BLOG UPDATE HELLO TALKING MY WEDDING (D.I.Y) BEAUTY ZONE SHOPPING FASHION COOKING RESTAURANG TOUR THAILAND TRAVELLING SALE

จัดธีมงานแต่งงานเป็นของตัวเองได้ไม่ยาก

งานพิธีหมั้น-แต่งแบบจีนๆๆก็เสร็จเรียบร้อย เป็นการบอกกล่าวและแสดงความยินดีสำหรับคนในครอบครัว เพื่อนสนิท

ต่อจากนี้ก็จะเป็นวันงานกินเลี้ยง ซึ่งบางบ้านก็จัดแค่คนในครอบครัว แต่บางบ้านมีเพื่อนทางการค้าธุรกิจก็ต้องจัดโต๊ะมากหน่อย

ที นี้บางงานก็จ้างทีมจัดงานให้ แต่เราก็สามารถจัดธีมงานเป็นของตัวเองได้ไม่ยากคะ ก่อนอื่นเราต้องคิดคอนเซปให้เข้ากัน ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับบ่าวสาว แล้วเอาแนวคิดนั้นมาจัดงาน ก็จะได้งานเป็นสไตล์ หรือ ธีมงาน ตามที่ต้องการ
เช่น บ่าวสสาวชอบเที่ยวทะเล อาจเอาคอนเซปเป็นโทนฟ้า หาอะไรเดียวกับทะเลๆ ของทะเล เปลือยหอยมาเป็นของประดับ

หรือบ่าวสาวอาจชอบเครื้นเครงเฮฮาแนวๆๆ ก็จัดแบบย้อนยุค แบบแนวๆๆก็เก๋ไก๋ดี

หรือ บ่าวสาวรักแบบโหดๆๆ ไม่หวานก็จัดธีมเขียวสีเขียวทหาร แล้วก็มีการจัดต้นไม้แบบป่าๆๆ มีว่าระเบิดอัดเสียง คนเดินไปก็เหมือนในสนามรบ แต่จริงๆๆแล้วเป็นสนามรัก เป็นต้น

ขอเล่าคอนเซปงานของหมีให้ฟังก่อนนะคะ ว่าเน้นธีมสีแดง เพราะว่าลูกคนจีน เกี่ยวกันมั้ย ขอบอกว่ามีส่วน เพราะคนจีนสีแดงคือสีนำโชค

แล้ว ก็อยากจัดเหมือนมาดูหนังรัก3เรื่อง ก็ทำโปสการ์ดให้แขกเขียนคำอวยพรใส่ไปในซองตอนแจกการ์ดให้เขียนส่งกลับหน้า งาน เพราะบางคนอาจมีอะไรเขียนเยอะ แต่หน้างานไม่มีเวลาเพราะเขียนสมุดก็มีคนต่อคิวให้ซอง ก็จะเขียนได้นิดหน่อย อันนี้จัดให้เต็มที่ แล้วก็มีที่โต๊ะหน้างานอีก บางคนทีี่มาคู่ก็อยากเขียนบ้าง  หรือเผื่อมีใครอยากได้กลับไปสะสมเป็นคอเล็คชั่น55+



อันนี้เป็นหลังการ์ดคะ วิธีทำการ์ดก็ไม่ยาก

เราสามารถทำเองได้ที่บ้านโดยอาศัยโฟโต้ช๊อป หรือ อีลาส

แล้วให้ไปร้านล้างรูป ก็จะได้รูปด้านหน้า เสร็จแล้วเราก็ฉีดกาวสเปร

ติดกับกระดาษ รอให้แห้ง จากนั้นกรีดคัทเตอร์ออกมาเป็นอันๆๆ

แล้วก็เอามาปริ้นด้านหลัง (ก็จัดรูปแบบจากโฟโต้ช๊อป หรือ อีลาสเหมือนเดิม)

ก็จะได้เป็นโปสการ์ดออกมาคะ




รูปตอนตัดโสปการ์ดคะ

แล้วก็นำไว้วางในงานก็เป็นไอเดียเก๋ๆๆ อีก1



ตอนเข้าไปดูสถานที่ของโรงแรม มีืทางเดิน เราก็จะเอาตรงนี้ไว้จัดแสดงหนังของเรา แบ่งเป็น3ช่อง -  3เรื่อง

เรื่อง1 เป็นงิ้วเอาใจอาม่าอากงอาเจ็กอาซิ้มทั้งหลาย แล้วก็เอารูปขียนคำบรรยายใต้ภาพ ใ้ห้เป็นเรื่องราว

(เรื่องของเรื่องคือ บ้านหมีอยู่แถวเยาราชก็จะมีพวกโรงงิ้วมาแสดง
ก็เลยไปขอเค้าให้แต่งงิ้วถ่ายเก็บไว้เล่นๆๆ ที่นี้แฟนบอกกว่าอยากถ่ายบ้าง มันเจ๋งดี
ก็เลยถ่าย2คน ได้รูปมาใช้เป็น1คอนเซปในงานพอดีเลยคะ)

รูปเซ็ตงิ้วออกโรง เก็ต+หมี <------- กดที่ลิงค์ได้เลยคะ


แล้วก็เป็นธีมหนังชุดสัตว์หลาด ไปถ่ายที่สยาม หมีก็เขียนเล่าเรื่องใต้ภาพเหมือนเดิม
อันนี้หลายๆๆคนคงชอบ  เพราะแปลกดี

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า...กลับมาอีกครั้ง!!มนุษย์ต่างดาวบุกสยาม <------- กดที่ลิงค์ได้เลยคะ


 หนังเรื่องสุดท้ายเป็นหนังรักเรียวลิตี้ของจริงของเรา2คน เป็นรูปตั้งแต่เรา2ตอนเด็ก
รูปกับครอบครัว กับเื่พื่อนๆๆ และก็รูปตอนเรา2คนไปโน้นนี่


ภาพเซ็ตถ่ายคู่ที่สวนลุมและร้านอาหาร <------- กดที่ลิงค์ได้เลยคะ


ก็ได้เป็นอีก1ธีมคะ





 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2552 14:43:43 น.
Counter : 2119 Pageviews.  

พิธีวันหมั้นแบบจีน ตอนที่2

พอดีงานยุ่งๆๆเลยหายไปหลายวัน
แต่ไม่ผิดคำสัญญาวันนี้จะมารีวิวต่อเรื่อง พิธีวันหมั้นแบบจีน ตอนที่2 คะ
ตามมาดูกันนะ เผื่อเป็นไอเดียหรือ แนวทางให้สำหรับเพื่อนสาวจ้า



หลังจากอธิฐานลาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าที่ บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
ก็ร่ำลาญาติพี่น้อง ตอนก้าวเดินออกจากบ้านที่เราอยู่ตั้งแต่เกิดจนโต
มันเป็นความรู้สึกใจหายจริงๆๆคะ น้ำตาอยู่ๆๆก็ไหลซึมออกมา (เล่า่่แล้วยังน้ำตาจะไหลอยู่เลย)
ไปส่งตัวเจ้าสาวที่บ้านเจ้าบ่าวก็ต้องไปตามฤกษ์ยามที่ดูดวงไว้
ใครจะไปส่งก็ได้คะ บางบ้านฝ่ายชายก็จะมีการกั้นประตูกันอีก ( แต่ของหมีไม่มีคะ)
ปล.ตั้งแต่เราแต่งงานมา พี่ที่บ้านบอกว่าแม่เราร้องไหุ้ทุกวันเลย
ถึงแม้ว่าเราทะเลาะกับแม่บ่อย แต่ความเป็นแม่ลูกก็ยังไม่หมดรักไปเลยคะ



ตอนไปส่งตัวบ้านเจ้าบ่าว ให้ พี่ชาย หรือ น้องชาย ถือตะเกียงนั่งข้างหน้า
(ตะเกียงคือความสว่างนำทาง ให้เปิดทิ้งไว้ที่หัวเตียงจนกว่าจะดับ ถ้าไม่ดับ3วัน ค่อยปิด)
กับถาดสีแดงใส่โต้วเอี้ยตัว
(คือเอี้ยมแต่งงาน บนเอี๊ยมมีกระเป๋าให้ใส่ " โหงวเจ๊งจี้ " หรือเมล็ดธัญพืช 5 อย่าง ) 
เอี้ยมนี่ให้คล้องสร้อยเอาไว้คะ ถือเป็นเคล็ดลับที่จะได้ลูกชาย
ให้เก็บไว้จนมีลูกค่่อยเอาสร้อยมาใส่ให้ลูกเป็นการรับขวัญคะ
และมีพี่ชาย หรือ น้องชายช่วยถือกั๊บบ่วง (ตู้เซฟ) สีแดง
นั่งไปกับรถเจ้าสาวด้วยคะ อันนี้ฝ่ายเจ้าบ่าวต้องให้ซองค่าแรงแบบหนักๆๆเลยนะ ทั้ง2คนนี้
(อ๋อ คนขับรถมารับ ฝ่ายเจ้าสาวก็ต้องให้ซองค่าแรงหนักๆๆเหมือนกัน)
ก่อน รถออกก็ต้องมีพ่อ (หากไม่มีก็ให้พี่ชายคนโตของพ่อ หรือ รองลงมาตามลำดีับ)
ให้พรมน้ำอังฮวยเซียงเฉา (น้ำใส่ใบทับทิม)
แล้วบอกกล่าว อวยพรสิ่งดีๆๆให้กับเจ้าบ่าว-เจ้าสาว ก่อนที่รถออกไป
แล้วก็สาดน้ำไปที่รถค่ะเพื่อเป็นสิริมงคล
(ฝ่ายเจ้าสาว ต้องให้ซองค่าแรงด้วยนะ)



หลังจากนั้นก็ไหว้เจ้าที่เจ้าทางบอกกล่าวอีกเช่นเดียวกันคะ

ป.ต้องเอากล้วยจากบ้านฝ่ายหญิงกลับมาไว้ด้วยนะ
กล้วยนี้จะพันโบว์สีแดงให้สวยๆๆก้ได้คะ แล้วติดตัวอักษรซังฮี่ลงไป

ปล.ถ้าเสร็จงานแล้วต้นชุงเชาที่ไหว้เจ้าแล้ว เอาไปปลูกคะจะไำด้เจริญงอกงาม



จากนั้นก็เข้าห้องหอ ให้วางตะเกียงที่หัวเตียง กับ ตู้เซฟด้วย
ตอนเดินมาต้องเป็นคนนำหน้าขบวน
ต่อจากนั้น พ่อ-แม่ เจ้าบ่าวก็ให้คำอวยพร
และต้อนรับลูกสะใภ้คนใหม่
เป็นอันเสร็จพิธีหมั้น+แต่งแบบจีนค่ะ
แต่ของหมีฤกษ์หมั้นดึก
ฝ่ายชายยังไม่ได้ยกน้ำชาก็มายกตอนเช้าฤกษ์ตามสะดวกคะ
หลังจากนั้นก็มีการจัดโต๊ะกินเลี้ยงกันในครอบครัว








 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2554 10:52:01 น.
Counter : 4864 Pageviews.  

พิธีวันหมั้นแบบจีน ตอนที่1

มาวันหมั้นเลยแล้วกัน หมีจัดงานที่บ้านก็เลยจะเอา การแปลงโฉมบ้านมาให้ดูคะ
เริ่มจากการไปซื้อผ้าที่สำเพ็งมาติดเพื่อให้ดูสว่างเป็นฉากหลังไปด้วย
และซื้อดอกไม้ปลอม เพราะเราจะได้มีเวลาเตรียมงานไม่ยุ่งมาก (ใกล้วันจริงจะยุ่งหลายอย่าง เตรียมไว้ก่อน1อาทิตย์ก็ไม่เสียหาย)
ดอกไม้สดซื้อไว้ก็เหี่ยวจัดก่อนไม่ได้



รูปฉากวันหมั้นรูปแบบสำเร็จคะ
ให้เพื่อนน้องชายที่เรียนช่างมาติดไฟเพิ่มให้คะ
ที่เหลือ คนในบ้านก็ช่วยกันทำคะ
ติดฉาก พันผ้าตรงบันได้ หรูและดูดีขึ้นมาเยอะเลยคะ
ตัวหน้าสือก็ตัดโฟมเองคะ แล้วทาสีแดง ไม่มีรูปตอนทำขอโทษด้วยนะคะ


การจัดเตรียมของตกแต่งไม่ต้องไปซื้อใหม่ให้สิ้นเปลือง
ที่ประดับดอกไม้เราก็หาจาน ชาม แก้ว ถ้วย ถังบ้านเรานี้แหละคะ
แล้วคลุมด้วย หรือ ห่อ ด้วยกระดาษห่อของขวัญเงาๆๆก็ดูแจ่มขึ้นแล้วคะ
ง่ายประหยัดงบ โหล1ที่สำเพ็ง80บาทเอง

บ้านแม่เราขายกาแฟก็เอาถุงที่ชงกาแฟโบราณมาใส่ดอกไม้ประดับข้างผนังก็งามแล้วค่ะ
หรือ ตะแกรงย่างของ กระบุ้งสาระพัดของในครัวเรายังนำดอกไม้มาประดับวางโชว์ก็กิ๊บเก๋ไม่ซ้ำใคร (ขึ้นอยู่กับการจัดววางดอกไม้ด้วยนะ อันนี้ความสามารถเฉพาะบุคคล)

ส่วนค่าผ้าหมดไปประมาณ5000บาทคะ ค่าดอกไม้ปลอม2000บาท




ลืมบอกไปว่าคอนเซป อยากได้แบบจีนๆ
เน้นสีแดง และ ทอง เพราะจัดพิธีแบบจีนค่ะ
เอารูปบรรยากาศมาให้ชมคะ

ปล. พวกส้มเช้งฝ่ายชายใช้48ลูก แบ่งใส่ถาดละ24ผล อย่าลืมติดอักษรซังฮี่ หาซื้อตามร้านขายของแต่งานเยาวราชได้ (ส้มเช้งฝ่ายหญิงก็เตรียมเท่ากันคะ) ส้มหาซื้อได้ที่ตลาดน้อย (ต่างคนต่างเตรียม)

กล้วย1เครือ หาแบบสวยๆๆ แถวตลาดน้อย ตกราคาพันกว่าๆๆคะ (หญิงออกเงิน)

ขนม มงคล เตรียม4ห่อ ห่อละ4กิโลก็ได้คะ แล้วก็แบ่งกลับไปฝ่ายละ2ห่อ ทำพิธีเสร็จจะเอาไปไหว้เจ้าต่อ หรือ แจกญาติเพื่อเป็นการแสดงความนับถือหรือยินดี ก็ได้คะ(ฝ่ายชายเป็นคนออกเงิน)

ต้องมีต้นชุงเช้า จะได้เจริญงอกงาม เสร็จพิธีเอาไปปลูกคะ

อย่า ลืมเตรียมของขวัญให้กับญาติที่ยกน้ำชาด้วย อันนี้ฝ่ายหญิงเตรียมคะ อาจจะเป็น ผ้าเช็ดตัว ของหมี เป็นผ้าเช็ดตัว แป้งเด็กแคร์ สบู่ลักษ์ ไว้ในถุงสีแดงๆๆคะ



ตั้งแต่เช้าวันงานหมั้นเจ้าสาวต้ออาบน้ำด้วยต้นอังฮวยเซียงเฉา (ต้นทับทิม) ราดเป็นน้ำสุดท้ายก็ได้คะ ถ้าฤกษ์ทำผมก็ไปทำตามเวลา
ของหมีฤกษ์ขันหมากมาตอน5ทุ่มคะ
ก็จะมีการทานข้าวมื้อสุดท้ายก่อนเจ้าบ่าวมา
แม่เป็นคนทำ หรือ จะสั่งซื้อเอาก็ได้คะ
แต่ต้องเป็นอาหารที่มีความหมายดีๆตามที่กล่าวไว้ข้างต้นคะ
ไม่ต้องทำครบ10อย่างก็ได้คะ ทำ5อย่างแล้วแบ่งเป็น10จานก็ได้

เสร็จแล้วเราก็ไหว้เจ้าก่อนบอกกล่าวล่วงหน้าอันนี้เจ้าสาวจุดธูปไหว้ได้เลย
แต่ของเราแม่บอกว่าให้อาโกวจุดธูปบอกเจ้า และ บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
ส่วนเราก็ยกมืออธิฐานก็พอคะ



จากนั้นก็รอเวลาเจ้าบ่าวยกขบวนขันหมากมา ระหว่ารอเราก็ได้รูปมามากมาย55+

อ๋อ ลืมบอกไปว่าเจ้าสาวต้องถือพัด (ห้ามกางเล่น ห้ามชี้ไปทางคนอื่น เพราะดวงเจ้าสาวแรง จะทำให้คนนั้นดวงตกได้คะ) ถือผ้าเช็ดหน้า

ตาม ประเพณีจีน เค้าบอกกันว่า วันแต่งงานนั้นเจ้าสาวเป็นคนที่ใหญ่ที่สุด ดวงจะขึ้นมาก ใครดวงอ่อนรึชงก็ห้ามเข้าใกล้ ขนาดกษัตรย์ผู้เป็นใหญ่นั่งเกียวมา ขบวนเกี้ยวยังต้องหลบให้เกี้ยวเจ้าสาวเพราะ วันนั้นเป็นวันเดียวที่เจ้าสาวจะเป็นใหญ่ที่สุดคะ

อันนี้เป็นเกร็ด เล็กๆๆที่จะบอกเจ้าสาวไว้คะ ว่าเวลาเข้าบ้านผู้ชายตอนส่งตัว ก็อย่าเหยียบธรณีประตู บางบ้านไม่มีธรณี ก็ให้ก้าวข้ามไปเต็มๆๆเท้า อย่าก้าวแบบฝ่าเ้ท้าอยู่กลางขั้น เวลาขึ้นบันไดก็เช่นเดียวกันคะ

ก่อนเจ้าบ่าวมา แม่เจ้าสาวติดอังฮวยเซียงเฉา (ต้นทับทิม) ที่ผมคะ เพื่อเป็นสิริมงคล และก็จะปักปิ่นให้ด้วย ความหมายของการปักปิ่น

กล่าวไว้ข้างบนแล้ว แต่ยกมาอีกทีคะ

วัน งาน และในวันแต่งงาน เจ้าสาวจะต้องเสียบปิ่นปักผมกับกิ่งทับทิมไว้บนเรือนผม เพราะเชื่อว่ากิ่งทับทิมจะช่วยให้ คนรักใคร่เอ็นดู และหมายถึงสาวบริสุทธิ์   สำหรับเรื่องปิ่น เนื่องจากคนสมัยนี้คิดว่าที่ต้องเสียบปิ่น เพราะบนปลายปิ่นมีคำว่า "หยู่อี่" ซึ่งหมายความว่า  "สมหวัง" แต่แท้จริงแล้วเป็นเคล็ดลับของคนโบราณ เพราะเจ้าบ่าวบางรายไม่เคยมีประสบการณ์การเข้าหอมาก่อน เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงเป็นครั้งแรก บางรายจีงหลั่งไม่หยุด และบางทีอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ คนเฒ่าคนแก่จึง สอนเจ้าสาวไว้ว่า หากเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ให้เอาปิ่นปักหลังเจ้าบ่าวเพื่อเขาจะได้รู้สึกตัว




พอเจ้าบ่าวมาก็จะมีการหยอกเล่นระหว่าญาติๆๆฝ่ายเจ้าสาว
มีการกั้นประตูเงินประตูทอง หนุกหนานไปตามเรืืื่องตามราว
ส่วนเจ้าสาวนี่ต้องหลบในห้องอย่าเพิ่งออกมาเจอจนกว่าจะได้รับสัญญาณ
ตอนนั่งรอไปก็ได้ยินเสียงโห่..หิ้ววว มาแต่ไกล รู้สึกตึกตัก ตื่นเต้นมากๆๆ
แต่พอออกมาก็เริ่มผ่อนคลายการนั่งรอคนเดียวนี่มันลุ้นระทึกจริงๆๆ
เพราะทุกคนๆๆ รวมทั้งเพื่อนเจ้าสาว ก็ไปกั้นประตูรับซองกันทั้งนั้นเลย ชิ



เคล็ดลับ วันนั้นเจ้าสาวต้องยิ้มแบบไม่หุบ เพราะ กล้องนี่จะจับที่เราตลอดเวลา เดี๊ยวไม่สวยไม่รู้ด้วยนะ

จากนั้นเถ่าแก่ก็พูดเพื่อมาสู่ขอ และพ่อแม่เจ้าบ่าว ก็ยกสินสอดให้ กับพ่อแม่เจ้าสาว
(พ่อเราเสียเร็วไปหน่อย ไม่ทันได้เห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝา)



จากนั้นก็ทำพิธีสวมแหวนคะ เจ้าบ่าวสวมให้เจ้าสาวก่อน และเจ้าสาวก็ไหว้ขอบคุณ
หลังจากนั้นเจ้าสาวก็สวมให้เจ้าบ่าว และถ้าหากมีเครื่องประดับอื่นเช่นข้อมือ สร้อยคอก็ให้เจ้าบ่าวสวมให้คะ

แต่ เจ้าสาวห้ามสวมตุ้มหูออกจากบ้านเด็ดขาด เพราะ ธรรมเนียมจะถือว่าเป็นการโกยสมบัติจากบ้านตัวเองไป พ้องเสียงจากฮีเกา (คือเกาของออกไป แม่บอก) 




เสร็จจากพิธีสวมแหวนก็ยกน้ำชา
เริ่มที่คนอายุมากสุด อาม่า อากง
พ่อ แม่ และก็ญาติคนอื่นๆๆเรียงตามลำดับศักดิ์

ของหมียกของบ้านฝ่ายหญิงที่บ้านหมีเอง
เพราะฤกษ์ส่งตัวดึกมาก ตี1
ตอนเช้า9โมงต้องไปยกน้ำชาที่บ้านฝ่ายชายต่อ
เราอย่าลืมเตรียมของขวัญยกน้ำชาไปด้วยนะ (ผ้าเช็ดตัวอ่ะ)



เสร็จจากยกน้ำชาก็เป็นการป้อนอี้  (ขนมอี้ - บัวลอยแบบจีน)

แล้วก็ยกมืออธิฐานลาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าที่
บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วคะ









 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2552 19:29:44 น.
Counter : 12037 Pageviews.  

ประเพณีแบบจีน

10 ขั้นตอนหลักตามแบบพิธีจีน

รายละเอียดและ ข้อปฏิบัติในพิธีแต่งงานแบบจีนนั้นมีอยู่มาก ซึ่งที่หยิบยกมานี้เป็นพิธีแต่งงานแบบจีนแต้จิ๋วซึ่งเน้นหลักสำคัญของพิธี ที่ต้องปฏิบัติให้ครบ แต่อาจแตกต่างกันบ้างในบางรายละเอียด

1.เริ่มต้นด้วยการสู่ขอ ฝ่ายชายจัดหาซินแสผูกดวงกำหนด ฤกษ์ยาม ตั้งแต่ฤกษ์หมั้น ฤกษ์ตัดชุด ฤกษ์ปูเตียง ไปจนถึงฤกษ์รับตัวเจ้าสาว

2. ฝ่ายชายจัดเตรียมของหมั้น ได้แก่ เงินสินสอด ( ถ้าฝ่ายหญิงมาอากง อาม้าอยู่ ต้องจัดเงินอั่งเปาซองแดงให้ด้วย ) ทองหมั้นนิยมเป็นเครื่องประดับ 4 อย่างคือ สร้อย กำไล ต่างหู และแหวน ยังมีเครื่องประกอบเช่น ผลไม้ ขนม ชุดหมู และของเซ่นไหว้ 2 ชุด ผลไม้ที่นิยมใช้คือ ส้มเช้งเขียว กล้วยเขียวทั้งเครือ จะใช้จำนวนคู่และติดตัวหนังสือซังฮี้ ส่วนขนมหมั้นได้แก่ จันอับ ขนมเหนียวเคลือบเงา ขนมเปี๊ยะโรยงา ถั่วตัด ข้าวพองทึบ โก๋อ่อน เสริมด้วยซาลาเปา พกท้อ และคุกกี้

3.ฝ่ายหญิงจัดเตรียมของพิธีหมั้น ได้แก่ แหวนสำหรับมอบให้เจ้าบ่าว เอี๊ยมแดง ซึ่งมีกระเป๋าให้ใส่เมล็ดธัญพืช 5 อย่าง เหรียญทองลายมังกร ต้นซุงเฉ้า เสียบปิ่นยู่อี่ที่ปากกระเป๋าเอี๊ยม และมีสร้อยทองคล้องที่สายเอี๊ยม

4. เมื่อถึงฤกษ์หมั้น ฝ่ายชายยกขบวนมามอบสินสอด ทองหมั้นสวมแหวนและเครื่องประดับให้เจ้าสาว เสร็จพิธีคู่บ่าวสาวและแขกรับประทานขนมอี้ จากนั้นแบ่งขนมหมั้นให้กับญาติทั้งสองฝ่าย

5.เช้าวันแต่งงาน เจ้าสาวสวมชุดใหม่สวยงาม เสียบปิ่นยู่อี่ และประดับใบทับทิมที่ผม เมื่อใกล้ถึงฤกษ์ เจ้าสาวจะทานอาหารกับครอบครัว

6. เมื่อถึงเวลาเจ้าบ่าวมารับตัว บางบ้านอาจมีการกั้นประตูในช่วงนี้ จากนั้นทั้งคู่ไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ ไหว้เทพเจ้าเตาไฟ และไหว้บรรพบุรุษของเจ้าสาว (หากอาม่า อากง ยังมีชีวิตอยู่ ก็ไหว้ท่านก่อนยกน้ำชาให้พ่อแม่เจ้าสาว)

7.ก่อนออกจากบ้าน คู่บ่าวสาวต้องทานขนมอี้ จากนั้นพ่อส่งเจ้าสาวไปกับเจ้าบ่าว โดยมีญาติผู้ชายของเจ้าสาวถือตะเกียงเซฟ และกระเป๋าซึ่งบรรจุสมบัติส่วนตัวไปด้วย

8.เมื่อถึงบ้านเจ้าบ่าว ทั้งคู่ต้องไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ รวมทั้งไหว้เทพเจ้าเตาไฟ และไหว้บรรพบุรุษของเจ้าบ่าว จากนั้นยกน้ำชาให้พ่อแม่เจ้าบ่าวและญาติผู้ใหญ่ เสร็จ แล้วคู่บ่าวสาวกินขนมอี้

9.ฤกษ์เข้าหอ การปูเตียงต้องมีฤกษ์ เมื่อผู้ใหญ่ปูเสร็จต้องวางส้มไว้ที่มุมเตียง และอีก 4 ผลวางใส่จานที่มีตัวซังฮี้และใบทับทิมนำไปวางกลางเตียง

10.เช้าวัน รุ่งขึ้น เจ้าสาวต้องยกน้ำล้างหน้าให้พ่อแม่สามีเป็นเวลา 3 วัน จากนั้นน้องชายเจ้าสาวมารับทั้งคู่กลับไปกินข้าวที่บ้านฝ่ายหญิง ถือเป็นอันเสร็จพิธีแต่งงาน

ขอบคุณที่มาจาก WEBSITE WEDDING IN THAILAND


*******************************************************************************


ประเพณีแต่งงานแบบจีน
ในสมัย ก่อน การหมั้นและการแต่งนิยมให้เป็นคนละวันกัน บางคู่หมั้นแล้วอีก สามเดือนหกเดือนค่อยแต่ง บางบ้านหมั้นนานเป็นปีก็มี แต่สมัยนี้นิยมสะดวก ก็อาจหมั้นและแต่งในวันเดียวกันไปเลย เครื่องขันหมากสำหรับหมั้นและวันแต่งคนละวันกันจะมีธรรมเนียมว่าวันหมั้น ฝ่ายหญิงเป็นผู้กำหนดว่าจะให้มีอะไร และจำนวนมากน้อยเท่าใด อย่าง ไรก็ตาม ถ้าวันหมั้นและวันแต่งคนละวันกัน จะมีธรรมเนียมว่าวันหมั้นฝ่ายหญิงเป็นผู้รับภาระเรื่องการเลี้ยงหมั้น แล้ววันเลี้ยงวันแต่งงานเป็นหน้าที่ของฝ่ายชาย ซึ่งข้อกำหนดปรับเปลี่ยนได้ตามฐานะของทั้งสองฝ่าย
หาฤกษ์แต่งงาน และฤกษ์รับตัวเจ้าสาว ความ สำคัญของพิธีแต่งงานแบบจีน อยู่ที่ฤกษ์รับตัวเจ้าสาว ซึ่งทางพ่อแม่ของทั้งคู่จะนำดวงของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ไปให้ซินแสตรวจและหาฤกษ์ให้ เมื่อได้ฤกษ์แล้ว ก็จะต้องตระเตรียมงานพิธี
สิ่ง ที่ เจ้าบ่าว ต้องเตรียม ระหว่าง นี้เจ้าบ่าวจะต้องให้หญิงหรือชาย ซึ่งมีลูกดกและคู่ชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่ มาทำพิธีปูเตียงในห้องหอ โดยจะวางส้ม 4 ลูกไว้บนเตียงทั้ง 4 มุม เมื่อปูเสร็จแล้วก็ต้องทิ้งไว้อย่างนั้น ยังไม่ให้เจ้าบ่าวนอน การเตรียม "ขนมขันหมาก" ซึ่งเป็นขนมและผลไม้ต่างๆมามอบให้ครอบครัวเจ้าสาวก่อนวันงานจะต้องติด กระดาษแดง เป็นตัวอักษรภาษาจีน ที่แปลเป็นไทยว่า "ความสุขยกกำลังสอง"
1. เครื่องขันหมาก
1.1 สินสอดทองหมั้น ( เพ้งกิม )
เพ้ง คือ เงินสินสอด แล้วแต่ฝ่ายหญิงจะเรียกร้อง แต่ถ้าเจ้าสาวยังมีอากง อา ม่าหรือปู่ย่าอยู่ฝ่ายชายต้องจัดเงินอั้งเปาอีกก้อนหนึ่งให้เป็นพิเศษด้วย พร้อมชุดหมู 1 ชุดอีกต่างหาก  โดยพ่อแม่เจ้าสาวจะเป็นผู้รับขึ้นมา กิม คือ ทอง แล้วแต่ฝ่ายหญิงจะเรียกเช่นเดียวกัน  แต่ถ้าจะพิถีพิถันก็อาจขอเป็น " สี่เอี่ยกิม " แปลว่าทอง 4 อย่าง  เพราะเลข 4 เป็นเลขดีของคนจีน ทอง 4 อย่าง เช่น กำไลทอง สร้อยคอทองคำ ตุ้มหูทอง เข็มขัดทอง  
1.2 กล้วย ต้องยกมาทั้งเครือเขียว ๆ ถ้าได้จำนวนหวีเป็นเลขคู่ยิ่งดี แล้วนับจำนวนให้ลงเลขคู่ ถ้าได้ลูกแฝดด้วยก็จะดีมาก เวลาใช้ให้เอากระดาษแดงพันก้านเครือและติดตัวหนังสือ"ซังฮี่ "บนเครือกล้วย และ ทาสีแดงบนลูกกล้วยทุกใบ และฝ่ายชายจะต้องเป็นผู้เอากลับ เมื่อพิธีสู่ขอเสร็จแล้ว  กล้วยเป็นผลไม้ที่มี 2 นัยมงคล   - จำนวนผลที่มากมาย อวยพรให้มีลูกหลานสืบสกุลมาก ๆ   - ดึงสิ่งดี ๆ ให้มาเป็นของเรา  ซัง แปลว่า คู่  
ฮี่ แปลว่า ยินดี  
ซังฮี่ จึงแปลว่า ความยินดีของหญิงชายคู่หนึ่ง ซึ่งก็คือคู่บ่าวสาวนั่นเอง
1.3 อ้อย   อ้อย 1 คู่ ยกมาทั้งต้น เพื่ออวยพรให้ชีวิตคู่หวานชื่น แต่บางบ้านไม่เอา เพราะเป็นความหวานที่กิน ยากต้องทั้งปอกทั้งแทะ
1.4 ส้ม เป็นผลไม้มงคลให้โชคดี นิยมใช้ส้มเช้งเขียว ติดตัวหนังสือซังฮี่สีแดงทุกผล และต้องให้จำนวนเป็น เลขคู่แล้วแต่ฝ่ายหญิงกำหนด
1.5 ขนมหมั้น,ขนมแต่งงาน ฝ่ายหญิงจะเป็นผู้กำหนดทั้งชนิดและจำนวน การกำหนดชนิดคือ จะให้เป็นขนม 4 สี เรียกว่า " ซี้เส็กหม่วยเจี๊ยะ " หรือขนม 5 สี เรียกว่า " โหงวเส็กทึ้ง " ประกอบด้วย ขนมเหนียวเคลือบงา, ขนมเปี๊ยะโรยงา, ขนมถั่วตัด, ขนมข้าวพองทุบ และขนมโก๋อ่อน  
นอก จากนี้บางบ้านอาจขอให้มีน้ำตาลทราย, ซาลาเปาไส้หวาน, และคุกกี้กระป๋องด้วย โดยจำนวนของขนม แต่งงานและคุกกี้กระป๋อง ฝ่ายหญิงมักกำหนดจำนวน โดยนับจากจำนวนของญาติมิตรที่จะเชิญ  มีคำเรียกการให้ขนมแต่งงานแก่ญาติมิตรว่า " สั่งเปี้ย " สั่ง หรือ ซั้ง แปลว่า ให้    เปี้ย แปลว่า ขนม ในที่นี้หมายถึงขนมหมั้นหรือขนมแต่งงาน
1.6 ชุดหมู  เท่าที่พบจะมีประมาณ 3 ถาด  
- ถาดที่1: เป็นชุดหัวหมูพร้อม4 เท้าและหาง โดยเล็บเท้าต้องตัดเรียบร้อยติดตัวหนังสือซังฮี่  
- ถาดที่2: เป็นถาดขาหมูสดติดตัวซังฮี่เช่นเดียวกัน  
- ถาดที่3: เป็น" โต้วเตี้ยบะ" เท่านั้น คือเป็นเนื้อหมูตรงส่วนท้องของแม่หมู เพื่ออวยพรให้เจ้าสาว ได้เป็นแม่คนแม่ที่อุ้มท้องเพื่อให้กำเนิดบุตรแก่ฝ่ายชาย และมีธรรมเนียมว่าทางฝ่ายหญิง   ก็ต้องให้ชุดหมูสดตอบแทนแก่ฝ่ายชาย แต่ชุดหมูของฝ่ายหญิงจะเป็นชุดหัวใจหมูที่ต้องสั่งพ่อค้า  เป็นพิเศษว่าเป็นชุดหัวใจทั้งยวงที่ยังมีปอดและตับติดอยู่ด้วยกัน เมื่อเสร็จพิธี ชุดหัวใจนี้อาจทำได้เป็น 2 แบบ  
-แบบ1: คือ ฝ่ายหญิงแบ่งชุดหัวใจให้ฝ่ายชายไปครึ่งหนึ่ง  
-แบบ2: คือเอาชุดหัวใจนี้ไปประกอบอาหารให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวรับประทานร่วมกันเพื่อ เป็นเคล็ดอวยพร ให้หญิงชายมีจิตใจร่วมกันเป็นใจหนึ่งใจเดียวกัน
1.7 ของเซ่นไหว้ที่บ้านเจ้าสาว ฝ่ายชายต้องเตรียมของไหว้ 2 ชุด  
- ชุด1: สำหรับไหว้เจ้าที่  
- ชุด2: สำหรับไหว้บรรพบุรุษ   การจัดเตรียมของไหว้ที่ครบถ้วน จะต้องมีทั้งของคาว ขนมไหว้ ผลไม้ไหว้ เหล้า อาหาร 10 อย่าง ธูป เทียนดอกไม้ และมีของไหว้พิเศษ คือเส้นหมี่เพื่ออวยพรให้ชีวิตคู่ยืนยาวและนิยมหาเถ้าแก่ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ นับถือและมีชีวิตครอบครัวที่ดีมาเป็นผู้นำขบวนหรือช่วยถือของขันหมากเพื่อ เป็นสิริมงคล  
2. เครื่องขันหมาก  มีหลายอย่างที่นิยมแบ่งกันคนละครึ่ง  เช่น ขาหมู 2 ขา ก็คนละ 1 ขา อ้อย ขนมขันหมาก ชุดลำไยแห้ง ต้นชุงเฉ้า  
ส่วนของที่ฝ่ายชายต้องเอากลับไปทั้งหมด ก็คือ กล้วยเขียวเครือใหญ่, เอี๊ยมแต่งงาน, ชุดหัวใจหมู, ถาดไข่, และถาดส้มเช้งของฝ่ายหญิง
สิ่ง ที่ เจ้าสาว ต้องเตรียม  ส่วนทางเจ้าสาว ก็เตรียมสัมภาระที่จะนำติดตัวไปด้วย เช่น กระเป๋าเดินทาง เซฟใส่เครื่องประดับ หมอนปักรูป หงส์มังกร 1 คู่ บางรายก็อาจจะเพิ่มผ้านวมหรือเครื่องนอนชิ้นอื่นๆ รวมทั้งเสื้อเอี๊ยม เพื่อให้รู้ว่าเป็นเมียเอกนะ เจ้าสาวบางรายที่มีฐานะดีๆ สายคล้องคอเอี๊ยมก็จะเป็นสร้อยทอง และในเสื้อเอี๊ยมนี้จะใส่โหงวอิ๊กอี้ ซึ่งเป็นผลไม้ตากแห้ง และต้นชุ่งเช่าไว้สำหรับนำไปปลูกที่บ้านเจ้าบ่าวพร้อมกาละมังลายนกคู่ กระโถนกับกาตอเฉียะ (ไม้วัดและกรรไกรตัดผ้า) รวมทั้งเข็มและด้าย เพื่อให้รู้ว่าเจ้าสาวเป็นคนเย็บปักถักร้อยเก่ง ข้าวของเครื่องใช้จะต้องเป็น สีแดง หรือสีชมพูเท่านั้น 


1. ข้าวของเครื่องแต่งงานของเจ้าสาว
1.1 เอี๊ยมแต่งงาน ตัวเอี๊ยมเป็นสีแดง   สีมงคลให้เฮงๆ ปักลายอักษรซังฮี่ หรือคู่ยินด ีและปักตัวหนังสือ 4 คำ "แป๊ะนี้ไห่เล่า" แปลว่า อยู่กินกันจน ถึงร้อยปี พร้อมด้วยลวดลายมังกรและหงส์ ซึ่งลายนี้มีชื่อเรียกว่า "เล้งหงกิ๊กเซี้ยง" ให้ความหมายว่า ถึงเวลาแห่งความสุขและความรุ่งเรืองที่กำลังมาหา ขอให้คู่สมรสได้พบแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิตใหม่ คือชีวิตคู่ ของการอยู่ร่วมกัน  บนเอี๊ยมมีกระเป๋าให้ใส่ " โหงวเจ๊งจี้ " หรือเมล็ดธัญพืช 5 อย่าง คือ ข้าวเปลือกข้าวสาร ถั่วเขียว สาคู ถั่วดำห่อใส่กระดาษแดงอวยพรให้สามีภรรยา และลูกของตระกูลได้งอกงามรุ่งเรืองพร้อมทั้งใส่เหรียญทอง ลายมังกร เรียกว่า เหรียญกิมเล้ง เพื่ออวยพรให้ร่ำรวย บางบ้านอาจมีใส่เงินทอง เพิ่มเข้าไปด้วย แล้วใส ่ ต้น ชุงเฉ้าหรือต้นเมียหลวงที่หน้าตาคล้ายต้นกุยช่าย ต้นชุงเฉ้านี้คนจีนถือเป็นต้นไม้มงคลหมายถึงเกียรติ  และที่ปากกระเป๋าเอี๊ยมให้เสียบ " ปิ่นทองยู่อี่ " ไว้ให้ หมายความว่า ทุกเรื่องให้สมปรารถนา  ในวันส่งตัวฝ่ายชายต้องเอาปิ่นยู่ อี่มาคืน เพื่อให้เจ้าสาวได้ติดผมตอนส่งตัว สายของเอี๊ยมนิยมใช้ โซ่ทองคล้องใส่ไว้ ถ้ารวยจริงก็ใช้ทองจริงนิยมเป็นทองหนัก 4 บาท ้เพราะถือเคล็ดเลข 4 เป็นเลขดี
1.2 ไข่สีแดง 1 ถาด จัดเป็นเลขคู่  บางบ้านเตรียม 24 ลูก เพื่ออวยพรเป็นนัยว่าเจ้าสาวจะไปให้กำเนิดลูกหลานมาก ๆ
1.3 โอวเต่ากิ๊ว  คือ ขนมถั่วดำคลุกน้ำตาล มีแซมข้าวพองสีแดงทำเป็นลูกกลมๆ ที่ร้านขนมบอกว่า นิยมใช้ 14 ลูก หรือ 7 คู่
1.4 ส้มเช้ง ติดตัวซังฮี่ 1 ถาดใหญ่  มีจำนวนส้มเป็นเลขคู่ บางบ้านมีจัดส้มสีทองปนไป 4 ลูกด้วย
1.5 ชุดลำไยแห้ง 2 ชุด
1.6 ชุดชุงเฉ้า 2 ต้น
1.7 อั้งฮวย หรือใบทับทิม   เตรียมไว้มาก ๆ แล้วนำมาแบ่งใส่ประดับในของทุกถาดที่ฝ่ายชายจะต้องยกกลับ 
1.8 เผือก บางบ้านไม่นิยมไข่  ก็จัดเป็นเผือก คนจีนเรียก " โอวเท้า " หมายถึงความสมบูรณ์ นิยมจัดเป็นเลขคู่
1.9 เม็ดสาคู เอาไว้โรยในของต่างๆ เป็นเคล็ดอวยพร สาคูเม็ดกลม ๆ คู่บ่าวสาวกลมเกลียวกัน


3 วันหลังวันงาน  น้อง ชายของภรรยาจะเป็นฝ่ายไปรับคู่สามีภรรยาหน้าใหม่ กลับมาเยี่ยมและรับประทาน อาหารที่บ้านเจ้าสาว และเจ้าสาวจะได้รับการต้อนรับเยี่ยงแขกคนหนึ่ง
คนจีนหลายบ้าน มีธรรมเนียมว่า ในคืนวันส่งตัวเจ้าสาวจะทำอาหาร 10 อย่างที่เป็นเคล็ดมงคลอวยพรให้คู่บ่าวสาวได้รับประทาน ได้แก่
[1] วุ้นเส้น หรือเส้นหมี่ หรือบะหมี่ หมายความว่า ให้รักกันนาน ๆ อายุยืนยาว 
[2] เห็ดหอม หมายความว่า ให้ชีวิตคู่หอมหวาน 
[3] ผักกู้ช่าย หรือกุ้ยช่าย หมายความว่า ให้รักกันนาน ๆ หรือ ขอให้รวย 
[4]. ผักเกาฮะไฉ่ หมายความว่า ให้รักใคร่ปรองดองกัน 
[5] หัวใจหมู หมายความว่า ให้รักกันเป็นใจเดียว 
[6] ไส้หมู-กระเพาะหมู หมายความว่า ให้ปรับตัวเข้าหากัน นิสัยใดไม่ดีก็ให้เปลี่ยนเป็นนิสัยที่ดี เพื่อให้มีความสุขและ  รักกันยืนยาว
[7] ตับ หมายความว่า ให้มีความรุ่งเรืองและเจริญก้าวหน้า
[8] ปลา หมายความว่า ให้ร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้
[9] ปู หมายความว่า ให้ทำอะไรได้คล่องแคล่วว่องไว ขยันทำมาหากินและงานสำเร็จลุล่วงเร็วไว (เหมือนปูที่เดินเร็ววิ่งเร็ว )
[10] ไก่ หมายความว่า ให้มีความกล้าหาญ มีสติปัญญาและมีความเที่ยงตรง

ขอบคุณที่มากจากกูเกิล เซฟไว้นานจำลิงห์ไม่ได้แล้วคะ








Free TextEditor




 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2552 19:14:56 น.
Counter : 1824 Pageviews.  

การเลือกแหวนเพชร

ระหว่างที่เราทำทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น เรายังมีเวลาพอที่จะไปดูแหวนแต่งงาน บางคู่อาจใช้แหวนมรดกแล้วเอาไปชุบให้ดูใหม่ก็ได้คะ

แหวนหมีราคาสามหมื่นแปด เม็ดกลางน้ำ96 ไซค์50สต.
ส่วนนแหวนแฟนเป็นแหวนมรดกคะ เอาไปชุบใหม่ก็ดูแจ่มคะ



ทีนี้มาเรื่องการเลือกแหวนเพชรนะคะ

เดี่ยวนี้ ร้านเพชรมีมากมาย ไม่เชื่อลองไปดูในห้าง จะเห็นบูธขายเพชรเต็มไปหมด มีหลากหลายแบรนด์ หลากหลายดีไซน์ หรือถ้าจะเป็นร้านดังเลยก็มี แต่สาวๆ ที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับเพชร คงเริ่มกังวลว่าหากจะซื้อขึ้นมาจริงๆ จะต้องเลือกอย่างไร เพราะซื้อเพชรไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะคะ โชคดีว่าเรามีสถาบันต่างๆ ในการคัดเกรดเพชร ที่ยังบอกถึงวิธีการเลือกเพชรให้กับบุคคลทั่วไปที่สนใจซื้อเพชรอีกด้วย อย่างเช่นสถาบัน Gemological Institute of America หรือ G.I.A. ที่ให้ข้อแนะนำไว้ดังนี้

หนึ่ง วิธีการดูน้ำหนักเพชรว่ามีกี่กะรัตนั้นต้องจำไว้ว่า 1 กะรัต เท่ากับ 200 มิลลิกรัม ร้านเพชรบางแห่งอาจจะใช้ระบบ Point หรือจุดสำหรับเพชรที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กะรัต นั่นก็คือ 1 กะรัตเท่ากับ 100 Point ครึ่งกะรัตเท่ากับ 0.5 Point

สอง วิธีการดูความใสสะอาดของเพชรเพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเพชรนั้นมีตำหนิหรือไม่ โดยทางสถาบัน สถาบัน G.I.A. จะใช้ระบบเกรดตั้งแต่ FL ถึง 13 กล่าวคือ FL คือเกรดเพชรที่ไม่มีตำหนิใดๆ และหายากมากๆ ส่วนเกรด 11, 12 หรือ 13 หมายถึงเพชรที่คุณสามารถเห็นตำหนิได้ด้วยตาเปล่า ฉะนั้นแบบนี้ไม่ควรซื้อค่ะ

สาม วิธีการดูสีเพชร สีของเพชรนั้นจะถูกกำหนดากความเหลืองที่มีอยู่ในเพชรเม็ดนั้น ทางสถาบัน G.I.A. โดยส่วนใหญ่เพชรสำหรับแหวนหมั้น มักจะใช้เกรดสี G หรือ H เพราะยังถือว่าขาว และแทบไม่เห็นสีเหลือง ส่วนใครอยากรู้ เกรด D ราคาเท่าไหร่ ไปถามในร้านดูสิค่ะ เพราะมันแพงเหลือหลายค่ะ

สี่ การดูคัทของเพชร การดูทรงเหลี่ยม สัดส่วน สไตล์ของเพชรแต่ละเม็ด โดยส่วนใหญ่จะกำหนดคัทของเพชรจากทรงของมัน นักลงทุนส่วนใหญ่จะเลือกทรงกลม เพราะมีค่ามากกว่าทรงอื่นๆ หรืออย่างแหวนหมั้นหนิงคัท Heart & Arrow หรือคัทหัวใจและลูกศร ก็คือเวลาเล่นกับไฟ เมื่อดูเพชรดีๆ เห็นรูปหัวใจและลูกศรอยู่ข้างในเพชร แน่นอนนะคะว่าเพชรที่มีคัทพิเศษหน่อยก็ราคาสูงกว่าคัทแบบธรรมดาค่ะ


เอา ล่ะค่ะ พอจะรู้วิธีการเลือกเพชรกันแล้ว เวลาจะไปซื้อจะไดทันคนขาย ทีนี้ก็มาถึงการเลือกซื้อจริงๆ แล้วล่ะ อย่าใจร้อนเชียวนะคะ การซื้อเพชรต้องใช้เวลาค่อยๆ ดู ศึกษามัน แล้วค่อยตัดสินใจ เพราะราคาไม่ใช่ถูกๆ หนิงเลยมีวิธีการหรือขั้นตอนในการซื้อเพชรที่หนิงใช้อยู่เป็นประจำมาฝากค่ะ

ประการแรก ถามตัวเองให้ดีก่อนว่าอยากได้เครื่องประดับเพชรแบบไหน และที่สำคัญที่สุดมีงบประมาณเท่าไหร่

ประการ ที่สอง ต้องเลือกร้านที่ไว้ใจได้ น่าเชื่อถือ และแน่นอนต้องมี certificate หรือคนไทยเรียกว่า ใบเซอร์ พูดง่ายก็คือเป็นใบประกาศที่ได้รับรองจากสถาบัน ซึ่งในอนาคตหากคุณไปขายต่อก็จะง่ายขึ้น และราคาไม่ตก แถมยังเป็นการรับประกันว่าของคุณนั้นเพชรจริงแท้แน่นอน ร้านเพชรที่ดีจะไม่คะยั้นคะยอให้คุณซื้อ แต่จะให้คุณคิดพิจารณาตามสบาย กลับบ้านไปคิดอีก 2 อาทิตย์ก็ได้ หากคุณเข้าร้านไหนแล้วไม่สบายใจ อย่าเกรงใจไปเลยนะคะ ยังมีร้านอื่นๆ อีกมากมายให้คุณเลือก

ประการที่ สาม อย่างที่บอกไปแล้ว ก่อนซื้อเพชรก็ต้องมีความรู้เรื่องเพชรให้คนขายได้เห็น นั่นก็คือ 4C ข้างต้นที่หนิงบอกไปแล้ว carat, color, clarity และ cut จะได้ไม่โดนคนขายหลอกเอานะคะ

ประการที่สี่ พยายามเลือกเพชรที่ส่องประกายวับวาว เจิดจรัส และเล่นไฟ เพื่อจะได้ไปส่องตาใครต่อใครเวลาที่ส่วมใส่ไงละคะ

ประการ ที่ห้า พยายามเปรียบเทียบราคาแต่ละร้าน ใช่แล้วค่ะ จะเลือกซื้อทั้งที ต้องดูหลายๆ ที่นะคะ บางแห่งเพิ่มราคาสูงเพราะค่าเช่าสถานที่อาจจะแพง ฉะนั้น้องเลือกให้ดี ราคาสมเหตุสมผล หรือถ้าไปแหล่งขายเพชรเลยก็มั่นใจได้ว่าไม่น่าจะเพิ่มราคาค่าเช่าที่มากนัก

ประการ ที่หก อย่าลืมดูบริการหลังการขายด้วยค่ะ ว่าร้านที่คุณจะซื้อนั้น จะให้บริการหลังการขายอะไรบ้าง อย่างเช่นทำความสะอาดให้ตลอดชีพ หรืออาจจะเปลี่ยนตัวเรือนหรือในแบบราคาพิเศษ ถ้าได้ร้านแบบนี้ก็ถือว่าโชคดีคะ

ประการที่เจ็ด ซื้อแล้วบางร้านยังมีบริการทำเลเซอร์สลักชื่อ หรือวันเดือนปีเกิดให้บนตัวอักษรย่อ พร้อมวันเดือนปีที่หมั้น ซึ่งสามารถสร้างคุณค่าทางจิตใจได้ด้วยค่ะ

ประการสุดท้าย ซื้อแล้วก็ดูหน้าดูหลังด้วยนะคะ ไม่ใช่มัวแต่ชื่นชม จนไม่รู้ว่าอาจมีมิจฉาชีพแอบดูคุณอยู่ ทางที่ดีที่สุด อย่าไปซื้อคนเดียว ได้ของแล้วเก็บให้มิดชิด หรือไม่ก็ใส่ไว้เลยค่ะ

ขอขอบคุณที่มาจาก หลักง่ายๆ ในการเลือกซื้อเพชร










Free TextEditor




 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2552 19:12:54 น.
Counter : 1699 Pageviews.  

1  2  3  4  

mee_vingt
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




สวัสดีคะ หมีนะคะ
เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ สูง152ซม.
ชอบในการแต่งตัว รักของสวยๆงาม
เวลาว่างชอบทำงานประดิษฐ์โน้นนี่
เข้ามาแวะทักทายโพสต์คุยกันได้นะคะ
ยินดีที่รู้จักกับทุกคนคะ

ประกาศ :
หากเข้ามาแล้วไม่เห็นภาพ
เพราะว่าแบนด์วิดท์(bandwidth)
ของรูปภาพเกินโค้วต้า
ต้องรอเดือนหน้าจึงจะเห็นรูป
ตอนนี้จะพยายามแก้ไขรูปภาพคะ
ขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย

พื้นที่หน้าเวปบล็อคส่วนตัว ห้ามคอมเมนท์โฆษณาคะ
ถ้าอ่านภาษาคนรู้เรื่อง ขอความกรุณาปฎิบัติตามกฎด้วยคะ











ENGLISH VERSION BY GOOGLE

JAPANESE VERSION BY GOOGLE

CHAINESE VERSION BY GOOGLE

สร้างบล๊อคครั้งแรกเมื่อ 08 JUNE 2008
เริ่มนับ VISITOR ตั้งแต่ 29 March 2010

free counters
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add mee_vingt's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.