การนำศพออกจากบ้าน
๘.การนำศพออกจากบ้าน เมื่อศพได้ทำการบรรจุโลงแล้ว จะยกลงจากเรือนและนำออกจากบ้านไปยังวัด มีปฏิบัติการดังนี้ คือ (ก) ไม่หามศพลอดขื่อ คือแต่ก่อนมาเมื่อผู้ป่วยได้นอนตายอยู่ในห้องใด เมื่ออาบน้ำศพและบรรจุโลงตลอดจนการที่จะตั้งศพไว้บำเพ็ญการกุศลก็ใช้ห้องนั้นตลอดไป ไม่ย้ายศพจากห้องที่ตายไปไว้ห้องอื่นเหมือนอย่างที่ทำกันในปัจจุบันนี้ และเมื่อยกออกจากห้องไปก็ไม่ยอมหามลอดขื่อไปออกประตูอีกห้องหนึ่งตามที่ได้เคยเห็นมา บางบ้านที่เรือนเป็นฝากระดานลูกปะกนถึงกับต้องเปิดฝาออกกระแบะหนึ่ง เพื่อยกศพออกทางนั้นมาหาระเบียงหามลงนอกชานแล้วลงบันไดเรือนไป นอกจากนี้ยังได้เห็นชาวสวน ซึ่งอยู่ในเรือนฟากไม้หมากไม่แข็งแรงคงทนเท่าเรือนเราในปัจจุบันนี้ และขื่อก็เตี้ย เกรงว่าเมื่อหามศพลอดมาศรีษะผู้ยกหีบศพอาจจะไปโดนขื่อเข้าเขาจึงห้าม
(ข) การชักฟากสามซี่ตีหม้อน้ำสามใบ ข้อนี้เป็นปริศนาธรรมฟากสามซี่ได้แก่ชาติ ความเกิด อาศัยภพสามคือ กามภพ ๑ รูปภพ ๑ อรูปภพ ๑ หม้อน้ำสามใบนั้นได้แก่วัยทั้งสาม คือ ประถมวัย ๑ มัชฉิมวัย ๑ ปัจฉิมวัย ๑ เหตุด้วยสัตว์ที่เกิดมาจะต้องแตกทำลายไปในวัยทั้งสาม จะยืนยงคงอยู่ต่อไปหาได้ไม่ แต่ปัญหาธรรมข้อนี้บุคคลเราแก้ไม่ได้ไม่รู้เรื่อง แต่ก็คงรักษาประเพณีอันนั้นมาอยู่จนทุกวันนี้
(ค) ประตูป่า คือเอาใบไม้มาปักไว้บนประตูที่จะนำศพออก ผูกปลายจดกัน การที่ทำเช่นนี้จะให้ผู้ตายรู้ตัวว่าเราจะได้นำศพไปป่าช้าแล้ว อีกอย่างหนึ่งเพื่อจะป้องกันไม่ให้ผีกลับมาเรือนได้อีก เพราะเมื่อผีออกไปพ้นประตูป่าแล้ว เขาก็ถอนกิ่งไม้นั้นทิ้งเสีย เมื่อผีกลับมาหาที่สังเกตุไม่ได้ก็จะหลงทางไปที่อื่น อีกนัยหนึ่งกล่าวเป็นปัญหาธรรมว่า ประตูป่าช้าใครไปแล้วไม่ได้กลับมาเห็นญาติมิตรอีกต่อไป ควรเป็นที่ปลงธรรมสังเวชยิ่งนัก
(ง) ซัดข้าวสาร เพื่อจะให้ผีออกจากบ้านไปสู่ป่าช้า เมื่อเผาแล้วจะได้ไปผุดไปเกิด ไม่มารบกวนคนในบ้านเรือนต่อไป
(จ) ไม้ขีดทางที่ไป เห็นจะทำเป็นเครื่องหมายให้คนที่จะตามไปทีหลังได้สังเกตุและตามไปหาที่ไว้ศพถูก
(ฉ) ห้ามไม่ให้หามข้ามนาข้ามสวน การหเามข้อนี้ไม่เกี่ยวกับลัทธิหรือศาสนาเลย แต่การที่ห้ามก็โดยเจ้าของนาหรือสวนรังเกียจในการที่เราจะนำศพผ่าเข้าไปเขตที่ดินของเขา หรืออีกอย่างหนึ่งเกรงว่าจะไปเหยียบต้นข้าวและต้นไม้ของเขาตาย ครั้นนานเข้าผู้ที่ไม่ทราบความหมายก็เลยถือเป็นประเพณีกันต่อๆมา และเห็นว่าศพนั้นเป็นอัปมงคล เมื่อผ่านเข้าไปในที่ดินของตน ที่ดินนั้นจะพลอยเป็นอัปมงคลต่อไปด้วย ในมหากาลเถรสูตรว่า ล้างฟากตีหม้อหมางขีดหนทางนั้น เพื่อจะให้เห็นว่า เราท่านทั้งปวงไม่ควรเวียนตายเวียนเกิดอยู่ในภพทั้งสาม ให้อุตสาหะบำเพ็ญทานรักษาศีลให้บริสุทธิ์ผ่องใสประดุจดังฟากที่ล้างสะอาดแล้วก็จะพ้นจากภพทั้งสามเหมือนตีหม้อหมางและขีดหนทางเสียฉะนั้น
Create Date : 16 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 16 สิงหาคม 2553 14:55:57 น. |
|
4 comments
|
Counter : 2700 Pageviews. |
|
|
|
โดย: NSA (tewtor ) วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:12:12:27 น. |
|
|
|
| |
|
|
เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นนะค่ะ
สบายดีไหมค่ะ..
ไม่ได้แวะมาทักทายนานแล้ว..