Daisy Black story : ความฝันที่ไม่เลือนหาย แม้จะลืมตาตื่น คืนที่ 4 [เพราะ]
คืนที่ 4 : [เพราะ]

จะลืมตา หรือ หลับตา...

จะพูดคุย หรือ นิ่งเฉย...

จะยอมรับ หรือ ปฏิเสธ...

ต้น และ ฉัน นอนอยู่บนเตียงที่สำหรับนอนคนเดียวนี้ ตั้งแต่เมื่อคืน ฉันยังคงลำดับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ไม่กระจ่างนัก

มันเกิดขึ้นได้ยังไง ทำไมถึงเกิดขึ้น และเพราะอะไรฉันถึงไม่โกรธต้น...

.............

ฟ้าด้านนอก เริ่มมีแสงสว่างอ่อนๆปนขมุกขมัว เมฆสีเทาลอยต่ำ เคลื่อนคล้อยไปเอื่อยๆ เรื่อยๆ ช้าๆ หรือ ฟ้าก็กำลังคิดไม่ตกเหมือนกับฉัน ...

ต้น หลับสนิท แต่ก็ไม่คลายวงแขนที่กอดฉันไว้แน่น

ฉันไม่ได้รู้สึกอึกอัด แต่กลับรู้สึกสบาย สบายซะจน ฉันเริ่มเถียงกับตัวเองในใจว่า หรือ ที่เหตุการณ์ล่วงเลยมาถึงตอนนี้

เป็นเพราะฉันเอง ฉันเองที่ก็มีใจให้ต้นเช่นกัน

แต่ก็เหมือนมีเสียงของตัวเองอีกเสียงดังขึ้นมาจากบางส่วนในร่างกายว่าไม่ใช่ ถ้าเราคบกับต้น เมื่อเปลี่ยนสถานะมาเป็นแฟน

จะต้องเปลี่ยนตัวเองอีกแค่ไหน ต้องเรียกกันว่าอะไร ต้องหึงมั้ย หรือ ต้องงอลกันมั้ย

ยิ่ง 2เสียงในหัวฉันเถียงกันมากเท่าไร ฉันก็ยิ่งปวดหัวเท่านั้น

ฉันพยายามแกะมือของต้นออกจากเอวของฉันอย่างเบาที่สุดเพื่อไม่ให้ต้นตื่น

สิ่งแรกที่ฉันทำหลังจากหลุดจากวงแขนของต้นคือ หยิบกางเกงยีนที่กองอยู่ที่พื้นแล้วรีบสวมอย่างรวดเร็ว

จากนั้นเดินไปที่ริมระเบียงและหยิบบุหรี่ที่โดนทับแบนอยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาจุดสูบทันที

... เฮ้อ … ควันกลุ่มแรกที่หลุดออกมาจากริมฝีปากฉันมาพร้อมกับเสียงถอนหายใจนี้ ... ฉันต้องทำตัวยังไงนะ

ฉันมองออกไปที่ฟ้าเบื้องหน้า ลมเย็นๆเริ่มพัดมา เริ่มมีเสียงฟ้าร้อง ฟ้าคะนองเบาๆเหมือนเป็นสัญญาณว่าสิ่งที่ ขมุกขมัว เมื่อกี้นี้

มันเริ่มรวมเป็นกลุ่มก้อนใหญ้และพร้อมจะระเบิดออกมาแล้ว ฉันคิด …

ต้น ตื่นมาตอนไหนไม่รู้ เพราะฉันเดินกลับเข้ามาที่ห้อง ต้นก็อยู่ในห้องน้ำซะแล้ว

ตายล่ะสิ ยังไม่ตั้งตัวเลยทำไงดี //-*-// กระโดดขึ้นเตียงทำเป็นนอนหลับดีกว่า คิดได้ดังนั้น ฉันก็กระโดดขึ้นเตียงแล้วหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง
แกล้งตายทันที

ฉันรู้ว่าความคิดนี้มันช่างไร้สาระ ปัญญาอ่อนสิ้นดี ใครที่ไหนก็รู้ว่า ไม่ ยัยนี่ไม่มีทางกลับจากดูดบุหรี่แล้วหลับภายใน 5 วินาที

แถมยังหลับเป็นตายอีกแบบนี้แน่นอน แต่ตอนนี้ความคิดฉันก็คือ ไม่อยากจะพูดอะไรทั้งนั้น ไม่รู้ว่าคำที่หลุดพูดออกไปคำแรกนั้น มันจะทำให้เกิดเรื่องอะไรตามมา

ปึง..เสียงต้นปิดประตูห้องน้ำ ฉันนอนนิ่งใต้ผ้าห่ม แถบจะไม่ได้หายใจ ..เงียบ...-------

ต้นทำอะไรนะ ...ในใจถึงจะคิดอยากรู้เท่าไร แต่ก็ไม่กล้าเปิดผ้าห่มออกมาดู

ยวบ..เหมือนปลายเตียงที่ฉันนอนอยู่นั้นมีบางอย่างทับมันทำให้ยวบลงไป ...ต้นหรอ! ...

“มีน” เสียงต้นดูแผ่วเบา เหมือนกึ่ง กล้าๆกลัวๆที่จะเรียก “มีน....มีน” เสียงนั้นถามซ้ำ

ฉันไม่ตอบอะไร นิ่งเงียบไว้ .... “มีน..” ครั้งนี้เสียงดูดังขึ้นและจริงจัง

ฉันคงต้องทำอะไรแล้วล่ะ ...ฉันทำเป็นงวงเงีย ค่อยๆส่งเสียง “หาวววว...หืมมมม....ว่ายังไง...”

“เมื่อคืน..” ต้นเริ่มพูดแต่ก็เงียบไป

ฉันไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยมันอึดอัด มันค้างคา เหมือนจะหายใจไม่ออกพิกล

ฉันเปิดผ้าห่มขึ้น ฉันตกใจมาก หน้าต้นอยู่ใกล้กับฉันเกินกว่าที่ฉันคิด ตอนแรกฉันคิดว่าต้นจะอยู่ที่ปลายเตียง

ฉันรีบเขยิบตัวขึ้นเอาหลังพิงหัวเตียง

ต้นก็พงะถอยหลังไปเพราะคงตกใจเช่นกัน

“เมื่อคืน ต้นขอโทษนะ ต้นแค่..ทำในสิ่งที่ใจคิดตอนนั้น.....เท่านั้นเอง” ต้นพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่จริงจัง

“อืม เข้าใจมึงเมานี่นะ กูก้อเมาด้วยแล่ะ ก็เอาเป็นว่าลืมมันไปกันเถอะเน๊อะ” ฉันตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มและทำท่าผ่อนคลายเหมืองไม่ได้คิดมากอย่างที่สุด

-----ความเงียบเริ่มครอบงำอีกครั้ง-------

ฉันอยากหลุดออกจากบรรยากาศนี้จึงจะลุกขึ้นจากเตียง

ต้นรีบเขยิบเข้ามาใกล้ฉันทันที “ แต่ต้นรักมีนจริงๆนะ “ ใบหน้าต้นอยู่ใกล้ใบหน้าฉันซะจนฉันต้องหันหน้าหนีไปทางอื่น

“แต่ต้นไม่รู้ว่ามันเรียกว่าความรัก ต้นแค่รู้ว่าเวลาเราอยู่ด้วยกัน ต้นมีความสุขมาก มีนคือคนที่รู้ใจ และเข้าใจต้นที่สุด แต่ต้นไม่กล้าจะบอกมีน
ต้นกลัวว่าถ้าเกิดต้นขอมีนเป็นแฟน ความเป็นเพื่อนของเราจะยังคงอยู่เหมือนเดิมมั้ย “
ต้นพูดต่อและแน่นอนเข้ามาใกล้ใบหน้าฉันยิ่งกว่าเดิมอีกคราวนี้

“เอ่อ ต้น กูว่านะมึงเขยิบไปหน่อยก็ได้นะ หูกูยังไม่ตึงน่ะ” ฉันพยายามดึงเข้าโหมดตลกทันที เพราะ ไม่รู้ว่าจะตอบสิ่งที่ต้นพูดกลับไปยังไง

ต้นเขยิบไปนั่งที่กลางเตียงอันที่จริงคือเขยิบไปแค่หนึ่งกระเถิบเท่านั้น

“ต้น กูว่าเพราะมึงเหงาน่ะ “ ฉันตอบกลับต้นไป

“มึงเชื่อเถอะเราเป็นแฟนกันไม่ได้หรอก ทะเลาะกันตายอ่ะ” ฉันตอบกลับไปเพราะอันที่จริงมันก็น่าจะเป็นแบบนั้น

“ไม่ลองแล้วจะรู้เหรอ” ต้นตอบกลับมาบ้าง

“แล้วถ้าลองแล้วเรากลับมาเป็นเพื่อนกันไม่ได้แล้วนะเว้ย” ฉันรีบตอบกลับไปให้ต้นได้ยั้งคิดในสิ่งที่พูดมา

ต้นเงียบไปเหมือนจะคิดอะไรได้ ตอนนั้นเองฉันรีบลุกแล้วจัดแจงเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วตรงดิ่งเข้าห้องอาบน้ำทันที

ช่วงที่ฉันอาบน้ำ ฉันก็หวังว่าต้น จะคิดได้ว่าที่จริงแล้วเราควรเป็นอะไรกัน

แล้วตัวฉันล่ะ อยากเป็นอะไรกับต้น......

----//----

ฝนตกลงมาหนักมากทีเดียว ลมเริ่มพัดแรง เราออกไปไหนไม่ได้ เพราะ สถานที่ก็คงไม่ได้ดูแล้ว แต่ถ้าจะกลับตอนนี้ก็ดูจะลำบากเกินไป

ตั้งแต่ฉันอาบน้ำเสร็จ เราไม่ได้คุยอะไรกันเป็นพิเศษ นอกจากคุยกันว่าคงต้องสั่งข้าวขึ้นมากินบนห้อง

ฉันดูนาฬิกาที่ข้อมือตอนนี้แค่ 11 โมงกว่าๆเอง แต่ท้องฟ้าที่บ้าคลั่งราวพายุนี้ทำให้บรรยากศช่างหนาวเย็น และ มืดครึ้มยิ่งนัก

เรากินข้าวไปดูทีวีไป ฉันเปิดช่องการ์ตูนดู เพราะ ฉันชอบดูมาก ส่วนต้น ก็นั่งดูอยู่ที่เตียงของเขาไปเงียบๆเช่นกัน

พอหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน ฉันหันไปต้นเองก็กำลังจัดแจงท่านอน เพื่อเตรียมพักสายตา

ฉัน ที่ไม่ได้นอนทั้งคืน ก็พร้อมจะปิดเปลือกตาลงแล้วเหมือนกัน

...............

อุ่น...ริมฝีปากอุ่นที่คุ้นชินนั้นอีกแล้ว....

....อยากเห็นหน้า.....

แต่ถ้าลืมตาสิ่งนี้จะหายไป หลับตาต่อไป ความอุ่นจากริมฝีปากของใครคนนั้น ค่อยๆปล่อยกระแสบางอย่างที่ทำให้ทั้งตัวก็เริ่มจะ อุ่นตามขึ้นมา .....

----//----

“มีน ...มีน” เสียงเรียกทำให้ฉันฉันลืมตาขึ้น

ต้นนั่งคุกเข่าอยู่ที่ข้างๆเตียงของฉัน ต้นกำลังพยายามจะโน้มตัวลงมาเพื่อประกบริมฝีปากของต้น ลงบนริมฝีปากของฉัน

“ทำอะไรน่ะ” ฉันรีบผลักต้นแล้วถามขึ้น

“รู้แล้วล่ะ ว่าต้นอยากเป็นอะไรกับมีน” ต้นตอบพร้อมทั้งจับมือที่ฉันผลักอกเค้านั้นมากุมไว้

“เอ่อ ต้นคือกูว่าเราคง..”ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบต้นก็ประกบปากมาที่ฉัน ฉันขัดขืนแต่ก็สู้แรงของต้นไม่ได้จริงๆ ต้นดึงตัวฉันไปกอดแน่นเช่นเคย

“ต้น ต้น ต้น !!!!” ฉันรีบเรียกสติต้น ทันที

“มีนทำไม มึงไม่ชอบกูหรอ “ ต้นเริ่มถามฉันด้วยเสียงที่ลังเล เหมือนจะร้องไห้

“มึงเข้าใจมั้ยว่ามันเป็นไปไม่ได้ เราเป็นเพื่อนกัน “

“เพื่อนกัน ก็ รักกันได้นะ เมือคืนกูมีความสุขมากนะ และกูก็คิดว่ามึงเองก็มีความสุขเหมือนกัน...กูคิดว่ากูอยากจะคบกับมึงเป็นแฟนมากกว่าแล้วล่ะ”

ฉันฟังสรรพนามที่ต้นเรียกฉัน ถึงแม้มันจะเหมือนเดิม เหมือนตอนเราเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่มันก็แฝงไว้ด้วยความรู้สึกแปลกๆที่ชวนอบอุ่นบางอย่าง ที่ทำให้คำที่เราเรียกกันปกตินั้นเปลี่ยนไป

แต่ใช่แล้วต้นพูดถูก ว่า ฉันเองก็มีความสุขมากเช่นกัน และอันที่จริงฉันเองก็ชอบต้นอยู่เช่นกัน

แต่เพราะอะไรทำไมฉันถึงยอมคบกับต้นไม่ได้ตัวฉันเองก็ไม่รู้

ต้นดึงฉันเข้าไปกอด อีกครั้ง คราวนี้เหมือนต้นจะแสดงความมั่นใจให้กับฉันว่า สิ่งที่เค้าพูดนั้นมันคือเรื่องจริง

ฉันนิ่งไม่พูดอะไร แต่ตอนนั้นเองที่ฉันรู้สึกคิดถึงความฝันนั้นขึ้นมาอีกครั้ง

ริมฝีปากที่อบอุ่นนั้น ....คงเป็นเพราะริมฝีปากที่อบอุ่นนั้นสินะ

ฉันได้แต่คิดอย่างนั้น....


>>>>>>>>> To Be Continue Ka * <<<<<<<<<<<





Create Date : 25 พฤษภาคม 2554
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2554 16:25:06 น.
Counter : 396 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

~HiPpOKreA~
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ถ้าบางทีการมีชีวิตอยู่ของคน คนหนึ่ง มันไม่ได้ทำร้ายใคร ... คนคนนั้นก็ไม่สมควร ถูกทำร้ายนะ ....

แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่อย่างที่คิดเสมอไป !!!!