Group Blog
 
All Blogs
 

ตำนาน ปาท่องโก๋ กับ ยอดขุนพลไร้พ่ายผู้รักชาติ นาม งักฮุย

เรื่องราวของชาวจีนบางเรื่อง เมื่อไปอยู่ในดินแดนอื่น ๆ บางทีเกิดการเล่าขานปฏิบัติจนทำให้ผิดเพี้ยนไปจากของเดิมมากมายอย่างลี้ลับ

ที่เมืองไทยของเราก็มีเรื่องของชาวจีนบางอย่างที่ถูกเปลี่ยนแปลงจากเดิมจนกลับตาลปัตรอย่างเรื่องขนมอย่างหนึ่ง ซึ่งชาวจีนเรียก “โหยวจ้าข้วย”

สำเนียงแต้จิ๋วแบบไทย ๆ เป็น “อิ่วจาก้วย” เมืองไทยชอบเรียกปาท่องโก๋

เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคำสั่งการจากผู้มีอำนาจให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองและตำรวจต้องจับมือกันร่วมมือกันทำงานเหมือนกับปาท่องโก๋

กระผมฟังแล้วรู้สึกตกใจเป็นล้นพ้นกับคำสั่งดังกล่าว เพราะปาท่องโก๋นั้นเป็นขนมอันมีที่มาจากเรื่องเลวร้ายสุด ๆ เรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน

ขออนุญาตนำท่านย้อนอดีตไปถึงยุคราชวงศ์ซ่ง

อันเป็นยุคที่ชาวจีนเผ่าฮั่นต้องระทมขมขื่นกับการรุกรานของชาวต่างชาติหลายเผ่าพันธุ์จากนอกด่านกำแพงเมืองจีน

เผ่ากิม หรือชาวเกาหลีโบราณได้ขยายอำนาจเติบกล้าขึ้นถึงขั้นคุกคามความสงบของชาวฮั่น
โดยที่ราชสำนักชาวฮั่นยุคราชวงศ์ซ่งมีความอ่อนแอมากไม่สามารถปกป้องชาวจีนในปกครองให้ร่มเย็นเป็นสุข ปล่อยให้ถูกชาวนอกด่านกดขี่ข่มเหงตามใจชอบ

เยียะเฟย เกิดเมื่อ ค.ศ. 1105 ตรงกับปีแพะ เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับเห็นความอยุติธรรมที่ชาวจีนต้องถูกชาวนอกด่านที่ด้อยพัฒนากว่าย่ำยีเป็นประจำ
เขาจึงปฏิญานตนที่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีของชาวฮั่นกลับคืนมาด้วยการคร่ำเคร่งร่ำเรียนพิชัยสงครามต่าง ๆ อย่างจริงจัง

มารดาของเยียะเฟยก็มีความรักชาติอย่างยิ่ง นางอบรมเยียะเฟยให้มีความกล้าหาญเสียสละเมื่อเยียะเฟยกราบขอพรจากนาง
เพื่อไปรับราชการเป็นทหารรับใช้มาตุภูมิ นางได้ใช้เข็มสลักที่กลางแผ่นหลังของเยียะเฟยเป็นอักษร 4 ตัวว่า

จิงจงเป้ากว๋อ

เก่งกล้าภักดีพลีเพื่อประเทศชาติ

เยียะเฟย ปฏิบัติตนตามคำสั่งที่มารดาสลักไว้กลางแผ่นหลัง ออกรบอย่างกล้าหาญเสียสละมีผลงานยอดเยี่ยมเลื่อนจากทหารชั้นผู้น้อยขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ
่ในการต่อสู้กับกองทัพเผ่ากิมผู้รุกรานกองทัพของเยียะเฟยสร้างความพินาศแก่ศัตรูในทุกสมรภูมิรบผลักดันให้พวกกิมต้องถอยกลับไปทางภาคเหนือ

การทำดีแล้วเด่นมักเป็นภัย!

เยียะเฟย เด่นดังขึ้นมาอย่างนี้ ย่อมมีคนที่เกลียดขี้หน้าไม่น้อย ยุคนั้นมีจอมกังฉินชื่อ “ฉินข้วย”
ใช้ความสอพลอก้าวขึ้นถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
โดยมีพวกหัวหน้าเผ่ากิมนอกด่านช่วยสนับสนุนอย่างลับ ๆ ให้ฉินข้วยช่วยขายชาติ

ฉินข้วยรับสินบนจากต่างชาติ
ก็หาทางใส่ร้ายเยียะเฟยว่ามีความทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงชอบนำกองทัพออกทำศึกไม่ฟังคำสั่งจากราชสำนัก
มันจึงเพ็จทูลให้ฮ่องเต้ปัญญาอ่อนเรียกตัวเยียะเฟยกลับจากสมรภูมิแนวหน้าอย่างกระทันหัน

เยียะเฟยมีความจงรักภักดีต่อฮ่องเต้อย่างยิ่ง เมื่อถูกเรียกตัวกลับก็รีบกลับมาทันที
พอมาถึงก็ถูกจอมกังฉินจับไปขังคุกและถูกลอบสังหารถึงแก่อสัญกรรมในคุกมืดนัั้นเอง

ข่าวที่เยียะเฟยถูกจอมกังฉินทำร้ายเสียชีวิตล่วงรู้ไปถึงประชาชน
ต่างพากันโกรธแค้นอย่างยิ่งแต่ไม่สามารถทำอะไรจอมกังฉินได้เพราะมันยิ่งใหญ่เป็นถึงนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเหนือราชสำนักซ่งที่อ่อนแอมาก

สมัยนั้น ชาวจีนนิยมรับประทานขนมอย่างหนึ่งซึ่งทำด้วยแป้งเอามาทอดน้ำมัน
ได้มีประชาชนบางคนเอาแป้ง 2 ชิ้นมาบีบติดกันสมมติเป็นจอมกังฉินกับเมียของมัน นำไปทอดกินเพื่อระบายความแค้น

คนอื่น ๆ เห็นแล้วพลอยรู้สึกเกิดอารมณ์ร่วมจึงพากันทอดขนมแป้ง 2 ชิ้นอย่างนี้กินกันแพร่หลายเรียกว่า “โหยวจ้าข้วย” หมายถึงน้ำมันทอดฉินข้วย

นอกจากกินขนมกังฉินสองผัวเมียแล้ว ต่อมายังมีการสร้างศาลสักการะยกย่องให้เยียะเฟยเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์จงรักภักดี
ยังมีคนที่เคียดแค้นชิงชังฉินข้วยกับเมียของมันไม่หายได้สร้างรูปโลหะของ 2 ผัวเมียและบริวารของมันอีก 2 คน รวมเป็นรูปโลหะ 4 ตัวในท่าคุกเข่าอยู่ตรงหน้ารูปโลหะของเทพเจ้าเยียะเฟยด้วย

ผู้คนที่มากราบไหว้บูชาเทพเจ้าเยียะเฟยเสร็จแล้ว
มักจะถ่มน้ำลายหรือเอาของโสโครกสาดใส่รูปโลหะของพวกกังฉินเหล่านั้นเพื่อแสดงความเกลียดชังพวกกังฉินที่ร่วมกันขายชาติให้ชาวต่างชาติ

การกินปาท่องโก๋จึงเป็นเรื่องของการเกลียดชังพวกคนชั่ว ต้องการเคี้ยวกินให้หายแค้น
เมืองไทยเรากลับเข้าใจผิดนึกว่า ปาท่องโก๋ หมายถึง ความรู้รักสามัคคีร่วมมือกัน

ควรระวังด้วยครับที่สั่งให้ร่วมกันทำงานแบบปาท่องโก๋ ถ้าร่วมมือกันแบบกังฉินคงไม่ดีแน่






จากเรื่องที่เขียนไว้ข้างบน คือเรื่องของแม่ทัพ นักการทหารที่ได้รับการยอมรับกันในประเทศจีนว่าเก่งที่สุด มีความกตัญญูมากที่สุด เท่าที่ประเทศจีนเคยมมีมา
โดยเฉพาะ ความกตัญญู ที่ถือได้ว่ามีมากกว่ากวนอู ด้วยซำ แต่ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในประเทศไทย
เพราะว่า ลักษณะภายนอกเป็นคนธรรมดา ผิดกับกวนอูที่หน้าแดงเคลายาว ผิดมนุษย์ทั่วไป


จากเรื่องข้างบน เป้นเนื้อเรื่องย่อ จาก พงศาวดารจีน ชื่อเรื่องว่า "ซวยงัก"
หาอ่านหาซื้อได้ตามร้านหนังสือเก่าที่มีขายอยู่บ้างแต่จะน้อยลงเรื่อยๆ เพราะไม่มีพิมพ์ใหม่อีกแล้ว หรือจะไปอ่านที่หอสมุดแห่งชาติก็ได้นะครับ
หรือใครสนใจจริงๆ หาซื้อไม่ได้ ผมพอจะรู้จักร้านหาซื้อได้นะครับ
รับรอง อ่านแล้ว น้ำตาร่วงได้เลยครับ ซึ้งมากๆ กับความซื่อสัตย์ ของ ท่าน งักฮุย

ปล.ที่แนะนำให้อ่านเพราะเป็นประโยชน์กับทุกคน ที่ปัจจุบันคนดีหาได้ยาก
จึงอยากให้ดูแบบอย่าง เพื่อนำมาใช้กับชีวิตประจำวัน
เพื่อเพื่อนๆน้องๆ จะได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคม สังคมจะได้น่าอยู่เพราะคนดีมากขึ้น



งักฮุย ก่อนรับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ไปสู้ศึกกับ กองทัพ แคว้นจิน(แมนจูเก่า)
งักฮุยได้ให้มารดาของเขา สักตัวหนังสือ 4 ตัว ไว้ที่กลางหลังของงักฮุย มีข้อความว่า "จิน จง เป่า กว๋อ"
แปลเป็นไทยว่า กตัญญูต่อแผ่นดิน

ตลอดระยะเวลาที่งักฮุยได้เป็นแม่ทัพใหญ่ แห่ง ราชวงค์ซ้อง ได้สร้างคุณูปการ ให้กับแผ่นดินมากมาย รวบรวมเหล่าผู้กล้าที่ตั้งตัวเป็นโจร ให้กลับมารับใช้ชาติ
ทำให้แผ่นดินเป็นปึกแผ่น ขับไล่ศัตรูสำคัญอย่าง กองทัพ จิน ได้ ด้วยวีรกรรมมากมาย
ที่โดดเด่นที่สุดคือคราวที่ งักฮุย นำกองทัพ ซ้อง จำนวนแค่ 800 นาย ขับไล่ กองทัพจิน ที่มีมากถึง 500,000 นาย ให้ถอยออกไปจากแนวรบได้




 

Create Date : 20 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 9 ตุลาคม 2550 2:21:45 น.
Counter : 1917 Pageviews.  


[wisc] LUNA
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add [wisc] LUNA's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.