โชคไม่ค่อยดี วันที่ผมไป ทัวร์ลงไม่ขาดสาย ผู้คนเยอะมาก จนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในการถ่ายรูปที่ต้องติดบุคคลอื่นเข้ามาในภาพ แต่ไม่เป็นอุปสรรคเท่าไหร่ มีจังหว่ะนิดหน่อยก็เอาพอได้เก็บภาพเป็นที่ระลึก
ทัวร์ลงเยอะมาก ไม่ขาดสาย ใครๆก็อยากมาดูมาชมศิลปะของวัดร่องเสือเต้น
สำหรับผู้ที่รังสรรค์โบสถ์แห่งนี้ เป็นศิลปินพื้นบ้าน ชื่อว่า " นายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก " ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัตน์ และได้ศึกษาศิลปะและเป็นลูกมือ ในการสร้างวัดร่องขุ่น
เก็บภาพภายนอกกันก่อน อากาศค่อนข้างร้อนเหมือนกันวันนี้ แดดจัด
ฟันพญานาค มีลักษณะเป็นเขี้ยวโง้งสวยงาม ว่ากันว่า แนวคิดดัดแปลงมาจากศิลปะของ อาจารย์ถวัลย์ ดรรชนี ศิลปินบ้านดำ ผู้มีชื่อเสียง
เมื่อก้าวเข้าสู่ประตูโบสถ์ ฉากแรกสวยงามมาก ผมขอแนะนำหากมาเชียงรายต้องมาวัดนี้ให้ได้
ภายในโบสถ์สวยงามตระการตา
ประตูโบสถ์ เมื่อมองจากภาพในออกข้างนอก
องค์พระปราธาน ชื่อว่า พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ" พระประธานสิงห์หนึ่งสีขาวมุก ขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร โดยมีพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์นี้ รวมทั้งบริเวณพระเศียรก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
อันนี้ Copy ข้อความเขามานะครับ เห็นว่าน่าสนใจ
สำหรับท่านที่เป็นผู้หญิงที่มีประสงค์จะเข้ามาชมโบสถ์แห่งนี้ หรือ ทุกแห่งในประเทศไทย ควรแต่งตัวให้มิดชิด สุภาพเรียบร้อย ซึ่งเป็นการเคารพสถานที่นั้นๆด้วยครับ
เพดานโบสถ์
วงเวียนด้านหน้า ก่อนถึงโบสถ์
ซุ้มประตูเข้าวัด
ขอจบรีวิว วัดร่องเสือเต้น ไว้เพียงแค่นี้นะครับ โดยรวมแล้ว วัดมีขนาดพื้นที่ค่อนข้างเล็ก จะหาที่จอดรถยากกันหน่อย แต่ศิลปะที่ได้ชมนั้นตระการตามาก อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสจริงๆ ออกจากที่นี่ผมไปต่อที่วัดห้วยปลากั้ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก อยากไปวัดร่องขุ่นเหมือนกันแต่ไม่มีเวลา เพราะพวกเราต้องเดินทางกันอีกไกล