Group Blog
 
All blogs
 
มารู้จักตัวเองและกินอาหารให้ถูกตามกรุ๊ปเลือดกันเถอะคะ


เคยได้ยินไหมคะว่า You are what you eat! หลายคนเชื่อว่ามันจริงคะ จึงพยายามเลือกสรรอาหาร และหันมาใส่ใจในสุขภาพกันมากขึ้น โดยก็เชื่อว่าการรับประทานผัก ผลไม้สม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์จะทำให้คุณปลอดภัยจากโรคร้า่ยต่างๆ หากความเป็นจริงแล้ว ความต้องการประเภทของอาหารในแต่ละคนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ มากมาย และความแตกต่ีางของกรุ๊ปเลือดก็เช่นกัน


เลือดของคนเราแบ่งออกเป็น 4 กรุ๊ปตามระบบ เอบีโอ( ABO system) ได้แก่ กรุ๊ป กรุ๊ป กรุ๊ป AB และกรุ๊ป O การถ่ายเลือดนั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่อแอนติเจนและแอนติบอดีของเลือดตรงกันหรือเข้ากันได้ หลักเกณฑ์ในการถ่ายเลือดมีอยู่ว่า

    * คนที่มีเลือดกรุ๊ป A ซึ่งมีแอนติเจน A และมีแอนติบอดี B สามารถรับเลือดกรุ๊ป A และ O ได้
    * คนที่มีเลือดกรุ๊ป B มีแอนติเจน B และแอนติบอดี A สามารถรับเลือดกรุ๊ป B และ O ได้
    * คนที่มีเลือดกรุ๊ป AB มีทั้งแอนติเจน A และ B แต่จะไม่มีแอนติบอดี สามารถรับได้ทุกกรุ๊ป แต่ให้ใครไม่ได้เลย 
   
    * ส่วนคนที่มีเลือดกรุ๊ป O ไม่มีแอนติเจน แต่มีแอนติบอดีทั้ง A และ B สามารถให้เลือดได้กับทุกกรุ๊ปแต่รับได้เฉพาะเลือดกรุ๊ปเดียวกันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เลือดกรุ๊ป O จึงได้ชื่อว่าเป็นนักบุญนั่นเอง

กรุ๊ปเลือดเหล่านี้ถูกกำหนดโดยพันธุกรรม ลูกจะมีเลือดอยู่ในกลุ่มที่ตรงกับพ่อหรือแม่อย่างน้อยคนใดคนหนึ่ง การตรวจเลือดจึงมักเป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งในการพิสูจน์หาพ่อแม่ที่แท้จริง

กรุ๊ปเลือดโอ : จัดเป็นพวกโปรตีน (High Protein Diet)

เจ้าของแนวคิดได้อธิบายที่มาของคนกรุ๊ปเลือด O ว่า เป็นกรุ๊ปเลือดที่เก่าแก่ที่สุดโดยมาจากมนุษย์กลุ่มแรกของโลก ดำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์และกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร จัดว่าเป็นกลุ่มคนที่ค่อนข้างแข็งแรง


ลักษณะเด่นของเลือดกรุ๊ปโอคือ น้ำย่อยในระบบย่อยอาหารมีความเป็นกรดสูง ซึ่งเหมาะกับอาหารประเภทเนื้อแดงหลายชนิด ผักและผลไม้ส่วนใหญ่มีประโยชน์กับกรุ๊ปเลือดโอ แต่นมวัว และชีสแทบทุกชนิดจะย่อยยากสำหรับคนเลือดกรุ๊ปโอ ที่สำคัญที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงจนถึงการงดการรับประทานแป้งสาลี เพราะเลคตินในแป้งสาลีจะทำปฏิกิริยาที่เป็นผลเสียต่อเลือดและรบกวนระบบเผาผลาญของร่างกาย

สิ่งที่ควรเน้นเพิ่มคือ ปลาและอาหารทะเล ทั้งนี้เพื่อเพิ่มแคลเซียมซึ่งร่างกายจะไม่ได้รับจากนมวัว และเพิ่มไอโอดีนเพื่อประโยชน์ของฮอร์โมนไทรอยด์ซึ่งมักจะไม่คงที่


อาหารที่ควรรับประทาน
- เนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อแดง ยกเว้นเนื้อหมู เนื่องจากกระเพาะของคนกรุ๊ปเลือดโอมีความเป็นกรดสูง  ย่อยอาหารได้เร็วและดูดซึมได้ดีมาก
- อาหารทะเล ควรรับประทานเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเลือดไม่แข็งตัวและไทรอยด์ที่มีโอกาส
เกิดขึ้นได้ง่ายในคนกรุ๊ปเลือดโอ
- ผักผลไม้ที่ดี ได้แก่ บร็อคโคลี่ สปินิช คะน้า สับปะรด พลับ พรุน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผา
ผลาญอาหาร

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- อาหารทุกชนิดที่ทำจากแป้งสาลี เพราะจะมีปฏิกิริยาต่อระบบย่อยและระบบเลือด ทำให้น้ำหนักเพิ่มและ
เสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อม
- ผักจากพวกกะหล่ำ ที่จะมีผลต่อระบบไทรอยด์ เห็ดหอม มะเขือยาว มันฝรั่งและข้าวโพดไม่ดีต่อกรุ๊ป
เลือด
- เครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟและเบียร์ ซึ่งจะเพิ่มกรดในกระเพราะอาหารที่มีมากอยู่แล้ว


กรุ๊ปเลือดเอ : จัดเป็นพวกมังสวิรัติ (Vegetarian Diet)

เป็นกลุ่มที่พัฒนามาจากคนกรุ๊ปเลือด O คือเมื่อหมดยุคล่าสัตว์ก็เริ่มต้นตั้งถิ่นฐาน และรู้จักการเพาะปลูกพืช กินผักผลไม้เป็นอาหารหลักแทนเนื้อสัตว์  คนกรุ๊ปเลือดเอมีน้าย่อยในกระเพาะอาหารมีความเป็นกรดต่ำ ทำให้ไม่เหมาะกับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดง เพราะจะย่อยได้ยาก และเป็นเหตุให้เกิดสารท็อกซินขึ้นในร่างกาย ควรหันมารับประทานเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อปลาและเนื้อไก่แทน แต่ควรเลี่ยงปลาเนื้อขาว เช่น ปลาตาเดียวและประจาระเม็ดเพราะมี เลคตินที่รบกวนระบบย่อยของกรุ๊ป A  ที่น่าจะระวังเป็นพิเศษ คือ อาหารสำเร็จรูปประเภทไส้กรอกหรือแฮมเพราะมีสารประกอบไนเตรทอยู่มาก สามารถกระตุ้นการเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารซึ่งมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ รวมทั้งเพิ่มการรับประทาน วิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานที่ดีของระบบภูมิคุ้มกันและยังช่วยลดปัญหาเรื่องของกรดในกระเพาะอาหารต่ำอีกด้วย

อาหารที่ควรรับประทาน
- ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ถั่วลิสงจะดีมาก เพราะมีเลคตินที่ต่อต้านมะเร็ง
- ผักผลไม้ที่ดี ได้แก่ หอมใหญ่และบร๊อคโคลี่ มีสารแอนตี้อ็อกซิเด้นท์สูง แครอท ฟักทอง ผักโขมและ
กระเทียม ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน สับปะรด ส้มโอและมะนาวมีกรดที่ช่วยย่อยและเพิ่มการทำงานของ ลำไส้เล็ก

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- อาหารประเภทเนื้อสัตว์ เพราะจะทำให้ย่อยยากและเกิดการสะสมของไขมัน อาจทำให้เป็นโรคหัวใจ
และมะเร็ง ควรหันมารับประทานเนื้อไก่และเนื้อปลาแทน
- ผลิตภัณฑ์นมวัว และเนย ซึ่งจะชะลอระบบเผาผลาญอาหารและเกิดเสมหะเพิ่มขึ้น
- อาหารประเภทดองและอาหารสำเร็จรูป เช่น ไส้กรอกและแฮม เพราะมีไนไตรท์ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการ
เกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารได้ง่ายสำหรับคนกรุ๊ปเลือดเอที่มีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ
- ผักผลไม้ ได้แก่ มะเขือเทศ ส้ม แตงโม แคนตาลูป เพราะจะทำให้ย่อยยาก
- เครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมและเบียร์


กรุ๊ปเลือดบี : จัดเป็นพวกผสมผสาน (
B–BALANCE)

หลังจากที่มนุษย์ได้ตั้งถิ่นฐานและเพาะปลูกแล้ว ก็เริ่มเลี้ยงสัตว์เอง กินเนื้อและนมของสัตว์ที่เลี้ยงไว้ ร่างกายได้มีวิวัฒนาการมากขึ้น จนเกิดเป็นกลุ่มเลือดกรุ๊ป B คนกลุ่มนี้จึงค่อนข้างจะกินอาหารได้หลากหลาย ทั้งผัก ผลไม้ นม เนย ไข่(ได้ไม่มากนัก) และเนื้อสัตว์ ซึ่งจะมีก็แต่เนื้อไก่เท่านั้นที่เลกตินไม่เข้ากับกรุ๊ปเลือด

ลักษณะเด่นคือ คนกรุ๊ปเลือดบีเป็นกรุ๊ปเดียวที่สามารถรับประทานอาหารประเภท นมวัว เนย และไข่ได้ตามปกติ ยกเว้น เนยแข็งรสเข้มเพราะจะย่อยยาก นอกจากนั้นยังรับประทานเนื้อสัตว์ได้หลากหลายในขณะที่เรื่องของพืชผัก ผลไม้นั้นรับประทานได้หลายชนิด โดนเฉพาะผักใบเขียว

ถึงแม้คนกรุ๊ปบีจะมีระบบย่อยที่ค่อนข้างสมดุลที่สุดแต่ยังคงต้องระวังเป็นพิเศษกับเนื้อไก่ ซึ่งมีเลคติกที่รบกวนระบบเลือดอย่างมาก สามารนำไปสู่อาการเส้นเลือดแตกในสมอง และภูมิคุ้มกันบกพร่องได้ คนกรุ๊ปบีควรเปลี่ยนไปใช้ไก่งวงแทนเนื้อไก่จะเป็นทางเลือกที่ดีมาก และอีกประการหนึ่งคือ ควรงดหอยเชลล์ ปลาแซลมอนชนิดรมควัน กุ้ง ปู และหอยแครง ซึงเป็นอาหารที่ยังอยู่ในข่ายต้องสงสัยเช่นกัน

อาหารที่ควรรับประทาน
- อาหารจำพวกนมเนยไข่ ให้ประโยชน์อย่างมากต่อกรุ๊ปเลือดบี
- เนื้อแกะ ไก่งวงและกระต่าย และปลาน้ำลึก เช่น ปลาหิมะ ปลาจาระเม็ด
- ผัก ผลไม้ให้ผลดีเกือบทุกชนิด ควรรับประทานมากผักมากๆ เพื่อป้องกันโรคที่มาจากเชื้อไวรัสและ
ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นง่ายในคนกรุ๊ปเลือดบี

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- เนื้อหมู และเนื้อไก่ ซึ่งจะรบกวนระบบเลือดที่อาจจะนำไปสู่อาการทางสมองและโรคข้อเสื่อม
- ถัวต่างๆ ไม่ดีต่อคนกรุ๊ปเลือดบี โดยเฉพาะถั่วลิสงและงา ซึ่งจะรบกวนระบบอินซูลิน ที่จะทำให้เกิดการ
ลดน้ำตาลในเลือดเฉียบพลัน
- อาหารทุกชนิดที่ทำจากแป้งสาลี ข้าวโพด ซึ่งมีผลต่อระบบเผาผลาญอาหารและจะทำให้น้ำหนักเพิ่ม
ควรรับประทานข้าวเจ้าและเบเกอรี่ที่ทำจากแป้งสเปลท์แทน
- ผัก ผลไม้ ที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเคร่งครัด ได้แก่ มะเขือเทศ ข้าวโพด มีมีผลต่อกระเพาะอาหารและ
ระบบการย่อยอาหารและการลดน้ำตาลในเลือดเฉียบพลัน


คนกรุ๊ปเลือดเอบี : จัดเป็นพวกลูกผสมของกรุ๊ปเอและบี

เป็นกลุ่มที่มีวิวัฒนาการซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดหลังสุด ค้นพบเมื่อประมาณ 1,000 - 1,500 ปีมานี้เอง มีลักษณะคล้ายกรุ๊ป A และกรุ๊ป B รวมกัน

คนกรุ๊ปเลือดเอบีนั้น มีลักษณะการรับประทานอาหารให้เหมาะสมค่อนข้างซับซ้อน เพราะเป็นส่วนผสมของลักษณะเลือดจากกรุ๊ปเอและกรุ๊ปบี ซึ่งนั่นหมายถึงอาหารที่ส่งผลดีต่อร่างกายของคนเลือดกรุ๊ปเอและอาหารที่ส่งผลดีต่อร่างกายคนเลือดกรุ๊ปบี ก็จะส่งผลดีต่อร่างกายคนเลือดกรุ๊ปเอบีด้วย


แหล่งโปรตีนที่เหมาะสมได้แก่ อาหารทะเล (ยกเว้นปลาเนื้อขาวแลแซลมอนรมควัน) เต้าหู้ เนื้อแดง บางชนิด เช่น เนื้อแกะ และกระต่าย แต่ควรรับประทานในปริมาณที่ไม่มากนักในแต่ครั้งครั้ง จึงจะย่อยได้ดี ที่สำคัญ คือ ควรรับประทานผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายในแง่ป้องกันมะเร็ง คนกรุ๊ปเอบีควรหลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปประเภทไส้กรอกและแฮมซึ่งมีสารประกอบไนเตรต์เช่นเดียวกับคนกรุ๊ปเลือดเอ

อาหารที่ควรรับประทาน
- ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและเต้าหู้ และอาหารจำพวกนมเนยไข่ แต่ทานได้ไม่มากนัก
- อาหารทะเล เนื้อแกะ กวาง กระต่าย และไก่งวงในปริมาณน้อยๆ ในแต่ละครั้ง เพราะร่างกายผลิต
น้ำย่อยไม่เพียงพอในการย่อยโปรตีนที่มากเกินไป
- ผักสด มีประโยชน์มากๆ เพราะเป็นอาหารสำคัญที่สามารถป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ ซึ่งเกิดขึ้นได้ง่าย
ในคนกรุ๊ปเลือดเอบี
- ผลไม้ที่มีไวตามินC สูง เช่น ส้มโอ เชอร์รี่ สับปะรด จะช่วยต้านมะเร็งและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ
หัวใจ

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- เนื้อวัวเนื้อหมูและปลาแซลมอนรมควัน เพราะย่อยยากและเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร
- ถั่งแดง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้างโพด ชะลอการทำงานของอินซูลิน อาจทำให้น้ำตาลใน
เลือดลดลงอย่างเฉียบพลัน
- อาหารประเภทดองและอาหารสำเร็จรูป เช่นไส้กรอดและแฮม เพราะอาจทำให้เป็นมะเร็งในกระเพาะ
อาหาร

แนะสูตรกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด

กรุ๊ปเอ จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งและโรคหัวใจ เพราะระบบการย่อยและภูมิต้านทานไม่ ค่อยดี จึงควรกินอาหารมังสวิรัติ ข้าวกล้องและอาหารที่มีธาตุเหล็ก ควรเลี่ยงอาหารประเภทเนื้อสัตว์ และอาหารสำเร็จรูปประเภทไส้กรอก หมูแฮม เพราะจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ควรกินปลาแซลมอนและโยเกิร์ตไขมันต่ำ และไม่ควรออกกำลังกายหักโหม

กรุ๊ปบี สามารถเลือกทานอาหารได้หลากหลายกว่าคนเลือดกรุ๊ปเอ แต่ควรหลีกเลี่ยงเนื้อไก่ โดยเฉพาะอกไก่ เพราะจะทำให้เส้นเลือดในสมองตีบ คนที่มีเลือดกรุ๊ปบีกินผัก ผลไม้ ได้ทุกชนิด แต่มะเขือเทศจะทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารมาก ส่วนข้าวโพดก็ไม่ควรกินเยอะ เพราะจะทำให้อ้วน

กรุ๊ปเอบี ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งและโรคหัวใจ จึงควรกินอาหารประเภทมังสวิรัติ อาหารประเภทนมและไข่ทานได้ในปริมาณพอเหมาะ แต่หากเป็นไซนัสควรหลีกเลี่ยง คนกรุ๊ปเลือดเอบีควรกินอาหารทะเล เต้าหู้ ชา กาแฟ และไวน์แดง ผักสด ผลไม้ที่ดีคือ สับปะรดและส้มโอ ควรหลีกเลี่ยงกล้วย ฝรั่ง และส้ม รวมถึงปลาเนื้อขาว แซลมอนรมควัน

กรุ๊ปโอ จะเป็นกรุ๊ปเลือดที่กินอาหารได้หลากหลายที่สุด เป็นกรุ๊ปเลือดที่มีสุขภาพแข็งแรง และมีกรดในกระเพาะอาหารมากจึงย่อยโปรตีนได้ดี แต่ต้องระวังเรื่องคอเลสเตอรอล จึงควรหลีกเลี่ยงข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต หอยนางรม ปลาหมึก รวมถึงผลไม้ประเภทแคนตาลูป ส้มและสตรอว์เบอร์รี่ เพราะจะยิ่งเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร และคนที่มีเลือดกรุ๊ปโอนั้นเหมาะกับการออกกำลังกายแบบหนักๆ เป็นที่สุด









Create Date : 25 กรกฎาคม 2551
Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 23:19:05 น. 1 comments
Counter : 483 Pageviews.

 
Thank you for...เรื่องสุขภาพนะค่า..ได้ความรู้ดีจ้า


โดย: vava IP: 124.120.239.41 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:31:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Doungchampa
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หนึ่งฤทัย
Comment
--
Friends' blogs
[Add Doungchampa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.