BlogGang.com : : จิ้งกุ่ง - ละเลียด "จ้งจึ" บะจ่างสุดยอดตำนานของปักกิ่ง

ละเลียด "จ้งจึ" บะจ่างสุดยอดตำนานของปักกิ่ง

วันนี้เป็นวันหยุดราชการของจีน เนื่องในเทศกาลบะจ่างครับ คนแถวนี้เรียกว่าเทศกาล “ตวนอู่เจี๋ย” เป็นวันที่คนจีนเค้าระลึกถึงกวีผู้รักชาติคนหนึ่ง ชื่อว่า ชวีหยวน อยู่ในแคว้นฉู่ ในช่วงยุคสมัยสามก๊ก.. กวี “ชวีหยวน” คนนี้มีความคิดมากมายเกี่ยวกับการป้องกันการรุกรานของข้าศึก แกจึงพยายามที่จะให้คำแนะนำแก่ฮ่องเต้แคว้นฉู่ถึงเรื่องการเตรียมการรับศึกจากแคว้นศัตรู... แต่ฮ่องเต้กลับไม่ฟัง มัวแต่ฟังขุนนางแวดล้อม ที่คอยเลียเช้าเลียเย็น หลงเชื่อขุนนางชั่วเหล่านั้น ถึงกับขับไล่ชวีหยวนออกจากเมือง...

หลังจากนั้นไม่นาน ข้าศึกก็มาบุกแคว้นฉู่ดังที่กวีชวีหยวนเคยคาดการณ์ไว้ และสามารถยึดแคว้นฉู่ได้สำเร็จ ด้วยความเจ็บใจ กวีชวีหยวนจึงได้ไปกระโดดน้ำตายประชดชีวิตที่แม่น้ำฉางเจียง (แยงซีเกียง) ชาวบ้านเมื่อรู้ข่าว ด้วยความรักในกวีชวีหยวน จึงพยายามค้นหาศพ แต่ก็ไม่พบเจอ ... ด้วยความกลัวว่าเหล่าปูปลา จะมากินศพชวีหยวน ชาวบ้านจึงได้ทำข้าวเหนียวปั้น โยนลงไปในน้ำให้ปลากิน ปลาจะได้กินจนอิ่ม และไม่ไปกินศพของชวีหยวน

ไอ้ก้อนข้าวเหนียวที่ว่านี่แหละครับก็คือ “บะจ่าง” หรือ คนปักกิ่งเรียกวันว่า “จ้งจึ” ผมฟังเรื่องราวมาจากคนปักกิ่งเค้าอีกทีนะครับ ผิดถูก คลาดเคลื่อนประการใด คงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย... พอฟังเรื่องราวเสร็จแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าขนม “บะจ่าง” นี้มันทำขึ้นมาเฉพาะกิจ เพื่อให้ปลากินแทนศพ เลยรู้สึกไม่ค่อยน่ากินซักเท่าไหร่ ...

ขนมบะจ่าง หรือ “จ้งจึ” ของคนปักกิ่ง มีมากมายหลายใส้ครับ เลือกกันไม่หวาดไม่ไหว จะมีขายทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า เค้าจะซีลสูญญากาศมาอย่างดีเลยครับ ใส่ห่อใส่ถุงจนดูงดงาม ยิ่งใส้บะจ่างแล้ว ไม่รู้จะเลือกอย่างไรถูกครับ อาทิตย์ที่แล้วผมก็ได้รับแจกมาเหมือนกัน เพื่อนฝูง ญาติสนิท มิตรรัก แฟนเพลง ในปักกิ่ง นำมาให้ลองรับประทานกันเต็มโต๊ะไปหมด ....

เวลาจะรับประทาน ก็ต้องฉีกถุง ตัดห่อสูญญากาศออก แล้วจะเอาไปนึ่ง หรือเอาไปเวฟ ก็แล้วแต่ความถนัดครับ ผมเลือกมาใส้ละลูกๆ อุ่นมาเป็นถาดเลย พอหยิบเข้าปากเท่านั้นล่ะครับ น้ำตาผมแทบจะคลอเบ้า... เค้าทำกันได้แค่นี้จริงๆครับ รสชาติจืดสนิท จนแทบจะไม่มีรสอื่นมาเจือปน ใส้ที่ใส่กันมาเป็นร้อยเป็นพันใส้ มันก็ยัดใส่กันมาแบบจืดๆ ไม่มีปรุงรสอะไรเลย.. ไม่รู้จะใส่มาทำไมกันนักหนา...

พูดตรงๆ แบบไม่เกรงใจ ข้าวเหนียวนึ่งเปล่าๆ บ้านเรายังอร่อยกว่าเลย... บะจ่างบ้านเรามันสารพัดรส กินอร่อยสะใจ ทั้งเค็ม ทั้งมัน เผ็ดหอมพริกไทย ได้ เห็ดหอม กุนเชียง ไข่เค็มผสมเข้าไป ผมกินครั้งละ 2-3 ลูกเลยครับ... แต่ที่นี่ ต้นตำรับ”จ้งจึ” ที่ ปักกิ่ง ของเค้าจืดแบบโคตระโคตร... ผมพยายามจะใช้ผัสสะละเลียดหารสอื่นๆ แต่ให้ตายเถอะ.. สัญชาติญาณรสผมสัมผัสได้เพียงรสจืด รสเดียวจริงๆ... สุดท้ายผมต้องตัดใจเอานมข้นหวานมาจิ้มบะจ่างปักกิ่งกิน กินแก้ขัดกันไป... กินไปก็คิดถึงศพของ “ชวีหยวน” ไป... อร่อยสุดๆ... “เป่ยจิงจ้งจึ เหินเห่าชือๆ ฮือๆๆๆ”

--- จิ้งกุ่ง ---
(อาทิตย์นี้ ผมไปงานที่เมืองไทยทั้งอาทิตย์นะครับ กลับมากลางอาทิตย์หน้า จะมาเล่าเรื่องปักกิ่งให้ฟังต่ออีกครับ)

Create Date : 06 มิถุนายน 2554

Last Update : 6 มิถุนายน 2554 8:34:26 น.

7 comments

Counter : 1173 Pageviews.

สวัสดีครับ แวะมาทักทาย ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

โดย: bbandp

วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:00:37 น.

อ่านแล้วขำดีค่ะ 555 ดูหีบห่อสวยดีแท้ ๆ ไม่น่าเลย...

โดย: นีระพารถ

วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:50:04 น.

กินให้เยอะๆนะข้าวราดกระเพราไก่ไข่ดาว กลับไปปักกิ่งจะได้หายอยาก ไอ้บะจ่างของเค๊าเนี่ยกินข้าวเหนียวหัวหงอกบ้านเราท่าจะอร่อยกว่าเยอะเนอะ

โดย: แอ IP: 110.168.45.213 วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:14:30:34 น.

-ยินดีที่ได้รู้จักครับ
-ส่วนเรื่องข้าวกระเพราไข่ดาว วันนี้ผมเริ่มอดข้าวแล้ว ถึงกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ พ่อจะกินให้เกลี้ยงร้านเลย คอยดูดิ

โดย: จิ้งกุ่ง

วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:14:53:55 น.

555
บรรยายรสชาติซะจนเห็นภาพเลยค่ะ
แต่จริงๆ เนอะ
เคยซื้อบะจ่างจากเมืองจีนกลับบ้านเหมือนกัน
ตอนแรกเข้าใจว่า
ต้นตำรับต้องอร่อยเด็ดแน่ๆ
แต่ที่ไหนได้
ไม่ได้เรื่องเลย

โดย: chenyuye

วันที่: 17 มิถุนายน 2554 เวลา:10:01:13 น.

555 "ช่างไห่จ้งจึ เย่ห่าวชือ"

จำได้ว่าตอนนั้น โรงเรียนแจกให้กิน ไอ้เราก็เป็นไทยมุงไปรอรับด้วยเหมือนกัน รวมเพื่อนๆประมาณ 8 คน

แกะห่อมากัดได้คนละคำ แล้วก็มองหน้ากัน น้ำตาไหลพราก แล้ว จ้งจึ ทั้ง 8 ก็ไปอยู่ในมือขอทานหน้าโรงเรียน

แม่โทรมาถามว่า "บะจ่างต้นตำรับ อร่อยไม๊ลูก" T T

โดย: หนุงหนิง IP: 14.207.194.116 วันที่: 21 มิถุนายน 2554 เวลา:11:05:35 น.

เคยซื้อบะจ่างที่ฮอลแลนด์ตอนไปเที่ยว ตัวเราอยู่เยอรมันนะคะ อารามดีใจ เห็นบะจ่างจากร้านขายของเอเชีย ซื้อมา อย่างแพงอ้ะ แต่ก็ซื้อ ปรากฏพอแกะห่อออกมา อยากเขวี้ยงทิ้ง ไม่อร่อยเลย จืดๆ แถมบอกไส้หมู หมูอะไรก็ไม่รู้ กินไปก็น้่ำตาไหลพรากด้วยความทเสียดายเงิน เฮ้อ ห่อนึงมีสองลูก อีกลูกยังนอนตายอยู่ในช่องฟรีซจนบัดนี้

โดย: girlly IP: 88.64.176.254 วันที่: 4 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:17:17 น.