พวกเรานัดเจอกันห้าโมงเย็นที่นิด้า... สถานที่ที่คุ้นเคยยิ่งนัก แต่ความรู้สึกแตกต่างไปจากทุกครั้งเพียงแต่ครั้งนี้พวกเราไม่ได้มาเรียน หรือมาทำรายงาน พาหนะคันแรกของทริปนี้เริ่มขึ้นด้วยแท็กซี่สีสวยคันหนึ่ง ที่สวยแต่รูป...จูบไม่หอมจริงๆ เพราะพวกเราต้องนั่งตัวแข็งไปตลอดทาง ก็คุณคนขับรถน่ะสิ ทั้งดุ ทั้งเทศนาพวกเราซะเป็นการใหญ่ แถมยังแอบพาเราอ้อมด้วย ทั้งๆที่รู้นะว่าเค้าแอบพาอ้อม แต่ก็ไม่กล้าเถียง เพราะฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นคนปากจัด แถมใจร้อน พูดจากไม่ค่อยเพราะ ทุกคนเลยพยายามสงบสติอารมณ์ มีบ้างที่นานๆ เราจะหันมาสบตากันแบบอยากเม้าท์เต็มที..."ปัง"... ทันทีที่ประตูของรถแท็กซี่คันนั้นถูกปิดลง ณ สถานีขนส่งหมอชิต พวกเราก็ได้ระบายความอัดอั้นกันออกมายกใหญ่ ทั้งๆ ที่เคืองเล็กๆ แต่ก็ขำดีพวกเรานั่งรถทัวร์เพื่อมุ่งหน้าไปหนองคาย ซึ่งระหว่างการเดินทางบนรถทัวร์คันนั้น เด็กรถเหมือนจะรู้ใจ อุตส่าห์เปิดซีดีหนังเรื่อง "คนไฟบิน" ให้พวกเราได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมอีสานก่อนจะได้ไปเยือน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากกับหัวหน้าทีม(เล้า)โลมของพวกเรา เพราะเธอได้ใช้วิชาที่ศึกษามาตลอดคืนกับผู้บ่าวทันที ตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างลงจากรถ ณ สถานีขนส่งหนองคายเช้าวันแรกนั้นพวกเราประเดิมการกินไข่กระทะที่ขึ้นชื่อหลายในละแวกนั้น พวกเราเหมารถตุ๊กๆ ไปนั่งรอตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด จากนั้นก็ต้องรีบกลับมาซื้อตั๋วเพื่อไปข้ามฝั่งที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ตอนตรวจพาสปอร์ตน่ะต้องต่อแถวกันยาวมาก แต่โชคดีที่สมาชิกแก๊งค์เราเป็นพวกหูไวตาไว พอดีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งมาเปิดช่องตรวจพาสปอร์ตเพิ่ม พวกเราสามคนเลยรีบวิ่งไปจนได้คิวแรก เสร็จแล้วก็ขึ้นไปนั่งตากแอร์เล่นบนรถสบายใจเฉิบ แต่พอรถข้ามฝั่งมาถึงลาวปุ๊บ ฝนก็โปรยลงมาปั๊บ พวกเราเลยได้แต่นั่งเหงาอยู่ที่ท่ารถแถวตลาดเช้าในเมืองเวียงจันทน์รอลิลลี่และปี่ สองสหายชาวลาวมารับ ระหว่างนั่งรอแล้วรอเล่านั้น ก็มีชาวลาวหลายคน หลากอายุ ทั้งชายหญิง ผ่านมาให้โลมอีกแล้วครับท่าน... ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็มาเสนอขายสินค้ามากกว่า มีน้องๆ หลายคนเดินมาขายหมากฝรั่ง เราก็ตอบไปว่าไม่เอา พี่มีแล้ว ก็ไม่วายเดินมาถามอีก มาคนเดียวไม่พอ มากันทีละสี่ห้าคน จนอีชั้นต้องเคี้ยวให้ดูว่าพี่มีจริ๊งจริง... มีรายหนึ่ง บอกว่า "มีแล้วก็ซื้อได้อีก พี่ยังไม่มีรสนี้แน่เลย" อีชั้นเลยควักทั้งหมากฝรั่งและลูกอมทุกยี่ห้อที่มีมาโชว์ให้ดูเลยว่า ดูซะก่อนจะเอายี่ห้อไหน รสไหนว่ามา พี่มีหมด ...แล้วมีคนหนึ่งแอบขอหมากฝรั่งรสบลูเบอร์รี่ของอีชั้นด้วย เค้าบอกว่าแปลกดี ขอเป็นที่ระลึกนะ
พวกเราได้เดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อชมทิวทัศน์รอบเมืองเวียงจันทน์ แม้จะต้องเดินกันหลายชั้น แต่ขึ้นไปแล้วก็คุ้มนะ
รอชมตอนต่อไปอยู่นะจ้า