"สมถะ" และ "วิปัสสนา" เป็นองค์ธรรมที่ต้องคู่กัน


"สมถะ" และ "วิปัสสนา" เป็นองค์ธรรมที่ต้องคู่กัน


ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้
ย่อมเจริญวิปัสสนาอันมีสมถะเป็นเบื้องต้น
เมื่อภิกษุนั้นเจริญวิปัสสนาอันมีสมถะเป็นเบื้องต้นอยู่
มรรคย่อมเกิด ภิกษุนั้นเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
เมื่อภิกษุนั้นเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่
ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป ฯ

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเจริญสมถะมีวิปัสสนาเป็นเบื้องต้น
เมื่อภิกษุนั้นเจริญสมถะมีวิปัสสนาเป็นเบื้องต้นอยู่
มรรคย่อมเกิดขึ้น ภิกษุนั้นเสพ เจริญทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
เมื่อภิกษุนั้นเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่
ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป ฯ

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเจริญสมถะและวิปัสสนาคู่กันไป
เมื่อภิกษุนั้นเจริญสมถะและวิปัสสนาคู่กันไป
มรรคย่อมเกิด ภิกษุนั้นเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
เมื่อภิกษุนั้นเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่
ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป ฯ


^
^
พระพุทธพจน์ชัดเจนโดยไม่ต้องตีความใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ
"สมถะ" และ "วิปัสสนา" องค์ธรรมนั้นเป็นของคู่กัน
วิปัสสนามีสมถะเป็นเบื้องหน้า และสมถะมีวิปัสสนาเป็นเบื้องหน้า
ต่างก็เป็นอัญญะมัญญะปัจจัย อาศัยซึ่งกันและกัน ไม่เกินกันไปได้

วิปัสสนา คือ การเห็นอย่างวิเศษ
เมื่อจิตไม่สงบ จะเห็นอย่างวิเศษได้หรือ?
เมื่อเห็นอย่างวิเศษไม่ได้ จิตก็สงบตั้งมั่นไม่ได้เช่นกันใช่หรือไม่?
จิตสงบตั้งมั่น จึงจะเห็นอย่างวิเศษ (วิปัสสนา)ได้
แต่จิตจะสงบตั้งมั่นได้นั้น ก็ต้องอาศัยการเห็นอย่างวิเศษเช่นกัน
เมื่อจิตสงบตั้งมั่นดีแล้ว จึงจะเห็นอย่างวิเศษยิ่งขึ้นไปใช่หรือไม่?

เมื่อมีสมถะและวิปัสสนา มรรคย่อมเกิด
เมื่อเจริญทำให้มาก ซึ่งมรรคนั้นอยู่
ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป ฯ (พระพุทธพจน์)

อุปมาเฉกเช่น นาย ก. และนาย ข. ไปเปิด บ/ช ด้วยกัน ธุรกรรมจึงเกิด
ธุรกรรมจะดำเนินไปได้นั้น ต้องมี นาย ก. และ นาย ข.ลงลายมือชื่อร่วมกันใช่หรือไม่?
ธุรกรรมนั้นจึงจะดำเนินไปได้ เพราะธุรกรรมนั้นใช้คำว่า "และ" ไม่ได้ใช้คำว่า "หรือ"

เมื่อใช้คำว่า "และ" ดั่งในพระพุทธพจน์
จึงต้องมีทั้ง นาย ก. และ นาย ข.
เมื่อพูดถึง นาย ก. ต้องมี นาย ข. ณ เบื้องหน้า
เมื่อกล่าวถึงนาย ข. ต้องมีนาย ก. ณ เบื้องหน้า
ธุรกรรมนั้นจึงสำเร็จเสร็จสิ้นไปได้

ถ้าพระพุทธพจน์ใช้คำว่า "หรือ"
จะมีเพียงนาย ก.หรือนาย ข.คนใดคนหนึ่งก็ได้ ใช่หรือไม่?

ปัจจุบันกลับแปลกแต่จริง อ้างอะไรก็ไม่รู้ ทั้งที่ขัดกับพระพุทธพจน์
โดยไม่ตรวจสอบ สอบสวน เทียบเคียงให้ดีก่อน ก็กล่าวหาไว้ก่อนแล้ว


เจริญในธรรมทุกๆ ท่าน
ธรรมภูต





Create Date : 24 มีนาคม 2560
Last Update : 6 เมษายน 2560 13:21:24 น.
Counter : 1570 Pageviews.

0 comments

ในความฝันของใครสักคน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



สารบัญ Blog ธรรมภูต - พระภัทรสิทธิ์



หน้าแรก Blog ธรรมภูต - พระภัทรสิทธิ์
All Blog