My HoME ~~~ ลั้ล~ลา.....
Group Blog
 
All blogs
 
"กาแล" สวยงาม สิริมงคล หรือ อัปมงคล

เพื่อนๆคงรู้จักกาแลกันไม่มากก็น้อย
กาแลเป็นที่นิยมติดกันมากบนยอดจั่วของบ้านทางภาคเหนือ
มีลักษณะเป็นไม้ไขว้กันเป็นกากาบาก ที่แกะสลักสวยงาม
ผู้คนส่วนใหญ่ คิดว่าเป็นสถาปัตยกรรม อันงดงามของท้องถิ่นอย่างหนึ่ง

แต่ในอีกแง่ของกาแลที่ไม่ค่อยมีคนรู้ หรือไม่อยากจะพูดถึง
ที่เราเองก็เพิ่งจะรู้เหมือนกัน.............

ในตอนแรกเราค่อนข้างชอบกาแลมาก
สร้างบ้านใหม่ก็คิดจะติดกาแลลงบนยอดจั่วให้สวยงาม
สมกับเป็นบ้านคนล้านนาโดยแท้ แต่ดั้งเดิม
แต่ว่าทางผู้รับเหมาคัดค้าน โดยได้ให้ความรู้ใหม่กับเราว่า

"มันเป๋นของบะดีนา พม่ามันไจ้ข่มบ้านคนเมือง บะเจื้อน้องนุ่นลองค้นในเน็ตก่ได้"

ว่าแล้วก็เลยลองค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตดู
แล้วก็ได้ข้อมูลในหลายๆแง่ ทั้งดีและไม่ดี
สรุปเอาจากเว็บบอร์ดโลกล้านนาแล้วกันค่ะ
เพราะข้อมูลจากผู้โพสต์ค่อนข้างเยอะ


//board.dserver.org/L/LannaBoard/00000442.html





"ในทางวิทยาศาสตร์ มันเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการปลูกบ้าน
เพราะไม้ที่ขัดกันไว้นั้นจะเป็นตัวช่วยพยุงส่วนของคานบ้าน
ที่จะพาดยาวตั้งแต่จั่วหน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน
คนปลูกสร้างนั้นอาจจะไม่ได้คำนึงถึงว่าเป็นสิ่งสวยงามหรืออะไร
เพียงยึดถือประโยชน์ของมันเท่านั้น
ตอนหลังก็จึงมาคิดประดับตกแต่ง"
โดย นายฉาบฉวย





"ซั้งตี้ก่อบอกว่า ต๋อนตี้หมู่ม่านมาตีเมืองเฮาไปแล้วตกอยู่ใต้อำนาจของม่านถึง 200 ปีนั้น
หมู่ม่านมันสั่งหื้อคนเมืองใส่กาแลบนหลังคาบ้านเพื่อจะได้แยกได้ว่า
นี่เป๋นบ้านคนเมือง บ้านคนม่านน่ะเจ้า"
โดย "รสีหลงถ้ำ"

------แปลได้ว่า บ้างก็ว่าตอนพวกพม่ามาตีเมืองแล้วทำให้ล้านนาตกอยู่ใต้อำนาจพม่าถึง 200 ปีนั้น
พวกพม่าสั่งให้คนเมือง (คนล้านนา) ใส่กาแลบนหลังคาบ้านเพื่อแยกว่าเป็นบ้านคนล้านนาหรือคนพม่า---------





"เนื่องจากค้นคว้ามาและสอบถามผู้เถ้าผู้แก่ที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายขงท่าเหล่ามาว่า
ในสมัยก่อนนี้ตอนที่พม่าได้เข้ามายึดล้านนาเราซึ่งปัจจุบันคือเชียงใหม่นี้
พวกพม่า บังคับข่มเหงคนล้านนามาก
ประกาศให้ทุกบ้านนำไม้ไผ่มาไขว้กันเป็นกากาบาท
เพื่อให้รู้ว่ายอมจำนนต่อพม่า
ถ้าบ้านไหนไม่มี พม่าก็กดขี่ข่มเหง ฆ่าล้างโคตร
ชาวล้านนาไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ต้องยอมจำนนแต่โดยดี
จึงมักจะเห็นบ้านที่ปลูกแล้วมีกาแลในเชียงใหม่เป็นส่วนมาก
พอถึงรุ่นหลังไม่ทราบก็นึกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเชียงใหม่
ซึ่งมัน "ไม่ใช่"
และจากเมื่อก่อนซึ่งใช้แค่ไม้ไผ่ไขว้กัน
คนเชียงใหม่เราก็ได้นำไม้อืนมาแกะสลักแบบสวยงาม
โดยที่ก็ไม่รู้แน่ว่าประวัติมันเป็นยังไงแล้วอย่างงี้ยังจะชอบกาแลอีกไหม
แต่เราก็คนหนึ่งแหละที่เกลียดกาแล
จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่าน
แต่ขอยืนยันว่าเป็นความจริงแน่นอนค่ะ" โดย คนรู้จริงและเป็นจริง



"สมัยที่พม่าปกครองล้านนาได้กวาดต้อนผู้คนทางภาคเหนือของไทย
ไปไว้ที่ฟม่า เมื่อเกิดการตายเกิดขึ้น
ทางพม่าก็เอากาแลมาทำเป็นสัญญลักษณ์ไว้
เพื่อเป็นการสะกดวิญญาณไว้ เพื่อให้เป็นข้าทาสบริวาร
ของแผ่นดินพม่าต่อไป
จนกระทั่งเมื่อเกิดการเปลื่อนแปลงการปกครอง
ทางขุนนางทางล้านได้นำเอากาแล
มาประดับตกแต่งเพื่อความสวยงาม และบ่งบอกถึง ยศ และบรรดาศักดิ์" โดย ถาปัด โคราข

"เป็นการทำกาแลเพื่อ ไล่นกแสก (บางที่บอกกันแร้ง:จขบ.)
คนทางล้านนาสมัยก่อน เชื่อว่า
เมื่อนกแสกมาเกาะที่เรือนตัวเองก็จะมีการตายของคนในบ้านเกิดขึ้น " โดย ถาปัด โคราข




"จริงแล้วกาแล เป็นเครื่องหมายที่ใช้ข่ม ไม่ให้คนมีบุญมาเกิดในเมืองเชียงใหม่
มีอยู่ยุคหนึ่งที่พม่ายึดเมืองเขียงใหม่ได้กลัวคนเชียงใหม่มาตีคืน
จึงได้ทำให้เชียงใหม่ตกขึด(อาถรรพ์ 7 อย่าง)
ในที่นี้จะเล่าแค่สามอย่างเท่านัน คือ

1. พม่าหลอกให้คนเชียงใหม่เอาศพหรือผีออกประตูเชียงใหม่ ปกติจะออกที่ประตูหายา
2. คนเชียงใหม่ที่เกิดลูกให้เอารกของเด็กไปฝังไว้ที่ใต้บันไดเพื่อข่มไม่ให้คนมีบุญมาเกิด
3. ให้ทำกาแลใส่ไว้หน้าบ้านทุกบ้านเพื่อข่มไม่ให้คนมีบุญมาเกิดกลัวจะกู้เมืองเชียงใหม่คืน

นี่คือย่อให้ฟังถ้าอยากรู้ถามลุงหนานบุญคลื่น 103.50 MHZ โทร 0819526909 มีเพิมเติม" โดยหนานบุญ



"จากการศึกษาทางประวัติศาตร์ ทำให้ทราบว่า กาแลนั้นเป็นเครื่องหมายที่
พม่าทำไว้เมื่อครั้งรุกรานเชียงใหม่ บ้านใดที่เข่นฆ่าปล้นสดมภ์แล้ว
จะทำ เครื่องหมายกากะบาดนี้ไว้เป็นสัญลักษ์
เพื่อไม่เสียเวลาปล้นสดมภ์กับบ้านนี้อีก
ไปเข่นฆ่า-ปล้นบ้านอื่นต่อไป
ชาวเชียงใหม่ที่รอดชีวิตรู้อุบายนี้จึงทำ เครื่องหมายกาแลไว้ที่บ้านของตน
เพื่อให้รอดจากการกระทำที่ชั่วร้ายของพวกพม่า
ในกาลต่อมา กาแลจึงเป็นเครื่องหมายของความปลอดภัย
รอดพ้น จากอันตรายจากศัตรู
บ้านเรื่อนของชาวหนือได้ติดกาแล
ที่หลังคาบ้านมีการสลัก เสลาให้สวยงามเด่นเป็นสง่า
จนในที่สุด กลายเป็นสัญญลักษณ์ของชาวล้านนา
เชื่อหรือไม่โปรดใช้วิจารณญาณ" โดย Anurat



"สืบเนื่องมาจาก ประเพณีฆ่ากระบือ เพื่อบวงสรวงผีบรรพบุรุษ
จึงได้มีการนำเอาเขากระบือ ขึ้นไปประดับไว้บนยอดหลังคา
เป็นการโฆษณาความร่ำรวยของเจ้าของเรือนนั้น
ในที่สุด จึงได้กลายเป็นประเพณีการทำกาแลขึ้นแทนเขากระบือ"
จาก //www.idealanna.com/index.php?mo=3&art=63721


"สวยงาม สิริมงคล หรืออัปมงคล"

ก็ต้องแล้วแต่ดุลยพินิจของแต่และบุคคลแล้วล่ะค่ะ












Create Date : 04 มิถุนายน 2553
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 13:29:21 น. 32 comments
Counter : 47377 Pageviews.

 
อ่านเจอแบบนี้แล้วเลี่ยงไปเลยดีกว่าค่ะ ขอบคุณที่ทำให้พอรู้ที่มาที่ไปของ กาแล ว่ามันมีที่มาที่ไปพอสมควรเชียว


โดย: hellojaae (hellojaae ) วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:11:53:39 น.  

 
อ่านดูแล้วความน่าจะเป็นมันออกไปในแนวไม่ค่อยดีมากกว่าดีแฮะ - -

ถ้าทำบ้านใหม่คงไม่ติด

ขอบคุณสำหรับความรู้


โดย: บาส100% วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:13:10:52 น.  

 
เป็นความรู้ใหม่ ขอบคุณมากครับ


โดย: สถาปน๊อต วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:14:51:08 น.  

 
ขอบคุณนะจ๊ะได้ความรู้เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง


โดย: หัวใจแก้ว วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:15:11:16 น.  

 
อื่มน่าศึกษาครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูล


โดย: Sun in the sky วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:16:02:26 น.  

 
ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากเลย ยังลังเลอยู่เหมือนกัน

ว่าจะติดหรือไม่ติด




โดย: ก้อปศักดิ์ วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:16:25:01 น.  

 
ขอบคุณค่ะ...ที่ให้ความรู้...


โดย: กระป๋องแป้งฝุ่น วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:17:16:04 น.  

 
ขอบคุณ คุณเจ้าขอบบล็อกมาก ๆ เลยค่ะ พอรู้ความหมายแล้วทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย แต่ยอมรับว่าที่สวยงามเพราะลายไม้แกะสลักน่ะ


โดย: JC2002 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:21:34:59 น.  

 
"จงเฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ และจงเซื่อในสิ่งที่เฮ็ด"


โดย: Aniruch_j วันที่: 6 มิถุนายน 2553 เวลา:10:58:29 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ค่อยชอบอยู่แล้วเพราะดูแปลกๆ ยังงัยไม่รู้คะ ถ้ามีบ้านก็ไม่คิดจะติดเหมือนกัน


โดย: คนชอบอ่านผ่านมาทัก วันที่: 7 มิถุนายน 2553 เวลา:1:21:40 น.  

 
ไม่รู้มาก่อนเลยคะ เห็นก็ว่าสวย แปลกดี ขอบคุณที่นำมาฝากกันคะ


โดย: daikon วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:9:52:14 น.  

 
ขอบคุณสำหรับสาระที่นำมาฝาก
แต่หากผมจะติดกาแล ก็คงจะติดเพราะเหตุผลทางศิลปะมาก ก็คงไม่นำประวัติศาสตร์ หรือเหตุผลทางความเชื่อมาโยง
แต่ที่บ้านไม่ติดก็เพราะ ไม่ได้เชื่อมโยงกับงานศิลปะล้านนาเลยครับ


โดย: พ่อบ้าน บ้านสองหน่อ (pixa ) วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:10:15:38 น.  

 
อันนี้มีการอ้างอิงจากหนังสือวิชาการหลายเล่มนะคะ ถ้าหากไม่ใช่ของดีจริง บ้านเรือนเจ้านาย เชื่อสายล้านนาคงไม่มีกาแล แล้วก็มีการค้นคว้ากันอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แค่คำเล่าลือค่ะ

-----------------------------------------------------

ความเป็นมาของกาแลนี้ มีข้อสันนิษฐานดังนี้

คำว่า “กาแล” อาจจะเพี้ยนมาจากคำ “กะแลง” ซึ่งมีความหมายว่า ไขว้กันอยู่
รูปลักษณะอาจพัฒนามาจาก แต่เดิมเป็นเรือนไม้ไผ่มุงหลังคาด้วยใบตองตึง(ใบพลวง) ซึ่งต้องมีไม้ปิดหัวท้ายตรงสันหลังคาตอนหน้าจั่ว เมื่อพัฒนาเป็นเรือนไม้จริงมุงด้วยกระเบื้องดินขอ การใช้ไม้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมไขว้กัน แบบธรรมดาคงไม่เกิดความงาม จึงคิดประดิษฐ์แกะสลักปลายไม้ ให้เกิดความอ่อนโค้งงดงามด้วย
อาจจะรับอิทธิพลมาจากชาวพื้นเมืองเดิม คือ พวกลัวะ (ละว้า) ซึ่งเรือนแบบดั้งเดิมของพวกลัวะ จะมีการใช้กาแลนี้ประดับ โดยแต่ละแห่งจะแกะสลักลวดลายเฉพาะอย่างไป เป็นเครื่องหมายบอกถึงเชื้อตระกูล ชาวล้านนา (โดยเฉพาะเชียงใหม่) อาจจะรับรูปแบบมาแล้วพัฒนาเป็นรูปแบบของตนเองในภายหลังอีกที
อาจจะทำไว้ให้มีความหมายเพื่อเป็นสิริมงคล หรือทำไว้เพื่อป้องกันไม่ให้แร้ง กามาเกาะหลังคา (ซึ่งถือว่าเป็นเสนียดอัปมงคล) นอกจากนี้ยังคงเป็นเครื่องแสดงบอกฐานะของเจ้าของเรือนด้วย

เพิ่มเติม
//th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD


โดย: joyful IP: 58.8.239.149 วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:3:42:59 น.  

 
ผมเห็นด้วยกับ คุณ joyful คร๊าฟ

เพราะ ตอนนี้ ผมกำลังทำ บทความ ของ กาแล อยู่คับ

ชื่อหนังสือว่า กาแลกับเอกลักษณ์ล้านนา ถ้าใครอยากรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับ กาแล หาหนังสือ นี้ อ่านได้นะคับ


โดย: เห็นด้วย IP: 110.164.154.56 วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:21:38:45 น.  

 
สวยมาก


โดย: ใบเตย IP: 180.180.178.181 วันที่: 15 กันยายน 2553 เวลา:8:57:00 น.  

 
ที่บ้านต้องบอกแม่แล้ว


โดย: ฟ้าง IP: 180.180.178.181 วันที่: 15 กันยายน 2553 เวลา:8:59:02 น.  

 
ที่บ้านต้องบอกแม่แล้ว


โดย: ฟ้าง IP: 180.180.178.181 วันที่: 15 กันยายน 2553 เวลา:8:59:14 น.  

 
คนเมืองเป็นคนดี มีปัญญา เปลียนความไม่ดีให้เป็นของดี อดีตต่อเนื่องกับอนาคต แต่อดีตไม่ใช่อนาคต ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงกันได้ อย่างน้อยทำให้เรารู้ว่าบ้านกาแล คือบ้านคนเมือง ไม่ใช้คนอื่นไกล


โดย: สุ IP: 203.114.109.9, 203.114.109.2 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:34:31 น.  

 
พระตำหนักดอยตุงของสมเด็จย่า ยังใส่กาแล สวยเด่นเป็นสง่า "อดีตบ่งบอกปัจจุบัน แต่อดีตไม่ใช่ปัจจุบัน" ที่มาที่ไปของกาแลมีมากมายหลายคำบอกเล่า ยุกหนึ่ง ไม้ สรไนย พยายามเข้ามาแทนกาแล คำกล่าวหากาแลในทางร้ายเพื่อให้ "สรไนย" ได้รับความนิยม ก็มีอยู่เยอะแยะ แต่เชื่อไหมเรือนสรไนย ก็คือเรือนกาแลดั้งเดิม เพียงแต่เอาเเท่งไม้ 1 แท่งมาใส่จั่วแทนไม้กาแล...
"ลำพูนสรไนย เชียงใหม่กาแล" คิดถึงคำว่า "ลานนา นะ" ล้านนามาเมื่อไม่นานนี้เอง
//www.rakmuangthaitour.com/webboard/post_photo/a_1003.jpg


โดย: ลูกครึ่งคนเมือง IP: 49.49.150.38 วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:18:09:31 น.  

 
ผมคิดว่ามันเป็นมงคล แล้วกันเพระผมกำลังจะติด อยู่พอดี อย่างหนึ่งที่มีความสวยงาม


โดย: เอกรัฐ IP: 125.26.104.56 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:52:27 น.  

 
กาแล นั้น น่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า "กระแหล๋ง" ในภาษาเมือง ซึ่งหมายถึงลักษณะที่ไขว์กัน ซึ่งใสมัยก่อนนั้น คนเมืองสร้างเรือนอาศัยจากไม้น่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า เมื่อเทียบกับลักษณะบ้านล้านนาแบบเรือนเครื่องผูก



โดย: NighTingalE IP: 118.172.44.168 วันที่: 7 สิงหาคม 2555 เวลา:4:50:55 น.  

 
สวยก็จริงเเต่ความหมายของมันดูไม่ค่อยดีเท่าไรเลยคะเเต่ก็ต้องขอขอบคุณนะคะที่ให้ความรู้


โดย: บัณฑิตน้อย IP: 223.206.111.109 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:56:53 น.  

 
สวยก็จริงเเต่ความหมายของมันดูไม่ค่อยดีเท่าไรเลยคะเเต่ก็ต้องขอขอบคุณนะคะที่ให้ความรู้


โดย: บัณฑิตน้อย IP: 223.206.111.109 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:57:13 น.  

 
ปัญญาอ่อนงมงายกับเรื่องเล่าต่อๆ กันมา
ปัจจุบันกาแลคือศิลปะความสวยงาม

เราเปลี่ยนจากใช้มือเปิปข้าวมาใช้ช้อนส้อมตามฝรั่ง
เพื่อไม่ให้ถูกดูถูกว่าเป็นพวกล้าหลัง

ดังนั้นอย่าใช้ช้อนส้อมกินข้าวนะ เพราะช้อนส้อมเป็นสิ่งที่แสดงถึงการเป็นเมืองขึ้นทางวัฒนธรรม


โดย: สุขอนามัยช่างหัวมัน IP: 124.122.248.192 วันที่: 29 สิงหาคม 2556 เวลา:11:35:21 น.  

 
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%87/204922146349644


สรไน ไม่ได้กล่าวหา กาแลแต่อย่างใด ไม่ได้พยายามจะมาแทนที่เพื่อให้ได้รับความนิยม
แต่สรไน หรือ สรไนย เป็นวัฒนธรรมของชาวยอง คนยอง เป็นเอกลลักษณ์ของคนยอมพื้นเมือง ว่าบ้านหลังนี้เป็นคนยองนะ บ่งบอกถึงความเป็นพวกพ้องเดียวกัน เนื่องจากในประเทศไทย มีเชื้อสายยองไม่มากนัก การที่บ้านหลังไหนติดสรไน ก็เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างหนึ่งเท่านั้น

แต่การจะกล่าวหาว่า "สรไนพยายามเข้ามาแทนกาแล คำกล่าวหากาแลในทางร้ายเพื่อให้ "สรไนย" ได้รับความนิยม นั้น" อาจดูไม่ค่อยยุติธรรมกับคนยองเพราะ เดิมหากศึกษาประวัติของชาวยอง ถูกกวาดต้อนมาจากเมือง 12 ปันนา มีเพียงชนกลุ่มน้อยที่ได้เดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทย คนยองคงไม่คิดจะต่อต้านด้วยการใส่ความกาแล เพื่อให้สรไนย ได้รับความนิยม เพราะไม่มีเหตุอันใดที่ต้องทำ


โดย: บ้านสรไนย IP: 110.171.37.38 วันที่: 16 กันยายน 2556 เวลา:3:18:32 น.  

 
มีท่านหนึ่งกล่าวว่า ให้เลิกใช้ช้อนเพราะตามฝรั๋ง ลานนาแต่เดิมก็มีช้อนมาก่อนแล้ว เพียงแต่ใช้ผสมกันกับมือ แต่กรณีเรื่องกาแลนั้น ขออธิบายว่า ใครจะใช้ก็ไม่ผิด แต่อย่าใช้ประโยคว่า กาแลเป็นสัญลักษณ์แห่งลานนา เพราะคำว่าลานนานั้น มันมีหลายปัจจัยมากกว่านี้ ส่วนตัวนั้น กาแลเป็นแค่เปลือก ไม่ใช่แก่นแท้ของลานนา


โดย: สัญลักษณ์ลานนา IP: 180.183.154.66 วันที่: 3 มกราคม 2557 เวลา:1:06:39 น.  

 
กำลังฝันจะสร้างบ้านทรงกาแลพอดีเลยต้องคิดใหม่


โดย: Iselin IP: 192.99.14.36 วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:0:35:12 น.  

 
กาแลในความหมายของผมนั้นต่างจากท่านอื่นอยู่มากทีเดียว อันที่จริงกาแลนี้เป็นสมบัติของชาติพันธุ์ลัวะ ชาติพันธุ์นี้มาจากไหน จากบันทึก ตำนานพระธาตุดอยตุงกล่าวไว้ว่าบรรพบุรุษชาติพันธุ์ลัวะมาจากฟ้าเดินลงมาจากบันไดสีเงิน เรียกตัวเองว่าลวจักราช ชาติพันธุ์ลัวะครั้งเมื่อกว่า 5,000 ปีหรืออาจมากกว่านั้นเป็นผู้ครอบครองทั่วทั้งอุสาคเนย์เลยทีเดียวและกระจัดกระจายไปทั่วโลก จริงๆแล้วเราพบหลุมฝังศพมนุษย์ลัวะออบหลวงอายุกว่า 20,000 ปีที่จอมทองด้วย มีประเพณีหนึ่งที่ชาติพันธุ์ลัวะยังคงรักษาและบูชาบรรพบุรุษมาจนถึงทุกวันนี้คือพิธีกินดง พิธีนี้จะสังเวยบรรพบุรุษด้วยกระบือ เสร็จแล้วจึงนำศรีษะกระบือ(เขา)ไปประดับไว้บนหน้าจั่วบ้านเพื่อสื่อถึงบรรพบุรุษที่อยู่ไกลโพ้น คำว่ากาแลน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่ากะแหล่งจี้(รูปไข่วกันของวัตถุบนจั่วหลังคาบ้านที่ชี้ขึ้นไปบนฟ้า) หากพิเคราะห์ที่มาที่ไปของคำว่ากะแหล่งจี้นี้กลับมีความใกล้เคียงกับคำว่า Galaxies อย่างน่าพิศวงที่เดียว จึงมีความเป็นไปได้ว่ากาแลนี้กำลังจะเป็นตัวบ่งบอกถึงที่มาที่ไปของชาติพันธุ์ลัวะก็เป็นได้ เราพบว่าจากจารึกแห่งเจ็ดลิน(เมืองหลวงของชาติพันธุ์ลัวะ) ลัวะในอดีตสามารถคำนวณวิถีการโคจรของดวงดาวต่างๆในจักรวาลได้อย่างเม่นยำ(จารึกแห่งเจ็ดลินหาค่าอายุอยู่ที่ 8,000 – 12,000 ปีขึ้นไป) กับทั้งสร้างอาณาจักรของตัวเองเป็นสัญลักษณ์ทรงกลมหลายทรงกลมซ้อนกัน มีค่าการคำนวณทรงกลมของเมืองเทียบค่าได้กับสุริยะจักวาลเลยทีเดียว ดังนั้นกาแลจึงไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องประดับเท่านั้น แต่เป็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ชาติอีกด้วย แลกเปลี่ยนข้อมูลได้ที่พูนทรัพย์ วงศาศุกลปักษ์ นักวิจัยอิสระ 0845048755


โดย: พูนทรัพย์ วงศาศุกลปักษ์ IP: 223.205.44.211 วันที่: 15 กรกฎาคม 2557 เวลา:19:22:46 น.  

 
ไม่น่ามีประวัติศาสตร์อะไรที่ซับซ้อนขนาดนั้น แต่ก่อนอาณาจักรล้านนาเป็นอาณาจักอิสระที่อยู่ระหว่างมหาอำนาจคืออโยธยากับหงสา ศูนย์กลางอำนาจในล้านนาก็มีทั้งคนอยากอิสระ นิยมอโยธยา นิยมหงสาปะปนกัน...
จริงๆ กาแลมันก็แค่คำที่เพี้ยนมาจากไม้กะแล้งที่เกิดจากไม้ 2 อันมาไข้วกันที่ป๋ายจ๋องของบ้าน..แต่ก่อนบ้านมุงคาที่ไม้ไข้วตัวสุดท้ายก็เลยต้องทำยาวโผล่เพื่อกันลมพัดคากระจุยกระจายแค่นั้นเอง..


โดย: ่่jj IP: 183.89.146.72 วันที่: 12 กันยายน 2557 เวลา:17:27:49 น.  

 
มีกาแล...เหมือนมีโลงศพไว้ในบ้าน..
สังเกตง่ายๆ..ดูปราสาทที่เอาใส่ศพไปป่าช้าสิคะ...และบ้านเรือนไทย..มักร้างหรือเจ้าของมักเสียชีวิตแบบผิดปกติ..


โดย: พิม IP: 1.46.36.83 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2559 เวลา:13:07:23 น.  

 
ต่างคนก็ต่างความคิด
รับฟังทั้งสองด้านครับ.
(เกิดบ่าตัน บ่าขอฟันธง ... )


โดย: hamtone IP: 58.8.230.246 วันที่: 17 พฤษภาคม 2561 เวลา:12:22:09 น.  

 
cialis 10 mg tablet tadalafilise.cyou/#


โดย: Kevinjoync IP: 37.139.53.22 วันที่: 21 สิงหาคม 2566 เวลา:18:05:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Noon_rinz
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add Noon_rinz's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.