Group Blog
 
All blogs
 

Review : ทดลองผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมใหม่สุดเซอไพรส์






สวัสดีค่ะวันนี้จอสจะพาทุกคนมาทำผมและทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยกัน
ที่ Lavish Salon ศาลาแดงซอย 1 ซาลอนนี้เพิ่งเปิดบริการได้ไม่นานแต่คุณภาพดีมาก
ซึ่งวันนี้ทางทีมได้แจ้งไว้ว่าจะเชิญจอสมาทดลองผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม
แบรนด์ใหม่ในชื่อ Evod อาจจะฟังแล้วแปลกหูนิดนึงแต่ก็ลองดูค่ะ
ด้วยความที่เป็นคนชอบลองของใหม่อยู่แล้ว แถมยังเคลมไว้ว่าจะเห็นผลดีมาก
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ยิ่งทำให้จอสสนใจและตื่นเต้นมากๆที่จะได้ลองใช้ค่ะ
ถ้าเพื่อนๆอยากรู้ว่าจะเป็นยังไง ก็ตามมาดูกันเลยค่า


วันนี้แพ็กคู่มาพร้อมกันกับเจ้อั้มค่ะ



พอมาถึงพนักงานเเจ้งว่าวันนี้จะมีการทดลองทั้งหมด 3 ขั้นตอน 
1.สระผม 2.ครีมนวด 3.การทำทรีทเม้นท์เส้นผม 
บริการที่นี่ต้องบอกว่าดีมาก สระผมฟินมาก มีการนวดเบาๆแต่ไม่เจ็บหนังศีรษะ
ที่ชอบมากๆเลยก็คือเค้าจะมีผ้าคลุมไว้ตรงหน้าผาก ทำให้น้ำไม่ไหลไปโดน
รองพื้นก็ไม่หลุดด้วยค่ะ สระผมเสร็จก็ไปออกงานต่อได้เลย พี่จอยเลิฟตรงจุดนี้



บรรยากาศตอนสระและบำรุงผมด้วยทรีทเม้นท์ ตอนแรกก็รู็สึกว่ากลิ่นคุ้นมากๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
เพราะคิดว่าแบรนด์ใหม่น่าทำกลิ่นออกมาคล้ายๆกับผลิตภัณฑ์เส้นผมแบรนด์อื่นๆ



หลังจากสระและบำรุงเสร็จแล้วก็เป่าไดร์ค่ะ วันนี้ได้รับเกียรติ์จากคุณแพรเจ้าของร้านมาทำให้เลย
หลังทำทรีทเม้นต้องบอกว่าผมนุ่มลื่นสุขภาพดีมากๆเลยค่ะ คนที่ผมเสียแห้งแตกปลายต้องลอง
เพราะจอสเป็นคนที่ใช้ความร้อนกับผมบ่อย ผมมักจะแห้งและแตกปลาย
พอมาเจอทรีทเม้นท์ตัวนี้แล้วเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกเลยค่ะ ประทับใจมาก



บรรยากาศตอนนั่งทำผมกัน เจ้อั้มแลดูฟิน






และนี่คือผลหลังจากการทำผมในวันนี้ค่ะ สวยแพ็กคู่มาเลย
หลังจากนั้นทางทีมงานก็ได้มอบผลิตภัณฑ์ให้กลับมาลองใช้ที่บ้านด้วย
คือดีใจกันมากเพราะลองที่ร้านแล้วชอบ คิดว่าได้กลับมาใช้ที่บ้านคงดีมากๆ
เพราะจอสเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ Evod คือแบรนด์ใหม่ที่จะต้องปังมากแน่นอน
ด้วยความรู้สึกหลังจากที่ได้ทดลองใช้แล้วมันดีมากๆ ผมนุ่มสลวยมากๆ

แต่สิ่งนึงที่ทำให้เราทั้งคู่เซอไพรส์ก็คือ เปิดกล่องออกมาแล้วเจอ
ผลิตภัณฑ์ของ "Dove" นั่นเองค่ะ
ถึงกับร้องกรี้ดลั่นซาลอนเลย เพราะตอนแรกที่ได้กลิ่นก็รู้สึกคุ้นๆแต่ไม่ได้เอะใจ
ซึ่งตอนแรกที่ทีมงานบอกว่าเป็นแบรนด์ Evod ก็คือการสลับตัวอักษรนั่นเองค่ะ 
ความรู้สึกที่พอทราบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของ Dove แล้วต้องบอกว่าเซอไพรส์เลย
เพราะนึกไม่ถึงจริงๆว่าจะเป็นแบรนด์ที่ใกล้ตัวมากๆ
กับผลลัพท์ที่ได้คือถ้าไม่บอกว่าเป็นโดฟจะต้องคิดว่าเป็นแบรนด์ราคาแพงมากๆ



สำหรับใครที่ยังไม่ได้ลองผลิตภัณฑ์จาก Dove ต้องขอบอกว่าห้ามพลาดนะคะ
ขนาดจอสกับเจ้อั้มได้ลองกันแบบไม่บอกชื่อแบรนด์โดยตรงยังชอบกันมากๆ
เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้ลองก็คงจะชอบเหมือนกันกับเราสองคนแน่นอนค่ะ
วันนี้ก็ต้องขอตัวลาไปบำรุงผมที่บ้านด้วยตัวเองแล้ว
ไว้พบกันใหม่นะคะ xo



Before & After



ติดตามจอสได้ทาง
IG - Babejossy
Facebook - Jossy Berry Make-up Artist




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2560    
Last Update : 17 มิถุนายน 2560 8:44:27 น.
Counter : 2899 Pageviews.  

Review : ทำสีผมใหม่ด้วย Z-cool Color Milk Y-19 Brownie Frappe




สวัสดีค่ะ วันนี้จอสจะขอมาอัพเดทสีผมที่เพิ่งทำไปล่าสุดนี้นะคะ
และก็เหมือนเดิมค่ะ ถ้าทำผมเองที่บ้าน จอสจะไว้ใจเลือกใช้ Lolane Z-cool Color Milk
เพราะน้ำยาย้อมผมรุ่นนี้เค้าจะเป็นแบบน้ำนม ทำให้ทำง่ายกว่าหลายๆยี่ห้อ
ที่สำคัญคือส่วนผสมจากนมฮอกไกโดทำให้ผมนุ่มสลวยและผมไม่เสียอีกด้วยค่า
จะเป็นยังไงเรามาดูกันเลย


Lolane Z-cool Color Milk เค้ามีสีผมมากถึง 20 สีด้วยกัน
และตอนนี้ก็ออกเฉดสีใหม่เพิ่มมาอีกแล้วนั่นก็คือ Y17-Y20 ค่ะ
จอสเลือกมาเป็นสี Y-19 Brownie Frappe เพราะอยากได้โทนสีน้ำตาลเข้ม
จะบอกว่าตอนเลือกนี่ตาแฉะเลยค่ะ เพราะสีของเค้าเยอะ
สีนั้นก็สวย สีนี้ก็สวย เลือกไม่ถูกสักที ฮ่าๆๆ

หน้าตากล่องก็จะเป็นประมาณนี้นะคะ มีชาร์ตสีเทียบให้ดูด้วยว่าหลังทำแล้วจะเป็นยังไง
ก็แอบลุ้นอยู่เพราะครั้งนี้ทำเองที่บ้าน มีเพื่อนมาช่วยทำ 1 คน
แต่เพื่อนไม่ได้มีประสบการณ์ด้านนี้เลย กลัวจะทำหัวด่างเอาค่ะ ฮ่าๆ









อุปกรณ์ด้านในก็จะมีแผ่นพับ ก่อนทำอย่าลืมอ่านรายละเอียดกันก่อนนะคะ
มีน้ำยาให้ผสมกันสองตัว, ถุงมือ และทรีทเม้นหลังทำสีผม
ก่อนทำจอสแนะนำให้ทาโลชั่นรอบๆไรผมหน้าผาก คอและใบหูด้วย
เพื่อว่าถ้าสีไปโดนจะได้ไม่ติดตามผิวหนังของเรา อ้อ! แล้วก็อย่าลืมทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ด้วยนะคะ
ถ้าพร้อมแล้วก็ผสมน้ำยาสองตัวเข้าด้วยกันเลย แล้วเขย่า 30-50 ครั้งจนเข้ากันค่ะ






ผมจอสค่อนข้างยาว เลยใช้ทั้งหมด 2 กล่อง อันที่จริงน่าจะประมาณกล่องครึ่งมากกว่าค่ะ
ครั้งนี้จอสจะทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีเนื่องจากสีผมเดิมค่อนข้างอ่อน
คิดว่าสีน่าจะติดง่ายขึ้นค่ะ ส่วนใครที่อยากให้ได้สีที่ชัดเจนสามารถทิ้งไว้นานถึง 40 นาที
หลังจากนั้นก็ล้างออกให้สะอาดแล้วสระด้วยแชมพู และใช้ทรีทเม้นท์ที่แถมมาหมักปลายผมค่ะ



ความรู้สึกหลังใช้ต้องบอกเลยว่าผมนุ่มลื่นมากๆ รู้สึกตั้งแต่สระผมแล้ว
ส่วนสีผมที่ได้คือสีติดง่ายมากแต่จะไม่แตกต่างจากเดิมมากเพราะจอสเลือกโทนสีคล้ายๆแบบเก่า
แต่สีจะมีความสดฉ่ำขึ้น ช่วงโคนผมที่ดำก็กลายเป็นสีเดียวกันทั้งหัว
สีผมที่ได้คือถ้าอยู่ในร่มจะเป็นน้ำตาลเข้ม แต่ถ้าออกแดดจะสว่างขึ้นมาหน่อยค่ะ สวยดี
และที่สำคัญคือสีผมไม่ด่างจ้า ดีใจมากๆ ด้วยความที่เค้ามีส่วนผสมน้ำนมจากฮอกไกโด
มันเลยสามารถแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมได้ดีกว่าแบบครีมค่ะ ทำให้สีติดทั่วทั้งหัว
และด้วยส่วนผสมของน้ำนมนี่แหละที่ทำให้เส้นผมของจอสนุ่มสลวย
จะสังเกตุเห็นเลยว่าก่อนทำสีผมจะดูแห้งและไม่ทิ้งตัว
หลังทำแล้วผมนุ่มลื่น ทิ้งตัว พริ้วสลวยมากค่ะ โดยรวมแล้วค่อนข้างพึงพอใจค่ะ
จะมีปัญหาอยู่นิดเดียวคือช่วงลูกผมของจอสที่เป็นไรผมบางๆ
สีจะอ่อนกว่าช่วงอื่น เนื่องงจากว่าบริเวรนั้นสีจะติดได้ดี 
ทำให้เวลาโดนแสงแล้วมันจะเห็นชัดว่าโคนผมสีสว่าง
แต่ถ้ารอไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์สีจะค่อยๆกลืนกันไปและดูเนียนมากขึ้นค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ Z-cool Color Milk มีจำหน่ายแล้วที่ร้านบิวตี้ช็อปและห้างสรรพสินค้า
ราคาเพียงกล่องละ 189 บาทเท่านั้นจ้า รีบไปหามาลองกันเลย
วันนี้จอสขอตัวลาไปแล้วค่ะ ไว้พบกันใหม่เร็วๆนี้นะคะ



IG - Jossyberryblog




 

Create Date : 26 กันยายน 2559    
Last Update : 10 ตุลาคม 2559 19:38:26 น.
Counter : 7541 Pageviews.  

Workshop : ร่วมพิสูจน์ประสิทธิภาพการบำรุงและปกป้องของโดฟใหม่ Dove Nutritive Solutions





สวัสดีค่ะบล็อกวันนี้จอสจะพาไปดูบรรยากาศการเข้าร่วม Workshop กับ โดฟ นูทริทีฟโซลูชั่น ใหม่
ที่จอสได้มีโอกาศไปร่วมงานและพิสูจน์ประสิทธิภาพการบำรุง
และปกป้องเส้นผมจากความร้อน ด้วยครีมบำรุงผมใหม่จากโดฟ นูทริทีฟ โซลูชั่น
โดยงานในวันนี้ทางโดฟได้แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ฐานด้วยกัน
แต่ละฐานก็จะมีกิจกรรมสนุกๆให้เหล่าบล็อกเกอร์ได้เล่นและเรียนรู้ไปพร้อมกัน
อยากรู้ว่างานนี้จะเป็นอย่างไร ตามจอสไปดูพร้อมกันเลยค่ะ


มาเริ่มกันที่ฐานแรก ฐานนี้เป็นฐานที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับดอกกุหลาบเวลาขาดน้ำค่ะ
โดยเมื่อเวลาผ่านไปดอกไม้ก็ต้องร่วงโรยตามกาลเวลา ทำให้ดอกกุหลาบขาวเปลี่ยนสภาพไปเป็นสีน้ำตาล
แต่เมื่อเราทดสอบการถนอมดอกกุหลาบขาวด้วยครีมนวดผมโดฟแล้ว เวลาผ่านไปพบว่าดอกไม้ยังเป็นสีขาว
และดูสวยงามเหมือนเดิม เนื่องจากโดฟมีหน้าที่ในการปกป้องดอกไม้เหมือนกับเส้นผมนั่นเองค่ะ
เมื่อได้เรียนรู้แล้วเราก็ได้ร่วมทำของที่ระลึก โดยมีดอกกุหลาบและเครื่องประดับต่างๆ
ซึ่งหลังเลิกงานแล้วก็ได้รับกลับบ้านด้วย อันนี้เป็นของจอสที่ทำเองกับมือเลยนะเนี่ย แอบภูมิใจ


มาต่อกันที่ฐานที่สองค่ะ ฐานนี้เราจะมาทดสอบประสิทธิภาพการปกป้องผมเสีย
จากความร้อนของครีมบำรุงผมโดฟใหม่กับกุหลาบ
โดยการทาครีมนวดผม โดฟ ลงไปบนกลีบดอกกุหลาบ จากนั้นนำเข้าเตาอบเพื่อทดสอบการทนความร้อน
ซึ่งดอกกุหลาบก็เปรียบเสมือนเส้นผมของเรานั่นเอง ถ้าผมเราที่ใช้ครีมนวดผมโดฟโดนความร้อน
ผมก็จะยังแข็งแรงนุ่มสลวย ต่างกันกับผมที่ไม่ได้ใช้โดฟ ก็อาจจะแห้งเสียเหมือนกับ
กลีบดอกกุหลาบด้านซ้ายมือที่ไม่ได้รับการบำรุงจากครีมนวดผมโดฟก่อนเข้าเตาอบค่ะ

การพิสูจน์ครั้งนี้ทำให้จอสรู้สึกอะเมซิ่งมากๆเพราะเมื่อนำกลีบดอกกุหลาบออกมาจากเตาอบแล้ว
มันเห็นภาพชัดเจนมากๆเลยค่ะ กลีบดอกกุหลาบที่ทาด้วยครีมนวดผมโดฟสามารถทนต่อความร้อนได้จริงๆ 









ฐานสุดท้ายเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างของเส้นผม
คนเราเมื่อย้อมผมและกัดสีผมบ่อยๆ ก็จะทำให้โครงสร้างผมของเราอ่อนแอ
ส่งผลให้ผมเสียและกลับคืนสภาพเดิมได้ยาก แต่ด้วยเทคโนโลยี Fiber Actives จากโดฟใหม่
ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในแกนผมได้อย่างล้ำลึกจึงช่วยฟื้นฟูผมเสียจากภายใน 
ช่วยปรับโครงสร้างผมให้กลับมาแข็งแรง
และนอกจากนั้นยังมีการทดสอบอีกด้วยว่าเมื่อใช้โดฟเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
จะช่วยให้ผมแข็งแรงและทนต่อความร้อนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ แตกต่างจากแบรนด์อื่น

โดฟใหม่มีอยู่ทั้งหมด 5 สูตรด้วยกัน
สีน้ำเงิน สำหรับผมเสียมาก แตกปลาย, สีเขียว สำหรับผมที่เริ่มเปราะขาดง่าย,
สีทอง สำหรับผมที่เริ่มแห้งหยาบ, สีฟ้า สำหรับผมลีบแบน ผมมัน ขาดวอลลุ่ม,
และสีชมพู สำหรับผมทั่วไป ช่วยเติมความชุ่มชื้นและจัดทรงง่าย



โดยรวมแล้วสำหรับงานเวิร์คช้อปครั้งนี้จอสได้รับความรู้ใหม่มากมายเลยค่ะ
ถึงแม้สถานที่จะแคบไปนิดเมื่อเทียบกับจำนวนเหล่าบล็อกเกอร์แต่ก็อบอุ่นดี
ทำให้รู้สึกรักและอยากดูแลเส้นผมของเราให้ดียิ่งขึ้น
กลับบ้านมาอันดับแรกเลยคือเปิดใช้โดฟก่อนเลยค่ะ กำลังอิน
สูตรใหม่ของโดฟใช้แล้วผมนุ่นลื่นมาก ชอบที่มีกลิ่นหอมติดผมไปทั้งวันด้วยค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/DoveThailand

สำหรับหรับวันนี้จอสก็ต้องขอตัวลาไปก่อน หวังว่าเพื่อนๆจะได้รับความรู้เกี่ยวกับเส้นผมจากบล็อกนี้นะคะ
สามารถพูดคุยและติดตามจอได้ที่ Instagram - Jossyberryblog





 

Create Date : 05 กันยายน 2559    
Last Update : 5 ตุลาคม 2559 21:30:58 น.
Counter : 564 Pageviews.  

Review : แชมพูและเซรั่มสำหรับคนผมร่วงผมบางจาก AloEx (อโลเอ็กซ์)





สวัสดีค่ะบล็อกวันนี้เอาใจเพื่อนๆที่ผมร่วงผมบางโดยเฉพาะ
คือต้องบอกก่อนว่าปกติจอสเป็นคนที่ผมบางตามกรรมพันธุ์ แต่ไม่ได้มีปัญหาผมร่วง
เพราะฉะนั้นจอสจึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับการดูแลเส้นผมเป็นพิเศษ
เพราะถ้าพื้นฐานเราผมบางอยู่แล้ว มาเจอปัญหาผมร่วงอีกก็จะไปกันใหญ่
โดยส่วนตัวแล้วจอสจะเป็นคนที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างอ่อนโยนต่อหนังศีรษะ
ยิ่งถ้าเป็นออร์แกนิคได้ยิ่งดีเลยค่ะ เพราะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติสูง
ก็จะลดโอกาศการแพ้และระคายเคือง ซึ่งวันนี้จอสก็มีโปรดักส์จากแบรนด์นึง
ที่ช่วงนี้ได้มาทดลองใช้และค่อนข้างชอบ ก็เลยอยากจะมารีวิวให้เพื่อนๆได้ดูกันค่ะ


AloEx (อโลเอ็กซ์) เป็นผลิตภัณ์ดูแลเส้นผมสำหรับคนผมร่วงผมบางโดยเฉพาะ
โดยคอนเซปท์ของเค้าก็คือ หยุดผมร่วง ลดผมบาง สร้างผมใหม่
เพราะฉะนั้นจึงสามารถใช้ได้ทั้งคนที่มีปัญหาผมร่วง หรือผมบางจากกรรมพันธุ์ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ของเค้ามีอยู่สองตัวนั่นก็คือ แชมพูสระผมและเซรั่มบำรุงรากผม
AloEx Hair Regrowth Shampoo ขนาด 200 มล.
AloEx Hair Regrowth Serum ขนาด 120 มล.
สองตัวนี้จอสซื้อมาในราคาเซ็ตคู่ 1,500 บาท ราคาอาจจะมองว่าสูงถ้าเทียบกับแชมพูทั่วไป
แต่ถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมสำหรับผมร่วงผมบางแล้วค่อนข้างโอเคค่ะ

AloEx Hair Regrowth Shampoo และ Serum อุดมไปด้วยสารสกัดจากสมุนไพรกว่า 30 ชนิด
จากตำรับโบราณและผ่านการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ จึงเป็นที่ยอมรับในระดับสารกล
โดยสมุนไพรหลักๆที่ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ได้แก่ สารสกัดจากอัญชัญ, ว่านหางจระเข้,
ประคำดีควาย, มะกรูด, ต้นไผ่ และสมุนไพรอื่นๆอีกมากมายค่ะ



เรามาดูกันทีละตัวเลยค่ะ เริ่มจากแชมพู AloEx Hair Regrowth Shampoo
ตัวนี้จะเป็นลักษณะขวดหัวปั้ม ทรงสูง แพกเกจสีขาวเขียว ดูสะอาดตา
คุณสมบัติช่วยขจัดสารเคมีและสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึกถึงรากผม ช่วยปรับสมดุล
ความมันและบำรุงหนังศีรษะให้ชุ่มชื้น จึงลดความมันและปัญหารังแคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถสระได้ทุกวันหรือเว้นวันตามความต้องการของเราค่ะ









เนื้อแชมพูจะเป็นสีขาวขุ่น มีกลิ่นหอมเย็นอ่อนๆ เวลาใช้จอสใช้แค่สองปั้มก็สะอาดทั่วหัวแล้วค่ะ
แชมพูตัวนี้สระแล้วฟองเยอะ สะอาดทั่วถึง แต่รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนไม่ระคายเคืองหนังศีรษะ
ข้อดีอีกอย่างนึงก็คือช่วยลดความมันบนหนังศีรษะแต่ไม่ทำให้ผมแห้งค่ะ
ระหว่างวันรู้สึกสบายเส้นผมและหนังศีรษะไม่มันเร็วและดูมีวอลลุ่มไม่ลีบแบนด้วยค่ะ
เหมาะกับคนผมบางแบบเรามาก เพราะมันทำให้ผมดูหนาได้ระดับนึง
สามารถสระได้ทุกวัน ส่วนตัวจอสจะตามด้วยครีมนวดหรือทรีทเม้นท์เพื่อให้ผมนุ่มลื่นค่ะ



ตัวต่อไปเป็นเซรั่มบำรุงรากผม AloEx Hair Regrowth Serum
ด้วยส่วนผสมของสมุนไพรกว่า 30 ชนิด จึงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ และช่วยยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย DHT ที่เป็นสาเหตุหลักของผมร่วง
ช่วยให้ผมหนาและแข็งแรงขึ้น สามารถใช้ได้วันละ 2-3 ครั้งเลยค่ะ
โดยฉีดลงไปที่โคนเส้นผม ให้ทั่วศีรษะแล้วใช้นิ้วนวดเบาๆให้ซึมลงไป
วิธีใช้ที่ดีที่สุดแนะนำให้ฉีดหลังสระผมตอนที่ผมยังหมาดๆ แล้วปล่อยให้แห้งเอง
เนื้อเซรั่มจะซึมเข้าสู่หนังศีรษะได้ดีมากๆเลยค่ะ






ลักษณะแพกเกจจะมาเป็นหัวฉีดค่ะ ซึ่งพอพ่นลงไปแล้วเนื้อเซรั่มฟุ้งกระจายตัวได้ดี
ทำให้ได้รับการบำรุงอย่างทั่วถึง เนื้อเซรั่มมีลักษณะเป็นสีใสและเหลวค่ะ
กลิ่นตัวนี้จะมีความเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีการปรุงแต่งของน้ำหอมแต่อย่างใด
ใช้แล้วรู้สึกสะบายหนังศีรษะมาก เพราะมีความอ่อนโยนและซึมไว
ระหว่างวันไม่เหนียวเหนอะหนะ หนังศีรษะและโคนผมไม่มันด้วยค่ะ รู้สึกดี
ส่วนตัวแล้วจอสชอบตัวเซรั่มเป็นพิเศษ



เอาเป็นว่าผลิตภัณฑ์ของ AloEx ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สำหรับคนผมร่วงผมบาง
ที่มีความเป็นธรรมชาติสูงและอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ
ในขณะเดียวกันก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากๆค่ะ
ถามว่าใช้แล้วทำให้ผมหนาขึ้นไหม ส่วนตัวจอสใช้มาได้ไม่นานเลยยังให้คำตอบไม่ได้ค่ะ
เอาไว้ถ้าใช้หมดขวดแล้วจะมาอัพเดทอีกทีละกันนะ แต่ความรู้สึกโดยรวมคือดีและชอบมาก

เพื่อนๆที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ทาง Line - @AloEx (มี @ ด้วย)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.aloexhair.com และ Facebook - AloExOfficial ค่ะ

สามารถติดตามและพูดคุยกับจอสได้ที่
IG - Jossyberryblog





 

Create Date : 26 สิงหาคม 2559    
Last Update : 29 สิงหาคม 2559 17:20:24 น.
Counter : 12289 Pageviews.  

Preview : ทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ CG 210





สวัสดีค่ะวันนี้จอสจะพามาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ
ซึ่งตัวนี้เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2559 นีเอง
และจอสก็ได้มีโอกาศไปร่วมงานกับเค้า วันนี้เลยแวะมาอัพเดทให้เพื่อนๆฟังกันนิดนึง
ถือว่าแนะนำผลิตภัณฑ์ตัวใหม่สำหรับเพื่อนๆที่มีปัญหาผมบางผมร่วงก็แล้วกันเนอะ
โดยส่วนตัวแล้วจอสเป็นคนผมบาง เลยให้ความสำคัญกับการดูแลเส้นผมเป็นพิเศษ
เดี๋ยวเรามาดูกันเลยว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะตอบโจทย์ปัญหาของเราได้รึเปล่า


ผลิตภัณฑ์ที่ว่าคือ CG 210 (ซี-จี-ทูเท็น) นั่นเองค่ะ หลายคนอาจจะเห็นจากโฆษณาตามที่ต่างๆมาบ้างแล้ว
CG 210 เค้าเป็นนวัตกรรมเอสเซ้นส์จากธรรมชาติที่มีสาร Cellium เป็นสารสกัดลิขสิทธิ์จากฝรั่งเศส
ที่จะช่วยป้องกันอาการผมร่วงและดูแลหนังศีรษะของเราได้เป็นอย่างดี
ซึ่งทางแบรนด์เองก็ได้เคลมไว้ว่าจากการสำรวจกลุ่มผู้ใช้จริงพบว่ารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงได้ใน 14 วัน
รู้สึกถึงปริมาณผมที่เพิ่มขึ้น เส้นผมหนาและแข็งแรงขึ้น ผมร่วงน้อยลง
และที่สำคัญคือรู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทานอาหารเสริมและใช้ผลิตภัณฑ์ Anti-Hair loss อื่นๆอีกด้วย

ซึ่งภายในงานเปิดตัวได้มีพิธีกรคุณพ่อสุดหล่อหมอโอ๊คและคุณหมอด้านเส้นผมและหนังศีรษะ
มาพูดคุยและให้ความรู้เกี่ยวกับโรคผมร่วงและอาการผมบางต่างๆอีกด้วยค่ะ
งานนี้นอกจากจะได้รู้จักกับผลิตภัณฑ์ดีๆแล้วยังได้ความรู้ติดตัวกลับบ้านไปอีกด้วย



ก่อนเข้างานทางแบรนด์ได้เชิญไปสระผมและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเค้าด้วยค่ะ



และนี่คือหน้าตาของตัวผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้
เค้าทำออกมาสองสูตรด้วยกันสำหรับผู้หญิง (สีม่วง) และผู้ชาย (สีเทา)
CG 210 ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ Anti-Hair Loss and Scalp Essence เอสเซ้นส์ธรรมชาติจากประเทศฝรั่งเศส
สำหรับชายและหญิงที่มีภาวะผมขาดร่วง โดยผ่านการวิจัยพัฒนาเป็นระยะเวลานานถึง 6 ปี
จนได้ส่วนประกอบที่สำคัญที่เรียกว่า Cellium ซึ่งเป็นส่วนผสมของสารสกัดจากพืช 4 ชนิด
ได้แก่ Allium Cepa, Theobroma Cacao, Pullinia Cupana, Citrus Medica Limonum

นอกจากนี้ CG 210 ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นผลิตภัณฑ์ Anti-Hair Loss ที่ดีที่สุด
ในประเทศญี่ปุ่น จากนิตยสาร Nekkei Health ในปี 2556 อีกด้วย

สำหรับวิธีใช้คือให้สเปรย์ลงบนหนังศีรษะวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
ใช้ได้ทั้งขณะผมเปียกและผมแห้ง ซึ่งเค้าจะมีก้านสเปรย์มาให้ด้วย
ก็ทำการฉีดพ่นลงไปประมาณ 5-10 สเปรย์ให้ทั่วศีรษะ แล้วนวดเบาๆด้วยปลายนิ้ว
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่หนังศีรษะ แล้วจัดทรงผมได้ตามปกติเลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียงใดๆ
จึงมั่นใจได้ว่าอ่อนโยนต่อหนังศีรษะและมีความปลอดภัยค่ะ

ขนาดบรรจุ 80 มล. ใช้ได้ประมาณ 1 เดือน
และเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนควรใช้เป็นประจำต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนค่ะ
เพื่อนๆที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.abbott.com
มีวางขายแล้วที่ร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ ได้แก่ บู๊ทส์, ยูแคร์, ไอแคร์, แล็บ ฟาร์มาซี, ฟาร์แมกซ์ ฯลฯ









พูดคุยและติดตามจอสได้ทาง
Instagram : Jossyberryblog




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 3 มิถุนายน 2559 11:00:39 น.
Counter : 1295 Pageviews.  

1  2  3  

Jossy Berry
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Jossy Berry's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.