วันที่สอง..
วันเสาร์ที่ 21 เป็นวันที่สองที่เราไปฝึกโยคะกะครูแหม่ม วันนี้มีคนมาเรียนเป็นเพื่อนอีก 3 คน เป็นคุณป้ามีอายุมากแล้ว น่าจะประมาณ 60 ปี และน้องนักศึกษา กับ น้องอีกคนนึง..รวมเป็น 4 คน มาถึงครูแหม่มให้ดื่มชา และทำแบบสอบถามเกี่ยวกับโยคะ (ครูแหม่มเรียนโท อยู่จ้า) จากนั้นเมื่อถึงเวลาก็ให้เริ่มฝึก เริ่มจากการวอร์มก่อน แล้วยืดร่างกาย ตามด้วยอาสนะต่าง ๆ จบด้วยท่าศพ และแผ่เมตตา ฝึกล้างจมูก และแผ่เมตตา...ระหว่างที่เรียน ครูแหม่มจะคอยดูท่าของทุกคน โดยเฉพาะเรา ว่าตามทันไหม เพราะคนอื่น ๆ เขาเรียนมาเป็นปีแล้วง่ะ ..เราก็บอกครูว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเราจะพยายาม ...มีน้องคนที่เรียนด้วยคนนึง เขาเป็นโรคเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกสันหลัง ตอนแรกน้องเขาบอกว่า เขาก้มตัวไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ ทำท่าตรีโกณ ได้สบายมาก...เก่งจัง หลังจากฝึกเสร็จวันนี้ ครูถามว่า เป็นไงคะสบายไหม ..ตอบตรง ๆ ว่า รู้สึกสบายจริง ๆ รู้สึกข้างในโล่ง เพราะว่าฝึกหนักกว่าคราวที่แล้ว และเรารู้จักการหายใจได้ดีขึ้น..ครูบอกว่าการฝึกโยคะ ควรฝึกในที่โล่งและมีอากาศถ่ายเท เพราะเราต้องสูดปราณเข้าไป ปราณคืออากาศที่มีความละเอียดมาก อยู่ในอากาศปกติ แต่ถ้าฝึกโยคะในที่อับ หรือห้องแอร์ หรือร้อน จะได้แต่อากาศเท่านั้น ไม่ได้ปราณ ทำให้ไม่สดชื่น...แต่หลังจากฝึกวันนี้ รู้สึกดีจริง ๆ นะ.
วันแรก...
วันที่ 14 ก.พ. เป็นวันแรกของการเริ่มต้นคอร์สโยคะ เราแต่งตัวด้วยเสื้อยืด กางเกงวอร์มธรรมดา ๆ (ถามครูว่าต้องแต่งตัวแบบไหนคะ ครูบอกว่า ยังไงก็ได้ ไม่ได้ไปถ่ายแบบกีฬา ) พอมาถึง ครูแหม่มให้ดื่มน้ำชาชื่อว่า ไฮดาลิ่ง หรืออะไรเนี่ย ฟังไม่ถนัด ครูบอกว่าเป็นชาจากอินเดีย...ดื่มน้ำสักพัก เราก็พากันเข้าห้อง (ฝึกโยคะ) ปรากฎว่ามีเราคนเดียวง่ะ เพราะว่าวันนี้วันวาเลนไทน์ ลูกศิษย์คนอื่นของครูเขาขอหยุดไปกับครอบครัว (ครูแหม่มบอก...แล้วฉันมันบ้านหรือเปล่าเนี่ย วันวาเลนไทน์ มาฝึกโยคะ แทนที่จะอยู่กะหญิงแก้ว และฝาละมี.. ) เริ่มต้น ครูแหม่มให้ทำท่าวอร์มก่อน แล้วต่อยืดเหยียด แล้วตามด้วยอาสนะ ง่าย ๆ (ไอ้ง่ายของครูง่ะ มันยากของหนูน่ะค่ะ ก้มก็ไม่ถึงปลายเท้า เนื่องจากติดพุง ) แต่ครูแหม่มบอกว่า เอาแค่ตึงของเราพอ ครูสอนโยคะนะ ไม่ได้สอนยิมนาสติก ไม่ต้องตัวอ่อนแบบนั้นก็ได้ เอาแค่จุดที่เราตึงเท่านั้น แต่ท่าต้องถูกคือตรงไหนตึง ตรงไหนหย่อน แล้วครูก็สอนหลักการหายใจ อ้อ..ตอนทำอาสนะต่าง ๆ ครูแหม่มจะคอยบอกว่า ท่านี้บริหารส่วนไหน คือครูอธิบายค่อนข้างละเอียดมากเลย เมื่อจบอาสนะต่าง ๆ ครูจะให้พักด้วยท่าศพ..ท้ายสุดครูจะให้แผ่เมตตา ประมาณว่า ฝึกโยคะกับครูแหม่ม นอกจากได้บริหารร่างกายแล้ว ยังได้ฝึกสมาธิ เหมือนกึ่ง ๆ ปฏิบัติธรรมด้วยเลย..หลังจากจบ 1.30 ชั่วโมงแล้ว เรารู้สึกสบายอย่างไม่น่าเชื่อ..ไม่ปวดเมื่อยมากมาย ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนเลย..ขอคอนเฟิร์มว่า ดีจริง ๆ จ้า
ครุแหม่ม..ครูโยคะที่หน้าเด็กมั่ก ๆ
ครูแหม่ม..มลลิกา ศรีเปล่ง (ผิดอ๊ะเปล่าไม่รู้) เป็นครูโยคะที่หน้าตาแทบจะไม่มีริ้วรอยเลยง่ะ...เราเห็นหน้าครูก็คิด..ถ้าเราเล่นโยคะแล้วจะเป็นอย่างครูมั๊ยหนอ... ครูแหม่มเกิดปี 2507 ..น่ารักมาก ไม่อ่อนหวาน แต่ตรงไปตรงมาดี..สะใจ ครูแหม่มเปิดสอนโยคะชื่อ สถาบันโยคะศาสตร์และการพัฒนา โดยคุณครูไปเรียนมาจากอินเดียเลยนะจ๊ะ..เก่งจริง ๆ ตอนนี้ครูเรียน โท. อยู่ที่ไหนจำไม่ได้แล้ว..โดยรวมแล้ว ครูแหม่ม เป็นผู้หญิงที่เก่ง สวย และรู้ลึกเรื่องโยคะ คนหนึ่งทีเดียว..