คืนแรกที่อุดรธานี
หยุดพักผ่อนไปเที่ยว 3 วันค่ะ ตั้งแต่วันที่ 21-23 มกราคม 2548 ค่ะ
21 มกราคม 2548
Trip นี้ คือคืนแรกจะค้างที่จังหวัดอุดรธานีก่อน เที่ยว 1 วัน จากนั้นวันรุ่งขึ้นจึงเดินทางไปที่หนองคาย ข้ามชายแดนไปเวียงจันทน์ ค้างคืนที่ 2 ที่หนองคายค่ะ แล้วก็กลับอ.เกษตรสมบูรณ์วันอาทิตย์
วันนี้ออกเดินทางบ่าย 2 โมง ไม่รู้โอ๊ตขับอีท่าไหน ตื่นมาอีกที 4 โมงเย็นแล้ว!!! ถึงอุดรพอดีเลย ขับเร็วจัง คือเราไม่เคยไปอุดรมาก่อนอ่ะนะคะ ไม่เคยคิดว่าจ.อุดรธานีจะเจริญขนาดนี้ ดูจากอะไร? ก็ที่นี่มีห้างโรบินสัน, มีโรงหนัง Major ด้วยล่ะ, Fast food มีทุกอย่าง ที่สำคัญคือ มี Sizzler ด้วยอ่า...อยากกินจัง แต่ไม่ได้ค่ะ มาถึงนี่แล้ว จะมามัวกินของดาดๆแบบนี้ได้งาย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงที่
ก่อนอื่นก็เช็คอินที่โรงแรมค่ะ เพื่อนที่อยู่ที่นี่ (ชื่อ"เอ" ค่ะ ซึ่งเดี๋ยวก็จะเจอกันเย็นนี้) แนะนำโรงแรมเจริญศรี แกรนด์ ซึ่งถือว่าเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งที่อุดรเลย (น่าจะ 5 ดาวนะ) ห้องพักโอเคเลยค่ะ ชอบมากๆ การเป็นข้าราชการมันดีอย่างนี้นี่เอง มีส่วนลดค่ะ คือห้องละ 1400 บาท ลดเหลือ 900 บาท/คืน
ห้องพักค่ะ
นั่งพักล้างหน้าล้างตากันเสร็จ ก็ไปขับรถชมเมืองอุดรค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นเมืองใหญ่เมืองนึงเลย มีห้างสรรพสินค้าในเมือง ชื่อห้างอุดรเจริญศรี ซึ่งห้างนี้ล่ะค่ะที่มีโรบินสัน และ Major cineplex อยู่ข้างใน ห้างนี้อยู่ติดโรงแรมที่พักเลย(จะเห็นว่าชื่อเดียวกัน) มีคลินิคแพทย์หลายแห่ง (ซึ่งอันนี้ถือว่าธรรมดาในเมืองใหญ่ค่ะ) แต่ที่ไม่ธรรมดาคือ จังหวัดนี้มีคลินิคหมอฟันเยอะมากกกกกกกกก มีตั้งแต่แบบธรรมดาจนถึงหรูหรา มีอยู่แยกนึง มีห้องแถว 6 ห้อง เป็นคลินิคหมอฟัน 5 ห้อง และร้านขายยาอยู่ริมสุด คือถ้ากูปวดฟันเนี่ย เลือกไม่ถูกเลยว่าจะเข้าร้านไหนดี
พูดถึงชื่อเจริญศรี ไม่ได้มีแต่โรงแรมกับห้างนะคะ เป็นทั้งเจ้าของศูนย์บริการ Mazda, Volvo อีกอันนึงถ้าจำไม่ผิดอาจจะเป็น Nissan ค่ะ สรุปคือ เมืองนี้ทั้งเมืองมีแต่เจริญศรีเต็มไปหมด ซึ่งตอนหลังได้ทราบจากเพื่อนว่า เจริญศรี เป็นชื่อของเศรษฐีในอุดรเนี่ยล่ะ ชื่อเจริญ+ศรี ตอนนี้ลูกชายก็เป็นนายกเทศมนตรีอีกด้วย
พอได้เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ก็มาเจอเพื่อนที่นัดไว้ (ก็คือ"เอ"เนี่ยล่ะค่ะ) เอเป็นคนอุดรอยู่แล้ว พอเรียนจบหมอ ก็กลับมาเป็นหมอที่บ้านตัวเอง ตอนนี้ก็กำลังใช้ทุนอยู่ที่ต่างอำเภอเหมือนกัน(แต่บ้านอยู่อำเภอเมือง) (เป็นหมอก็ดีอย่างงี้นี่เอง มีเพื่อนทั่วไทยค่ะ) นั่งคุยสารทุกข์สุกดิบพักนึงที่ Lobby พอสมาชิกทัวร์อีกคนนึงมา(คือ"ต้น")ก็ไปกินข้าวเย็นกัน
ร้านที่เอพาไปกินชื่อ"ระเบียงพัชนี" เป็นร้านติดริมแม่น้ำ ซึ่งถ้าหากมาเองคงหาไม่เจอแน่นอน เพราะซอกซอนมาก ไปถึง คนกินเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ โต๊ะแน่นมาก ว่าจะถ่ายรูปอาหารมาให้ดูด้วย แต่ลืม ราคาไม่แพงมากค่ะ บรรยากาศดีทีเดียว เสียดายที่คนแน่นไปหน่อย
จากนั้น ก็ตะลุยราตรีต่อ ตระเวนดูหลายแห่งมาก สุดท้ายไปจบที่ Mambo อยู่ในโรงแรมนภาลัยค่ะ เปิดเพลงธรรมดาๆอ่ะค่ะ มีแต่เทคโน เปิดฮิพฮอพน้อยมากๆ เลยไม่ค่อยได้ออกลีลาเท่าที่ควร แถมมีคอนเสิร์ตบนเวทีคั่นซะยาวเชียว อิชั้นก็นั่งหลับแล้วหลับอีก (เดินทางเหนื่อยด้วยล่ะ) ภาวนาให้มันปิดตี 1 แต่ดันปิดตี 2 อีกแน่ะ เฮ้อ
พอกลับถึงโรงแรม คนอื่นบอกว่าเดี๋ยวจะไปหาก๋วยเตี๋ยวกินหน่อย แต่ดิชั้นขอบายค่ะ ขืนอยู่ต่อ พรุ่งนี้ดิชั้นคงเป็นศพแน่(แต่พวกมันก็เดินทางไปด้วยกันนี่หว่า เอาเหอะ ไม่เจียมสังขารก็ช่างมัน) ซึ่งปรากฎว่าไม่ได้ไปแค่กินก๋วยเตี๋ยวค่ะ แต่ไปต่อไอ้ผับที่มันเปิดถึงเช้าอ่ะ ซึ่งเดี๋ยวพรุ่งนี้ชั้นจะคอยดูน้ำหน้าว่าจะไหวมั้ย
ต่อวันที่ 2 พรุ่งนี้นะคะ
Create Date : 25 มกราคม 2548 |
Last Update : 1 พฤษภาคม 2552 20:48:53 น. |
|
2 comments
|
Counter : 469 Pageviews. |
|
|