|
|
เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยบอก เพราะยังคงกลัวในคำตอบ
ฟังโมเดิร์นด็อก มาตั้งแต่สมัยมัธยม ม.ต้น หรือปลายจำไม่ได้ ในช่วงที่ดนตรีโมเดิร์น ร็อค กำลังขยายอำนาจ วงดนตรีส่วนใหญ่ในประเทศไทยได้รับอิทธิพลมาพอสมควร วงเกิดใหม่ในช่วงนั้นก็อย่าง Y-not-7 หรือนักร้องเพลงป็อปธรรมดาๆ ก็ออกอัลบั้มที่มีกลิ่นร็อคๆ มากขึ้น จนบางครั้งก็ลืมตัวของตัวเองไป ถึงแม้จะบอกว่าอัลบั้มนี้มีความเป็นตัวเองมากขึ้นก็ตาม
วงหนึ่งที่ผมติดใจมากคือ วงจากค่ายน้องใหม่ในยุคนั้นอย่างเบอเกอรี่ มิวสิค ชื่อโมเดิร์นด็อก อัลบั้มแรกในปี 2537 ของพวกเขา ทำให้ผมรู้สึกว่า คนไทยก็ยังมีศิลปินดีๆ อยู่เหมือนกัน ท่ามกลางกระแสดนตรีอัลเทอเนทีฟ โมเดิร์นด็อกดูจะจัดจ้านไปหมดทั้งเรื่องดนตรี และการแสดงสด ยังจำภาพพี่ป็อดใส่ผ้าถุง ลงไปดิ้นพราดๆ ที่พื้นเวที ตอนร้องเพลงบุษบาได้อยู่เลย แถมเพลงช้าที่แต่งโดยคุณปฐมพรอย่าง "ก่อน" ก็เป็นเพลงช้าที่ได้รับความนิยมสุดแรงเกิดในสมัยนั้น เรื่อยมาจนปัจจุบันเลยทีเดียว
จากชุดดังกล่าวที่ประสบความสำเร็จอย่างเละเทะ มาถึงชุดคาเฟ่ ประมาณปี 2540 อัลบั้มนี้ค่อนข้างจะใส่เสียงอิเลคทรอนิคส์ ที่ผมคิดว่ามันค่อนข้างรกหูเมื่อเทียบกับสไตล์ของวงจากชุดก่อน แต่ความมันยังอยู่ในระดับโดดได้ พวกเขาก็ทำได้ดีถึงดีมากในอัลบั้มนี้ ถึงแม้ว่าจะยังอยู่ภายใต้เงาของอัลบั้มเก่าก็ตาม เป็นการเติบโตตามกฎของจักรวาล ที่เมื่อเริ่มต้นจะต้อง ดิบเถื่อน(อัลบั้มแรก) พอโตขึ้นก็จะพยายามทำให้ดนตรีดูละเอียด และ"เหนือ" ขึ้น ดังเช่นวงต่างประเทศอย่าง radiohead ที่เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน (ลองเอาเพลง creep กับเพลง paranoid android มาเทียบกันดูได้)
จากกฎของจักรวาลนี้เอง ทำให้อัลบั้มชุดที่สามในปี 2544 "Love Me Love My Life" แทบจะทะลุโลกไปเลย กับดนตรี progressive หม่นๆ รวมกับเสียงอิเลคทรอนิดส์ที่จัดลงไปเต็มพิกัด ตัดในส่วนของความมันออกไป และใส่ความสมบูรณ์ของดนตรีเข้าไปแทน สำหรับคนที่ฟังเพลงทั่วๆไปคงจะลำบากกับการขึ้นสู่จุดที่สูงขนาดนี้ แต่ดนตรีของโมเดิร์นด็อกในอัลบั้มนี้ ในส่วนตัวขอบอกเลยว่าสุดตีนมากๆ เมโลดี้สวยงาม มีความละเอียด และดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีจินตนาการสูงส่ง และโชคดีที่ได้มีโอกาสได้แสดงออกมา แต่แน่นอนที่อัลบั้มนี้จะไม่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายเท่าไหร่
แต่ก็เหมือนวังวนชีวิต อัลบั้มล่าสุด "แดดส่อง" โมเดิร์นด็อก ได้กลับมาทำดนตรีอย่างง่ายๆ ฟังง่ายๆ แต่คงความเหนือชั้นเอาไว้ ไม่เกี้ยวกราดอย่างชุดแรก เลิกค้นหาตัวเองอย่างชุดที่ 2 และไม่จัดจ้านอย่างชุดที่ 3 จากจุดสมดุลย์นี้ทำให้ เพลงในชุดนี้ติดหู และประทับใจคนที่รอคอยกันมาก นอกจากนั้นยังเรียกนักฟังเพลงที่หายไปจากชุดแรกๆ ให้กลับมาได้พอสมควร ดนตรีในชุดนี้เล่นกันง่ายๆ เล่นวนไปมา ฟังแล้วสนุก ไม่ใช่ค่อยเต้น แล้วไปกระโดดในท่อนฮุก แต่เต้นสบายๆ ได้เรื่อยๆ ในส่วนของเนื้อหาก็ยังใช้วิธีการเดิมคือการไม่พูดตรงๆ แต่ใช้คำพูดที่เป็นสัจธรรม หรือปรัชญาชีวิต มานำเสนอ ทำให้นักฟังเพลงที่ฟังแล้วคิด แตกฉาน และถูกดึงดูดให้หลงสเนห์ของโมเดิร์นด็อกได้ไม่ยาก
แดดส่อง เป็นอัลบั้มที่สูงสุดคืนสู่สามัญ และดูจะทำได้ถูกที่ถูกเวลา ในขณะที่อีกหลายๆ วงยังสับสนจับต้นชนปลายกับสไตล์ไม่ถูก และต้องคอยตามกระแสวัยรุ่นเพื่อผลทางธุรกิจ โมเดิร์นด็อกทำให้เห็นแล้วว่า ถ้าพูดกันถึงฝีมือแล้ว คนไทยก็ไม่ใช่กระจอกๆ เพียงแต่ขาดอิสระทางความคิดเท่านั้นเอง
//www.mthai.com/webboard/46/54118.html
| Create Date : 03 เมษายน 2548 |
| Last Update : 7 พฤษภาคม 2548 3:37:43 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 591 Pageviews. |
 |
|
|
| โดย: มาเอะ IP: 61.90.55.84 วันที่: 3 เมษายน 2548 เวลา:22:33:44 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [