ปิล็อก กาญจนบุรี
เหมืองปิล็อก ตั้งอยู่ในตำบลปิล็อก ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร 2 ข้างทางสวยงาม เห็นภูเขาเด่นชัด และธรรมชาติที่สวยงาม ทางไปค่อนข้างลำบากนิดหน่อย 999 โค้ง แต่รับรองว่าไปถึงแล้วจะอมยิ้มกับบรรยากาศที่น่ารัก ๆ แบบนี้ บ้านตอไม้ น่ารักดี มีของที่ระลึกขายมากมายหลายชนิดขนมเค้กหน้าตาโบราณ แต่รสชาดอร่อยมากของขึ้นชื่อของที่นี่ อร่อยมากเลยวัดเหมืองปิล็อกผ้าพันคอสวย ๆ ทั้งนั้นเลย เสียดายที่ไม่ได้ซื้อ ลานกางเต๊นท์ก็มีนะ นอกจากมี homestay และบ้านพักเขียน postcard ส่งถึงกันได้นะที่นี่ก็มีบริการไปรษณีย์
ตลาดย้อนยุคนครชุม จังหวัดกำแพงเพชร
ตลาดย้อนยุค นครชุม จังหวัดกำแพงเพชร ครั้งทีี ๒ จัดเดือนละ ๑ ครั้ง สัปดาห์แรกของต้นเดือน ศ. - อา. ค่ะ เป็นตลาดย้อนยุคน้องใหม่ แต่สถานที่ไม่ Make แน่นอน เก่าจริง ๆ ภาชนะที่ใช้เป็นวัสดุธรรมชาติ ราคาไม่แพง ได้ข้อมูลการท่องเที่ยวมาจาก นสพ.สยามรัฐ อ่านไป เที่ยวไป มีความสุข ภาพบรรยากาศภาพในงานแม่ค้าใส่ชุดย้อนยุคจริง ๆ น่ารักใจดีด้วยนะคะ ข้าวหมูแดงใส่จานและช้อนสังกะสีด้วย ย้อนยุคจริง ๆ ลองไปสัมผัสตลาดย้อนยุคนครชุมดูนะคะ รับรองว่าสไตล์การท่องเที่ยวแตกต่างจากที่อื่นแน่นอนค่ะ ท่านใดสนใจลองติดต่อไปยังเทศบาลนครชุม จังหวัดกำแำพงเพชรนะคะ เพราะเค้าจัดเดือนละ 1 ครั้ง เท่านั้น เฉพาะสัปดาห์แรกของเดือน
กรุเทพ - ราชบุรี
ไม่ได้เที่ยวค่อนข้างนาน คราวนี้จัดทริปเล็ก ๆ สำหรับเพื่อน group เล็ก ๆ สักทริปดีกว่า เลยคิดว่าน่าจาเป็นทริปแบบประหยัด สะดวก ปลอดภัย และได้รับความสุขในการเดินทางอย่างเต็มอิ่ม!! 24-25 พฤษภาคม 2551 จุดเริ่มต้นจากการเดินทาง เริ่มต้นที่สถานีรถไฟธนบุรี แหะ ๆ เป็นการรวมตัวแบบเสี่ยง ๆ เพราะว่า รถไฟออก 7.25 น. แล้วเพื่อนก้ออยู่กันคนละทิศ ละทาง หลงบ้าง มาช้าบ้าง แต่สุดท้ายกลุ่มทริปตลาดเจ็ดเสมียน ก็รวมตัวกันครบ 8 คน โดยไม่มีอุปสรรคใด ๆ ทั้งสิ้น วิวระหว่างทางค่ะนั่งรถมาประมาณชั่วโมงครึ่ง ถึงสนามจันทร์ นครปฐมแล้ว (แต่ไม่ได้ลง)เพราะจุดหมายของเราคือ ราดรีเกือบจา 10 โมงแล้ว จวนเจียน จาได้เวลาฉายหนังใหญ่ วัดขนอนเวลา ถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกกันสักภาพดีกว่า สถานีปลายทางของพวกเราคือ สถานีโพธารามถึงวัดขอนแล้ว ระยะทางจากสถานีรถไฟโพธาราม มาถึงวัดขนอน ประมาณ 4 กิโลเมตร เห็นจาได้ทันดูการแสดงพอดี ทีมแสดงตั้งใจเล่นมาก เสียดายคนดูน้อยไปหน่อย ศิลปวัฒนธรรมที่มีค่าและน่าหวงแหนขนาดนี้ น่าจะส่งเสริมกันเยอะ ๆ นะคะคุณน้าคนนี้เก่งจริง ๆ คอยพากย์เสียงตัวละคร ทั้งเรื่องเลยค่ะ สวมวิญญาณของความเป็นนักพากย์ตัวจริง นับถือ ๆ ค่ะ คนดูน้อยไปหน่อย แต่ก้อดีใจนะคะที่วันนี้ได้มาดูหนังใหญ่วัดขนอน สมความตั้งใจที่อยากจามาดูนานแล้วที่วัดขนอนมีลิงเยอะแยะเลยหล่ะบริเวณหน้าวัดดูเงียบสงบ และร่มรื่นหลังจากนั้นก้อเข้าไปเยือนพิพิธภัณฑ์วัดขนอน ซึ่งตั้งอยู่ในวัด มีอะไรให้ดูเพลินตามาก ไม่อยากกลับเลยหลังวัดบรรยากาศดีมาก เป็นแม่น้ำแม่กลอง เส้นเดียวที่ชาวราชบุรีรักษาไว้ให้ลูกให้หลาน แม่น้ำดูใส สะอาดมากเลยค่ะ จุดหมายที่เรามุ่งหน้าต่อไปคือ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ราชบุรี ห่างจากวัดขนอนระยะทาง 9 กิโลเมตรค่ะบรรยากาศรอบนอกของพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ราชบุรีภาพหมู่ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง คืนนี้เราจานอนกันที่บ้านดินค่ะ เรียกสั้น ๆ แต่เรียกเต็ม ๆ ว่า สวนศิลป์ บ้านดินแต่ไม่ได้นอนบ้านดิน คราวนี้นอนบ้านไม้ไผ่แทนค่ะ
ไปแอ่วเหนือมา ม่วนอ๊ก ม่วนใจ๋
ได้เวลาชาร์ทแบตเตอรี่ให้กับตัวเอง เลยขับรถกันไปเรื่อย ๆ กะคนรู้ใจ เลย plan กันว่าน่าจาขับรถไปทางเหนือกัน ในช่วงวันที่ ๒๑-๒๔ กพ. ๕๑ และแผนการของเราก้อเกิดขึ้น ณ บัดดลจุดมุ่งหมายแรกของเราถึงแล้ว... ไปทำบุญไหว้พระกันที่จังหวัดลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวงค่ะ เราได้เจอมิตรภาพและรอยยิ้มใหม่ๆ กับชาวฮอลแลนด์คนนึงที่นี่เค้าบอกว่า "ผมถ่ายภาพให้พวกคุณมั๊ย"แวะซื้อของที่ระลึกเป็นเซรามิคระหว่างทาง นั่นไง เผลอแผล้บเดียวพระอาทิตย์กะลังจาตกดินแล้ว รีบๆ ทำเวลากันซะหน่อยจนได้พบสิ่งแปลกตา ระหว่างทาง วิวสองข้างทาง สถานที่ ๆ แปลกตาจนมาถึงตลาดมูเซอ ทางผ่านระหว่างไปเชียงราย และได้พบกัน "เมี่ยง" หรือเรียก อีกอย่างว่า "เย้า" ค่ะ น่ารักมาก ยืนยิ้มให้ถ่ายภาพได้อย่างจุใจพบระหว่างทางขับรถไปเชียงรายค่ะ ยังสร้างไม่เสร็จ.. รุ่งเช้าที่เชียงของ กับทางโค้ง โค้ง โค้ง และก้อโค้งวิวระหว่างทางค่ะ ระหว่างขับรถเห็นฝั่งลาวอยู่ใกล้ๆ ตา แล้วนั่นก้อคือ กระบือลาวค่ะถึงแล้วค่ะ ไร่แสงอรุณ และนี่ คือด้านหน้าของไร่บรรยากาศรอบ ๆ ไร่แสงอรุณมุมนี้มองไปแล้วสบายตาที่สุดเลยค่ะ สีเขียวทั้งแถบเลย คู่สวีทอาสาพาพวกเราไปเที่ยวงานนี้ค่ะบ้านพักสไตล์แนวธรรมชาติ ๆ ของไร่แสงอรุณ ติดริมน้ำโขง มองเห็นประเทศเพื่อนบ้านแบบชัด ๆ ราคา 3 พันบาท/คืน บรรยากาศเหมาะสำหรับคู่ฮันนีมูนจริง ๆ ขากลับแวะถวายสังฆทาน ระหว่างทางไปเจอวัดพระธาตุศรีหัวกว๊าน เชียงรายวิวด้านหลังวัดพระธาตุฯ ภาพนี้กำลังจะถ่ายพระจันทร์ค่ะ กำลังทอแสง สวยมาก ดวงกลมใหญ่เลยทีเดียว ถ่ายจากร้านอาหารตอนไปทานข้าวเย็น ที่เชียงของค่ะ แล้วที่เห็นดวงไฟลิบ ๆ คือ ไฟจากประเทศเพื่อนบ้านเรา ตอนนี้ตึกแถว บ้านช่อง ของประเทศเพื่อนบ้านเรา เริ่มผุดขึ้นเยอะแล้ว เหมือนกันค่ะ ไม่ได้มานานแล้ว เปลี่ยนแปลงไปเยอะเลย ตอนแวะร้านกาแฟ ร้านนึงตรงทางผ่านไปสามเหลี่ยมทองคำ เหลือบไปเจอต้นผักกาดหอม น่ารักเชียวค่ะ ชื่อ ร้านบ้านในสวน ระหว่างทางได้แวะวัดร่องขุ่นด้วยค่ะ สวย ราวกับว่าอยู่บนสรวงสรรค์เลยเห็นแบบนี้แล้วไม่กล้าทำบาปเลยเนอะ "อย่าโลภ" ถ้าโลภจะกลายเป็นเปรต พระท่านบอกไว้สิบกว่าปีแล้ว ที่ไม่ได้มาเยือนสามเหลี่ยมทองคำ เปลี่ยนแปลงไปผิดหู ผิดตา โดยเฉพาะร้านค้า แล้วก้อมีองค์พระฯ ที่ใหญ่ที่สุด มองแล้วดูมีมนต์ขลังดีค่ะวิวข้างทาง ระหว่างนั่งจิบกาแฟ ยามเย็นที่ร้านกาแฟ ระหว่างทางเจอร้านน่ารัก ๆ อดที่จาแวะเข้าไปถ่ายภาพไม่ได้เลยจริง ๆ ขอปิดท้ายภาพแห่งความสุขในครั้งนี้ คือ ดอกเสี้ยว บานตลอดเส้นทางไปเชียงรายเลยค่ะ เห็นตามไหล่เขาแล้วเพลินตามาก ๆ เลยหล่ะ ภาพนี้ถ่ายที่ อุทยานแห่งชาติขุนแจ ระหว่างทางไปเชียงรายค่ะ The End
เปิดฝน ห่มฟ้า ที่ภาคอิสาน
มีโอกาสได้ไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือคราวนี้ ต้นฝน แต่ทางภาคอิสานฝนไม่ตกเลย ทุ่งน่าสีเขียวขจี เห็นแล้วสบายตามาก ๆ เริ่มต้นทุ่งนาสีเขียวๆ ที่จังหวัดศรีสะเกษนะคะตอนเย็น ๆ เห็นเด็กนักเรียน นั่งรถโรงเรียน กลับบ้าน ดูอันตรายเหมือนกันนะคะ แต่ก็คงอบอุ่นดีจากนั้นก็เดินทางต่อขึ้นไปที่อุบลราชธานีภายในสวนสาธารณะ สวนศรีเมืองที่อุบลราชธานี มีประติมากรรม ชื่อว่า "ร่วมใจก้าวไปข้างหน้า" มี 4 สาว คือ สาวไทย สาวลาว สาวเขมร และสาวเวียดนาม ชักอิจฉาคนอุบลฯ แล้วหล่ะสิ ภายในสวนสาธารณะมีเครื่องออกกำลังกายเยอะ แยะ แล้วดูแข็งแรง ทนทาน มีประสิทธิภาพน่าดูเลย ไม่ต้องเสียสตางค์ไปเข้าฟิตเนส ให้เสียตังค์ เรียกว่าเป็นการออกกำลังกายที่มีความสุข และพอเพียง ดีจริงๆน้อง ๆ นักศึกษา มีที่นั่งสนทนากับ สบาย ๆ ภายในสวนสาธารณะไหน ๆ ก้อไหน ๆ แล้ว ขอแวะรำไทเก๊ก สักเพลงเถอะจากนั้นก็ขึ้นไปที่จังหวัดขอนแก่น แต่ไปตอนเย็นมาก ๆ แล้ว และได้แวะชมภาพที่วัดหนองแวง (พระอารามหลวง) หรือพระธาตุเก้าชั้นค่ะจนถึงจังหวัดสุดท้าย ท้ายสุด ที่ได้ขึ้นไปทำงาน คือจังหวัดเลย จุดมุ่งหมายในการทำงานคือ ต้องไปถ่ายทำสารคดี คุณยายท่านนี้ ซึ่งมีอายุถึง 109 ปี ชื่อ คุณยายแห่ว สอนแสง คุณยายน่ารักมาก คอนเฟิร์มค่ะเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจการทำงานแล้ว พี่ อบต.หนองคัน อ.ภูหลวง จ.เลย ก้อพาเราไปเที่ยวน้ำตก ชื่อว่า "น้ำตกห้วยเลา"น้ำตกที่สวยงาม ที่นักท่องเที่ยวชมความงามของสายน้ำ ระยะทางกว่า 1700 เมตร ตั้งแต่ตีนภู ยันถึง ปากถ้ำยอดภู ที่เป็นต้นน้ำ ห้วยเลา สาขาหนึ่งของแม่น้ำเลย ที่หล่อเลี้ยงคนเมืองเลย ไหลลงแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงคานระหว่างทางเดินเจอน้ำตกใสแจ๋ว เลยค่ะ น่าเล่นชะมัดถึงแล้วค่ะ น้ำตกห้วยเลาชั้นที่เก้า ใช้เวลาเดินทางเป็นชั่วโมง แต่น่าเสียดายที่เก็บภาพน้ำตกห้วยเลาชั้นที่ 9 มาฝากได้ไม่กี่ภาพ เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ จึงไม่สามารถเก็บภาพต่อไปได้แต่ฝนตกน้ำคงเยอะกว่านี้แน่ ๆ เลยค่ะบนน้ำตกชั้นที่เก้า มีถ้ำเล็ก ๆ มีน้ำลอดเข้าไป แต่เดินเข้าไปภายในไม่ได้นะคะ แต่ดูโอ่อ่า สวยดีทีเดียวได้เวลาขาลงแล้ว ชันเอาเรื่องเหมือนกันค่ะหลังจากที่ได้ชมน้ำตกห้วยเลาแล้ว ระหว่างเดินทางกลับ พี่ อบต. ก้อพาแวะบ้านคุณลุงท่านหนึ่ง โดยหน้าบ้านเห็นวิวแบบนี้ ส่วนเบื้องหน้าก้อมองเห็น "ภูหอ" ภุเขาหินทรายหน้าตัด เช่นเดียวกับภูกระดึงค่ะวิวหน้าบ้านเป็นแบบนี้ แล้วปลูกไร่ข้าวโพดด้วยค่ะ ช่างมีความสุขจริงๆ ค่ะ ขอบคุณเมืองไทย ที่มีสิ่งสวยงาม ให้นักเดินทางอย่างเรา ๆ ได้ชื่นชม แล้วก้อขอบคุณพาหนะคู่ใจคันนี้ รวมถึงคุณโอ๋สารถีใจเย็นภาพวิวสองข้างทางค่ะสรุปว่า "รักแล้ว รักเลย" อืมมม์ เมืองไทยของเรา ขุนเขาของเรา