28 ธ.ค. 2555

สวัสดีจ้า…ไม่ได้ upblog เสียนาน ในปี 2555 นึกว่าจะไม่ได้เที่ยวเหมือนกับเพื่อน bloggang ซะแล้ว แต่แล้วปลายปีก็มีโอกาสได้ออกไปจนได้ ครั้งนี้เราไปกัน 4 วัน นัดเพื่อนไว้ที่่เขาค้อ ความจริงผมเคยไปเที่ยวระแวกนั้นมาครั้งนึงแล้วแต่นั่นมันปี 2540   มาครั้งนี้กะว่าจะมาย้อนรอยกันดูอีกสักครั้ง แต่ว่ามันไม่เป็นอย่างนั้น รถคู่ชีพเจ้ากรรมมันดันมาเสีย เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง ทำให้การเที่ยวของผมหมดสนุก แต่เราพากันเที่ยวได้นิดหน่อย มาเริ่มเดินทางกันครับ

ตื่นแต่เช้ากะว่าจะขับรถแบบสบายๆไม่ต้องเร่ง ที่ไหนได้กว่าจะครบคนเล่นเอาสายไปหน่อย ขับมาเรื่อยๆแบบเร่งๆ มาถึงวิเชียรบุรี 

ดินแดนไก่ย่าง แวะพักรองท้องกันก่อนช่วง 4 โมงเช้า ที่ร้านดัง ไก่ย่างบัวตอง วิเชียรบุรี

ผู้คนเยอะมาก เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่รออาหารกันไม่นานเท่าไหร่  แต่ผมว่าไก่วิเชียรมันจืดๆไปหน่อย หรือเป็นเพราะว่าผมติดรสชาติไก่ย่างทางโคราชบ้านเอ็งซะมากกว่าก็ไม่รู้ พวกเรารีบกิน รีบไป เพราะเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งเขาไปรออยู่แล้วที่ เขาค้อ

จุดนัดของผมกับเพื่อนจุดนี้เลย กว่าจะมาถึงก็เกือบบ่าย 2 ร้านกาแฟที่หลายคนต้องแวะ Story Cup แต่ผมไม่ได้เดินเข้าไปนะครับ นัดเจอกันที่ลานจอดรถ เพื่อนเขามารอกันนานแล้ว ก็เลยได้ถ่ายหน้าร้านนิดหน่อย กลุ่มเพื่อนเที่ยวกันจนเซ็งแล้ว กว่าเราจะมาถึง พักกันนิดหน่อย แล้วเดินทางไปกันต่อที่ วัดผาซ่อนแก้ว วัดชื่อดังในละแวกนี้

เริ่มเข้าเขตวัดจะเจอสระน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก ที่เห็นทรงเจดีย์สีทองนั้นแหล่ะครับ ที่เราต้องไป สองสาวขอเก็บฉากนี้ซักหน่อย

เลยจากสระน้ำมาก็จะพบกับบันไดขั้นแรก แค่นี้ก็แปลกตาแล้ว ไม่อนุญาติให้ใส่รองเท้าเข้าไปนะครับ ผู้หญิงห้ามนุ่งสั้น หากไม่ได้เตรียมตัวมาเขาก็จะมีกางเกงขายาวไว้คอยบริการ

คุณจุ๋ม กับ คุณจ๊อยส์ เพื่อนร่วมเดินทางทริปนี้ ช่างภาพส่วนใหญ่ในทริปนี้เป็นผลงานของ focus ครับ เฺธอคงชอบการถ่ายรูปมาก

วัดนี้ตกแต่งด้วยกระเบื้องสี และถ้วยชาม เบญจรงค์ สวยงาม   มีมุมให้ท่านที่ชอบถ่ายรูปเยอะมาก 

ในภาพแอบถ่ายเพื่อนร่วมทริปโพสท่ากันใหญ่

ออกมาเป็นแบบนี้ กว่าจะได้เดินขึ้นไปข้างบนได้ใช้เวลากันพอสมควร

ยังไปไม่ถึงไหนกันเลย แวะกันตลอด

ขึ้นมาด้านบนแล้ว ยิ่งสวยใหญ่ กระไดนี้ยังเดินขื้นอาคารชั้นบนได้อีก

ลวดลายที่พื้นลานด้านนอก น่านั่งที่สุด พื้นเย็นเพราะเหล่ากระเบื้องสี

ยังมีต่อนะครับ part 2