ใช้ชื่อสายว่า Hakata Minami line บริหารโดย JR West กลายเป็นสายอนุรักษ์ให้นั่งชื่นชมบรรยากาศเก่า ๆ ไปซ่ะงั้น
ถ้าใครอยากนั่ง 000 Series หมดโอกาสซ่ะแล้ว เพราะเดือนพฤศจิกายน ปี 2551 JR West ได้ยกเลิกการใช้งาน 000 Series ทั้งหมด หลังจากคุณปู่ 000 Series ถูกปลุกชีพปั๊มหัวใจอยู่ให้บริการมายาวนานกว่า 40 ปี
พอวิ่งถึง Hakata ก็เปลี่ยนชื่อขบวนเป็น LEX (Limited Express) ชื่อขบวน Hakata Minami line วิ่งระยะทางสั้น ๆ ไปเข้าศูนย์ซ่อมบำรุงชินคันเซนที่สถานีฮาคาตะมินามิ
รูปนี้เป็น 100 Series ที่เอามาปรับปรุงเป็นขบวน โคดามะ จอดรับผู้โดยสารที่เมืองฮิโรชิม่า
ภายใน 500 Series การตกแต่งคล้ายกับ 300 Series แต่เพดานสูงกว่า ให้ความโปร่งโล่งกว่า และเปลี่ยนสีพรมที่พื้นให้ห้องโดยสารดูสว่างมากขึ้น ส่วนสีเบาะัยังม้วง.. ม่วง เหมือนเดิม
จากความแพงโครตของ 500 Series ทำให้ JR West ต้องหันกลับมาจับมือกับ JR Central อีกครั้ง เพื่อพัฒนาชินคันเซ็นรุ่นต่อไป เอาไว้ใช้เป็นขบวนโนโซมิแทน 300 Series
ได้ออกมาเป็น 700 Series เปิดสายการผลิตในปี 2540
ต้นทุนถูกกว่า 500 Series อยู่ที่ 4 พันล้านเยน เท่านั้น..... !!! (โทรสั่งตอนนี้แถม 000 Series ให้ทำแปลงสะระแหน่ด้วย)
700 Series สมรรถนะ จะต่ำกว่า 500 Series ความ เร็วจะพอ ๆ กับ 300 Series แต่ปรับปรุงเรื่องความนุ่มนวลในการขับขี่ และการยึดเกาะรางเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ทำให้นั่งแล้วนุ่มเหมือนขี่เมฆสีทองของโงกุนนั่นเชียว
เพราะมีรุ่นใหม่กว่าออกมาวิ่งเป็น โนโซมิ แทนแล้ว 700 Series เลยพึ่งหยุดผลิตไปเมื่อปี 2548 นี่เอง
ต่อไป ฮิคาริ ทั้งหมด ก็จะใช้ 700 Series ส่วน โคดามะ ก็จะใช้ 300 Series ตกทอดกันไปเรื่อย ๆ
ส่วนรุ่นใหม่ N700 Series ที่จะมาใช้เป็น โนโซมิ แทน เด๋วจะเล่าใหัฟัง
โลโก้ของ 700 Series เริ่มมีสีสันและลูกเล่นแล้ว แต่ Hard Sales เหลือเกิน
ให้อารมณ์แล้วเหมือนดูโฆษณาโทนาฟเลย
ห้องโดยสารของ 700 Series นะ เปลี่ยนวัสดุและสีเบาะใหม่ ดูสดใสกว่า 300 Series เยอะ
ถึงแม้ว่า 700 Series จะเป็นความร่วมมือกันระหว่าง JR West กับ JR Central แต่ภาพที่ออกมาก็ยังดูเหมือนเป็นรถของ JR Central อยู่ดี
ทาง JR West ยังไม่หายแล้วใจ จากกรณี 500 Series รุ่นแพงโครตเศรษฐี และด้วยความที่รถชั้นฮิคาริ ที่ใช้วิ่งสายซันโย ซึ่งใช้ 100 กับ 300 Series มีไม่พอใช้ ก็เลยสั่งทำ 700 Series รุ่นไมเนอร์เชนจ์มาใช้งาน
JR Central กับ JR West มีแผนกะเอาไปใช้เป็นขบวนโนโซมิ วิ่งระหว่าง โตเกียว กับ ฟุคุโอคะ แทน 700 Series ทั้งหมด ให้ได้ภายในปี 2552 เป็นต้นไป ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไปแล้วประมาณ 50%
ผลิตและคิดออกมาได้เร็ว เพราะรุ่นนี้พัฒนาต่อยอดจาก 700 Series เลยได้ชื่อว่า New หรือ N700 Series
ความเร็วสูงสุดเท่ากับ 500 Series แต่ปรับปรุงระบบการควบคุม ช่วงล่างและกำลังมอเตอร์ใหม่หมด
Nozomi เร็วสุด จอดน้อยที่สุด เฉพาะสถานีสำคัญ วิ่งจาก โตเกียว รวดเดียวไม่ต้องต่อรถ ยาวถึง ฟุคุโอคะ ใช้ N700 Series กับ 700 Series ปนกัน (เป็นรถชินคันเซนชนิดเดียว ที่ใช้ JR Rail Pass ไม่ได้นะครับ)
Hikari เร็วปานกลาง จอดบ้างตามสถานีที่สมควร แบ่งวิ่งเป็น 2 ส่วน -ฮิคาริ ของ JR Central วิ่งจากโตเกียว ไป (ชิน)โอซาก้า ใช้ 700 Series ปนกับ 300 Series อีกนิดหน่อย -ฮิคาริ ของ JR West วิ่งจาก (ชิน)โอซาก้า ไป ฟุคุโอคะ ใช้ 700 Series รุ่น Hikari Rail Star ปนกับ 500 Series
Kodama รถหวานเย็น ช้าที่สุดในบรรดาชินคันเซนสายนี้ทั้งหมด เพราะจอดแวะทุกสถานี แบ่งวิ่งเป็น 2 ส่วนเหมือนฮิคาริ -โคดามะ ของ JR Central วิ่งจากโตเกียว ไป (ชิน)โอซาก้า ใช้ 300 Series -โคดามะ ของ JR West วิ่งจาก (ชิน)โอซาก้า ไป ฟุคุโอคะ ใช้ 500 Series รุ่นตัดเหลือ 8 ตู้ ปนกับ 100 Series รุ่นปัดฝุ่น
เอารูปมาให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน แล้วสัปดาห์หน้าจะมา Up Blog ให้อ่านกันใหม่ครับ
จากรูปจากซ้ายไปขวา E3 Series , 400 Series , 200 Series โฉมเก่า , 200 Series โฉมขัดใหม่ , E2 Series , E4 Series Max และสุดท้าย E1 Series Max โฉมเก่าก่อนเปลี่ยนสี
ถ้านักการเมืองบ้านเราเป็นแบบนี้กันสักครึ่งนึงป่านนี้ก้อคงจะมีรถไฟฟ้าไปรอบกรุงเทพแล้วมั๊งคะ
อิอิ ไม่เอาดีก่าไม่พูดเรื่องเครียดๆ