A:

กรณีเกิดการหลอกลวง ควรมีการแจ้งความไว้ค่ะ เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการขยายผลจับกุมผู้หลอกลวง หรือ ติดต่อทีมงาน เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

1. การแจ้งความ ขั้นแรก ต้องทำการแจ้งความในพื้นที่ ที่คุณทำการโอนเงิน ใช้หลักฐานที่มีอยู่ เช่นใบโอนเงิน และหน้าประกาศโฆษณาที่ระบุสินค้าที่สั่งซื้อ เบอร์โทรศัพท์ และชื่อผู้ขาย หรือหลักฐานอื่นๆ ที่มีค่ะ

คุณสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำหนังสือถึงผู้จัดการสาขาของธนาคารที่โอน เพื่อขอทราบข้อมูลของผู้เปิดบัญชี และติดต่อเจ้าของบัญชีดังกล่าวให้กับคุณและแจ้งให้ทางธนาคารเช็คว่ามียอดเงินของคุณ และมีการถอนเงินออกไปแล้วหรือยัง หากยังไม่มีการถอน สามารถแจ้งอายัดยอดโอน ดังกล่าวได้ค่ะ

หากมีการถอนไปแล้วให้ธนาคารติดต่อเจ้าของบัญชีให้หากธนาคารไม่สามารถติดต่อได้ ให้คุณนำข้อมูลของผู้เปิดบัญชี ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกตัวเพื่อมาสอบปากคำค่ะ

บางครั้งเราจะเจอกรณี เจ้าของบัญชี ไม่รู้เรื่องการโอนเงิน อ้างว่าเป็นเพื่อน หรือคนรู้จักมาขอใช้บัญชี หรือตนเองรับจ้างเปิดบัญชีให้ หรือตนเองทำบัตรประชาชนสูญหาย ทำให้ติดต่อหาผู้หลอกลวงได้ลำบากและเงินที่โอน อาจจะถูกถอนเรียบร้อยแล้ว ไม่สามารถอายัดเงินโอนได้ค่ะ

2. คุณสามารถแจ้งเบาะแส หรือร้องเรียนเพิ่มเติม ได้ที่ "กองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี" ในหัวข้อ "ฉ้อโกงทำให้เสียทรัพย์ (หลอกให้โอนเงิน) " ที่เว็บไซต์ //www.tcsd.in.th/petition.php

3. การตรวจสอบหมายเลข IP สามารถใช้แกะร่องรอย และขยายผลในการจับกุมได้ วิธีเช็ค IP ซึ่งสามารถใช้หา isp (ยี่ห้ออินเตอร์เน็ทที่ใช้) ได้ค่ะ แต่การที่จะทราบว่าประกาศนี้ ใช้เบอร์โทรอะไรในการต่ออินเตอร์เน็ท (อาจจะเป็นเบอร์บ้าน) แต่ต้องดำเนินการแจ้งความ  และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานไปยัง กระทรวง ICT เพื่อสอบถามไปยัง isp นั้นๆ ให้ค่ะ หรือทางคุณสามารถนำใบแจ้งความ เข้าไปเขียนคำร้องที่ กระทรวง ICT ได้ด้วยตนเองค่ะ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร
โทรศัพท์ 02-1416971-4
สายด่วน 1212


วิธีเช็ค IP  เข้าไปที่เว็บตรวจสอบได้  เช่น เว็บ //checkip.narak.com ค่ะ

Create Date : 10 เมษายน 2556 Last Update : 31 พฤษภาคม 2556 17:29:51 น. Counter : 1705 Pageviews.		0 comments
Share Tweet