การเปลี่ยนแปลงเป็นงานยาก แต่งานยากก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่พยายาม
 
เพื่อลูก แม่จะทน ปีแรก...

หลังจากที่ต้องจากเมืองไทยมา เพราะเราเลือกที่สู้ เลือกที่จะเสี่ยงโดยการก้าวเดินต่อไปข้างหน้า แทนที่จะย่ำอยู่กับที่ อย่างที่ผ่านมา ในทึ่สุดเราก็ได้มาอยู่ที่อเมริกา ประเทศที่คนอีกมากมายในโลก อยากจะเสี่ยงมาเช่นเดียวกับเรา ประเทศที่คนไทยอีกหลายๆท่านเข้าใจว่า หากใครอยู่ที่นี่คงจะต้องร่ำรวย อาจจะจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง สุดแล้วแต่วาสนาของแต่ละท่าน แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่เราที่ร่ำรวย ด้วยเพราะมาด้วยวีซ่าคู่หมั้น ทำให้มีเงื่อนไขว่า ต้องแต่งงานกับคนที่ขอวีซ่าให้ ภายใน 90 วัน หลังจากเหยีบแผ่นดินเค้า ตอนแรกที่มาถึงนะคะ ภาษาใช้ได้เพียงเล็กน้อย อาจจะเรียกได้ว่า ไม่เข้าใจแม้แต่ที่สามีพูดด้วยซ้ำไป เรียกได้ว่าแย่ทีเดียวแหละ แต่ก็ต้องอดทน ตอนนั้นรู้สึกได้ว่า ตัวเองโง่มากๆ ด้อยค่า คิดผิดที่มาอยู่อเมริกา ร้องไห้ ๆๆๆ เพราะอัดอั้นตันใจ พูดกับใครก็ไม่รู้เรื่อง ไม่มีคนรู้จัก ไม่มีใครแนะนำ ไมรู้จะทำอย่างไร พอเริ่มจะรู้จักคนไทยบ้าง เค้าก็ดูถูกเรา ถามเราว่า เรามาได้อย่างไร สามีทำงานอะไร มีรายได้แค่ไหน บ้านช่องเราเป็นอย่างไร เหมือนกับว่าจะประเมินว่า เราร่ำรวยพอที่จะเป็นคนไทย หนึ่งคนในชุมชนคนไทยหรือเปล่า อย่างไรอย่างนั้นแหละ ช่วงแรกที่มาถึง ก็พยายามขอร้องให้สามีพาไปแต่งงาน จดทะเบียน เค้าตอบว่า อาจจะต้องใช้เวลา เพราะเค้าเองก็ไม่รู้จักเราดีพอ ก็พอจะเข้าใจเค้านะคะ แต่ก็เสียใจ น้อยใจในเวลาเดียวกัน การแต่งงานที่นี่ เป็นเรื่องใหญ่ที่คนที่อาศัยอยู่ที่นี่คงพอเข้าใจ แต่สุดท้ายเราก็ได้แต่งงานตามความปรารถนาหลังจากมาได้ 30 วัน หลังจากแต่งงาน สามีก็ทำเรื่องขอปรับสถานะ, ใบอนุญาตทำงาน , ใบขอออกนอกประเทศให้ เราก็เริ่มทำงานในร้านอาหารไทยแบบรับเงินใต้โต๊ะ รับค่าแรงแบบเหมาวันละ 15 เหรียญ ทำงาน ตั้งแต่ 10.30 ถึง ประมาณ 23 น. หากเสร็จเร็ว ทิปแบ่ง แบ่งให้คนในครัวด้วย ได้เงินมาเท่าไหร่ ก็เก็บหมด ไม่ซื้อของ ไม่ช็อปปิ้ง ไม่ไปไหนเลย เก็บทุกบาททุกสตางค์ ส่งไปให้พ่อ-แม่ที่เมืองไทย เดือนละ พันเหรียญหรือมากกว่านั้น มาโดยตลอด (จนถึงปัจจุบันก็ยังส่งให้เหมือนเดิม) ญาติพี่น้องต่างก็คิดว่า เราได้สามีเป้นคนอเมริกันจะต้องร่ำรวย เค้าต้องรับผิดชอบเรา ลูกๆ รวมทั้งญาติๆเราอีกด้วย ซึ่งมันไม่ใช่ พี่น้อง มองว่า เราเห็นแก่ตัว มีเงินแล้วไม่จุนเจือพี่น้อง เราจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไรกัน ลูกก็ลูกเรา เค้าไม่ได้มีส่วนทำให้เกิดนี่นา ทำไมต้องให้เค้ามารับผิดชอบด้วย ส่งเงินไปเท่าไหร่ก็เหมือนไม่พอสักที ด้วยเพราะตอนนั้นลูกสาวกำลังเรียน ม.ขอนแก่น ปี 1 ลูกชายเรียนโรงเรียนประจำของสมเด็จพระเทพฯ ค่าใช้จ่ายเลยสูง อีกอย่างไม่อยากให้พ่อ-แม่ไม่สบายใจ อยากให้ท่านคิดว่าเราสุขสบายดี บางเดือนลูกๆใช้เงินเยอะมาก เพราะเค้าคิดว่า แม่อยู่ที่เมกาต้องมีเงินแน่เลย เราก็ส่งไปสิ ขอมาเท่าไหร่ก็ส่ง เพราะรู้สึกผิดที่ทิ้งเค้ามาอยู่ที่อเมริกา ทั้งๆที่เราทำเพื่อเค้าก็เหอะค่ะ ลูกอยู่เมืองไทย หนีเรียนบ้าง กินเหล้า จนทางหอพักไล่ออกมาก็มี อดทนๆๆๆ ไม่เคยโกรธ หรือโทษลูกเลย เป็นเพราะเราไม่ดีเอง ไม่มีปัญญาเลี้ยงลูกให้ดี ไม่มีเวลาดูแลเค้า ไม่สามารถให้ความอบอุ่นแก่เค้าได้อย่างเช่นแม่คนอื่นๆ ระหว่างที่เราอยู่ที่นี่ ก็ร้องไห้ทุกวัน อยู่ที่เมกาเรามีความรู้สึกเหมือนเราเป็นคนโง่ ทำอะไรเองก็ไม่ได้ ไปไหนก็ไม่เป็น เหมือนเป็นประชากรชั้นสองของประเทศเค้า ต่ำต้อย (โชคดีที่มีสามีดี) อยากกลับบ้าน อยากกลับไปอยู่เมืองไทยเรา อยากกลับไปอยู่กับลูก แต่ก็ทำไม่ได้ หากเรากลับไปอยู่เมืองไทย เราจะเอาปัญญาที่ไหนไปหาเงินตั้งมากมายมาส่งเสียลูกให้ได้เรียนสูงๆ จะเอาเงินมาจากไหน ไม่ได้ ต้องอดทน ๆ ๆ ๆ คิดได้เท่านี้จริงๆค่ะ ชั้นเจ็บ ชั้นป่วย ชั้นตาย ไม่ได้ หากเราเป็นอะไรไปลูกจะทำอย่างไร ใครจะดูแลเค้า อดทนทำงาน อาทิตย์ละ 6 วัน บางวันขับรถไปทำงาน ร้องไห้ไปตลอดทางจนถึงที่ทำงาน ตามตัวเองว่า ทำไมนะ ทำไมเราต้องอดทนถึงเพียงนี้ด้วย ทำไมไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกเราเลยนะ ปีแรกของการมาอยู่ที่อเมกริกาคุณภาพชีวิตดีขึ้นมากนะคะ แต่คุณภาพจิตใจกลับย่ำแย่ลง เพราะความที่ยังรู้สึกผิดที่ไม่สามารถดูแลลูกได้ดีกว่านี้นั่นเอง.....


แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ



Create Date : 01 ธันวาคม 2551
Last Update : 1 ธันวาคม 2551 12:18:42 น. 12 comments
Counter : 339 Pageviews.

 
สู้ต่อไปนะคะ
ผู้หญิงเรามีความงามในความอดทน
พร้อมผจยทุกผองภัย
มีภาระอันยิ่งใหญ่
เพื่อแก้วตาดวงใจ
แม่ทำได้ทุกอย่าง
ขอเพียงเจ้าเข้าใจ
ไหวไม่ไหวแม่จะทนสู้


โดย: chabori วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:9:35:15 น.  

 
สู้ๆๆนะค่ะ นังดำเชื่อนะค่ะ ว่าที่คุณทำ เพื่อพวกเค้าทุกคน ถ้าวันไหนพวกเค้าได้รับรู้ เค้าจะเข้าใจความเป็นแม่

มันทำให้นังดำคิดได้ว่า ที่นังดำมาอยู่เมืองนอกได้ทุกวันนี้ก็เพราะแม่ เหมือนกัน


โดย: zalitalin วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:11:23:58 น.  

 
อ่านแล้วเห็นใจมากๆเลยค่ะ ขอให้คุณผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ไปได้โดยเร็วนะคะ


โดย: only sweetDream วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:13:50:05 น.  

 
สู้ต่อไปนะคะ ไม่รู้จักแต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ท้อแท้แต่ไม่ถ้อถอยนะคะ


โดย: สา IP: 84.130.121.215 วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:16:56:21 น.  

 
สวัสดีค่ะ..... อย่าคิดมากนะคะ ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก้อเผื่อลูก เราไม่ได้ทอดทิ้งเขาสักหน่อย แถมเลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี อย่ารู้สึกผิดเลยคะ เป็นกำลังให้นะคะ สู้ ๆๆๆ


โดย: duen norway วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:16:59:15 น.  

 
คุณเป็นคนเข้มแข็งมากค่ะ


โดย: katie-thanika วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:17:29:09 น.  

 
Cheer up ka..!!

I want to work so bad .. but my kid too young .I want to earn money like you ka..


โดย: แม่น้องขวัญ_ซาแมนต้า วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:19:05:23 น.  

 
คาถานี้เลยค่ะ สำหรับคนไทยไกลบ้าน

" สู้โว้ย "



โดย: ป้ามะลิกับลุงมะระ วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:21:57:17 น.  

 
อ่านแล้วเศร้าและเสียใจแทนค่ะโดยเฉพาะลูกๆของคุณ อดทนเข้าไว้ค่ะ
ต้องลองเล่าและอธิบายถึงความลำบากที่เราทำอยู่เพื่อหาเงินส่งให้ลูกๆ
เผื่อว่าเขาจะดีขึ้นและเข้าใจคุณแม่มากขึ้นน่ะค่ะ เป็นกำลังใจให้เช่นกันค่ะ


โดย: ไข่นุ้ย IP: 68.209.115.234 วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:22:21:43 น.  

 
พี่ปลายฟ้าค่ะ หนูมาแรกๆ ก็แย่เหมือนกันค่ะ ภาษาอังกฤษไม่ได้ใช้ ใบ้แ-ก เพราะเค้าพูดภาษาเยอรมันกัน ต้องไปเรียนภาษาเหมือนเด็กอนุบาลใหม่ ตอนนี้ผ่านมาได้เกือบสามปีแล้วค่ะ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ดีหน่อยที่ไม่ต้องส่งให้ที่บ้าน (ลำพังตัวเองยังไม่รอดเลย)
พ่อแม่ก็เข้าใจค่ะ ถึงจะเบื่อ เหนื่อย เหงา แค่ไหน ก็จะบอกทางบ้านว่าสบายดี เพราะว่าเราเลือกที่จะมาเอง และที่สำคัญ พ่อแม่บินมาอยู่เป็นเพื่อนเราไม่ได้ ถ้าบอกว่าเราเหงา ถ้าเราเบื่อ พ่อแม่ก็จะยิ่งเป็นห่วงเข้าไปใหญ่ว่าลูกฉันไปทำอะไรอยู่นู้น ถ้าเราเหนื่อย พ่อกับแม่ก็จะบอกว่า "กลับบ้านเราเถอะลูก" ฉนั้นหนูก็จะบอกว่าหนูสบายดี ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ไข้ (ทั้งที่ความจริงก็มีมั่งมีมันโคตรเบื่อ) ก็ขอให้พี่ปลายฟ้าสู้ต่อไปนะ เพื่อลูก


โดย: currywurst วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:2:37:58 น.  

 
เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ..อืม แบบนี้มีเกือบทุกที่ค่ะ..อืม..ปัญหาก็มีเกือบทุกคนค่ะ..สู้..สู้ นะค่ะ..เป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ...


โดย: โดดเดี่ยว..แต่ไม่เดียวดาย วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:4:20:25 น.  

 
เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ..อืม แบบนี้มีเกือบทุกที่ค่ะ..อืม..ปัญหาก็มีเกือบทุกคนค่ะ..สู้..สู้ นะค่ะ..เป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ...


โดย: โดดเดี่ยว..แต่ไม่เดียวดาย วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:4:20:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

ปลายฟ้าค่ะ
Location :
Mesa AZ United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




โกรธเขา เราเร่าร้อน เหลือหลาย
เขาอยู่สุขสบาย บ่รู้
เราเร่าร้อน เดียวดาย แดเดือด
ขมขื่น นอนคุดคู้ ค่ำเช้า ทรมาน
[Add ปลายฟ้าค่ะ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com