วันที่ 10 Salzburg - Obertraun Dachsteinhöhlen - Hallstatt

วันนี้รีบกินอาหารเช้าและออกจากโรงแรม  นั่งรถบัส โดยใช้บัตร Salzburg card ที่เวลายังเหลืออยู่ นั่งไปลงที่สถานีรถไฟ Salzburg   

 ขึ้นรถไฟจาก Salzburg  - Obertraun Dachsteinhöhlen รอบเวลา 09.12 - 11.28ใช้เวลา 2.16นาที ราคา 9 ยูโร/คน (เปลี่ยนขบวน 1 ครั้ง ที่ Attnang-Puchheim )มีรอบรถไฟออกทุกๆ1 ชั่วโมง

เราได้ซื้อตั๋วรถไฟของ OBB ไว้ล่วงหน้านานแล้ว  ก็ปริ๊นไฟล์จากเน็ต ลงกระดาษ A4  ใช้ได้เลย (พิมพ์ออกมาให้ครบตามจำนวนคนด้วยนะ ตั๋วบางชนิด จะให้ปริ๊นออกมาที่ละใบ) 

ตั๋วนี้สำหรับ 1 คน เป็นแบบไม่ระบุที่นั่่ง   (เราก็ปริ๊นมา 3 ใบ ไฟล์ที่ทางเว็บ OBB ส่งให้มา ก็จะมีีแนบมา 3 ใบเช่นกัน)

นั่งรถชมวิวข้างทางไปเรื่อย 

เมื่อถึงสถานีรถไฟ Obertraun Dachsteinhöhlen  (เป็นสถานีที่เลยจาก Hallstatt  มา 1 ป้ายเอง)  ก็เดินเลาะตามรางรถไฟไปเรื่อยๆ เพื่อไปโรงแรม Dormio ResortObertraun

โรงแรม Dormio Resort Obertraun ราคารวมคืนละ  9,614 บาท  (แบ่งเป็นค่า ห้อง 3,852  ค่าทำความสะอาดต่อครั้งการเข้าพัก 5,762 บาท ) ถ้าพักตั้งแต่ 2 คืน จะคุ้มราคามาก  และต้องมาจ่ายภาษีหักพักอีกคนละ 2 € ต่อคน 

ที่เลือกพักฝั่ง Obertraun เพราะราคาโรงแรมถูกกว่า Hallstatt  พอสมควร และได้วิวธรรมชาติริมทะเลสาบด้วย 

ใช้เวลาเดินไม่นานก็ถึง โรงแรมแล้ว 

เราได้บ้านพักเป็นหลัง แบบบ้านแฝด ขนาด 2 ห้องนอน  3 ห้องน้ำ  มีครัวและอุปกรณ์การทำอาหารครบ  มีห้องนั่งเล่น และระเบียงหลังบ้าน  

ระยะห่างของบ้านแต่ละหลัง ใครขับรถมาก็สะดวก จอดหน้าบ้านได้เลย 

สำรวจภายในบ้าน  เปิดประตู้เข้าไปก็เจอแบบนี้เลย 

มุมทำครัว 

ระเบียงหลังบ้าน ถ้าอากาศดี ออกมานั่งเล่นได้ แต่ตอนที่ไป ถ้าออกไปนัั่งเล่น คงนั่งแข็งตายแน่ๆ 555

ห้องนอน 1

ห้องนอน 2 

สำรวจครัวกัน มีเตาไฟฟ้า กาต้มน้ำ เครื่องชงกาแฟ 

แก้วทุกชนิด

จานชาม พร้อมใช้

ช้อน ซ้อม มีด อุปกรณ์ครบ

หม้อ กระทะ

ตู้เย็น

เตาอบและเครี่องล้างจานอัตโนมัต

อุปกรณ์ในการล้าง มีน้ำยาล้างจาน ฟองน้ำ ให้ด้วย  กระดาษทิซชูก็พร้อม

เครื่องอาบน้ำ ครบเซ็ท

โรงแรมนี้ดีมาก อุปกรณ์ในการทำอาหารครบหมด สำรวจจนพอใจ ก็ออกไปเที่ยวต่อได้แล้ว

จากที่พัก ไป Hallstatt นั่งบัส สาย 543 

เดินออกมาหน้ารีสอร์ท ก็เป็นป้ายรถบัสเลยรอรอบเวลา  12:30  ที่ป้าย Obertraun Feriendorf ไปลงที่ป้าย  Hallstatt Lahn (Schiffstation) ใช้เวลา 6นาที ค่าโดยสาร คนละ €2.2 ต่อเทียว 

ถึงแล้ว เมือง Hallstatt ลงจากรถบัสก็ถ่ายรูปได้เลย

เดินเข้าเมืองกันเลย 

แวะกินข้าวกลางวันร้านอิตาลี ร้านนี้ Café Derbl

กาแฟ Cappuccino ร้อน ๆ สักแก้ว € 3.7

หมูทอดเวียนนา €18.60 

พิซชารวม 4 หน้า €12.90

สลัดปลาเทราต์ € 12.50

สตูว์เนื้อ  €12.90 และสั่งโค้ก 2 แก้ว  €5.8

มื้อนี้จ่ายไป € 66.4 

อิ่มแล้วก็เดินเที่ยวต่อ 

มุมยอดฮิต ต้องมาถ่าย

เมือง Hallstatt เป็นเมืองเล็กๆ ใช้เวลาเดินนิดเดียวก็ทั่วแล้ว  

พวกเราก็เลยเดินกลับไปจุดทีี่ลงรถบัส เพื่อแวะซื้อของใน ซุปเปอร์มาร์เก็ต   (อยู่ฝั่งตรงข้ามป้ายรถบัสเลย)  เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลาง มีครบทุกอย่าง 

ซื้อกับข้าวมาทำ € 43.31 (สำหรับ 2 มื้อ)

ตอนขากลับไปยืนดูตารางรถบัส ดูเวลาแล้วต้องรอรถอีกเป็น ชั่วโมง  รถวิ่งน้อย นานๆมีรอบรถที  

ตารางรถบัส 

พวกเราก็เลยตัดสินใจสอบถามรถตู้สีีแดง ที่เป็น Taxi  ตรงบริเวณนั้น

 สอบถามราคาไปส่งที่ รีสอร์ท คิด € 15   เพื่อความชัวก็ถามย้ำอีกที่ว่าเป็นราคารวมหมดแล้วไม่มีบวกอะไรเพิ่มนะ  พี่คนขับก็บอก ไม่มีชาร์จแล้ว  เป็นอันตกลง ขึ้นรถได้ 

หน้าตารถตู้ Taxi  ถ่ายตอนมาส่งหน้ารีสอร์ทเรา  จริงๆใช้บริการ รถตู้แบบนี้ก็คุ้มดีนะ ไม่ต้องรอรถบัสให้เสียเวลา สำหรับเรา 3 คนถือว่าคุ้มค่าเลย 

กลับถึึงที่พัก ก็ไปเดินสำรวจรอบๆ รีสอร์ทกัน

ที่พักอยู่ติดริมทะเลสาบ

เดินเล่นเลาะไปเรื่อยๆ 

วิวสวยมาก คิดไม่ผิดที่ยอมจ่ายแพงเพื่อพักที่นี้

ด้านหลังคือ อาคารบ้านพักของรีสอร์ท

บริเวณรอบๆ รีสอร์ท สวยมาก เสียงนกร้อง วิวทะเลสาบ อยากพักอยู่หลายๆคืน

มีจุดให้ใช้เตาปิ้งบาบีคิวด้วย 

มุมปิ้งย่าง พร้อมวิวงามๆ 

ได้เวลากลับไปทำอาหารค่ำแล้ว

หุ้งข้าวสวย โดยใช้หม้อต้มเป็นครั้งแรก 

สำเร็จเป็นข้าวสวย พร้อมกิน 

มื่อเย็นได้เป็นข้าวแกงกระหรี่เนื้อ ไข่ข้น

ลูกชายออกมาถ่ายรูปตอนค่ำๆ อีกครั้ง มองไปเห็นฝั่ง Hallstatt ยามค่ำคืน

...คืนนี้กินอิ่มนอนหลับสนิทเลย

Create Date : 08 สิงหาคม 2561 Last Update : 13 ธันวาคม 2561 19:12:37 น. Counter : 950 Pageviews.		1 comments
Share Tweet