง เสียพลังงานไปเยอะเลยวันนี้ กลับมาแช่จากุชชี่หน้าบ้านต่อเลย สบายแฮ ขอบคุณที่เข้ามาชมค่า บ๊าย บาย
สมุยร้อนร้อนจ้า กับที่พักสุดสวย Pavilion Samui Boutique Resort (",)
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผ่านพ้นปี 2006 มาตั้ง 4 เดือนฝ่าๆแล้ว เพิ่งจะได้มีโอกาสไปเที่ยว ทริปนี้มุ่งหน้าไปสมุย ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิต ต้องเก็บตังค์พอสมควร (ใช้ตังค์มากกว่าไปฮ่องกงอีกอ่ะ ) ก่อนไปก้อได้ข้อมูลจาก Blueplanet นี่แหละ ทั้งที่พักก่อนที่เราจะจองกะงานเที่ยวไทย ตั๋วเครื่องบิน สถานที่ท่องเที่ยว ดำน้ำ ร้านอาหาร เช่ารถ สภาพอากาศ ใครที่เคยให้ข้อมูลกะนู๋ปราง ต้องขอขอบคุณอีกทีนะคะ ก่อนจะไปกลัวมากว่าฝนจะตกแล้วเที่ยวไม่หนุก เพราะกรุงเทพฝนตกเกือบทุกวัน พอเข้าไปเช็คสภาพอากาศในเวบกรมอุตุนิยมวิทยา บอกว่ามีฝนฟ้าคะนองที่สมุยทั้ง 3 วันเลยตอนที่เราจะไป (12-14 พค.) เอาล่ะสิ ทำไงดี ทำใจละ เจอฝนแน่ๆ จะได้ไปดำน้ำมั้ยหนอ พอถึงวันไปอากาศดีเชียว ไปโดย Bangkok Airway นี่เครื่องกำลังจะลงแย้ว สมุยอยู่แค่เอื้อม เย้เครื่องลงแล้ว นั่งแค่ 50 นาทีเอง สมุยใกล้แค่เอื้อม (ถ้ายอมจ่าย) สนามบินที่สมุยน่ารักดีอ่ะ ดูเป็นธรรมชาติดี พอลงเครื่องก้อต้องนั่งรถแบบนี้เพื่อเข้าไปตัว Terminal รถสีสันจี๊ดจ๊าดมากๆมาถึง Terminal แล้ว รอกระเป๋าอยู่ ขอถ่ายป้ายเป็นหลักฐานหน่อยว่านี่คือ Airport จริงๆ รถจากโรงแรมมารับที่สนามบินด้วย ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ถึงที่พัก ที่ที่เราพักอยู่หาดละไม ชื่อว่า "Pavilion Samui Boutique Resort" อันนี้เราจองมาจากงานเที่ยวไทยเมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมา เราจองเป็นห้อง Superior Spa Room ราคา 6990 ต่อ 3 วัน 2 คืน พอมาถึงรีสอร์ท โอ้โฮ พระเจ้าจอร์ชมันยอดมาก สวยสุดๆ จากนั้นก้อเข้าไปติดต่อที่ front มีข่าวดี คือเค้า upgrade ห้องให้เป็น Spa Junior Suite โชคดีอะไรอย่างงี้ ต้องขอบคุณทางรีสอร์ทมากๆค่ะ (ไม่คิดตังค์เพิ่มด้วย) แต่ว่าห้องยังทำความสะอาดไม่เสร็จ (เรามาเช้ามาก) เลยเดินเล่นดูวิวในรีสอร์ทฆ่าเวลาก่อนก้อเดินไปดูแถวชายหาด นี่สระว่ายน้ำสุดสวย ก่อนลงต้องล้างตัวก่อนนะจ๊ะ เก๋มั้ยหละเดินไปอีกนิดก้อถึงหาดละไมแล้ว รีสอร์ทนี้อยู่ติดหาดเลย คนไม่พลุกพล่านด้วย มีแต่ฝรั่งนอนอาบแดด อยู่ริมสระ อันนี้มุมยอดฮิต มีโคมไฟสวยๆหาดทรายที่นี่ไม่ค่อยละเอียดเท่าไรหนะ ออกจะเม็ดใหญ่ด้วยซ้ำ ไม่เหมือนตอนที่เราไปเกาะกูดอ่ะ อันนั้นจะนิ่มๆ ขาวๆ อันนี้มองไปทะเลทางด้านซ้ายอันนี้มองไปทะเลทางด้านขวา อันนี้เป็น Bar ที่ตั้งหันหน้าเข้าทะเล บรรยากาศชิวชิวอันนี้เป็นร้านอาหาร Patio เป็นแนวอิตาเลี่ยนอ่ะ ดูจากเมนูก้อน่ากินเหมือนกันนะ แต่เราไม่มีโอกาสได้กิน (ไว้คราวหน้า )อันนี้เป็นห้องอาหารอีกอันอยู่ใกล้ๆอันนี้อยู่ใกล้ร้านอาหาร ข้างบนเป็นเหมือนห้องสมุด มีหนังสือตรึมเลยอันนี้เป็นสปาค่ะ ชื่อ Spavilion มีเตียงนวดทั้งหมด 4 เตียง ฝรั่งไปนวดกันตรึมเลยในที่สุดก้อถึงเวลาเข้าบ้านพักแย้ว อันนี้จะเป็นตึกใหม่ ชั้นบนเป็นส่วนของห้อง Superior Spa Room ชั้นล่างจะเป็น Spa Junior Suite ของเรามีบุญได้พักชั้นล่างเข้าไปถึงเจอนี่ก่อนเลย สระจากุชชี่ อยู่หน้าบ้านเลย Open air ด้วย แช่ได้ 2 คนกำลังดีเปิดเข้าบ้านมา จะเจอส่วนห้องรับแขก ไว้นั่งเล่น เข้ามาข้างใน เจอเตียงนอนแสนใหญ่ ที่ชอบมากคือหมอนเยอะสุดๆ สิริแล้วประมาณ 8 ใบทีวีจอแบนอยู่ปลายเตียงค่ะ อันนี้จะเป็นส่วนหลัง มีเก้าอี้คั่นระหว่างส่วนนอน กะห้องน้ำค่ะ ในตู้เสื้อผ้ามีรองเท้าแตะ ร่ม เสื้อคลุม ไฟฉาย ครบเลยในห้องจะมีอ่างน้ำอีกอัน ถ้าแช่จากุชชี่ข้างนอกไม่พอ มาแช่ในบ้านได้อีกนะ ส่วนของห้องน้ำจะมีต่างหากอยู่ข้างอ่างนี่แหละ (แต่ลืมถ่ายมาให้ดู) อยู่ตรงนี้จะได้กลิ่นเทียนหอมด้วย เค้าจุดไว้ให้ก่อนที่เราจะเข้าบ้าน Aromatheraphy จริงๆ อันนี้บรรยากาศยามดึกกลางคืนออกไปกินที่ The Cliff ร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน เสียดายมากๆที่ไม่ได้ไปตอนกลางวัน อดถ่ายรูปเลยอ่ะ คือวิวดีมากๆ อยู่บนเขามองเห็นวิว ทะเล ภูเขา ท้องฟ้า ไปตอนกลางคืนเลยเห็นแต่มืดๆ ไม่เป็นไรคราวหน้า ไม่พลาด (ถ้าได้ไปอีก) อันนี้เราสั่ง seafood set กะอะไรอีกอย่างจำชื่อไม่ได้อ่ะ เป็นชีทแล้วข้างในเป็นผักขม อาหารอร่อยมาก ลืมบอกว่าพาหนะที่ใช้ในทริปนี้ก้อเช่ารถจิ๊ปคาริบเบียน ราคา 700 บาท ต่อ 24 ชม. เราเช่าร้านตรงข้ามรีสอร์ทเลย ก้อสะดวกดีค่ะ ไปคราวนี้ฝนตกน้อยมากกกก ได้ข่าวว่ากรุงเทพตกหนักมาก ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะเตรียมใจไว้แล้วกะคำว่า "มีฝนฟ้าคะนอง" แหะๆหมดแล้นกะรูปพักที่รีสอร์ท ที่รีสอร์ทนี้ฝรั่งเยอะประมาณ 80-90% เลยก้อว่าได้ แต่พนักงานเค้าบริการดีมากนะ เราไม่ได้รู้สึกว่าเค้า treat เราเป็นบุคคลชั้น 2 รองจากฝรั่งนะ ประทับใจรีสอร์ทนี้เลยแหละ package ที่เราไปรวมรถรับส่งสนามบิน อาหารค่ำ 1 มื้อ (เลือกได้ว่าจะเป็นชุดอาหารภาคกลางหรือภาคใต้ กับข้าวมี 5 อย่าง ผลไม้อีกชุด) อาหารเช้าอลังดี มีโรตีกล้วยหอมด้วย สระว่ายน้ำมีจากุชชี่ด้วย รวมๆแล้วดี ใครสนใจก้อเข้าไปดูเวบไซค์เค้าได้นะ //www.pavilionsamui.com/index.html หรือไม่ก้อไปดูแพคเกจที่งานไทยเที่ยวไทย เราเห็นหลายทีแล้ว และก้อสอยมานี่แหละเด๋วไว้จะเอารูปจากหมู่เกาะอ่างทอง มาลง blog นะคะ ตอนนี้แค่นี้ก่อน ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ