Group Blog
 
All Blogs
 
ธรรมดาชีวิต


คำสอนในพระพุทธศาสนาเริ่มต้นจากการมองชีวิตว่าเป็นทุกข์ ปรากฏการณ์จึงเป็นว่า คนที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองอยู่กับทุกข์ หรือมองไม่เห็นทุกข์ จึงไม่มีความสนใจที่จะศึกษาพระพุทธศาสนา เพราะคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตัวเอง หรือคิดว่าจะทำให้ชีวิตไร้สีสัน สลดหดหู่ สู้หาความเพลิดเพลินให้กับชีวิตไปวันๆไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วถ้าเรามีตาที่ดูออก จะพบว่าทุกข์ได้ติดตามชีวิตอยู่เหมือนเงาตามตัว ทั้งทุกข์ที่เนื่องด้วยกาย ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน คือการที่เราต้องคอยขวนขวายหาทางบำบัดอาการหิว กระหาย ร้อนหนาว เมื่อบำบัดได้คราวหนึ่งทุกขเวทนาก็เบาบางลง เราจะรู้สึกว่าเป็นสุขอยู่ไม่นาน ทุกขเวทนาอื่นก็เกิดตามมาอีก เป็นเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา... ต่อมาคือทุกข์ที่เนื่องด้วยจิต ได้แก่ ความไม่สมหวัง ความต้องพบเจอกับสิ่งที่ไม่ชอบ หรือต้องพลัดพรากจากสิ่งที่ชอบ ความคับแค้นใจ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความทุกข์ที่ละเอียดลึกซึ้งไปกว่านั้น คือที่พระพุทธองค์ให้เราพิจารณาว่า แม้ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ และความตายก็เป็นทุกข์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกชีวิตต้องประสบพบเจออย่างแน่นอน ต่างกันเพียงแต่ความเข้มจาง เร็วหรือช้า และด้วยท่าทีที่แตกต่างกันอย่างไรเท่านั้น

หากเราไม่รีบเบือนหน้าจากจุดเริ่มต้นนี้ แล้วสนใจศึกษาต่อไปจะพบว่า จุดหมายปลายทางที่พระพุทธศาสนาจะนำพาเราไป คือ ความพ้นทุกข์ แม้แต่ในขณะที่เรากำลังประสบกับความทุกข์ เราก็สามารถอยู่กับทุกข์ได้โดยไม่ทุกข์ หรือมีทุกข์น้อยที่สุด ก็โดยการทำความเข้าใจ และปฏิบัติตามหลักธรรมในเรื่องอริยสัจ ๔ ซึ่งเป็นความจริงที่ประเสริฐ เป็นสากล ทันสมัยตลอดกาล และสามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาของชีวิตได้ทุกแง่ทุกมุมอย่างน่าอัศจรรย์

มีคนเป็นอันมากพึ่งตนเองได้ทางกาย เขาไม่อดไม่อยาก ปากท้องของเขาชุ่มและเต็มอยู่ด้วยข้าวปลาอาหาร ร่างกายห่อหุ้มด้วยพัสตราภรณ์อันพราวพรรณ เลิศด้วยเนื้อและสี สูงส่งในราคา เขามีคฤหาสน์โอ่อ่าปานทิพย์วิมาน ได้ฟังเสียงสรรเสริญเยินยอ ได้รับการต้อนรับพินอบพิเทาจากวงสังคม นี่คือลักษณะภายนอกที่ใครๆพอมองออกได้ แต่ลึกลงไป ส่วนที่ใครๆมองไม่เห็นคือใจของเขา ใครเล่าจะบอกได้ นอกจากตัวเขาเอง เขารู้สึกว้าเหว่อย่างล้ำลึกอยู่ในดวงกมล มีความคลางแคลงสงสัยมิเว้นวายว่า "เราคือใคร? อะไรคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ? ทำไมอะไรๆ ช่างจืดชืดไปเสียสิ้น?" เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ชีวิตต้องการแต่ยังขาดอยู่ เขาขาดอาหารใจนั่นเอง ที่พึ่งคือธรรมนั่นแหละเป็นอาหารใจที่ดีที่สุด ธรรมนั่นแหละเป็นทั้งอาหารที่อยู่อาศัย เครื่องประดับ และยาบำบัดโรคของใจ คนส่วนมากพึ่งตนเองไม่ได้ทางใจ ก็เพราะขาดธรรมเป็นที่พึ่งพำนัก


หลักคำสอนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตมนุษย์ เป็นเข็มทิศชีนำให้มนุษย์ดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนอันตนเชื่อมั่นอยู่ มนุษย์เชื่อมั่นคำสอนอย่างใดหรือหลักปรัชญาอันใด นั่นแหละคือวิถีชีวิตของเขา ปราศจากระเบียบวินัยและคำสอนเสียแล้ว มนุษย์ก็จะมีชีวิตอยู่อย่างมืดบอดเหมือนสัตว์โลกทั้งหลายอื่น เหมือนควายบอดเที่ยวไปในป่า ย่อมได้รับความลำบากด้วยเรียวหนามและหลุมบ่อ

มนุษย์ที่ยังไม่ได้รับการฝึก เป็นสัตว์ดุร้ายที่สุด มีเครื่องมือสนองความดุร้ายอย่างฉกาจฉกรรจ์ มนุษย์ที่ได้รับการฝึกแล้ว เป็นผู้อ่อนโยน เมตตาปราณีที่สุด และมีเครื่องมือสนองความเมตตาปราณีอย่างดีเยี่ยม
ธรรมนั่นแหละเป็นเครื่องฝึก ธรรมนั่นแหละช่วยถ่ายถอนความดุร้ายให้หายไป ธรรมอีกนั่นแหละทำให้มนุษย์วิเศษกว่าสัตว์ดิรัจฉานและในหมู่มนุษย์ด้วยกัน ผู้ฝึกตนแล้วด้วยธรรม เป็นผู้ประเสริฐที่สุด

มนุษย์ต้องมีศาสนา เพราะศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจเป็นที่พึ่งทางใจ คนที่พึ่งตนเองได้ทางกายนั้นหาได้ไม่ยาก แต่คนที่พึ่งตนเองได้ทางใจนั้นต้องมีธรรมเป็นที่พึ่ง แม้องค์พระพุทธเจ้าเองผู้ทรงเป็นที่พึ่งของเราก็ทรงถือเอาธรรมเป็นที่พึ่งของพระองค์ ธรรมจึงเป็นใหญ่กว่าอะไรทั้งหมดในโลกนี้ ผู้ดี ผู้เจริญจึงนิยมยกย่องธรรม ให้เกียรติธรรม รักษาธรรม ธรรมนั่นเองที่เขาประพฤติดีแล้ว ย่อมหวนกลับมายกย่อง ให้เกียรติ รักษา และคุ้มครองเขา ผู้อันธรรมคุ้มครองแล้วย่อมอยู่เป็นสุขสงบร่มเย็น ไม่ต้องระหกระเหินอย่างไร้จุดหมายเช่นสัตว์ในทะเลทราย...




Create Date : 16 มิถุนายน 2548
Last Update : 18 มีนาคม 2549 0:51:43 น. 3 comments
Counter : 250 Pageviews.

 
ธรรมะช่วยให้คนอยู่อย่างไม่ทุกข์ หรือทุกข์น้อยลงได้จริง ๆ ครับ


โดย: konku IP: 61.91.84.184 วันที่: 18 ธันวาคม 2548 เวลา:10:28:37 น.  

 


เห็นภาพในบล็อกของคุณแล้วสบายใจ ไร้กังวล ขอบคุณสำหรับแนวคิดดีๆ และภาพที่ประทับใจครับ


โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 16 มีนาคม 2549 เวลา:14:18:24 น.  

 
ขออนุญาติ add ชื่อนะครับ
ชื่นชอบ บทความ และความคิดเห็นมากครับผม


โดย: ใจพรานธรรม วันที่: 31 ธันวาคม 2552 เวลา:13:07:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pechkaeo
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]










Friends' blogs
[Add Pechkaeo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.