Street Kings




....อร๊ายยยยย....

ได้ดูแล้ว

ชอบด้วยล่ะ
(...แหะ...)

คุณพี่คี เล่นบทโหดที่สุดเท่าที่แองจีเคยเห็นเลยแหละ
เผลอทีไร คุณพี่ ก็เปรี้ยงใส่ ทุกที
แถมใช้อาวุธได้ทุกประเภท ซะด้วย
บท นักสืบทอม ลัดโลว์นี่มัน เครื่องจักรสังหาร แท้ๆ
ปกตินะ หนังพันธุ์โหดแบบนี้ แองจีไม่ชอบดูหรอกฮ่ะ
มันก้าวร้าวเกินไป แต่นี่ เป็นหนังของ เพ่ คี





อะไรๆ จี้ ก็ ทน ได้



ใครยังไม่ดู รีบไปดูซะนะฮะ

ส่วนบล็อกStreet Kingsอันนี้
เอาไว้แผ่นมาสเตอร์ออกเมื่อไร
แองจีจะมาแก้ไขให้ดีกว่านี้ จ้ะ

วุ้ย ... ปลื้ม




 

Create Date : 23 เมษายน 2551    
Last Update : 23 เมษายน 2551 15:23:47 น.
Counter : 836 Pageviews.  

Point Break : 1991


รำพึง
กว่า"จ่าTom Ludlow"จะโผล่มาให้ยล
แองจีก็ใกล้-จา-ดิ้ง-ตาย-เลี้ยวววววว
ไปคว้า"เจ้าหน้าที่John Utah"มาเชยชมก่อน..ดีกั่ววว


คำเตือน


บล็อกนี้เล่าเรื่องหนังซะเกลี้ยงเกลา, ..หมดจด, ..ยังกะเครื่องซักผ้า
หากท่านเกรงจะเสีย-อรรถรสในการรับชมหนังเรื่องนี้..., ควรงดอ่าน



แองจี-เล่า

เจ้าหน้าที่เอ๊ฟบีไอจอห์น ยูท่าห์, ผู้ทำคะแนนยิงปืนแม่นเต็มร้อยปูเซ็ง

ถูกกำหนดให้ไปรับเคสยิ่งใหญ่ที่ยังเคลียร์ไม่ได้ ที่ลอสแองเจลิส
คดีที่หน่วยตำรวจสืบสวนกลางต้องยื่นมือลงมาเอี่ยวครั้งนี้ คือคดี
"อดีตประธานาธิบดีอเมริกา-ปล้นแบงค์"

คิ..คิ

คดีอดีตประธานาธิบดีปล้นแบงค์ ที่ว่านี้ ไม่ใช่ท่านex-presidentตัวจริง แต่เป็นคณะโจรห่าม(แปลว่า มันบ้าๆเพี้ยนๆ)4นาย ที่ใส่สูทอย่างดีกับหน้ากากยางรูปหน้าอดีตประธานาธิบดีของอเมริกาเข้ามากวาดเงินที่เคาน์เตอร์แบงค์อย่างรวดเร็ว แล้วเผ่นหนีไปโดยไม่ทำร้ายใคร และยังจับผู้ต้องสงสัยไม่ได้แม้พวกมันจะลงมือปล้นไปแล้ว 30ครั้งใน3ปีก็ตาม !

จอห์น ยูท่าห์ทำงานนี้ร่วมกับ
เจ้าหน้าที่-แองเจโล แพ็บพา-FBIรุ่นลุง ที่ลงพื้นที่มาก่อน แล้วพบเบาะแสว่า แก็งค์ประธานาธิบดีนี้ น่าจะเป็นพวกจิ๊กโก๋โต้คลื่นที่นอนเกลื่อนหาดอยู่แถวนั้น

แนวคิดของแองเจโล ไม่ถูกใจสารวัตรฮาร์พที่ดูแลคดีนี้ แต่ยูท่าห์เอาด้วย(สงสัยหาเรื่องเที่ยวในเวลางานนะ พ่อจอห์นนี)

นั่นทำให้ จนท.ยูท่าห์ใช้การโต้คลื่นเป็นการหาเบาะแสโจรปล้นแบ็งค์ และด้วยความที่มุ่งมั่นเอาจริงมาก จนท.ยูท่าห์ก็เลยเข้าหาเป้าหมายคนแรก
เป็นหญิงสาวผมดำตาฟ้าชื่อไทเลอร์ที่เป็นเซียนด้านโต้คลื่น เพื่อให้เธอพาเขาเข้าไปในแวดวงนักเซิร์ฟ

และแล้ว, ทุกอย่างก็เริ่มเข้าเค้า นักเซิร์ฟบางคนมีประวัติอาชญากรรมยาวเป็นหางว่าว บางคนเป็นมืออาชีพ บางคนเป็นมือใหม่ และในท่ามกลาง..บรรดาขาโจ๋เหล่านั้น จอห์นนีได้พบกับ
โบดี้--เทพเจ้าของชาวเซิร์ฟและสาวกไม่กลัวตายของเขา

คนบางคนพูดว่า ผีที่อยู่ในตัวเรามักมองหาพวกเดียวกันพบ ไม่ว่ามันจะซ่อนอยู่ในคนแบบใดก็ตาม เมื่อใดที่เราสบตาใครบางคนแล้วคุยด้วยสักสอง-สามประโยค ผีแบบเดียวกันจะจำเพื่อนของมันได้, นั่นอาจใช้ได้ดีกับกรณีของ โบดีและยูท่าห์ เพราะแม้ว่าโบดีจะมีเพื่อนร่วมซิ่งที่พร้อมผจญภัยและโต้คลื่นร้ายอยู่กับเขาแล้วหลายคน แต่ทันทีที่เขาเห็นจอห์นนี ยูท่าห์ เขาก็รู้ว่าเขาได้พบไอ้บ้าที่ระห่ำพอๆกัน ผู้ที่จะทำให้อดรีนาลีนของเขาวิ่งพล่านมากยิ่งขึ้นแล้ว

โบดีอ้าแขนรับจอห์นนี ยูท่าห์เข้าก๊วนโต้คลื่น แม้จะขัดใจนิดหน่อยที่ยูทาห์เป็นชายที่ไทเลอร์-ผู้หญิงคนเก่าของเขาหลงรัก

ไปๆมาๆ จนท.ยูทาห์ก็เลยได้ผจญภัยสามเด้ง
*ทั้งสืบสวนคดีปล้นแบงค์ตอนกลางวัน
*โต้คลื่นแรงๆยามค่ำกับโบดี
*แล้วก็เล่นกายกรรมยามดึกกับน้องไทเลอร์
(....คุณผู้อ่านอย่าสงสัยนะฮะ ว่าอิ-จอห์นนี มันเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เชิญชมมัดกล้ามและแผงอกล่ำบึ้กของผู้รับบทนี้ ที่ชื่อ คีอานู รีฟส์ซะก่อง ...)

ผู้ต้องสงสัยก๊วนแรกที่ยูท่าห์ดำเนินการจับกุม เป็นจิ๊กโก๋โต้คลื่นสี่ตัวที่มีประวัติค้ายาและอาชญากรรม หลังการดวลปืนเลือดเดือดและผู้ต้องหาเสียชีวิตไปหลายคน ยูท่าห์พบว่า แม้แก๊งค์นี้จะทำผิดกฏหมายแต่พวกมันไม่ใช่"อดีตประธานาธิบดีอเมริกา-ปล้นแบงค์"

ดังนั้น ทั้งเขาและแองเจโลนอกจากจะโดนเจ้านายด่า ก็ยังเสียหน้าเป็นอันมาก อย่างไรก็ดี, ยูทาห์ค่อนข้างแน่ใจว่า แก็งค์ประธานาธิบดีกำลังจะปล้นแบงค์อีกครั้งหนึ่ง และเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ในแถบนั้น เพราะฤดูโต้คลื่นกำลังจะจบย่านแปซิฟิค แล้วไปเริ่มที่ส่วนอื่นของโลก เขาพาแองจี้ เอ๊ยย แองเจโลไปดักรอพวกโจรที่หน้าธนาคารแห่งนั้น

สมมติฐานของยูทาห์ไม่ผิด เขาพบพวกมันขณะวิ่งออกมาจากแบงค์หลังปล้นเงินเสร็จ
แองเจโลเอารถไล่ตามโจรทั้งสามที่แยกไป
ขณะที่จอห์นนีวิ่งตามหัวหน้าโจรไปอย่างกระชั้นชิด
วิ่ง วิ่ง วิ่ง
วิ่งเข้าบ้านชาวบ้าน
วิ่งตัดถนน
วิ่งข้ามรั้ว
วิ่งทั้งๆที่ปืนก็อยู่ในมือของจอห์นนี แต่เขาไม่ยิง
วิ่งจนวิ่งไม่ทัน
ทั้งๆที่ ยิงปืนแม่น 100% แต่ไอ่จอห์นนี ยูทาห์ก็ไม่ยิงเจ้าโจรนั่น
จนกระทั่ง
มันปีนรั้วหนีไป และจอห์นข้อเท้าแพลงเพราะโดดจากที่สูง

ยูทาห์กระหน่ำปืนขึ้นฟ้า แล้วตระโกนลั่น "แแแมร่ง ...เอร๊ยย...."
---
บ้า ไหม ล่ะ นั่น
---


หลังเหตุวิ่งตามผู้ร้ายจนข้อเท้าพลิก
จอห์นนีถูกแองเจโลด่าไปสามสี่คำ แต่สายตาของเอฟบีไอแองเจโลนั้น อยากบีบคอคู่หูรุ่นน้องซะมากกว่าที่มีโอกาสจับโจรแล้วยังปล่อยไปได้

เอฟบีไอรุ่นพี่ไม่รู้ว่า ที่รุ่นน้องไม่ยิง, เพราะเขารู้ว่าโจรปล้นธนาคารคนนั้นคือ โบดี เทพของวงการเซิร์ฟ,ผู้เป็นเพื่อนใหม่ของเขานั่นเอง

การปล่อยโบดีไปไม่ใช่การตัดสินใจที่ดี เพราะโบดีนั้นร้ายกว่าจอห์นนัก เขาวางแผนดัดหลังเอฟบีไอหนุ่มแบบแสนแสบยิ่งกว่าราดทิงเจอร์ลงแผลสด นั่นคือจับยัยไทเลอร์(เมียเก่าของตน และเมียปัจจุบันของเพื่อน)เป็นตัวประกันแล้วบังคับให้จอห์นช่วยโบดีปล้นธนาคาร.......
........โอ้ว เป็นจนท.FBIต้องไปปล้นแบงค์เพื่อช่วยเมีย...
.....ตร๊าย..วายร้ายโบดีคิดแผนอะไรบาดใจขนาดน้าน...




....เล่ามาถึงตอนนี้
....แองจีก็เริ่ม...ขี้เกียจ ละ
ใครอยากชมตอนจบไปหาชมกันเองละกัน..(แผล่บ)(แหม็ม..ฟังเค้าเล่า จะมันส์เท่าดูเองได้ไง เจง..ปะ)



แองจี-โม้

หนังเรื่องเนียะ เริ่ดมาก แองจีให้ห้าดาวในด้านการเดินเรื่อง เพราะดูยังไงก็ไม่เบื่อ ต่อให้ดูสามรอบก็ตื่นเต้นตั้งสองรอบครึ่ง(ถ้าบอกว่าตื่นเต้นเท่าเดิมแสดงว่าแองจี โง่ ดิ แหม็ม...ครั้งที่สองมันรู้พล็อตแล้วจะตื่นเต้นเท่าเดิม ได้ไง อะ)

ด้านฉากแอ็คชัน คิวบู๊ของหนังเรื่องนี้ สมจริงกำลังดี แถมยังมีฉากโต้คลื่นและดิ่งเวหามาให้ชมสลับฉากอย่างสวยงามและหวาดเสียว ยิ่งเมื่อรู้ว่า ผู้กำกับฯเป็นสาวงามชือแคทรีน บิกาโลว์ก็ต้องทึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า(จะว่าไปแร้ว ถ้าปีหน้า ปะเทศเมกา มีประธานาธิบดีหญิง เราอาจเห็นฉากแอ็คชันในU.N.มากกว่าเดิมก็ได้นา กิกิ)

ดารา
-แพทริก สเวยซ์เค้าเก่งนะ ดูการแสดงของเขาแล้ว, เชื่อสนิทใจว่าวายร้ายโบดีคนนี้ไม่ธรรมดา แววตาเอาจริงแต่แฝงแววเย้ยหยัน มัดกล้ามแข็งแรงกับผมยาวสีบลอนด์ที่ถูกน้ำทะเลตอนเซิร์ฟนั้นเซ็กซีมาก อะ
-ด้านนางเอก-ลอรี เพ็ทที ก็โอเคนะ สาวนักเซิร์ฟ กำพร้าพ่อแม่ ก็ควรมีคาแรกเตอร์ประมาณนั้นล่ะ
-คีอานู รีฟส์------ทุกคนคงรู้อยู่แล้วใช่ไหม ว่าที่นี่เป็นเขตปกครองพิเศษที่เจ้าของพื้นที่คลั่งคีอานู
ดังนั้นหากคุณไม่มีแง่มุมอะไรพิเศษกับเขา แองจีก็ขอสรุปสั้นๆว่า คีอานูสร้าง เจ้าหน้าที่เอฟบีไอจอห์น ยูทาห์ได้พอเหมาะพอดี ไม่มาก,ไม่น้อยเกินไป แต่ถ้า ....คุณคือคนคลั่งไคล้คีอานูเช่นกัน แนะนำให้คุณคลิกอ่านส่วนขยายข้อความ




แองจี-บำบัด

-
-หากคุณเป็นคนดูหนังที่พรรษาน้อย คุณอาจไม่เข้าใจที่ตำรวจไม่ยอมจับผู้ร้าย หรือคับข้องใจที่จอห์นปล่อยโบดีทั้งๆที่เจ้าโบดีมันเป็นหัวโจกแก็งค์โจร ผู้ทำให้คู่หูของเขาต้องตายในขณะปฏิบัติหน้าที่....แองจีก็เคยคิดเช่นนั้นในปีที่ดูหนังเรื่องนี้เป็นครั้งแรก

-
-แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณโตขึ้น เริ่มเข้าใจความงี่เง่าของระบบ เริ่มเบื่อชีวิตเส็งเคร็งที่จำเจอยู่ในเมืองใหญ่-ได้เงินเดือน-เสียภาษี-พบรถติด-อ่านข่าวนักการเมือผลาญเงินภาษีของเรา-ถูกแบงค์ขูดรีดดอกเบี้ยเงินกู้......คุณจะเริ่มเข้าใจ โบดี และ จอห์นนี ยูทาห์

-โบดีเป็นนักเซิรฟที่เน้นประสบการณโลดโผน เขาชอบโต้คลื่น-ดิ่งพสุธา ทั้งสองกิจกรรมล้วนมีค่าใช้จ่ายสูง การหารายได้ในวิถีชีวิตธรรมดาไม่สามารถทำเงินให้โบรดีใช้ในกิจกรรมเหล่านี้ได้ เขาใช้การปล้นแบงค์เป็นคำตอบของการหาเงิน แล้วอ้างการต่อต้านระบบทุนนิยมเป็นคำตอบด้านศีลธรรมให้ตัวเอง (ระบบธนาคารในอเมริกาต้องทำประกันความปลอดภัย เมื่อใดที่เงินถูกปล้น ประชาชนที่เป็นเจ้าของบัญชีหรือธนาคารจะไม่เสียทุนส่วนนี้ไปเพราะมีเงินประกันของรัฐเข้ามาชดเชย นั่นทำให้ไม่มีใครอยากต่อสู้กับโจรปล้นแบงค์เพราะเป็นการเสี่ยงอันตรายโดยไม่จำเป็น ในขณะเดียวกัน รัฐซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรงจะต้องทำหน้าที่นี้โดยหน่วยตำรวจสืบสวนกลาง)

-จอห์นนี ยูทาห์เป็นตำรวจหน้าใหม่ แม้ข้อมูลที่เขาใช้หลอกนางเอก-ไทเลอร์ว่าตนเป็นกำพร้าจะเป็นข้อมูลปลอม ที่กุขึ้นมาเพื่อหวังความเห็นใจของหญิงสาว แต่ข้อมูลที่ว่า ตลอดชั่วชีวิตเขาเดินตามความฝันและคำสั่งของพ่อแม่มาตลอดนั้น คือความจริง จอห์นนีพบว่า ทันทีที่เขาได้โต้คลื่น เขาเริ่มรู้ว่าความผ่อนคลายคืออะไร และงานตำรวจไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากเป็น มันเป็นแค่อาชีพที่พ่อเขาอยากให้ทำต่างหาก สำหรับจอห์นนี, โบดีไม่ได้เป็นเพียงคนรู้จัก เขาเห็นโบดีเป็นคนพิเศษ เป็นศาสดา เป็นมนุษย์ที่กล้าแลกชีวิตกับอารมณ์สุขชั่ววูบ และเป็นคนในฝันที่เขาอยากจะเป็น

นั่นทำให้
-จังหวะแรก ที่เขามีโอกาสจะฆ่าโบดี จอห์นนีทำไม่ลง
-จังหวะที่สอง ที่เขามีโอกาสจับโบดียัดใส่ตาราง จอห์นนีกลับไขกุญแจมือ แล้วปล่อยโบดีไปโต้คลื่นยักษ์ซึ่งจะวนมาเฉพาะทุก 50 ปี ที่ชายฝั่งออสเตรเลีย ทั้งๆที่ทั้งคู่ต่างรู้ว่า ใครที่ลงไปโต้คลื่นในพายุแบบนั้นจะไม่มีวันเหลือชีวิตรอดกลับมาก็ตาม

โบดียอมตายกลางคลื่นยักษ์มากกว่าใช้ชีวิตที่เหลือในคุก
จอห์นนียอมทิ้งตราตำรวจลงทะเล แทนที่จะลากโบดีไปรับคำตัดสินของศาล
ชายทั้งคู่แยกทางกันไปที่ริมฝั่งทะเลอันบ้าคลั่งของออสเตรเลีย

แม้โบดีจะไปตาย และ จอห์นนีจะตกงาน

แต่ทั้งคู่ก็ได้ตัดสินชะตากรรมของตนเองแล้ว
-------โดยไม่แคร์-สังคมเส็งเคร็ง-อะไรทั้งนั้น

! !------วิญญาณเสรีจงเจริญ ! ! ! !








Sidebar

Photobucket
-สามหนุ่มนักแสดงนำ ยืนประชันความเหนื่อย จากซ้าย Patrick Swayze(Bodhi), Keanu Reeves(FBI Special Agent John 'Johnny' Utah), Gary Busey(FBI Agent Angelo Pappas)

Photobucket
-ผกก.คนสวย:Kathryn Bigelow ซักซ้อมบทกับคีอานู

Photobucket
-ทั้งผู้กำกับและนักแสดงรวมตัวกันดูงานที่ถ่ายไว้จากมอนิเตอร์

Photobucket
-เอ๊า.....ที่แท้เค้าเหินเวหากันหน้าจอฟ้า นิเอ๊งงง...(พี่คีท่าทางจะสนุกกับพัดลม นะฮ้า)

Photobucket
-แถมด้วยภาพรอยยิ้มริมทะเล

Photobucket
-และคิ้วขมวดกลางท้องฟ้า ...

ไม่ว่า บนฟ้า,บนดิน หรือกลางน้ำ แองจีก็คิดว่า คีอานูน่ารักเสมอเลย อะ









 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2551 10:09:30 น.
Counter : 1637 Pageviews.  

The Lake House (อีกที)


:::แม้ปาฏิหารย์จะสร้างรัก แต่เราเองนั่นล่ะ คือผู้สร้างความผูกพัน:::
:::หากดูผ่านๆThe Lake Houseก็คือหนังรักดรามาธรรมดาเรื่องหนึ่ง แต่นิยายรักเรื่องนี้ ก็มอบแง่คิดด้านความสัมพันธ์ให้แองจี:::

:::เหมือนการชมผลงานของคีอานู รีฟส์ทุกครั้ง:::

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


*เข้าเรื่อง*

ที่บ้านริมทะเลสาบหลังหนึ่งในชิคาโก สถาปนิกหนุ่มผู้มีแผลทางใจในวัยเด็กจากครอบครัวชื่ออเล็กซ์ ไวเลอร์ ได้พบความประหลาดใจจากตู้จดหมาย(กระป๋องๆ)ธรรมดาที่ทำให้เขารู้ว่า เขาสามารถติดต่อกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตล่วงหน้าเขาไปสองปีและเคยอาศัยในบ้านหลังนี้ก่อนหน้าเขา (เอ๊ะ!...ไม่ใช่สิ..เธออยู่ที่นี่หลังเขาจากไปแล้ว แต่เธอเขียนจดหมายให้เขา ก่อนที่เขาจะเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น..วุ้ยย งง!) เธอชื่อเคท ฟอสเตอร์ทำงานเป็นหมอในโรงพยาบาลชิคาโกในปี 2006 ในขณะที่อเล็กซ์เป็นสถาปนิกของโครงการบ้านจัดสรรในปี 2004

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ทั้งเคทและอเล็กซ์มีบุคลิกคล้ายกัน นั่นคือเป็นคนช่างคิด โดดเดี่ยว และอ่อนไหว ทั้งคู่ต่างเคยใช้ชีวิตเพียงลำพังในบ้านริมทะเลสาบที่สร้างด้วยกระจกหลังหนึ่งโดยอเล็กซ์เข้าไปอยู่ก่อนในช่วงปี2004 และเคทอยู่ที่นั่นในปี2005 จึงไม่น่าแปลกใจที่ทั้งสองคนจะมีเรื่องคุยกันได้ถูกคอเป็นเวลานาน จนกลายเป็นความรักและสายใยแน่นเหนียวของมิตรภาพข้ามกาลเวลา

ความทรมานที่ร้ายแรงอย่างหนึ่งคือการเอื้อมไม่ถึงสิ่งที่อยากได้ ความสุขของอเล็กซ์และเคทก็เช่นกัน ทั้งคู่ตั้งคำถามว่าทำไมเราถึงไม่สามารถพบกันเช่นคู่รักปกติ แต่ประตูทางออกที่ทั้งคู่พยายามหาให้กับตัวเองกลับกลายเป็นประตูคนละบานกัน ในความสับสนนั้นเคทเลือกยอมแพ้ให้กับสิ่งที่เธอคิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่อเล็กซ์ไม่คิดเช่นนั้น อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของคนสองคนไม่อาจจะสานต่อไปเมื่อฝ่ายหนึ่งถอดใจแล้วกล่าวลา

ความรักของอเล็กซ์และเคทจึงเป็นโศกนาฏกรรมของโชคชะตาที่ถูกปาฏิหารย์เล่นตลก

*เกี่ยวกับ คีอานู รีฟส์*

คีอานู รีฟส์ เล่าว่าเขาอ่านบทหนังเรื่องนี้แล้วสนใจการพัฒนาความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เกิดขึ้นโดยไม่เคยพบตัวตนจริงๆของกันและกัน พวกเขารักกันได้เพราะอ่านข้อความในจดหมายเท่านั้น แล้วหลังจากพบผู้กำกับอเล็กจานโดรซึ่งเป็นคนทำหนังชาวอาร์เจนไทน์ที่จะเริ่มงานนี้เป็นงานแรกในฮอลลีวู้ด คีอานูก็ถูกใจสไตล์ของผู้กำกับ จึงตกลงใจเล่นบทอเล็กซ์โดยไม่รู้มาก่อนว่านางเอกจะเป็นแซนดรา บุลล็อก และไม่เคยดูหนังต้นฉบับของเกาหลี

กว่าThe Lake Houseจะเตรียมทุกอย่างพร้อมเปิดกล้อง ก็เป็นเดือนมีนาคม 2005 หนังเรื่องนี้จึงเป็นงานแรกหลังอายุครบ 40ปี และเป็นงานRomanticDramaหลังบทNeoและJohn Constantineซึ่งหนักไปทางแอ็คชันไซไฟ อย่างไรก็ดี ทุกบทของคีอานู รีฟส์นั้นมีรายละเอียดมากกว่าธรรมดาเสมอ สำหรับThe Lake Houseแองจีคิดว่าคีอานูชอบบทของอเล็กซ์ เพราะความอ่อนไหวแต่ใจสู้ของผู้ชายคนนี้

เหนืออื่นใดแม้อเล็กซ์จะไม่ใช่ตัวเขา แต่คีอานูเข้าใจความรู้สึกทั้งรักทั้งชังที่อเล็กซ์มีต่อพ่อได้อย่างดี รวมถึงความรู้สึกของการพลัดพรากจากคนรัก หรือความลำบากในการสื่อความรู้สึกของเราไปสู่คนอื่นจนทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวแม้อยู่ท่ามกลางคนรู้จัก เมื่ออเล็กซ์พบจดหมายข้ามเวลาของเคท แทนที่เขาจะหาประโยชน์จากการที่เธออยู่ในอนาคตและไม่เคยรู้จักเขาโดยการหลอกลวงหรือโกหกว่าตนเป็นคนดี(เหมือนการลวงกันทางอินเตอร์เน็ตและแชทไลน์ที่เราพบอยู่ทุกวัน) เขาเลือกที่จะเผยตัวตนที่แท้จริงแล้วใส่ใจความรู้สึกของเธอ ซึ่งทำให้เคทหลงรักเขาในที่สุด

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


แต่ความรักย่อมมาพร้อมความทุกข์ ทันทีที่เคทคิดว่าเส้นทางรักของเธอกับอเล็กซ์เป็นเพียงแฟนตาซีชวนฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง เธอก็ตัดใจหันหลังให้มัน แม้ว่าอเล็กซ์จะอ้อนวอนเพียงใด,เคทก็ไม่เขียนจดหมายหาเขาอีก (แองจีชอบฉากจูบลา"ปึกจดหมาย"ของคีอานูมาก เศร้าซะ...) แต่อเล็กซ์ไม่เหมือนเคท เขาไม่เคยยอมแพ้ เมื่อใดที่หนทางเดิมมีอุปสรรค เขาจะมองหาทางใหม่โดยเปลี่ยนความเศร้าเป็นพลังแห่งการค้นหาและยอมทำทุกอย่าง แม้การรอคอยอย่างอดทน จะทำยากเพียงใดก็ตาม

คีอานูสร้างอเล็กซ์ ไวเลอร์ให้เป็นบุคคลต้นแบบ ราวกับนายสถาปนิกชื่ออเล็กซ์คนนี้มีตัวตนอยู่จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม้หนังเรื่องนี้จะสร้างขึ้นจากหนังเรื่องหนึ่งของเกาหลี แต่สถาปนิกชื่ออเล็กซ์ ไวเลอร์คนนี้ไม่ใช่"นายเกาหลี"คนนั้นมาเกิดใหม่ในสัญชาติอเมริกันอย่างแน่นอน เพราะมีบุคลิกเป็นคนละคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

แองจีคิดว่า คีอานูประสบความสำเร็จในการสร้างตัวละครตัวนี้ให้มีมิติและรายละเอียดได้อย่างน่าทึ่ง


*ความเห็นของแองจี*


สำหรับความสุขในการดูหนังสักเรื่องหนึ่งThe Lake Houseอาจตอบโจทย์สำหรับคนที่รักความบันเทิงได้ครบถ้วนทั้งในแง่ของพล็อตเรื่อง นักแสดง และการถ่ายทำ แต่สำหรับผู้ชอบค้นหาเรื่องปวดหัวให้ชีวิตอย่างแองจี ความบันเทิงไม่ใช่ข้อสรุปเพียงอย่างเดียวที่ได้รับจากการดูThe Lake House

มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบาง เราต้องมีคนคอยประคับประคองยามเป็นทารกจึงจะสามารถรอดชีวิตได้ นั่นหมายความว่า ความรักของครอบครัวเป็นพื้นฐานแรกที่สำคัญที่สุดในการดำรงชีวิต แล้วต่อมาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างทั้งญาติและเพื่อนจะพัฒนาทักษะและแนวคิดที่เราอยากติดต่อกับคนอื่นๆทำให้เรารู้ว่า เราคุยกับคนแบบไหนได้รู้เรื่อง หรือไม่รู้เรื่อง

แล้วจนถึงวันที่เราได้พบใครสักคน ที่รู้สึกเชื่อมโยงกับเขาได้อย่างประหลาด เราก็คิดอยากปักหลักกับคนผู้นั้น

แม้ชีวิตของแต่จะคนแตกต่างกันในรายละเอียด แต่ทุกคนคงเคยรู้สึกถึงบางสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราโดยบังเอิญราวปาฏิหารย์ อาทิเช่น ผู้คนบนโลกที่มีจำนวนมาก อะไรทำให้เราพบคนที่ที่พิเศษกับเราเหลือเกินในเวลานั้น เรื่องเหล่านี้ หากพูดกันทางวิทยาศาสตร์มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องของpopulation แต่ใครจะอยากคิดเรื่องโรแมนติคด้วยสมการเลขคณิต(นอกจากพระเอกซีรีย์Numb3rs) เราจึงมักโยนความรับผิดชอบของชะตาลิขิตไปให้พระเจ้าบนฟ้าหรือว่าปาฏิหารย์

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket



และด้วยธรรมชาติของปาฏิหารย์ที่เป็นสิ่งลี้ลับ การทำงานของมันจึงเกิดขึ้นได้เพียงชั่วพริบตา ไม่สามารถเกิดขึ้นนานๆบ่อยๆหรือเกิดขึ้นในเวลาที่เราต้องการได้ ไม่ว่าความรักหรือความสัมพันธ์ไหน หากคาดหวังให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นมากกว่าหนึ่งครั้ง ความสัมพันธ์นั้น ก็มีท่าว่าจะไปไม่รอด

ดังนั้นแม้คุณจะรู้ว่า คนที่คุณได้พบโดยบังเอิญคนนี้เป็นแรงดลใจที่มาจากสวรรค์ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจรอให้พระเจ้าช่วยเหลือคุณอยู่ฝ่ายเดียว เพราะแม้ว่าปาฏิหารย์sparksความรักได้ แต่ความผูกพันที่เกิดขึ้นนั้นต้องอาศัยความตั้งใจที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน เพราะแม้ว่าคู่แท้หรือSoulMateจะเป็นเพียงความเพ้อฝัน แต่คู่ชีวิตที่รักกันจนวันตายนั้น มีอยู่จริงแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าคุณพร้อมจะเสียสละตัวตนเพื่อคนที่คุณรักมากแค่ไหนเท่านั้นเอง


เช่นเดียวกับ อเล็กซ์ ไวเลอร์ ที่ไม่ยอมให้อุปสรรคชิ้นไหนมาขวางเขาไว้จากผู้หญิงที่เขารักที่สุดคนนั้น
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
ไม่ว่าเขาต้องรอเธอนานแค่ไหนก็ตาม




 

Create Date : 11 ตุลาคม 2550    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2551 13:34:06 น.
Counter : 777 Pageviews.  

Thumbsucker :&: Keanu Reeves


*ย้อนความจำ*


ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ project ต่อไปของพ่อดาราคนโปรด
แองจีก็ ฉงนสงสัย .... หนังอารั้ยยชื่อเรื่อง...คนดูดนิ้ว
และแน่นอนที่ว่าเมื่อหารายละเอียดมาดูแล้วพบว่า
คีอานูเล่นแค่"บทสมทบ"ในเรื่องนี้ แองจีก็ กร่อย เป็นอันมาก

เพราะแม้ว่าบทสมทบล่าสุด(ตอนนั้น)
ในSomething Gotta Give แม้พี่คีแสดงจะหล่อเพอร์เฟ็คขนาดไหน
ตัวประกอบก็ยังเป็นตัวประกอบที่แปลว่าโผล่มามีส่วนร่วมกับหนังน้อยกว่าพระเอก-นางเอก อยู่ดี

แล้วเมื่อรู้ว่า Thumbsucker วางตัวเองไว้เป็นหนังอินดี้ฯ ความเซ็งก็ทวีขึ้นเป็นสองเท่า เพราะมันหมายความว่า เราที่อยู่ในประเท่ดไทยแห่งนี้ มีโอกาสน้อยมากที่จะได้ดูบนจอใหญ่

แต่เนื่องจากว่า angy_11คนนี้ คิดเอาเองว่า
หากข้าพเจ้าตามจิกคุณคีอานูในชีวิตจริงไม่ได้
ก็ขอจิกผลงานของแกให้ครบทุกชิ้น

แล้วชีวิตของตนก็คงประสบความสำเร็จสักอย่างที่พอจะอ้างกับท่านยมบาลหลังตายไปแล้วว่า
"งานที่หนูทำสำเร็จเรียบร้อยไม่บกพร่องในชีวิตน้อยๆก็คือ ดูหนังของคีอานู รีฟส์ครบทุกเรื่องค่ะท่าน" อะไรประมาณนั้น
(หวังว่าท่านยมฯ คงจะเข้าใจว่า งานนี้ทำยากไม่เบา แล้วอัพเกรดให้แองจีไปอยู่สวรรค์ชั้นเตี้ยๆ นะฮ้า)



*เข้าเรื่อง*

Thumbsucker เป็นหนังประเภท"ก้าวผ่านวัย"เรื่องหนึ่ง ตัวเอกเป็นวัยรุ่นชื่อ....จัสติน เกิดมาในครอบครัวธรรมดา ที่ประกอบด้วยคุณพ่ออาชีพผู้จัดการ ที่ชอบคิดว่าตัวเองเป็นไอ่ขี้แพ้ ข้างฝ่ายคุณแม่อาชีพพยาบาล ก็มีอาการหลงรักพระเอกละครทีวีจนหัวปักหัวปำ

ตัวของจัสตินเอง เป็นเด็กที่ไม่มีอะไรโดดเด่นในชั้นเรียน และชอบแอบดูดนิ้วโป้งของตนเวลาที่เกิดความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุให้เขาต้องไปรักษาอาการฟันขึ้นไม่เป็นระเบียบกับทันตแพทย์ชื่อPerry Lyman ที่แสดงโดย ขวัญใจตลอดกาลของเจ้าของบล็อก มิสเตอร์รีฟส์
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

และคุณหมอเปอร์รีผู้นี้นี่เอง ที่ทำให้เรื่อราว ราบบบบบบบบเรียบบบบบบบบบ ในชีวิตของจัสตินเปลี่ยนไปตลอดกาล

ในชีวิตจริงของคนปกติ เราคงยอมรับกันว่า ชีวิตที่น่าเบื่อที่สุดก็คือชีวิตRoutine ที่ทำทุกอย่างตามตารางเวลาที่เราคุ้นชิน บางครั้งเรานึกอยากเปลี่ยนบุคลิกของตนเองเพื่อก้าวให้พ้นกรอบที่เราถูกขีด-หรือขีดเองออกไปพบสิ่งใหม่ๆ แต่โดยรวมหรือสุดท้ายแล้ว เราก็ไม่ได้ทำอะไรกับมันนัก ชีวิตยังคงเป็นเช่นเดิม

เมื่อแองจีมองจัสตินในหนังเรื่องนี้ จึงอดอิจฉาเขาไม่ได้ ที่เขาได้พบกับเปอร์รี ผู้ที่ไม่ได้แค่จัดฟันให้เท่านั้นแต่ยังจัดชีวิตของจัสตินเสียใหม่ถึงสามครั้งสามหนในหนังเรื่องเดียว ด้วยการกล่าวเพียงคำแนะนำไม่กี่คำเท่านั้น



*เกี่ยวกับ คีอานู รีฟส์*

คีอานูรับเล่นหนังเรื่องนี้ หลังจากสะบักสะบอมมาจากการรับบทกังฟูของนีโอในThe Matrix
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

แองจีคิดว่า คีอานูไม่ได้รับเล่นเพียงเพราะไม่ต้องมีคิวบู๊เท่านัน เขาได้รับการติดต่อให้เล่นบทคุณหมอเปอร์รี จากผู้กำกับไมค์ มิลล์โดยที่ฝั่งของผู้เสนอบท ก็ไม่คาดหวังว่าคีอานูจะตอบรับ เพราะหนังนั้นทุนสร้างต่ำและไม่มีโอกาสเท่าไรในอันดับของBOX OFFICE แต่ในขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้สร้างก็รู้ดีว่า คีอานูนั้นแตกต่างจาก A-list Starทั่วไป พวกเขาจึงหวังว่าถ้าคีอานู"ปิ๊ง"บทนี้ หนังก็จะมีหวังที่จะได้รับความสนใจจากคนส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น ซึ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้ตามจินตนาการของผู้สร้าง คีอานูรับเล่นบทนี้โดยไม่ขอปรับแก้บทให้ตัวเองโดดเด่นขึ้นหรืออะไรทั้งนั้น เขาพอใจที่จะเป็นธีมสำคัญที่ไม่ต้องโผล่หน้ามามากแต่โผล่มาเมื่อไรเรื่องก็เปลี่ยนไปทันที ตามบทเดิมทุกประการ




*ข้อสรุปของแองจี*

หนังเรื่องนี้ไม่ได้ฉายในโรงใหญ่ตามคาด ดีวิดีพากย์ไทยก็รู้สึกว่า จะไม่มีนะคะ แต่เคยฉายทาง Starmovies ไปหลายครั้งแล้วล่ะ
โดยสรุป หากคุณชอบดูหนังที่ได้เติบโตไปตามตัวละคร คุณก็จะชอบและเข้าใจหนังได้ไม่ยาก นักแสดงทุกคนแสดงได้ดีไม่มีข้อติ ฉากแสงเงาและอื่นๆก็อยู่ในระดับมาตรฐาน

และสำหรับ คีอานู รีฟส์ ในบทคุณหมอเปอร์รี ไลแมนคนเดียว คุณจะเห็นเขาในสามบุคลิก นั่นคือในช่วงแรก
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

เปอร์รีคนนี้จะเหมือน คุรุทางวิณญาณอะไรสักอย่างที่ดูขลังๆ คมๆ

แต่เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงช่วงกลาง ขณะที่จัสตินกำลังเริงร่ากับชีวิตใหม่ภายใต้ยากระตุ้นประสาทที่ได้รับจากโรงพยาบาล แล้วได้พบเปอร์รีอีกครั้งโดยบังเอิญ
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

คุณหมอเปอร์รีก็เปลี่ยนลุคส์ไปเป็น บิสสิเนทแมนที่ซื่อตรงกับตัวเอง ยินยอมรับรู้ความเป็นไปของปัจจุบันขณะ โดยมองว่าการสร้างเรื่องหลอกตัวเองว่าสบายดีไม่ว่าจะมาจากการนึกเอาเอง หรือได้สารเคมีเข้าไปในสมองมันก็คือเรื่องจอมปลอมเหมือนกัน ทำไมไม่หันหน้าสู้กับความจริง ...เอาเข้านั่น เมื่อจัสตินพบเปอร์รีที่เปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังเท้าเช่นนั้น ก็เลยทิ้งยาทั้งหมดที่ตัวเองเคยพึ่งพาพวกมันไปจนหมด

ในตอนท้าย เมื่อจัสตินมาลาเปอร์รีเพื่อไปเรียนต่อที่นิวยอร์ก
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

คุณหมอก็เปลี่ยนจากหนุ่มออฟฟิศมาเป็นปรัชญาเมธีคนใหม่ ที่บอกเคล็ดลับของการมีชีวิตให้จัสตินฟังอีกครั้งหนึ่งว่า

****Dr. Perry Lyman****
*ฉันเลิกพยายามจะเป็นโน่นเป็นนี่แล้ว
ฉันยอมรับได้ว่าตัวเองก็เป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์คนหนึ่ง
เธอก็ควรจะทำได้เช่นกัน*

*เพราะว่าพวกเรานั้นมักจะอยากให้ตัวเองมีปัญหาน้อยที่สุด
เพื่อจะทำแบบนั้น เราก็มองหาปาฏิหารย์อะไรสักอย่างให้ชีวิตมันดีขึ้น*

*แต่จริงๆแล้วก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
แล้วทำไมมันถึงได้ไม่หมดปัญหาสักที*

*ที่พวกเราทำ มันก็แค่การเดา, ลอง, แล้วก็หวัง แค่นั้น*

*แต่ว่าจัสตินเอ๋ย
เธออย่าหลอกตัวเองว่าสักวันเธอจะพบคำตอบของชีวิตเลย
เพราะว่าเรื่องแบบนั้นน่ะมันงี่เง่าที่สุด*

**ฉันคิดว่าชีวิตมันก็มีเคล็ดลับง่ายๆแค่ว่า
อย่าไปหาคำตอบให้มันก็แค่นั้นเอง**

Click HerePerry's Quote In English



แองจีชอบบทสรุปอันนี้มาก
แม้บทของคุณหมอเปอร์รี จะไม่มีใครรู้จักหรือจำได้เหมือน นีโอหรือแจ็คจากSpeed
แองจีก็รู้ดีว่า คุณหมอเปอร์รีคนนี้
แท้จริงแล้วคือคีอานู รีฟส์ สุดที่รักของข้าพเจ้านั่นเอง
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket




 

Create Date : 02 ตุลาคม 2550    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2551 11:31:42 น.
Counter : 1698 Pageviews.  

My Own Private Idaho


ไอดาโฮ เป็นเมืองปลูกมันฝรั่ง ของอเมริกา
ลักษณะพื้นที่ เวิ้งว้าง เหน็บหนาว

รูปนี้แต่งโดย Nomadic จาก //the-nomadic-project.deviantart.com
บ้านในฝันของ ไมค์ อยู่ที่นั่น


My Own Private Idaho เปิดเรื่องด้วยการแนะนำให้เรารู้จักกับ "ไมค์" เด็กหนุ่มหน้าตาดีในสภาพม็อมแม็ม ผู้ดำรงชีวิตด้วยอาชีพ ขายเซ็กส์ ไม่ว่ากับลูกค้าชายหรือหญิง ทันทีที่เรารู้จักไมค์ หนังบอกเราว่า เขาเป็นโรคนาร์โคเลปซี โรคแปลกประหลาดที่มีอาการหลับหมดสติ เมื่อพบสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดอารมณ์รุนแรง ในกรณีของไมค์ สิ่งเร้าคือความคิดถึงแม่ที่ทิ้งเขาไปในวัยเด็ก

River Phoenix as Mike
Keanu Reeves as Scott


"สก็อต" ขายบริการฯด้วยเหตุผลแตกต่างจากไมค์ ตระกูลของสก็อตมีทรัพย์สินจำนวนมาก และมีทายาทเพียงคนเดียว เขาขายตัวเลี้ยงชีพ เพื่อประชดและต่อต้านพ่อผู้กดดันทายาทของตระกูลให้เก่งกว่าคนอื่น ในใจสก็อตอยากรู้ว่าพ่อเห็นเขาเป็นลูกหรือผู้สืบทอดธุรกิจกันแน่ สก็อตต์จึงหนีจากคฤหาสถ์หลังงามมาเป็นโสเภณีจรจัด ด้วยเงื่อนไขที่ตนเองกำหนดไว้ชัดเจนว่า เขาจะทำตัวให้เลวที่สุดไปจนถึงวันที่อายุครบ 21 ปี หลังจากนั้นเมื่อเขากลับเข้าบ้านอีกครั้งเพื่อรับช่วงกิจการ พ่อจะรู้ซึ้งว่าเขามีค่าเพียงไหน

สก็อตกับไมค์รู้จักกันสามปี ก่อนชะตาชีวิตจะพาทั้งคู่มาอยู่ในห้องรับแขกของลูกค้าสาวไฮโซผู้ชอบอ็อฟเด็กทีละหลายคน ไมค์หมดสติเมื่อรู้สึกว่าลูกค้าหญิงรายนี้ มีรูปลักษณ์คล้ายแม่ที่แท้จริงผู้ทิ้งเขาไป สก็อตเห็นใจที่ไมค์เป็นโรคที่เสี่ยงอันตราย จึงคอยเฝ้าขณะเพื่อนหลับ หลังจากร่วมทางระหว่างโบกรถไปพอร์ตแลนด์,ทั้งคู่เริ่มถูกคอกัน สก็อตจึงใช้เวลาอิสระช่วงสุดท้าย ก่อนกลับไปหาพ่อ ช่วยไมค์ตามหาแม่ ด้วยการเริ่มต้นพาเพื่อนกลับไปสืบหาเบาะแสจากพี่ชายเพียงคนเดียวที่บ้านเกิดในไอดาโฮ สก็อตต์หวังว่า ถ้าไมค์พบแม่ เพื่อนจะไม่เหงาอ้างว้างอีกต่อไป


แต่ถนนของความหวังและความจริง ไม่ใช่สิ่งที่พบง่ายเหมือนถนนที่ไมค์คุ้นเคย ใน ไอดาโฮ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


My Own Private Idaho เป็นภาพยนตร์ในฝันของแองจี
ที่กล่าวว่าในฝัน เพราะกว่าข้าพเจ้าจะได้ดู
รอ จน เกือบสิ้นหวัง
แต่ในที่สุด แองจีก็ได้ดูในรูปแบบ DVD zone3 ราคาย่อมเยา หุ หุ

ข้อมูลของหนังเรื่องนี้ แองจีรู้มาว่า เป็นหนังเกี่ยวกับเด็กขายบริการข้างถนน
แองจีไม่มีปัญหากับเกย์หรือการค้าบริการ รวมทั้ง ริเวอร์ ฟินิกซ์กับคีอานู รีฟส์ คือสองดาราคนโปรด
จึงตั้งใจว่าจะต้องหาเรื่องนี้มาดูให้ได้

หลังจากนั่งชมจนจบ

ความรู้สึก มัน อึ้ง และ เศร้า
ไม่ใช่เศร้าน้ำตาท่วม แต่ตื้นตันในอก

หากคุณผู้อ่านอยากรับรู้ความรู้สึกนั้น
แองจีแนะนำให้ท่านหามาดู ให้รู้แจ้งด้วยตนเอง


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
ภาพอบอุ่นของมิตรภาพ ยามสก็อตดูแลเพื่อนที่หมดสติ
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
และภาพบรรยากาศโศกเศร้า ในฉากลาจาก

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


หนังเรื่องนี้ แองจีได้บทเรียนสามประการ

-ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะเศรษฐกิจเช่นใด ทุกคนมีโอกาสจะพบความผิดหวังในความสัมพันธ์ได้เท่าๆกัน ทั้งสก็อตต์ผู้รวยล้นฟ้าหรือไมค์ที่ไม่มีจะกิน ทั้งคู่ถูกคนในครอบครัวทำร้ายความรู้สึกจนพบความผิดหวังเช่นเดียวกัน

-การฝังใจกับความรักในอดีต ทำให้ชีวิตไม่ก้าวไปข้างหน้า ไมค์คร่ำครวญหาแม่ เมื่อพบสก็อตต์ ผู้เติมความว้าเหว่ให้ด้วยความอบอุ่น ไมค์ก็คิดว่าสก็อตต์จะไม่ทิ้งเขาไป เขาเลือกจะเชื่อสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ โดยไร้เหตุผล เพราะนึกว่าอีกฝ่ายมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ในขณะที่ สก็อตต์มีจุดหมายที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด ไม่ว่ากับพ่อที่แท้จริง พ่อบุญธรรม หรือเพื่อนสนิท เขาทิ้งทุกอย่างได้เพื่อทำตามสิ่งที่คิดไว้ ตัวละครสองตัวเหมือนสมองสองข้าง ที่ข้างหนึ่งคิดแบบตรรกะแบบคณิตศาสตร์ ส่วนอีกข้างทำตามอารมณ์แบบศิลปะ

-ไม่ว่า ความรู้สึกจะเป็นเช่นไร ชีวิตก็ยังต้องเดินต่อไป ฉากจบของเรื่องแยกไมค์กับสก็อตตออกจากกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เกิดขึ้นและจบไปในไม่กี่วัน แม้ไม่มีใครลืมความรักครั้งนี้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่า เส้นทางที่นำทั้งคู่มาบรรจบได้แยกจากกันแล้ว อย่างถาวร





 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2551 15:07:54 น.
Counter : 2957 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

angy_11
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




ปุกาด

ข้อความในบล็อก เป็น คหสต ของข้าพเจ้า ซึ่งเป็น ความจริง*บางส่วน*+การปรุงแต่ง, จึงไม่อนุญาตให้ใช้อ้างอิงในแง่อื่นๆนอกจากเพื่อความบันเทิงที่อาจจะยกระดับจิตใจ

เนื่องจาก บล็อกเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 จึงอาจมี *ความผิดพลาดจากเรื่องจริง* หลายส่วน หากพาดพิงท่านใด กรุณาติดต่อให้แก้ไขด้วย

ไฟล์ภาพ หลายชิ้น จะไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากข้าพเจ้าไม่จ่ายเงินค่าแขวนภาพในเว็บโฮสท์ ขออภัยในความไม่สะดวก
***
เดิมแบ่งหมวดหมู่บล็อกเป็น5กรุ๊ป
ปัจจุบัน บล็อกใหม่ จะอยู่ที่
กรุ๊ป **ข่าว** เท่านั้น
*********
แองจี้เป็น
หนึ่ง-ใน-แอดฯ
ของเพจเฟสบุค
v
v

แต่ส่วนใหญ่ งานในเพจ จะเป็นความสามารถและความขยัน ของ แอดมินอีกท่านหนึ่ง ซึ่งเธอจะเรียกตัวเอง ว่า "แอดมน" ขอบคุณที่อ่าน ค่ะ
LastBlogs


2023

22:09:66 :Swiz Pizza
23:08:66 :theHat
20:08:66 :HBD 59
21:06:66 :JW4 in 3 mth
07:03:66 :KR AMA 2023
27:02:66 :KwNeverS2theMachines

2022

01:09:65 :HBD58
06:07:65 :KR&TheKid

2021

12:12:64 :Tools=M.Resurrections
23:11:64 :EsqNov2021
09:11:64 :HAGAKURE
16:09:64 :HowCome
02:09:64 :HBD*57
18:6:64 :HairExtention
23:4:64 :JW4 Preparing
2020
26:8:63 :WhatIf...HBD
22:4:63 :SocialDist
6:2:63 :92nd Oscar
8:1:63 :ถ้ารัก อย่าล้ำเส้น

2019
5:11:62 :KeaLexandra
14:10:62 :Dad'sFuneral
12:09:62 :Japan Adv
01:09:62 :HBD*55*
24:07:62 :NicestGuy
03:06:62 :Meme in ABMM
16:05:62 :#AskJohnWick
12:05:62 :JW3's coming
16:04:62 :ยาวไป ยาวไป
16:03:62 :Sandwich

2018

19:12:61 :FakeKeanu
02:09:61 :HBD*54
14:08:61:DestinationWedding
20:07:61 :MySiberiaReview
18:04:61 :จีมา-ปริก-

2017

01:09:60 :HBD 53
22:08:60 :ADC'sBook
09:08:60 :ToTheBone
15:06:60 :JRain
01:06:60 :KRphenomenon
26:05:60 :JW3 will do
26:04:60 :K hates S.media
21:02:60 :C=Wick
08:02:60 :หัวใจน่ากอด

2016

27:12:59 :HNY 2017
02:09:59 :HBD 52
31:08:59 :SwedishD
10:08:59 :Replicas#1
11:07:59 :Rally Car
12:05:59 :M Figaro
31:03:59 :To the Bone
23:03:59 :TWT@tokyo
28:01:59 :ฉงฉานครีนู
26:01:59 :Exposed

2015

04:05:58 :my KnKn
18:11:58 :10/10KnKn
12:11:58 :moreJW2
05:11:58 :JW2 shooting
09:10:58 :@Kimmel 8Oct
30:09:58 :Mrs.Wick
17:09:58 :The-R-Files
07:09:58 :Cinder-K-ella
01:09:58 :HBD- 51
21:08:58 :ARCH - VF
13:08:58 :How Pick
05:08:58 :indie KR
31:07:58 :KRGT-1
15:07:58 :Where's K
28:06:58 :mystery woman
17:06:58 :K miss theP
29:05:58 :TLB 4 Nepal
28:05:58 :No หนวด
18:05:58 :KnKn stills
13:05:58 :K NewLook
09:05:58 :Hide his face
24:04:58 :The New K
20:04:58 :K is funny
12:02:58 :Gauguin Event
06:02:58 :The Neon Demon
26:01:58 :Travelling Actor

2014

17:12:57 :I'm going to start a family again
08:12:57 :Passenger Update !
24:11:57 :I have no time for Amore
31:10:57 :#IMDbAskKeanu
30:10:57 :Welcome back
22:10:57 :JW on KM Live
20:10:57 :JW the best act mov
16:10:57 :Rddt AMA KR#1
14:10:57 :NYC JohnWick
09:10:57 :Miami airport
29:09:57 :ทำไมถึงไม่แต่ง งาน
24:09:57 :2วัน2รอบ !
23:09:57 :STACEY
22:09:57 :obsessive fan
01:09:57 :HBD 50
19:08:57 :J.Rain T.V. Series
14:08:57 :R.day of JW
08:08:57 :K@LAX
01:08:57 :K & Israel PM
16:07:57 :KR bachelorette party
07:07:57 : Clean shaven
24:06:57 :TheWholeTruth
9:06:57 :SandyAward
6:06:57 :GuyChAward
25:05:57 :ARCH on the road
12:05:57 :ปิดกล้องKnockๆ
04:05:57 :K in Chile
15:04:57 :1stPict KnkKnk
08:04:57 :KnockKnock
02:04:57 :K on eBay
20:03:57 :PostponePassenger
06:03:57 :Indi Spirit Awards
25:02:57 :Passenger'll be do
11:02:57 :German gay
31:01:57 :K @ Uru
25:01:57 :more JW
17:01:57 :1st look JW
4:01:57 :Kai Diaster

2013
29:12:56 :X'mas Keanu
26:12:56 :Kai & Keanu
24:12:56 :My 47R review
13:12:56 :cutie K
11:12:56 :47R aud rate
20:11:56 :47R Pr Con
13:11:56 :47R intview
31:10:56 :Bhind 47R
29:10:56 :J.Wick
21:10:56 :KR Reddit AMA
14:10:56 :Apple Store
12:10:56 :47Ronin more
30:09:56 :Nicest guy ever
25:09:56 :Fantastic fest
21:09:56 :John Wick
11:09:56 :@TIFF
10:09:56 :@Toronto
09:09:56 :Fat with Muscle
02:09:56 :HBD 49
30:08:56 :Exercise is Good
28:08:56 :Cute Clip
06:08:56 :47โรนิน ตัวอย่าง
05:08:56 :สาวลึก ลับ
24:07:56 : รายได้ MOTC
17:07:56 :บทความในสิงคโปร์
16:07:56 :18 กค นี้ MOTC ในไทย
10:07:56 :LongLong dragon
09:07:56 :หนังสั้น17mins w VW
20:06:56 :Kid&K on MOTCpromo
11:06:56 :Arch Motorcycle
22:05:56 :MOTC Cannes
10:05:56 :GenUm LA
22:04:56 :Trailer of MoTC
11:04:56 :Delay of MoTC
22:03:56 :Suicide in Cinema
07:03:56 :@ฺBJ CloudAtlas
06:02:56 :FB page
06:02:56 :K's Home
22:01:56 :MOTC releaseDate
11:01:56 :K's back 2 BJ

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angy_11's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.