ทำม่านกั้นแอร์แบบง่ายๆ
จะติดแอร์ชั้นล่าง เพราะเวลาพ่อแม่ ญาติมาจะได้เย็นๆ เพราะหน้าร้อนที่ผ่านมาร้อนเหลือเกินเลยคิดกับแฟนว่า จะทำอย่างไรที่จะช่วยประหยัดแอร์ได้บ้างเท่าที่ดูคือทำ build in เป็นบานประตูเลื่อน ไม่ก็ติดฉากกั้น PVCแต่........แค่นี้บ้านก็เล็กอยู่แล้ว ถ้าทำ build in ไปเลย บ้านก็จะดูเล็กจิ๋ว 555 ส่วนบาน PVC คุณแฟนก็ไม่ชอบเลย ก็เลยมาสรุปกันที่ผ้าม่านคิดว่า กั้นกันแบบง่ายๆ อาจจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการกันแอร์ แต่ก็ดีกว่าไม่กั้นซะเลยไปเดินโฮมโปร เจอผ้าม่านที่ขนาดใกล้เคียงกับบริเวณที่จะกั้น แต่ต้องใช้ 2ผืน เพราะความสูงได้ แต่ความกว้างไม่ได้จัดการซื้อมาพร้อมราง แล้วคุณแฟนก็ติดตั้ง เรามีหน้าที่ซื้อโซ่มาร้อยถ่วง แล้วเย็บชายให้พอดีมาดูภาพก่อนทำกันค่ะ จะเห็นทางไปห้องครัว ติดแล้วก็เป็นเยี่ยงนี้ เลือกผ้าสีน้ำตาล เพราะจะได้ไม่สกปรกง่าย และสีคล้ายโต๊ะกินข้าว จะได้ไม่โดดจากเฟอร์ที่มีอยู่พอจะใช้ก็รูดม่านออกมา บ้านก็เลยกลายเป็นม่านรูดในบัดดล 555 ทำไปแล้ว อย่าคิดมาก คิดซะว่า โอเคแล้ว ชอบเอง เลือกแบบนี้เองนี่นา มาดูเบื้องหลังหน่อย ซ่อนไว้หลังคาน ทำให้มองจากด้านหน้าไม่เห็นรางสรุปค่าใช้จ่ายครั้งนี้ผ้าม่านโฮมโปร 2 ผืน 1,726 บาทรางม่าน 581 บาทตะขอเกี่ยวสายม่าน 50 บาท โซ่ถ่วงม่าน 4 เมตร 70 บาทห่วงรางม่าน 16 ตัว 240 บาทรวมทั้งหมด 2,667 บาท
เพราะเสียง แต๊ก ๆ ๆ ๆ.......เลยเปลี่ยนนาฬิกาห้องนอนใหม่ เดินเงียบเชียว
แต่เดิมในห้องนอนจะมีนาฬิกาติดผนังซื้อมาจาก index เวลาเดินมันดัง แต๊ก ๆ ๆ ๆ อย่างกะจะสะกดจิตเรา 555 แต่เรานอนง่าย คุณแฟนก็นอนง่าย ก็นอนกับเจ้านาฬิกาเรือนนี้มาเกือบ 1 ปีได้ นี่ไง เจ้า แต๊ก ๆ ๆ ๆ เห็นหลายบ้าน ก็มีเจ้านาฬิกาหน้าตาแบบนี้ประดับบ้านส่วนนาฬิกาห้องรับแขกชั้นล่าง น้องสาวซื้อให้ เอาตั้งไว้บนตู้ลอยชั้นวางทีวีแต่มีปัญหาเดินเร็ว 555 ไม่สมประกอบอีกแล้ว ก็เลยต้องจัดการสังคายนา นาฬิกาในบ้านเอานาฬิกาของน้องกลับบ้านเก่า โดยพ่อเอาไปเปลี่ยนเครื่องนาฬิกาให้เดินเป็นปกติ ไม่เร็วแล้ว แต่เอาไปติดไว้ในห้องนอนบ้านเก่าแทนส่วนนาฬิกา แต๊ก ๆ ๆ ของเดิม ก็จัดการย้ายสำมะโนครัว ลงมาอยู่ห้องรับแขกข้างล่างแล้วก็เสาะหานาฬิกาใหม่ สำหรับห้องนอนเปิดเวบเจอนาฬิการูปผีเสื้อ สวยดี น่าจะเข้ากับ wall sticker ลายนกที่ติดอยู่ตอนแรกจะเอาสีดำ เพราะบ้านเราโทนขาวดำ คุณแฟนบอกสีดำ ก็เป็นผีเสื้อผีสิ ก็เลยต้องเปลี่ยนเป็นสีแดง จัดการสั่งซื้อมา ราคาไม่แพง 430 บาทแต่มีค่าส่ง EMS อีก 65 บาท เลยกลายเป็น 495 บาทแต่เวบอื่นๆ ขายกัน 880 บาท มั่ง 950 บาท มั่ง (ทำไมราคามันต่างกันจังเลย แอบถามของก็มาจากจีนเหมือนกันนี่นา)ได้มาแล้วก็เอามาติดเป็นเยี่ยงนี้เจ้านาฬิกาผีเสื้อนี้ เครื่องนาฬิกาเป็นแบบเดินเรียบ ไม่มีเสียงเลย นอนหลับสบายไร้เสียง แต๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ อีกต่อไป
ติดไฟที่ระแนง ดินเนอร์ยามค่ำไม่มืดมิดแล้วค่า.....
ทุกเช้าและทุกเย็นที่มาอยู่บ้านนี้ เราจะทานข้าวที่นี่ตลอด ยกเว้นวันฝนตก ประกอบกับเวลาพ่อแม่ ลุงป้า น้าอา มาที่บ้านก็จะทานที่นี่เช่นกันยิ่งเวลาพ่อกับลุงมาก๊งกัน ก็จะเลยยามเย็นไปถึงยามค่ำ มันมืดอ่ะ มองอาหารไม่ค่อยเห็นเลยก็เลยว่จะติดไฟข้างบ้าน แต่คิดไปคิดมา ย้ายจากติดที่ตัวบ้าน มาติดที่ผนังหินทรายดีกว่าเพราะนอกจากจะให้แสงสว่างตรงโต๊ะเต็มๆ แล้ว ยังเป็นของประดับผนังหินทรายไปด้วยในตัวพอว่างจากงานกัน ก็ได้โอกาสไปเดินดูโคมไฟที่โฮมโปร และโฮมเวิร์กพอดีโฮมเวิร์กมีลดราคาอยู่ และแบบก็โอเคสำหรับเรา ชอบตรงที่ตัวแก้วมันเป็นฝ้าเพราะถ้าเป็นแบบใส จะมองเห็นตัวดวงไฟ กลัวแยงตา จัดการสอยมา 2 โคม โคมละ 319 บาท รวม 638 บาทและซื้ออุปกรณ์ต่อไฟ เช่น ท่อ บล๊อค สายไฟ สวิทซ์ ฯลฯ หมดไปอีกประมาณ 5-6 ร้อยบาทได้แรงงานใช้คนเดิม ช่างประจำบ้านคนเก่งของเรา อิอิ ติดเสร็จแล้วเป็นเยี่ยงนี้ ด้วยความที่ไม่ได้คิดไว้ตั้งแต่แรกตอนทำผนัง มาทำทีหลัง ก็เลยต้องเดินท่อบนกำแพง แล้วเลาะด้านข้างผนังหินทรายลงมา สวิทซ์ปิดเปิดแอบไว้หลังน้ำล้น ดูแล้วก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่อ่ะ ติดเสร็จแล้ว ลองเปิดไฟดูซะหน่อย สวยใช้ได้เลยนะเนี่ย (อิอิ ทำกันเอง ชมกันเอง)ยามค่ำคืน ดินเนอร์นี้ ไม่มืดมิดอีกแล้วค่า........แถมภาพสุดท้าย
ไปสุพรรณ อ.เดิมบางฯ.....ได้ไม้ดัดมาแต่งสวนเพิ่ม
เหตุที่อยากซื้อต้นไม้เพิ่ม เพราะเฟิร์นข้าหลวงลาโลกไปแล้วเนื่องจากตรงที่ปลูกร้อนมากวันอาทิตย์-จันทร์ก่อนนู้น คุณสามีต้องไปประชุมที่บึงฉวาก สุพรรณบุรีรู้มาว่า มีต้นไม้ขายเยอะ ก็เลยตามไปเป็นคนขับรถด้วยเลย เพื่อขากลับจะได้หาซื้อต้นไม้กันเราจองที่พักที่ใกล้ๆ กับที่เค้าประชุม ที่พักน่ารักดี เล็กๆ วันไปพักไม่มีคนอื่นเลย นอกจากเรา ทั้งรีสอร์ทตกเป็นของเรา อิอิว่ายน้ำกัน 2 คนในสระ พายเรือในแม่น้ำท่าจีน ชมวิวกัน 2 คน สบายดีจริงแล พอขากลับ เช้าวันจันทร์ ก็เตรียมตัวขนต้นไม้กลับได้ขาไปเล็งไว้แล้วว่าอยู่ตรงช่วงไหน เพราะร้านขายจะอยู่ฝั่งขากลับที่นี่มีพวกไม้ดัดเยอะมาก และก็ผกากรองที่เราชอบและตั้งใจมาซื้อแรกเลยก็จัดการสอยผกากรองที่ปักชำบนตอป่ามาก่อนเลย 2 ต้นเค้ามีขายหลายราคาตั้งแต่ 30-70 บาท เราเลือกซื้อแบบต้นละ 50 บาทจากนั้นก็แล่นรถมาเรื่อยๆ มีต้นข่อยดัด ตะโกดัดเยอะมากๆ สวยๆ ทั้งนั้นเลยแต่ปัญหามันมีตรงที่แต่ละต้นบิ๊กเบิ้มทั้งนั้น ไม่สามารถใส่รถเราได้จนขับมาเรื่อยๆ เจอต้นข่อยดัด ที่พอจะยัดใส่รถเราได้ ก็เลยจัดการสอยมานี่ต้นข่อยดัดที่เราซื้อมาค่ะ แฟนชอบต้นนี้ เพราะมันแผ่กิ่งก้านสาขาเยอะดีแต่ว่าใบมันยังไม่ค่อยมี เดี๋ยวรอใบเยอะๆ แล้วตัดเป็นพุ่มก็คงจะสวยอ้อ การซื้อต้องคำนึงเรื่องการขนด้วย เพราะรถเราเป็นรถเก๋งต้นนี้สูงประมาณ 1.7 เมตรได้ ป้ากับลุงคนขายบอกใส่ไม่ได้หรอกเราก็ไม่ยอม เราให้ป้าช่วยวัดขนาด แล้วเราก็จัดการพับเบาะรถให้ดูว่ารถเราพับเบาะทะลุได้นะพอวัดแล้วว่าพอได้ ก็จัดการช่วยกันจับยัดใส่รถค่ะ ทุลักทุเลมากใส่แล้วเต็มรถพอดี สนนราคาต้นนี้ 400 บาทค่ะ ไม่รู้ว่าถูกหรือแพง แต่ตัวเองคิดว่าน่าจะถูกนะ จากนั้นขับมาเรื่อยๆ อีก เจอพวกต้นชาฮกเกี้ยนดัดเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เยอะเลยหันมองหลังรถ ยังพอได้สิน่า ไหนๆ มาแล้ว ให้มันคุ้มๆ หน่อยจัดการมองหาตัวเล็กๆ ที่พอจะยัดใส่รถที่เหลือที่ว่างอันน้อยนิดมีอยู่ร้านเดียวเท่านั้นเองที่มีตัวเล็ก แถมต้นชามันยังขึ้นไม่เต็มโครงลวดด้วยแต่เอาเถอะ ชาโตเร็ว ก็เลยได้ซื้อช้างมา 1 คู่ สนนราคา 400 บาทจ้าลองมองมุมสูงหน่อยมองจากรั้วบ้าน ช้างน้อย 2 ตัวรอรับแขกอยู่อันนี้มองจากโรงรถดูใกล้ๆ ช้างน้อยของเรา หู ปาก งวง ยังไม่มีเลย 555 ส่วนใต้ต้นข่อยดัดว่าจะโรยหินปิดดินซะหน่อยแอบเสียดายต้นผกากรองสูงไปนิด ถ้าต่ำกว่านี้คงเห็นทรงต้นข่อยชัดกว่านี้เพราะกิ่งก้านต้นข่อย มันอยู่ระดับเดียวกับต้นผกากรองพอดีเลย ช้างตัวนี้ตอนรับอยู่หน้าระแนงผนังหินทราย เห็นแล้วก็ขำ มันยังไม่เป็นช้างเล้ยยยยย นั่งหน้าบ้านมองน้องช้างทะลุไปยังสวนหินลีลาวดีภาพสุดท้ายแล้วจ้า ขอรับรองว่า เราจะดูแลน้องช้าง 2 ตัวนี้อย่างดีไม่ทำให้มันกลายร่างจากช้างเป็นไดโนเสาร์หรือสัตว์ประหลาดอย่างแน่นอน
ปูหญ้าที่เหลือ + ซื้อร่มสนาม สวนน้อยๆ เราก็เสร็จสมบูรณ์แล้วนะ
ช่วงเหตุการณ์บ้านเมืองรุนแรงได้หยุดยาว ดูข่าวทั้งวัน แต่ก็พยายามทำใจร่มๆ ไม่งั้นเครียดตายเลยเอาโอกาสนี้ไปทำสวนที่เหลือซะเลย นั่นก็คือ ปูหญ้าทะเลทรายที่เหลือนั่นเองจัดการประคบประหงมอยู่อาทิตย์นึง ก็โชคดีเข้าหน้าฝน มีน้ำจากฝนมาให้ชุ่มฉ่ำชื่นใจได้มั่งแต่แดดก็ยังแรงๆๆๆๆ จนต้นไม้หลายต้นก็เกิดอาการใบไหม้ เช่น เฟิร์นข้าหลวงก็เลยไปซื้อร่มสนามมาไว้กางบังแดด ให้ร่มเงาต้นไม้ไปอีกทาง และตกแต่งให้สวนสวยขึ้นด้วย ร่มสนามนี้เลือกซื้อขนาด 2.5 เมตร เป็นแบบผ้านาโน กันแดด กันฝน กันเชื้อรา สนนราคาอยู่ที่ 950 บาทสวนน้อยๆ ของเราก็เลยได้โอกาสปิดโปรเจกต์ซะที หลังจากยืดเยื้อมานาน เริ่มมาดูภาพกันค่ะ โม้ซะยาวเลย ภาพแรกสวนน้อยๆ หน้าบ้านของเรา มองเฉียงไปทางขวาทางหน้าประตูบ้านสวนเล็กๆ ตรงช่องบันได สวนนี้สะเปะสะปะไปหน่อยเพราะไม่ได้เสียเงินซื้อต้นไม้ เอามาจากบ้านพ่อ มีอะไรก็เอามาส่วนไม้ก็เหลือจากทำระแนงก็เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ช่วงนี้เฟิร์นข้าหลวงแย่มาก เพราะส่วนนี้ช่วงบ่ายแดดจัดมากเฟิร์นข้าหลวงชอบร่ม เจอแดด เลยเกิดอาการใบไหม้เลยทนอีกหน่อย หน้าบ้านเราจะร้อนอีกแค่ 2 เดือนเท่านั้น กลับด้าน หันมามองเฉียงไปทางซ้ายทางรั้วบ้านบ้างสวนหินไดโนเสาร์ของเรามองอีกมุมต้นไม้ 3 ต้นนี้ชอบมาก ผกากรอง กับปรง ซื้อจากจตุจักร ต้นละ 90 บาทผกากรองชอบเพราะออกดอกสวยๆ ตลอด ทนแล้ง ร้านเอามาต่อยอดกับต่อป่่า รวมๆ กันหลายๆ สีสวยดีส่วนปรงชอบทรงของมัน เราชอบทรงของพวกปาล์ม แต่ไม่มีโอกาสปลูกก็เลยเอาปรงแทน เหมือนปาล์มย่อส่วน ถัดมาก็บ่อช้างน้อยพ่นน้ำ ขนอิฐ ช้าง เห็ด มาไกลจากหนองโสนนู่นดูน้องช้างพ่นน้ำใกล้ๆ มองกลับไปถัดมาอีกมุมก็จะพบกับสวนหินลีลาวดีมองมุมตรงๆ เต่าพ่อกำลังเรียกเต่าแม่อุ้มลูกให้ตามขึ้นมาข้างบนเร็วๆ หน้าบ้านหมดแล้ว ไปดูข้างบ้านกันบ้าง ระแนงไม้เทียมกับผนังหินทราย และชุดโคมไฟน้ำล้น นั่งกินข้าวยามเย็นฟังเสียงน้ำตรงนี้สามารถเดินลงจากช่องเสาหน้าบ้านได้เลยส่วนข้างบ้าน ปูแผ่นทางเดิน และโรยหินทางยาวปลูกต้นเฟื่องฟ้าไว้สองฝั่ง เพราะชื่อเป็นมงคล บวกทนและอึดอีกนั่นเอง 555ส่วนด้านหลังมีเฮลิโคเนีย ใช่หรือเปล่าไม่รู้ เอามาจากบ้านพ่อ แต่ยังไม่มีดอกเลย เลี้ยวขวาไปนิดหลังบ้านปูกระเบื้องเต็มพื้นที่ แต่ก็มีกระถางปูนเปลือยปลูกต้นไผ่เงินไว้ เวลานั่งกินข้าวในบ้านมองจากหน้าต่างจะได้มีต้นไม้เขียวๆ หน่อยหมดแล้ว เดินย้อนกลับไปหน่อย มองจากหลังบ้านไปหน้าบ้านเขยิบไปอีกนิด ใกล้ระแนงตุ๊กตาร่าเริง และแผ่นหินทรายรูปปลาทองคู่มาดูตอนกลางคืนบ้างแสงไฟสลัวๆ ยามค่ำคืนภาพสุดท้าย แสงไฟจากน้ำล้นลีลาวดี ภาพเบลอไปซักหน่อย ตากล้องสมัครเล่น อย่าถือสานะคะ หมดแล้วค่ะ สวนน้อยๆ ของเรากับเงินที่หมดไปทั้งสิ้น 27,681 บาท