Group Blog
 
All blogs
 

เตรียมก่อนปั่น~ เวียดนาม



สงกรานต์นี้มีแผนปั่นจักรยานไปเมืองเว้ ดินแดนเวียดนามemo
เราจะเดินทางด้วยรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปลง มุกดาหาร
แล้วก็เริ่มปั่นแบบค่ำไหนนอนนั่น emo จนถึงเว้ emo
เริ่มเดินทางเย็นวันศุกร์ที่ 11-17 เม.ย. เดินทางกลับกรุงเทพ ฯ ตอนเย็น
งบประมาณไว้ไม่เกินคนละ 5000 บาท
เราประกาศรับเพื่อนขาแข็ง ๆๆๆๆๆ emoมีจักรยานร่วมทีมด้วยนะ
แต่สุดท้าย จนแล้วจนเล่าหาได้เพิ่มหนึ่งคน แต่เป็นมอเตอร์ไซค์
และสุดท้ายเราก็ปั่นไม่ทันเขาคลาดกันไปอย่างน่าเสียดาย
emoemoemoemoemoemoemoemoemoemo




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 9:55:53 น.
Counter : 716 Pageviews.  

สะบายดี~ ลาว



และแล้วเวลาเดินทางก็มาถึง

ผิดคาด!!!
ค่ำวันศุกร์สุดสัปดาห์ ศุกร์ที่ 11 เมษา ติดกับวันหยุดยาวที่สุดในรอบปี
การจราจรในกรุงเทพฯ กลับติดนิดหน่อยจนถึงโคราช
ทั้งที่ทำใจไว้แล้วว่าแม้จะถึงมุกฯ ก่อนบ่ายก็พอรับได้
นี่พี่ท่านตะบึงซะผู้โดยสารหลับทั้งคั้น"ยกเว้นคนขับจ้า"
หกโมงเช้าแสงอาทิตย์ยังไม่ทันแยงตา ถึงที่หมายแล้ว

ปั่นจาก บขส.มุกฯ(มุกดาหาร) ถึงด่าน ตม.(หัวสะพาน) ราวๆ 8 กิโล

บนสะพานมิตรภาพแห่งที่สอง :
จักรยานห้าม มอไซค์ห้าม สามล้อห้าม
รถติดไฟแนนซ์(ผ่อนยังไม่หมด) ต้องมีหนังสืออนุญาตจากไฟแนนซ์

แต่มีรถ ๙๙ รับส่งระหว่างประเทศวิ่งอยู่ทุกๆ ชั่วโมง
ตั้งแต่แปดโมงเช้ายันหนึ่งทุ่ม

ระดับคุณนายหลอดฯ นะเหรอจะเวิ่นเว้อ
โบกค่ะโบก...ยกขึ้นท้ายกระบะเป็นใช้ได้
ไปได้ทั้งคนทั้งรถ...อิอิ

ขอขอบคุณ:คุณวิศวกรหนุ่มผู้ใจดี ของโค๊กโคราช
--> ค่าผ่านแดนเข้าลาวคนละ 50 บาท ไม่ต้องขอวีซ่า
-->ลาวเป็นหนึ่งใน 36 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า




--------------------------------------------------------------------------------
1 บนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว
2 ประตูผ่านแดนเข้าเมือง ฝั่งลาว

--------------------------------------------------------------------------------


4| | |สะบายดีสะหวันนะเขต| | |3


ให้ห่านจิกเถอะโรบิ้น.. แผนการที่วางไว้ก็พลันมาออกฤษธิ์จนได้

"ค่ำไหนนอนนั่น" สมใจอยากคุณนายหลอดฯ

ค่ำที่สะหวันเขดก็นอนมันที่นี่แหละเพราะมาไม่ทันรถไปชายแดนเที่ยวสุดท้ายของวันนี้คือเที่ยว 12.00 น.
พลาดไปแค่สองสามนาที เพราะเข้าใจผิดว่ารถออก 13.00 น.
เดินแกว่งส้นตรีนมากเกินเหตุ..สม

เอาวะ...กินอาหารของแพปลาแม่น้ำโขงซะหน่อย ยำไข่มดแดง ปลาเนื้ออ่อนทอดกรอบ ส้มตำลาว
คุณนายหลอดควักไปสามร้อยกว่าบาท
คุณนายฯ บ่นอุบอิบ เด็กในร้านบอก ของเกือบทุกอย่างนำเข้าจากมุกฯ

"จะไม่ให้แพงได้อย่างไร"...เอากับมันดิ

ตกเย็นคุณนายเดินดูตลาดสะหวันนะเขด พร้อมหิ้วของติดไม้ติดมือมากินกันที่เกสท์เฮ้าส์
ที่อยู่ตรงสี่แยก บขส.ของสะหวันนะเขด
มีเด็กอายุสิบเจ็ดสิบแปดสองศรีพี่น้องดูแลและเป็นเจ้าของ
อิ่มหนำแล้วได้โอกาสโฆษณาบล๊อกกับเด็กๆ เจ้าของบ้าน
และถือโอกาสโชว์พาว สอนให้เด็กเปิดเมล เปิดบล๊อก เล่นไฮไฟ ใส่รูป
เด็กๆ ถูกใจกันใหญ่ สุดท้ายคุณนายบอกเดี๋ยวจะส่งรูปมาให้ทางเมลนะ

ยังดีที่คุยกันได้ไม่เมื่อยมือสักเท่าไหร่ ภาษาไทยกับลาวใกล้กันมาก
เสาร์ที่ 12 เมษา จึงจบลงด้วยการหลับยาวบนดินแดนสะหวันนะเขด
และได้เพื่อนต่างแดนลูกคุณหมออดีตนักเรียนทุนฝรั่งเศส



--------------------------------------------------------------------------------
1 ร้านอาหารบนแพริมลำน้ำโขง
2,3 อาหารบนแพริมน้ำและอาหารที่หาได้ในสะหวันนะเขด
4 ตลาดตอนเย็นของสะหวันนะเขด
5 เจ้าของเกสเฮ้าส์เพื่อนคุณนายหลอดฯ

--------------------------------------------------------------------------------


เช้าวันอาทิตย์ที่ 13 เมษา ขึ้นรถไปชายแดนเวลา 8.00 น.
คุณนายฯ จองที่นั่งด้านหน้าสุดทันที อาศัยคุยจ้อกับคนขับตลอดทาง
จนไม่ต้องเสียค่าวางจักรยานบนหลังคา
แม้จะนั่งหน้าสุดก็อย่าหวังว่าจะหย่อนขาหรือเหยียดขาได้ เพราะทุกซอกพี่แกเล่นวางของ สาระพัด
ใต้ที่นั่ง ทางเดินกลางรถ ที่วางของ หลังคา ทุกที่ใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น
ในใจก็ภาวนาว่า รถอย่ามาเสียกลางทางให้เสียเวลาเลย
สภาพรถที่เห็น มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอซ่อม...




--------------------------------------------------------------------------------
1 บนถนนสายนี้เจ้าถนนที่แท้จริงคือเจ้าทุยต่างหาก ไม่ใช่สิบล้อแต่อย่างใด
2-3 รถโดยสารระหว่างสะหวันนะเขดถึงชายแดน เซโปน

--------------------------------------------------------------------------------


ถึงกลางทางคนขับบอก

"พักรถ ไปฉี่กันได้"

ไอ้เราก็ร้อนจนจะบ้าตาย ร้อนไม่ร้อนก็ขนาดไทยยังตั้งให้เป็นวันเป็นสงกรานต์เลยคิดดู
ร้อนจนคุณนายฯ ฉี่ทางรูขุมขนไปจนน้ำจะหมดตัวแล้ว..

ยังครับยัง ...ยังไม่ใช่จุดประสงค์ของการจอดที่แท้จริง
โชเฟอร์กะจะโชว์สัตว์ป่าของลาวต่างหาก
แต่ทำยังกับพี่แกไปค้นพบความลับจักรวาลเข้า

กะจะเซอไพร้สให้เหวอไปเลยละมั้ง
อยากจะโชว์กันจะๆ ขายกันสดๆ ทั้งเป็นๆ ตายๆ และแล่เป็นเนื้อมาแล้วก็มี
พี่แกเล่นยกนั่นยกนี่ให้ดู ให้ถ่ายรูปได้สะดวก
มีพูดขู่-สำทับแม่ค้า อย่ามาหืออือกับแกอีกต่างหาก




--------------------------------------------------------------------------------
1 นกแก้วเด็ก ทำตาปอกๆ บ้องแบ้ว
2,3,4,5 สัตว์ป่าและของป่าทั้งที่ยังสดๆ และแปรรูป
6 อีเห็นตัวเป็นๆ นอนขดกันอยู่ ฯลฯ และยังมีภาพสัตว์ที่เขาวางขายอีกหลายชนิด
เอาไว้โอกาสหน้าจะมานำเสนอเพิ่มเติม

--------------------------------------------------------------------------------





--------------------------------------------------------------------------------
1 ลูกพี่ใหญ่โชว์ตะกวดป่า เห็นขดอย่างนั้นยังไม่ตายนะ
2 ฝนกระหน่ำรับลมร้อน

--------------------------------------------------------------------------------



ยังครับยังไม่พอ พี่แกใหญ่สุดในรถ ทุกครั้งที่ชาวเวียดขึ้นรถเพื่อโดยสารไปชายแดน
พี่แกก็จะตะโกนล้อเลียน เป็นภาษาเวียดเท่าที่แกพอจะนึกได้
พร้อมหัวเราะเอิกอ้ากถูกใจ...กั๊ก กัก กัก

แกเล่าว่า คนเวียดขายของไม่มีมนุษยธรรม
(คนลาวจะเรียกคนเวียดนามว่าคนเวียต บางคนเรียกแกว)

"ใครพูดเวียตไม่ได้เป็นโดนโก่งราคาสองเท่าสามเท่า
พกเงินร้อยบาทข้ามฝั่งมาซื้อหอยแครงที่มุกฯ โลยี่สิบบาท
กินอิ่ม มีตังต์เหลือซื้อของฝากลูก
เงินจำนวนเดียวกัน ข้ามไปเวียด ได้ของอย่างเดียวแต่
สูญเงินหมดตรูด..ทั้งๆ ที่มันขายกันเองถูกแสนถูก"

"เวียดมันไม่นับญาติกับใครนอกจากพวกมันเอง"แกระบายความอัดอั้น


รถวิ่งครอสคันทรี่จากสะหวันนะเขดถึงเซโปน/ลาวบาว ถึงเอาตอนบ่ายโมงกว่า
(เซโปน-เมืองชายแดนของลาว/ลาวบาว-เมืองชายแดนของเวียดนาม)
ถ้าฝนไม่ตกคงถึงเร็วกว่านั้นกับระยะทาง 268 กม.

หลังจากจ่ายค่าธรรมเนียม/ตรวจเอกสารเสร็จเราก็เริ่มปั่นจากที่นี่เลย
(ค่าผ่านแดนคนละ 40 บาท และไม่ต้องวีซ่า)




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 9:56:50 น.
Counter : 1631 Pageviews.  

ซินจาวเวียดนาม--> ฮัลโหล ลาวบาว


4| | |ฮัลโหลลาวบาว| | |3




--------------------------------------------------------------------------------
ด่านลาวบาว ประตูสู่เวียดนามกลาง
--------------------------------------------------------------------------------


ทันทีที่เข้าเขตลาวบาว(จังหวัดหนึ่งของเวียดนาม)

บ้านเรือนก็แปลกตา พืชที่ปลูกก็ต่างจากฝั่งลาวไปคนละแบบ
ยิ่งภาษาพูดด้วยแล้ว การสื่อสารเกิดอาการช๊อกสนั่น ติดขัดทุกประการ
ยังไม่ต้องตกใจ ...ระดับคุณนายหลอดฯ มีเหรอจะพลาดเพราะเรื่องแค่นี้
เครื่องมือประกอบการรักษาสะดือจุ่นให้คงเนียนสวยต้องนี่เลย

"เครื่องคิดเลขกับหนังสือภาษาเวียดนาม"

ต่อราคาเหรอ คุณนายฯ ถกสะโหร่งกดเครื่องคิดเลขฉับๆ ..
หงายให้ดูแทนการต่อราคา เพราะรู้แก่ใจว่ามันโก่งราคาเราแน่
เอาไม่เอา..ว่ากันตามตัวเลขที่อยู่ในเครื่องเลย
อยากแลกตังค์ใช่ไหม นี่เลยกางหนังสือภาษาเวียด

"อ่านค่ะอ่าน...อ่านออกป่าว" ชี้ให้อ่านเองเป็นบรรทัดเลย

เดินหาอาหารหลักมื้อแรก คุณนายเห็นเขียนว่า restaurant
ไวเท่าความคิด คุณนายส่ายก้นอาด..อาด..อาด เข้าไปสั่งทันที
เด็กมันชี้โบ้ชี้เบ้ บอกยังไม่เปิดซะงั้น ..ฮ่วย
นี่มันกลางวันแท้ๆ แล้วตรูจะยัดห่านอะไรล่ะนี่..กั๊ส...กั๊ส

จนตอนเช้าถึงได้รู้ว่าเราเข้าใจผิดไปเอง ที่จริงเขาเปิดแต่ต้องจองล่วงหน้า...นั๊น...
มันบอก ต้องจองล่วงหน้า แต่ในร้านไม่มีลูกค้าซักคน..เอ๊ะอย่างไงของมัน..

ด้วยความแค้น คุณนายสั่งเฝอมากินซะเลย
(เฝอ:อาหารเวียดนามประเภทเส้นก๋วยเตี๋ยว)

แต่ไม่ได้กินเฝอหรอก เด็กในร้านเอามาม่าต้มใส่ไข่มาให้สองซาม
เราก็กินกันอย่างอร่อยชนิดที่แทบไม่เหลือน้ำในชามไว้ให้ดูต่างหน้า
หารู้ไม่ มันฟันคุณนายฯ ไป หนึ่งร้อยบาท
สำหรับมาม่าสองซอง ใข่สองใบ ใส่ในน้ำร้อนสองถ้วย
เดินออกจากร้านด้วยรอยแผล เลือดไหลซิบๆ
เป็นไงด่องเวียดเริ่มออกฤทธิ์แล้วไหมล่ะ..กร๊ากกก..



--------------------------------------------------------------------------------
ถนนเลาะไหล่เขาสวยไม่แพ้ไทย
--------------------------------------------------------------------------------





--------------------------------------------------------------------------------
แก่งหิน ส่วนหนึ่งของแม้น้ำ หน้าแล้งแล้วยังใหลแรง
--------------------------------------------------------------------------------




--------------------------------------------------------------------------------
นี่ก็ไหล่เขา ด้านขวาเป็นแม่น้ำในหุบ ข้างหน้าเป็นสะพานโฮจิมินท์บนถนนหมายเลข ๙
ข้อมูล:thaimtb.com
--------------------------------------------------------------------------------



เช้าวันที่ 14 เมษา เราก็เริ่มปั่นจริงจัง มุ่งสู่ดองฮา
ผู้คนยิ้มแย้มเมื่อเจอเรา พากันส่งเสียงทักทาย

"Hello....Hello"

ไม่เว้นตั้งแต่รุ่นแบเบาะทรงตัวยังไม่มั่น ลามไปยันแก่ชราลายวงปีเต็มหน้า
เป็นอย่างนี้ตลอดทางและตลอดสี่วันในดินแดนเวียดนาม

เข้าใจว่าเพราะเราใส่เสื้อลายตุ๊กแกสีสันจัดจ้าน
และปั่นจักรยานเท่าเทียมกับพวกเขา
เขาถึงแสดงความอยากเป็นมิตรด้วย

...

สิ่งหนึ่งที่คุณนายตั้งใจไว้ว่าอยากไปดูให้ได้คือโรงเรียนชาวเวียด
แล้วโรงเรียนอยู่ไหนล่ะ...
ระดับคุณนายหลอดมีเหรอจะหาไม่เจอ

คุณนายตีโค้งเข้าประตูรั้วตามหลังเด็กที่เห็นหลังอยู่แว๊บๆ
นักเรียนกำลังเรียนกัน ทั้งโรงเรียนจึงค่อนข้างเงียบ
(เดือนเมษาเมืองไทยปิดเทอมแต่เวียดยังไม่ปิด)

คุณนายพูดคุยกับครูอยู่หลายคำ ภาษาอังกฤษก็แล้ว ภาษามือก็แล้ว
จนครูพาเข้าไปห้องพักครูพร้อมเสิร์ฟชาฝาดเผื่อนหอมกรุ่นเย็นๆ
ก็ยังคุยอะไรกันไม่ได้เรื่องได้ราว ซักพักครูภาษาอังกฤษก็มาถึง
ค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย
คุณนายบอกแค่ขอถ่ายรูปสองสามรูปจะได้ไหม
ปรากฎว่า "ได้ตามคำขอ"

ครูบอกกำลังสอนภาษาอังกฤษเด็กเกรดเก้าอยู่
ในหัวข้อ Our Planet ไปคุยกับศิษย์เขาหน่อยไหม
วิญญาณนางงาม"รักเด็ก" ประทับทรงคุณนายในทันที

พอโผล่หน้าเข้าชั้นเรียนเท่านั้นแหละ
... กรีสสสสสสสส ...ยาวสนั่นไปทั้งตึก
คุณนายกลายเป็นนางเอก เรียกเสียงฮาเป็นระลอก

"How are you?"

"I'm fine,thank you."

คำทักทายภาษาสากล ฝึกพูดกันทุกชาติ
แนะนำตัวกันพอประมาณ ด้วยภาษาประกิตอันจำกัดของเรา

"I am a tourist."

"We are from Thailand."

"We are on the way to Dongha and then to Heu by bicycle."

"We are happy to visit the classroom."

"Your country is very beautiful."

"...Bla...Bla"

หลังผ่านมรสุมเสียงกรี๊สมาหมาดๆ คุณนายก็ตัดสินใจที่จะส่งปากกาซักหลายโหลมาให้ใช้
และจะส่งรูปให้ทางอีเมล ด้วย
เรื่องราวการเยี่ยมชมโรงเรียนให้เข้ามาดูได้ในเวบ จะนำเสนอไว้ในเวบบล๊อก

ครูบอกว่าเขาและเด็กๆ คงไม่ได้ดูหรอก
อินเตอร์เนตของโรงเรียนสงวนไว้สำหรับครูใหญ่



--------------------------------------------------------------------------------
1 ห้องพักครู มีกระดานแจงผลการประชุม
2,3 ภายในห้องเรียนภาษาอังกฤษ
4 นักเรียนสองคน ;-)

--------------------------------------------------------------------------------




--------------------------------------------------------------------------------
1 ช่วงพักเที่ยงนักเรียนจะกลับบ้าน 1 ชั่วโมง
2 ประชันรอยยิ้ม
3 คุณนายกับเด็กประถม
4 สองสาว say "hallo"

--------------------------------------------------------------------------------





--------------------------------------------------------------------------------
เด็กเกรดไนน์กับชุดนักเรียนของเขาแถมต้องพกเก้าอี้ส่วนพระองค์ไปเรียนด้วย
--------------------------------------------------------------------------------




--------------------------------------------------------------------------------
นี่ไฮฮ์สคูลกับชุดอ๋าวหย่ายขาวสะอาดตา คนกลางใส่แว่นน่าจะเป็นนักเรียนนอก(คอก)โดดเรียนแน่เลย
--------------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 30 เมษายน 2551    
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 9:59:11 น.
Counter : 1414 Pageviews.  

ซินจาวเวียดนาม--> ฮัลโหล ดองฮา


4| | |ฮัลโหล...Dongha| | |3


ชาวเวียด บีบแตรกันเป็นที่สนุกสนาน
ถ้าไม่บีบแล้วมันพาลจะหายใจไม่ออกหรืออย่างไร
แรกๆ ปั่นๆ อยู่ไหล่ทางของถนนสายหลัก พี่แกเล่นบีบเสียงดังสนั่น
ไอ้เราก็ตกใจ เกือบเอาชีวิตน้อยๆ ไปทิ้งสุสานข้างทาง
ถ้าเป็นที่เมืองไทยเห็นทีต้องตามไปด่าให้หูชา..

ไม่ใช่อะไรหรอก เราไม่ได้ทำผิดกฎ หรือขับขี่ให้หวาดเสียวหว่างขาของใคร
แต่เขาบีบแตรสารพัดเสียงให้เรารู้ตัวว่ามีรถตามมาและกำลังจะแซง
คันไหนไม่บีบคือเขาไม่แยแสเรา หรือไม่ก็รถต่างถิ่นไม่รู้ธรรมเนียม


ดองฮา เป็นเมืองที่เป็นทางผ่าน อยู่ระหว่างลาวบาวกับเว้
การปั่นจะพอเหมาะที่จะพักขาที่นี่หนึ่งคืน

เส้นทางจากลาวบาวถึงดองฮาจะลงเขาตลอด
ถนนดี ค่อนข้างลาดไม่ชันมาก บางช่วงไม่ต้องแตะเบรกเลย
ถ้าออกปั่นแต่เช้าสามารถปั่นจากลาวบาวผ่านดองฮาถึงเว้ได้ในวันเดียว

ทางจากดองฮาถึงเว้เป็นทางเรียบ ไม่มีเนินเขาให้ลองกำลัง
รถเยอะและค่อนข้างวิ่งเร็ว
มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ 22 ล้อ วิ่งสวนกันให้เสียวเล่น
ถนนส่วนใหญ่ขนานไปกับทางรถไฟ


--------------------------------------------------------------------------------
1 คุณนายกับดอกหญ้าข้างทาง
2 ริมถนนขุดๆ ซ่อมๆ เหมือนประเทศไหนก็ไม่รู้
3 เส้นทางริมตีนเขา

--------------------------------------------------------------------------------






--------------------------------------------------------------------------------
1 พื้นดินเป็นดินทราย สีขาวยังกะชายหาด
2 สะพานรถไฟระหว่างดองฮากับเว้
3 เนินทรายริมน้ำปลูกข้าวโพด มีซากหอคอยหลงเหลือจากสงคราม

--------------------------------------------------------------------------------






--------------------------------------------------------------------------------
1 ยัดเข้าไป!! ยัดอีก~ ยัดอีก
2 เย้~!! เต็มแล้ว ทนๆ หน่อยนะพวก
3 ที่อยู่ส่วนตัว ไม่ต้องแย่งกับใคร อิอิ

--------------------------------------------------------------------------------






--------------------------------------------------------------------------------
ชาวนากับควาย ต่างพึ่งพากันและกัน.
--------------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 26 เมษายน 2551    
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 10:03:54 น.
Counter : 605 Pageviews.  

ซินจาวเวียดนาม--> ฮัลโหลเว้


4| | |ฮัลโหล...Hue| | |3



HUE (เว้) เป็นเมืองเก่า จนป่านนี้ยังไม่เข้าใจว่ามันอ่าน "เว้" ได้อย่างไร
แม้แต่คนพื้นถิ่นที่พอรู้ภาษาอังกฤษก็อ่าน เว้ และบางคนตัดรำคาญก็อ่าน "เฮ้ "
ฝรั่งบอก "ฮิ๊ว" ...ตามแต่จะสะดวกออกเสียง






--------------------------------------------------------------------------------
1 น้ำอ้อยคั้น ผสมส้มจี๊ด เครื่องดื่มช่วยชีวิตที่พบเจอได้ตลอดทาง
2 แก้วลายจุด สัญลักษณ์ร้านอาหารทุกที่เหมือนกันหมด
3 ฉ๋าว:ข้าวต้มไก่บ้านเรา
4 คุณยายหาบแจ้มาขายริมถนนข้างวังเก่า คนนี้ไม่มีโก่งราคา(แจ้:ขนมหวานใส่น้ำแข็ง)
5 แผงลอยขายแจ้หลายชนิด
6 แจ้ในแก้วพร้อมเสิร์ฟ

--------------------------------------------------------------------------------






--------------------------------------------------------------------------------
1 เรือไม้ไผ่สานทาเคลือบด้วยยางมะตอย
2 ชาวเรือในคลองใช้ผ้าใบขึงรับลมแทนการพาย
3 ชาวนากำลังทำงาน
4 แปลงผักที่ปลูกสารพัดผักในแปลงเดียวกัน

--------------------------------------------------------------------------------






--------------------------------------------------------------------------------
เด็กน้อยยิ้มร่า วิ่งมาหาเราให้ทันเพื่อนๆ
--------------------------------------------------------------------------------







--------------------------------------------------------------------------------
เหล่าเด็กและผองเพื่อนที่มะรุมมะตุ้ม
--------------------------------------------------------------------------------







--------------------------------------------------------------------------------
เบื้องหลังการถ่ายทำ
--------------------------------------------------------------------------------







***

วันนั้นคุณนายชวนปั่นดูบ้านเรือนชาวเวียด
พลันมานึกขึ้นได้ว่าเรายังไม่มีตั๋วรถกลับบ้านเลย
ครั้นจะปั่นย้อนกลับทางเดิม พอคิดถึงเส้นทางแล้วก็เหนื่อยใจ
เส้นทางมีแต่จะขึ้นเนินขึ้นเขา วันลาก็มีแต่จะบีบคั้นเข้ามา
ตัดสินใจไปถามที่โรงแรมได้นามบัตรบริษัทขายตั๋วรถมา
จริงๆ อ่านไม่ออกหรอก --" แต่ไปถูก..หุหุ..

ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำหอมไปถึงหน้าบริษัทก็ตรงรี่เข้าไป
สายตาคุณนายหลอดฯ เห็นฝรั่งหัวดำ-หัวทองเดินกันวุ่น
คุณนายหันมาสบตากับผม เดาได้แล้วว่าเป็นบริษัทขายทัวร์
จากที่ได้ประสบมา ผมรำพึงในใจ:

"โดนเข้าแล้ว...โดนหลอกสูบเงินจากเราอีกแล้ว..ชัวร์"

ผมก็ลังเลยึกยัก เข้าไปถามหรือไม่เข้าดี
คุณนายผู้กุมบังเหียนพลันมาดันหลัง

" ไป...เข้าไปถามให้รู้เรื่อง"

ผมกล้าๆ กลัวๆ เดินเข้าไปถาม พนักงานคนแรกน่ารักดี

"I want to go to Laobao."

"I Want 2 tickets for 2 persons with 2 bicycles?"

น้องนางเชคตารางเวลา โทรถามโน่นถามนี่ วุ่นวายไปหมด
ยังดีที่คุณน้องนางท่องบทไว้เยอะจึงพอคุยกันรู้เรื่อง
ถ้านอกบทก็ใช้ภาษามือเข้าช่วย
ยังไม่ทันจะได้เรื่องได้ราวก็มีฝรั่งมาถามแทรก กลายเป็นผมต้องนั่งเก้อ รอคำตอบ

รออยู่นานจนฝรั่งเดินคอตกออกไปแล้ว น้องนางจึงหันมาทางผม
คงเพิ่งนึกได้ว่าคุยค้างกับผมอยู่ แต่เธอหน้าตาดีผมให้อภัย ^_^

หากแต่คุณนายผู้เป็นกองหลังมองผมอยู่
รอนานจนเริ่มขมวดคิ้วแล้ว -"-
อากาศยิ่งร้อนเป็นทุนเดิมอยู่ด้วย คุณนายกระดกน้ำเข้าข่ม ไปอีกสองแก้ว

"You must buy 2 tickets per one bicycle."

น้าน~นน ว่าแล้ว ...
คุณน้องนางให้ซื้อตั๋วสองใบต่อจักรยาน 1 คัน และตั๋วคนอีกคนละใบ
นั่นคือผมต้องซื้อตั๋ว 6 ใบ สำหรับสองคนและจักรยาน
ผมต่อรองอยู่นานจนน้องนางชักรำคาญ เรียกหาตัวช่วยทันที

สมดังใจนึก ตัวช่วยคนนี้พูดเร็วหูดับตับไหม้ !!!
พี่น้องลองคิดดู คุณเธอพูดเร็วแล้วยังออกสำเนียงแบบเวียดของแท้
ผมก็งง เหรอหราจิครับ...แต่ก็ยังคงต่อรองไม่ลดละ

"ลดให้นิส~ส์ นุง ^^ .. นะนะๆ ..please"

ผมต่อรองราคาลงเรื่อยๆ มาหยุดไม่ขยับอยู่ที่ 15 usd
สองคนรวมเป็น 30 usd แต่ต้องนั่งตบยุงรอต่อรถที่ดองฮา
ผมหันไปถามคุณนายว่าเอาไง...
คุณนายยืนยันคำเดียวจะเอารถประจำทาง ดานัง-สะหวันนะเขต/320 บาท เท่านั้น
จะเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้...
ผมก็เริ่มเกร็งๆ คนนี้จะขายอย่างนี้ คนซื้อก็อยากได้อีกอย่าง

จนผมทำท่าจะไม่เอา ตัวช่วยที่กล่อมผมอยู่นานก็เริ่มสับขาหลอกอีกรอบ
คราวนี้บอก ราคาเดิมแต่มีที่พักเป็นเกสต์เฮ้าแถมให้ด้วย
ถ้าเอาห้องติดแอร์ คิดเพิ่มอีก 5 usd

คราวนี้คุณนายกุมขมับเริ่มงงกับลีลาสับขา...
พลันงัดเครื่องยังชีพมากดฉับๆ (:เครื่องคิดเลข) มาหยุดที่ 10 usd
เกินกว่านี้คุณนาย "เซโน" ทันควัน

ยังไม่ได้ลาน้องน่ารักคนนั้น...คุณนายก็หิ้วปีกผมออกจากร้านไปซะแล้ว


--------------------------------------------------------------------------------
ทะเลอ่าวตังเกี๋ย
--------------------------------------------------------------------------------






--------------------------------------------------------------------------------
เสาทางเข้าสุสาน
--------------------------------------------------------------------------------







--------------------------------------------------------------------------------
ชาวเวียดปลูกข้าวกันมาก ไม่เว้นว่าเดือนไหน
--------------------------------------------------------------------------------



ความจำเป็นต้องกลับไทยให้ทันเช้าวันศุกร์ ทำให้ต้องดั้นด้นไปหารถกลับให้ได้
เช้านั้นคุณนายสั่งให้ต้องไปจองตั๋วรถตั้งแต่หกโมงเช้า
พอเข้าไปสถานีขนส่งของเมืองเว้เท่านั้นแหละ
ชาวเวียดก็มะรุมมะตุ้มเป็นฝูงอีแร้งลงในทันที

รู้หรือไม่ว่าหนุ่มชาวเวียดเล่นซดเบียร์กันแต่เช้าเป็นเรื่องปกติ
เรื่องสอดรู้สอดเห็นยิ่งได้ใจเข้าใส้
พอเห็นหมวกสีสดแปลกตา ก็เข้ามาหยิบดูแระ..

มันก็พูดอีโล่งโฉ่งเฉงให้เพื่อนมันฟัง

"เป็นไงเบาดีม่ะ" ผมนึกในใจ

คนที่สองรับต่อเหมือนวิ่งผลัด รายนี้เล่นบิง้างดูเลย

"เป็นไงแข็งแรงพอม่ะ" ผมพูดเริ่มหวั่นๆ แล้ว

ตกถึงมือรายที่สามเท่านั้นแหละ พวกเล่นเคาะฟาดกับพื้นปูน ป้าบ ป้าบ ป้าบ

ผมก็ "เฮ้ย...ไรวะ.. ทำงี้ได้ไง" มันฟังไม่รู้เรื่องหรอก
แต่เห็นสายตาผมกำลังคุ มันก็ส่งคืนมาในทันที
ดีที่ยังพอรู้ภาษาคน ไม่งั้นได้หัวทิ่มอีกราย
จากนั้นสองชีวิตน้อยๆ จากเมืองไทยก็อย่าหวังว่าจะออกไปพ้นจากสถานีนี้ได้





--------------------------------------------------------------------------------
ถึงเว้ต้องไม่พลาดมุมนี้
--------------------------------------------------------------------------------






--------------------------------------------------------------------------------
มียามรักษาการณ์ที่หน้าประตูวังด้วย ดูท่ายืนมันดิ..ยืนได้ห้านาทีก็เกินคนแล้ว
--------------------------------------------------------------------------------



สรุปนับจากเหยียบย่างแผ่นดินเวียด
คุณนายฯ ควักตังค์ไม่เกินสี่พันบาท กับสี่วันสี่คืนของสองชีวิต


4| | |ตัมเบี้ยด...Vietnan| | |3


<...ลาก่อนเวียดนาม ...>
ขากลับคุณนายถอดจักรยานขึ้นรถตู้จากเว้ถึงลาวบาว
ออกแปดโมงเช้าถึงปลายทาง สิบเอ็ดโมงครึ่ง
ตรวจเอกสารจ่ายตังค์เข้าลาวแล้วต่อรถที่นี่มุ่งสู่สะหวันนะเขต
ถึงสะหวันนะเขตหกโมงเย็น ทันรถข้ามแดนเที่ยวสุดท้ายพอดี

<...ลาก่อนลาว ...>


กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยนี่มันสวรรค์ชัดๆ
ยังครับยัง.... นรกยังไม่สิ้นสุด....
เด็กรถเรียกเก็บค่าซุกจักรยานที่ถอดล้อแล้วไว้ใต้ท้องรถในราคาสองเท่าของคน
และคนต้องจ่ายต่างหาก มันอะไรกันนี่ จะขูดรีดกันไปถึงไหน ...
(สำหรับคนคิดคนละ 45บ.ล่วงเวลาคิด 50 บาท/ข้ามแดน)

ต่อรองแค่ไหนก็ยังยืนยันคันละร้อย
คุณนายฯ ควันออกหู กรี๊ส กริ๊ส..

"ถ้าจ่าย...ต้องออกตั๋วให้ด้วยนะ"

มันยังมีหน้ามาบอกอีกว่า ตั๋วให้ไปเอาที่นายท่า

"ได้เลย" คุณนายบอก

"ถึงแล้วพาไปเอาด้วยนะ" ว่าแล้วก็ดุ่มๆ ไปหาที่นั่งบนรถ

จนถึงด่านไทย เด็กรถ เดินมาบอกด้วยท่าทีอ่อนลงมาก

"ผมไม่เอาแล้วนะค่าวางรถ ..เที่ยวนี้ให้วางฟรี"

ว่าแล้ว...บขส.ไม่เอาเปรียบผู้โดยสารขนาดนี้
เด็กรถเป็นไปเองต่างหาก เล่นอ้างนายทางนายท่า
หารู้ไม่คุณนายฯ ทำสำรวจให้ บขส.ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

สุดท้ายคุณนายฯ ควักให้คนขับอีกหนึ่งร้อยโดยไม่ขอรับตั๋ว
แม้คนขับจะปฏิเสธ จนต้องบอกว่า ฝากไว้ให้เด็กรถ
อย่างน้อยเขาก็มีน้ำใจช่วยยกรถให้...
ดีไม่ดีเขายังต้องเลี้ยงเมียสอง-ลูกสาม
หรืออย่างน้อยก็เหลือที่ในสังคมให้เขาได้ยืนบ้าง
(แม้ว่าน้ำหนักรถรวมสัมภาระแล้วจะไม่เกินคันละสิบห้ากิโลฯ )








 

Create Date : 26 เมษายน 2551    
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 10:07:13 น.
Counter : 971 Pageviews.  


=Lord Gary=
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








จักรยานมีดีตรงไหน??

>>ได้กินลมชมบรรยากาศ
เห็นวิถีชาวบ้านในต่างถิ่น...
เห็นพืชพรรณเฉพาะถิ่นที่อยู่ข้างทาง
บางทีการไม่มีอะไร
มาครอบเป็นหลังคา
การได้อยู่กลางทุ่งโล่ง
หรือได้ยืนบนยอดดอยสูง
ก็ทำให้เรามองฟ้าได้กว้างขึ้น

ทุกที่ที่ผ่านจะมีชาวบ้าน
โบกไม้โบกมือให้
แม้แต่เด็กยังตะโกน
"เฮ้ย..ฝรั่ง มา.."
"คนไทยครับ"
ผมตะโกนตอบ
คุณป้าสวมงอบสะกิดคุณลุง
ที่ขับอีแต๋นอยู่ข้างทาง
"ดูสองคนนั้นมัน..บร้า..
ถีบจักรยานกลางฝนอยู่ได้"

"เรานี่...ท่าจะบ้าจริง
ดังที่ป้าเขาว่าแน่ๆ"

>>มีคนกล่าวไว้ว่า...
ชีวิตนี้เกิดมาครั้งเดียว
ถ้าได้ทำสิ่งที่...อยากทำ
และได้ทำสิ่งที่...ไม่เคยทำ
ดั่งนี้แล้ว
ชีวิตนี้จะเอาอะไรอีก...




Friends' blogs
[Add =Lord Gary='s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.