Group Blog
 
All Blogs
 

คติชีวิต

อะไรคือแก่นสารของชีวิต

ในชีวิตของคนเรานั้นไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร นอกจากความดี เมื่อความแก่ ความเจ็บและความตาย รวมทั้งความโศกเศร้าเสียใจพิไรรำพันต่างๆ ห้อมล้อมชีวิตอยู่ เสมือนภูเขาใหญ่ศิลาล้วนกลิ้งบดมาทั้ง ๔ ทิศ มนุษย์ควรจะทำอะไรยิ่งกว่ากุศลจริยา สมจริยา

ชีวิตมนุษย์น้อยเกินไป ไม่ควรประมาท พอถึงวัย ๖๐ ก็ใกล้ตายเต็มที และเป็นไปได้เสมอที่จะตายก่อนนั้น มีอะไรเล่าเป็นทุน สำหรับโลกหน้านอกจากบุญกุศลอันตนได้ทำเอง ในเมื่อมีเรี่ยวแรงกำลังอยู่ สัตว์ผู้เกิดมาจึงควรรีบเร่งขวนขวายทำบุญกุศลไว้ให้มาก ชีวิตจริงๆของคนคือชีวิตในโลกหน้า เสมือนเรือนอยู่ประจำของเรา ส่วนชีวิตในโลกนี้เป็นเสมือนศาลาพักในระหว่างทางเท่านั้น..



สุขแท้พึงมีในความสงบ

ความสุขที่หวังว่าจะได้จากผู้อื่นนั้น เป็นความทรมานอย่างหนึ่ง เพราะผู้อื่นที่จะสนองความสุขแก่เรานั้น เขาย่อมพิจารณาเหมือนกันว่า เป็นความสุขความพอใจของเขาด้วยหรือไม่ เขายังต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขทางสังคมอีกด้วย เกียรติของเขา อนาคตของเขา ย่อมสำคัญกว่าความสุขของเรา
ตัวเราเองเท่านั้นที่มองเห็นความสุขของเราสำคัญ คนอื่นหาคิดอย่างเราไม่ การหวังความสุขจากผู้อื่นจึงเป็นการทรมานอย่างหนึ่ง
ทางที่ดีคือเลิกหวังเสียดีกว่า พยายามแสวงหาความสุขจากความสงบใจ ซึ่งหาได้ง่าย ประณีตมั่นคง และปลอดภัยกว่า

ขอให้ผู้มุ่งหวังความสุขที่แท้จริงพึงแสวงหาความสุขจากความสงบใจเถิด จะไม่ผิดหวัง ถ้าจะผิดหวังก็ตรงที่สงบใจไม่ได้สักที คอยจะฟุ้งซ่านอยากได้ความสุขจากผู้อื่นอยู่ร่ำไป...



พวงมาลัยแห่งชีวิต

กรรมเป็นพวงมาลัยแห่งชีวิต ย่อมหันเหวิถีชีวิตไปตามอำนาจแห่งการกระทำของบุคคล เหมือนเรือเหหัวไปตามความหมุนของพวงมาลัย ซึ่งมีนายเรืออยู่เบื้องหลัง ก็คืออะไรเล่าคือนายแห่งนาวาชีวิต
ธรรมและอธรรมนั่นเองเป็นนายแห่งนาวาชีวิต เมื่อใดอธรรมเข้ามาจับพวงมาลัย มันย่อมบิดผันหมุนพวงมาลัยไปสู่ทิศทางที่ระดะไปด้วยอันตราย นำชีวิตไปสู่ความล่มจม แตกดับ
เมื่อใดธรรมเข้ามาคุม พวงมาลัยชีวิตนี้ก็จะถูกหมุนไปสู่ทิศทางที่ปลอดภัย ธรรมและอธรรม จึงมีผลไม่เสมอกัน อธรรมนำไปสู่ความลำบาก แต่ธรรมนำไปสู่ความสงบสุข
อธรรมเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "มาร" เพราะคอยล้างผลาญบุคคลให้ย่อยยับ....



อยู่อย่างเข้มแข็ง

ไฟนั้นทำลายไม้และสิ่งอื่นๆเป็นอันมาก แต่ทำให้เหล็กแข็งขึ้น เหล็กที่ผ่านไฟแล้วเป็นเหล็กกล้าฉันใด ความทุกข์ยากลำบากได้ทำลายคนธรรมดาให้สิ้นหวัง เสียคนไปมากแล้ว
แต่สำหรับบุรุษเหล็กคือคนเข้มแข็ง ความทุกข์ยากลำบากทำให้เขาเข้มแข็งขึ้นฉันนั้น..



กายวาจาที่ฝึกดีแล้ว

กายวาจาที่ฝึกดีแล้ว เป็นเครื่องเพิ่มพูนส่งเสริมบุคลิกลักษณะของผู้นั้นให้เด่น เป็นเครื่องเชิดชูให้ดูน่าเกรงขาม น่าเคารพนับถือ น่ากราบไหว้บูชา คนเราจะดีเองไม่ได้ ต้องฝึกฝนอบรม ต้องฝึกหัด เมื่อได้ที่แล้วย่อมมีผลคุ้มไปทั้งชีวิต และยังติดเป็นอุปนิสัยและวาสนาในภพชาติต่อๆไปอีกด้วย
ต้องไม่ลืมว่า คนอื่นเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือเท่านั้น คนสำคัญในการนี้คือตัวเราเอง ถ้าตัวเราเองไม่เอาเรื่องเสียแล้ว แม้ครูฝึกชั้นบรมครูก็ไม่อาจฝึกเราได้...



กำจัดกิเลสได้ก็กำจัดทุกข์ได้

ความอยากในใจของเรานั่นเอง ทำให้เราเป็นทุกข์ เป็นกังวล ขอให้หันมาสำรวจกิเลสในใจของเราเองโดยความเป็นธรรมเถิด จะพบแหล่งอันแท้จริงของมัน

ถ้าจะกำจัด โดยกำจัดความอยากในใจของเราเสีย ทุกอย่างก็เรียบร้อย
ตัวอย่างเช่น เราอยากได้อะไรสักอย่างหนึ่ง ไม่ได้ตามที่ต้องการเราก็เป็นทุกข์ บางอย่างที่ได้ยากและเกือบเป็นไปไม่ได้ แต่เราก็ยังอยาก เมื่อเป็นเช่นนี้ ความกระวนกระวายใจก็วนเวียนอยู่ไม่สิ้นสุด

ทางที่ง่ายกว่า สบายกว่าก็คือ กำจัดความอยากนั้นเสีย ความทุกข์ ความกระวนกระวายใจก็สิ้นสุดลง
แต่ความอยาก ความต้องการ เป็นสิ่งละได้ยากในโลก มนุษย์เกือบทั้งโลกจึงตกเป็นทาสของมัน มันมีรสอร่อยเพียงเล็กน้อยฉาบทาเอาไว้เพื่อให้คนหลงผิด เมื่อติดและแนบแน่นอยู่ในใจเสียแล้ว การละ การกำจัดนั้น มันยากแสนยาก ต้องใช้กำลังใจอย่างใหญ่หลวง และอุบายวิธีอันแยบคายทำต่อเนื่องกันไปนานๆ ถึงกระนั้นบางคราวก็พ่ายแพ้อีก ใจตกลงมาอีก เป็นทาสของความอยาก ความต้องการอีกต่อไป หาความสุข ความปลอดโปร่งไม่ได้ มีแต่ความห่วงใย อาลัยอาวรณ์ กังวลหวังอยู่นั่นเอง ว่ายวนอยู่ในทะเลแห่งความอยาก สนองความอยาก ได้สมอยากบ้าง แล้วอยากใหม่ สนองใหม่ ทุกข์ใหม่ ว่ายวนอยู่ในทะเลแห่งความทุกข์นั่นเอง
ถึงกระนั้นแล้ว เขาก็ไม่สามารถหยุดความอยากได้ คงปล่อยให้อยาก และหาทางสนองต่อไป
ความทุกข์อาจบรรเทาไปได้บ้างเมื่อสนองความอยากได้ชั่วครู่ชั่วยาม แต่แล้วก็อยากใหม่และทุกข์ใหม่ อยู่อย่างนี้ตลอดชีวิต ช่างน่าระอาเสียจริงๆ

มนุษย์เราไม่มีอะไรที่จะจัดการกับชีวิตได้ดีกว่านี้อีกแล้วหรือ ทำไมเราไม่ตั้งใจให้แน่วแน่ที่จะหยุดความอยาก หรือเอาชนะความอยากเสียให้ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องทุกข์ซ้ำซาก วนเวียนไม่มีที่สิ้นสุดเสียที...





 

Create Date : 17 ธันวาคม 2548    
Last Update : 14 มีนาคม 2549 16:06:25 น.
Counter : 467 Pageviews.  

ธรรมดาชีวิต


คำสอนในพระพุทธศาสนาเริ่มต้นจากการมองชีวิตว่าเป็นทุกข์ ปรากฏการณ์จึงเป็นว่า คนที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองอยู่กับทุกข์ หรือมองไม่เห็นทุกข์ จึงไม่มีความสนใจที่จะศึกษาพระพุทธศาสนา เพราะคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตัวเอง หรือคิดว่าจะทำให้ชีวิตไร้สีสัน สลดหดหู่ สู้หาความเพลิดเพลินให้กับชีวิตไปวันๆไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วถ้าเรามีตาที่ดูออก จะพบว่าทุกข์ได้ติดตามชีวิตอยู่เหมือนเงาตามตัว ทั้งทุกข์ที่เนื่องด้วยกาย ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน คือการที่เราต้องคอยขวนขวายหาทางบำบัดอาการหิว กระหาย ร้อนหนาว เมื่อบำบัดได้คราวหนึ่งทุกขเวทนาก็เบาบางลง เราจะรู้สึกว่าเป็นสุขอยู่ไม่นาน ทุกขเวทนาอื่นก็เกิดตามมาอีก เป็นเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา... ต่อมาคือทุกข์ที่เนื่องด้วยจิต ได้แก่ ความไม่สมหวัง ความต้องพบเจอกับสิ่งที่ไม่ชอบ หรือต้องพลัดพรากจากสิ่งที่ชอบ ความคับแค้นใจ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความทุกข์ที่ละเอียดลึกซึ้งไปกว่านั้น คือที่พระพุทธองค์ให้เราพิจารณาว่า แม้ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ และความตายก็เป็นทุกข์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกชีวิตต้องประสบพบเจออย่างแน่นอน ต่างกันเพียงแต่ความเข้มจาง เร็วหรือช้า และด้วยท่าทีที่แตกต่างกันอย่างไรเท่านั้น

หากเราไม่รีบเบือนหน้าจากจุดเริ่มต้นนี้ แล้วสนใจศึกษาต่อไปจะพบว่า จุดหมายปลายทางที่พระพุทธศาสนาจะนำพาเราไป คือ ความพ้นทุกข์ แม้แต่ในขณะที่เรากำลังประสบกับความทุกข์ เราก็สามารถอยู่กับทุกข์ได้โดยไม่ทุกข์ หรือมีทุกข์น้อยที่สุด ก็โดยการทำความเข้าใจ และปฏิบัติตามหลักธรรมในเรื่องอริยสัจ ๔ ซึ่งเป็นความจริงที่ประเสริฐ เป็นสากล ทันสมัยตลอดกาล และสามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาของชีวิตได้ทุกแง่ทุกมุมอย่างน่าอัศจรรย์

มีคนเป็นอันมากพึ่งตนเองได้ทางกาย เขาไม่อดไม่อยาก ปากท้องของเขาชุ่มและเต็มอยู่ด้วยข้าวปลาอาหาร ร่างกายห่อหุ้มด้วยพัสตราภรณ์อันพราวพรรณ เลิศด้วยเนื้อและสี สูงส่งในราคา เขามีคฤหาสน์โอ่อ่าปานทิพย์วิมาน ได้ฟังเสียงสรรเสริญเยินยอ ได้รับการต้อนรับพินอบพิเทาจากวงสังคม นี่คือลักษณะภายนอกที่ใครๆพอมองออกได้ แต่ลึกลงไป ส่วนที่ใครๆมองไม่เห็นคือใจของเขา ใครเล่าจะบอกได้ นอกจากตัวเขาเอง เขารู้สึกว้าเหว่อย่างล้ำลึกอยู่ในดวงกมล มีความคลางแคลงสงสัยมิเว้นวายว่า "เราคือใคร? อะไรคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ? ทำไมอะไรๆ ช่างจืดชืดไปเสียสิ้น?" เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ชีวิตต้องการแต่ยังขาดอยู่ เขาขาดอาหารใจนั่นเอง ที่พึ่งคือธรรมนั่นแหละเป็นอาหารใจที่ดีที่สุด ธรรมนั่นแหละเป็นทั้งอาหารที่อยู่อาศัย เครื่องประดับ และยาบำบัดโรคของใจ คนส่วนมากพึ่งตนเองไม่ได้ทางใจ ก็เพราะขาดธรรมเป็นที่พึ่งพำนัก


หลักคำสอนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตมนุษย์ เป็นเข็มทิศชีนำให้มนุษย์ดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนอันตนเชื่อมั่นอยู่ มนุษย์เชื่อมั่นคำสอนอย่างใดหรือหลักปรัชญาอันใด นั่นแหละคือวิถีชีวิตของเขา ปราศจากระเบียบวินัยและคำสอนเสียแล้ว มนุษย์ก็จะมีชีวิตอยู่อย่างมืดบอดเหมือนสัตว์โลกทั้งหลายอื่น เหมือนควายบอดเที่ยวไปในป่า ย่อมได้รับความลำบากด้วยเรียวหนามและหลุมบ่อ

มนุษย์ที่ยังไม่ได้รับการฝึก เป็นสัตว์ดุร้ายที่สุด มีเครื่องมือสนองความดุร้ายอย่างฉกาจฉกรรจ์ มนุษย์ที่ได้รับการฝึกแล้ว เป็นผู้อ่อนโยน เมตตาปราณีที่สุด และมีเครื่องมือสนองความเมตตาปราณีอย่างดีเยี่ยม
ธรรมนั่นแหละเป็นเครื่องฝึก ธรรมนั่นแหละช่วยถ่ายถอนความดุร้ายให้หายไป ธรรมอีกนั่นแหละทำให้มนุษย์วิเศษกว่าสัตว์ดิรัจฉานและในหมู่มนุษย์ด้วยกัน ผู้ฝึกตนแล้วด้วยธรรม เป็นผู้ประเสริฐที่สุด

มนุษย์ต้องมีศาสนา เพราะศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจเป็นที่พึ่งทางใจ คนที่พึ่งตนเองได้ทางกายนั้นหาได้ไม่ยาก แต่คนที่พึ่งตนเองได้ทางใจนั้นต้องมีธรรมเป็นที่พึ่ง แม้องค์พระพุทธเจ้าเองผู้ทรงเป็นที่พึ่งของเราก็ทรงถือเอาธรรมเป็นที่พึ่งของพระองค์ ธรรมจึงเป็นใหญ่กว่าอะไรทั้งหมดในโลกนี้ ผู้ดี ผู้เจริญจึงนิยมยกย่องธรรม ให้เกียรติธรรม รักษาธรรม ธรรมนั่นเองที่เขาประพฤติดีแล้ว ย่อมหวนกลับมายกย่อง ให้เกียรติ รักษา และคุ้มครองเขา ผู้อันธรรมคุ้มครองแล้วย่อมอยู่เป็นสุขสงบร่มเย็น ไม่ต้องระหกระเหินอย่างไร้จุดหมายเช่นสัตว์ในทะเลทราย...




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2548    
Last Update : 18 มีนาคม 2549 0:51:43 น.
Counter : 248 Pageviews.  


Pechkaeo
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]










Friends' blogs
[Add Pechkaeo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.