Group Blog
 
All blogs
 

ปลดสุภัคแลกเพิ่มทุนทหารไทย

ปลดสุภัคแลกเพิ่มทุนทหารไทย
โดย เดลินิวส์ วัน พฤหัสบดี ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2550


>


รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. นายสมหมาย ภาษี รมช.ได้เปิดแถลงข่าวด่วนเพื่อชี้แจงกรณีปัญหาการเพิ่มทุนของธนาคารทหารไทย โดยระบุว่า สิ่งที่กระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 31% และกลุ่มดีบีเอส จากสิงคโปร์ ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 16% เศษ เห็นตรงกันคือก่อนเพิ่มทุนครั้งใหม่ ต้องเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหารรวมถึงซีอีโอ ที่มีความสามารถมากกว่านี้ รมว.คลัง เองก็เห็นชอบแต่งตั้งเงื่อนไขว่าซีอีโอใหม่ต้องเป็นคนไทย รวมทั้งยังมีผู้ถือหุ้นระดับกลางบางรายได้ตั้งเงื่อนไขที่จะไม่เพิ่มทุน หากไม่เปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ขณะที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ออกมาเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงผู้บริหารด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ได้แจ้งและส่งสัญญาณให้ผู้แทนของกระทรวงการคลังที่แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร ทราบมานานแล้วแต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมไม่สนองตอบ นโยบายของผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งกระทรวงการคลังจะไม่ทำอะไรที่รุนแรงไปมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการว่าเมื่อ รมช.คลัง ออกมาส่งสัญญาณเช่นนี้แล้วต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
นายสมหมาย กล่าวว่า การเข้าไปเพิ่มทุนให้กับธนาคารทหารไทยจะเป็นไปตามขั้นตอน คือสิ่งที่ผู้ถือหุ้นเรียกร้องคือต้องเปลี่ยนแปลงซีอีโอก่อน จึงจะใส่เงินเพิ่มทุนให้ จากนั้นจึงพิจารณาเรื่องของคณะกรรมการตามสัดส่วนหรือความต้องการของผู้ถือหุ้นที่ได้เปลี่ยนแปลงไป แต่กระทรวงการคลังยังคงถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 25.1% และนับจากนี้ไปจนถึงปลายปีหากยังไม่มีการเพิ่มทุนให้แล้วเสร็จฐานะของธนาคารทหารไทยก็เข้าขั้นร่อแร่แล้ว แม้จะมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเกินกว่า 8.5% ก็ตาม แต่หากเปลี่ยนแปลงซีอีโอที่สามารถทำได้ทันทีรับรองได้ว่าราคาหุ้นของธนาคารทหารไทยมากกว่าหุ้นละ 2 บาทแน่นอน
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า ยังไม่คิดที่จะยื่นใบลาออก ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารและผู้ถือหุ้น และไม่ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องที่ รมช.คลัง ระบุว่าธนาคารต้องเปลี่ยนแปลงผู้บริหารก่อนการเพิ่มทุน เพราะได้รับคำเตือนจากผู้ใหญ่ว่าอย่าโต้กันไปมา แต่ก็ยืนยันว่าฝ่ายบริหารได้ปรับปรุงแผนธุรกิจมาโดยตลอดเพื่อให้การดำเนินงานของธนาคารดีขึ้น.




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2550 18:30:18 น.
Counter : 336 Pageviews.  

ธนาคารกลางจีนเชื่อเงินหยวนแข็งค่า - ไม่ช่วยแก้ปัญหาเกินดุลการค้า

ธนาคารกลางจีนเชื่อเงินหยวนแข็งค่า - ไม่ช่วยแก้ปัญหาเกินดุลการค้า
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 มิถุนายน 2550



ธนาคารกลางจีนชี้ว่า การแข็งค่าของเงินหยวนเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะช่วยแก้ปัญหายอดเกินดุลการค้าจำนวนมหาศาลของจีน วันนี้(22 มิ.ย.) หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ ของทางการจีนรายงานวันนี้อ้างคำให้สัมภาษณ์ของนางอู๋ เซียวหลิง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนว่า ปัจจัยหลักของยอดเกินดุลการค้าจำนวนมหาศาลของจีน ซึ่งเป็นต้นเหตุของความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างประเทศ คือ ปัญหาทางด้านโครงสร้างที่จีนเน้นการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญในช่วงระยะที่ผ่านมา และว่าปัญหาดังกล่าวไม่อาจแก้ไขได้ด้วยการปรับอัตราแลกเปลี่ยนให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเท่านั้น นางอู๋ กล่าวด้วยว่า การเปิดตลาดการเงินของประเทศใดประเทศหนึ่งควรอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับความพร้อม และสถานะของตลาดการเงินในประเทศนั้น ๆ ถ้านโยบายเปิดเสรีภาคการเงินของประเทศใด ๆ เป็นไปโดยปราศจากระบบการบริหารการจัดการที่มีประสิทธิภาพแล้ว ก็จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบการเงินโดยรวมของประเทศนั้น ๆ นางอู๋ระบุว่า จีนได้ดำเนินมาตรการด้านการเงิน และภาษีหลายประการเพื่อจำกัดการขยายตัวของการส่งออก และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และจะดำเนินมาตรการผ่อนปรนกฎระเบียบต่อไป เพื่อให้เงินทุนไหลออกนอกประเทศมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดสภาพคล่องส่วนเกินในระบบธนาคารในประเทศ รวมถึงการออกใบอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์และกองทุนต่าง ๆ ในจีน สามารถไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ ในต่างประเทศได้ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคมนี้ ถ้อยแถลงของนางอู๋ มีขึ้นหลังจาก นายเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ วิจารณ์เมื่อกลางสัปดาห์นี้ว่า การดำเนินแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนเชื่องช้าเกินไป ทำให้ค่าเงินหยวนยังอยู่ในระดับที่อ่อนตัวกว่าความเป็นจริง




 

Create Date : 25 มิถุนายน 2550    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2550 14:32:45 น.
Counter : 340 Pageviews.  

แบงก์ชาติโทษการเมืองไม่นิ่ง มาตรการกดดอกเบี้ยต่ำไร้ผล

แบงก์ชาติโทษการเมืองไม่นิ่ง มาตรการกดดอกเบี้ยต่ำไร้ผล
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 มิถุนายน 2550



แบงก์ชาติชี้การเมืองไม่นิ่ง ทำมาตรการลดดอกเบี้ยนโยบายไม่สัมฤทธิ์ผล ฉุดดอกเบี้ยในระบบลงตามช้า ขณะที่ค่าบาทยังแข็งค่าจากเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ธปท.มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน(อัตราดอกเบี้ยนโยบาย)มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.50% แต่การส่งผ่านนโยบายการเงินจากสถาบันการเงินไปสู่ประชาชนผ่านช่องทางอัตราดอกเบี้ยและสินเชื่อยังคงล่าช้า เนื่องจากปัจจัยด้านการเมืองได้กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนและผู้บริโภค แม้ศักยภาพการลงทุนยังมีอยู่ก็ตาม
"ต้นทุนในปัจจุบันเมื่อเทียบกับอดีตถือว่าต่ำมาก แต่คนที่จะลงทุนจริงๆต้องมองไกลๆเมื่อเขามอง 1-2 ปีความไม่แน่นอนยังมีอยู่เลยชะลอลงทุน แต่เราเชื่อว่าศักยภาพการลงทุนของเขามีอยู่ เขาคงจะรอภาพต่างๆให้ชัดเจนขึ้นก่อน ทำให้ยอดกู้ยืมที่เกิดขึ้นใหม่มีน้อย” นายเมธีกล่าว
สำหรับการส่งผ่านนโยบายการเงินผ่านช่องทางอัตราแลกเปลี่ยนมีผลน้อยมากเช่นกัน เห็นได้จากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าอยู่ และการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศมายังไทยก็ยังมีมาก โดยเฉพาะในส่วนของภาคการส่งออก ทำให้ในปัจจุบันไทยเกินดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไทยจะสนับสนุนให้นักลงทุน รวมทั้งผู้ส่งออกที่ทำธุรกรรมกับนักลงทุนต่างชาติสามารถนำรายได้ในรูปเงินตราต่างประเทศได้ไปฝากไว้ในต่างประเทศได้ เพื่อช่วยในการดำเนินธุรกรรมในรูปเงินตราต่างประเทศ แต่ผู้ส่งออกไม่ค่อยนิยม เนื่องจากส่วนใหญ่การดำเนินธุรกรรมจะมีการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าไว้แล้ว
ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดโลกไม่เป็นไปตามทฤษฎี กล่าวคือ หากประเทศใดที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในทางกลับกันค่าเงินสกุลนั้นจะแข็งค่าขึ้น แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เช่น ประเทศญี่ปุ่น แม้อัตราดอกเบี้ยจะต่ำแต่ค่าเงินเยนยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง ทำให้มีการใช้นำเงินเยน ซึ่งมีผลตอบแทนต่ำเป็นสกุลเงินระดมทุนในสินทรัพย์หรือตราสารการเงินที่อยู่ในรูปของสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า (Carry Trade) ไปลงทุนในประเทศสหรัฐแทน เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันเงินไหลออกของญี่ปุ่นจะทำธุรกรรมนี้ส่วนใหญ่
"ในตอนนี้มีนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาทำในลักษณะ Carry Trade ไม่มากนัก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของไทยไม่สูงนัก ประกอบกับยังมีมาตรการกันสำรอง30% สำหรับเงินทุนระยะสั้น ทำให้ความกังวลที่หลายฝ่ายคาดว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติถอนเงินลงทุนจากไทยไปลงทุนในญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีก็คงกระทบไม่มาก เพราะเงินลงทุนจากต่างประเทศในลักษณะนี้มีไม่มากนัก”นายเมธี กล่าวและว่าในช่วงที่ผ่านมาธปท.ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้วหลายครั้งก็ไม่ได้มีเงินทุนไหลออกมากนัก และเมื่อเงินบาทแข็งค่าก็กลับส่งผลดีต่อการชำระหนี้คืนก่อนกำหนด โดยเฉพาะหนี้ในส่วนของรัฐบาล
นอกจากนี้ การส่งผ่านของดอกเบี้ยนโยบายผ่านช่องทางการคาดการณ์ถือว่ามีประสิทธิภาพมากขึ้นและถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้ผลของการส่งผ่านนโยบายการเงินเป็นไปได้เร็วมากขึ้น




 

Create Date : 25 มิถุนายน 2550    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2550 14:34:32 น.
Counter : 243 Pageviews.  

ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ

หุ้นใหญ่สั่งปลดฝ่ายบริหาร ก่อนเพิ่มทุนแบงก์ทหารไทย 20 มิถุนายน 2550 "



สมหมาย" ระบุ คลัง-ดีบีเอสเห็นพ้องปลดทีมบริหารแบงก์ทหารไทยก่อนใส่เงินเพิ่มทุน ลั่นคลังจะถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 25.1% คาดแล้วเสร็จกันยายนนี้
นายสมหมาย ภาษี รมช.การคลัง กล่าวถึงกรณีปัญหาของธนาคารทหารไทยว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่คือกระทรวงการคลัง และธนาคารดีบีเอส ได้หารือกันก่อนหน้านี้ โดยต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายบริหารก่อนการใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามา เพื่อให้มั่นใจว่าธนาคารสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้โดยไม่ต้องเพิ่มทุนอีก จากนั้นจึงแต่งตั้งคณะกรรมการใหม่เข้ามาตามสัดส่วนการถือหุ้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังยืนยันว่าจะรักษาความเป็นผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 25.1% เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของธนาคาร แต่ก็เห็นว่าขณะนี้สถานการณ์ยังมีความน่าเป็นห่วง เพราะเจ้าหนี้ต่างประเทศเริ่มตัดเครดิตไลน์บ้างแล้ว แต่ยังได้รับความน่าเชื่อถือจากผู้ฝากเงิน เพราะมีคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ด้านนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.การคลัง กล่าวว่า การเพิ่มทุนของธนาคารทหารไทยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ และภายในเดือนกันยายนจะได้รับเงินเพิ่มทุนเข้ามา ส่วนเรื่องการปรับเปลี่ยนผู้บริหาร ควรรอให้เป็นไปตามขั้นตอน โดยเรียนไปทางนายสมหมายแล้วว่า ขอให้ถอยเรื่องการให้ความเห็นต่อธนาคาร เพื่อให้การเพิ่มทุนเดินไปข้างหน้าได้ นายกฯ สั่งสางปัญหาเหล็ก คลังเตรียมชง ครม.ลดภาษี 20 มิถุนายน 2550 นายกฯ สั่งคลังเร่งแก้ปัญหาภาษีเหล็กซิลิคอน ด้าน ฉลองภพ ยอมรับผิดพลาดในการจัดเก็บ พร้อมเตรียมเสนอครม.พิจารณาลดภาษีนำเข้าให้ต่ำสุด หลังลดต้นทุนผลิตอุตฯในประเทศ
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นักลงทุนญี่ปุ่นได้สอบถามเกี่ยวกับปัญหาภาษีเหล็กซิลิคอน กรณีที่กรมศุลกากรกล่าวโทษผู้ประกอบการที่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทญี่ปุ่น ว่ามีเจตนาเลี่ยงภาษีนำเข้าเหล็กซิลิคอน และต้องจ่ายภาษีย้อนหลังรวมเบี้ยปรับเป็นเงินราว 3,000 ล้านบาท โดยเรื่องนี้ได้สั่งให้กระทรวงการคลังเร่งพิจารณาแก้ไขให้เสร็จโดยเร็ว และมั่นใจว่านักลงทุนจะไม่ย้ายฐานการลงทุนจากไทยไปประเทศอื่น
ด้าน ดร.ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.การคลัง กล่าวว่า คลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาเกี่ยวกับภาษีเหล็กซิลิคอนในเร็วๆ นี้ โดยจะเสนอให้ลดภาษีสำหรับเหล็กทุกชนิดที่ยังไม่สามารถผลิตในประเทศไทย ซึ่งจะลดให้เหลืออัตราต่ำสุดเพื่อไม่ให้กระทบต่อต้นทุนผลิตของอุตสาหกรรมในประเทศ ส่วนปัญหาที่ผ่านมาอาจมาจากความคลาดเคลื่อนในการกำหนดพิกัดภาษี จึงเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขได้
ส่วนปัญหาสินค้ากระจกที่ผู้นำเข้าถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากเดิม หลังกระทรวงการคลังปรับกระบวนการจัดเก็บภาษีใหม่ เป็นตัวเลขบาร์โค้ด 8 หลัก ทำให้เกิดความผิดพลาดนั้น คลังจะเสนอ ครม.ให้พิจารณาปรับลดภาษีกลับไปที่เดิม




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2550    
Last Update : 7 กรกฎาคม 2550 14:36:09 น.
Counter : 445 Pageviews.  

1  2  

IBM_AGood
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add IBM_AGood's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.