• เรื่องเที่ยว...ขอให้บอก (ตอน...เที่ยวเมืองไทย)
• เรื่องเที่ยว...ขอให้บอก (ตอน...เที่ยวเมืองนอก)
• The Album of Love...U & Me

Fall in Love with Pranburi #2 : I Love You "Foresta" Hello...ห่างหายจากการ up blog ไปนานเลย แถมที่ไปเที่ยวมาก็เพิ่งจะรีวิวไปแค่ part เดียวเอง เหอะๆ ขี้เกียจอะไรแบบนี้เนี่ย   ความเดิมจากตอนที่แล้ว(นานมว๊ากกก)...เราไปเที่ยวพระราชวังบ้านปืนมาแล้วก็มุ่งตรง(แบบหลงๆ)เข้าปราณฯเลยค่ะ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ Foresta Resort ซึ่งซื้อ package มาจากงานไทยเที่ยไทยเมื่อนานมาแล้ว ที่พักน่ารักมากค่ะ เห็นแล้วรักเลย เล็กๆ เงียบๆ แถมมีมุมน่ารักๆให้ถ่ายรูปเต็มไปหมดเลย ถูกใจมากกกค่ะ... เริ่มด้วยป้ายหน้ารีสอร์ทก่อนเลย รีสอร์ทไม่ติดทะเลนะคะ แต่แค่เดินข้ามถนนเล็กไปก็ถึงละ มาดูบรรยากาศรอบรีสอร์ทกันบ้างค่ะ ซึ่งถ่ายมาเยอะมาก แบบว่าหมดทุกมุมแล้วมั้ง อิอิ แล้วเด๋วค่อยพาไปดูห้องนอนกันเนอะ ^_^ น่ะ...มีหลายชุดด้วย อยู่สามวันก็ถ่ายมุมเดิมมันสามวันเลย 555+ ชอบมากกก... อันนี้เป็นตรง Reception ค่ะ บรรยากาศสบายๆ พนักงานอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแล้วก็บริการดีมาก ตรงนี้คือที่ทานอาหารเช้าค่ะ อยู่ริมสระว่ายน้ำเลย เห็นเล็กๆแต่ที่นี่ก็มีสระว่ายน้ำน้า ขนาดกะทัดรัดแต่ก็น่าเล่นอยู่น้า อาหารเช้าก็ทั่วไปอ่ะค่ะ มี ABF แล้วก็ข้าวต้ม ก็อร่อยดีค่ะ   เราไม่ได้ลงเล่นน้ำหรอกค่ะ มันโจ่งครึ่มเกินไปอ่ะ แบบว่ามันอยู่น่าห้องคนอื่นเค้าเลย แต่ก็ไม่ง้อหรอกเพราะไฮไลท์มันอยู่ที่ห้องเราตะหาก อิอิ ดูวิวสระอีกแปปนะ เด๋วจาพาไปดูห้องละ   ถึงมีคนเล่นน้ำอยู่ก็หาได้แคร์ไม่ โพสมันเข้าไป 555+ มีมุมน่ารักๆอยู่หน้าห้องครัวด้วย ถ่ายให้คุณแฟนมั่ง หึๆๆ...แล้วก็มาถึงไฮไลท์ของเราในทริปนี้ค่ะ เราเลือกจองรีสอร์ทนี้เพราะห้องนี้เลยนะเนี่ย แต่นแต้นนน... ห้อง Honeymoon sweet พร้อม pool villa ขนาดกะทัดรัด น่ารักๆสมราคาค่ะ มาดูห้องน้ำกานบ้าง เรียบมากกกแต่ก็กว้างดีค่ะ สระก็สะอาดดีนะคะ มีแม่บ้านมาคอยเก็บใบไม้ให้ ตอนที่ไปอากาศก็ดี๊ดี แช่น้ำสบายเลย แต่ว่ายไม่ได้นะคะแค่นอนแช่เฉยๆ นึกว่าพระเอกMV 555+ มาแช๊ะๆในห้องบ้าง ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกะรีสอร์ทคือที่พักในฝันของเราค่ะ Villa Maroc นั่นเอง ไว้เก็บตังได้มะไหร่จามานอนให้ได้เลย ยามค่ำคืนก็สวยไปอีกแบบ ปิดท้ายด้วย Dinner น่ารักๆ ที่รวมอยู่ใน package ของทางรีสอร์ทค่ะ ร้านอาหารของทางรีสอร์ทก็น่านั่งดี รสชาติก็ใช้ได้เลยค่ะ   ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมนะคะ blogหน้าจะพาไปหลงเอ้ย...ไปเที่ยวรอบๆรีสอร์ทกันค่ะ บ๊าย บาย...   Create Date : 13 พฤศจิกายน 2554     Last Update : 13 พฤศจิกายน 2554 13:08:46 น. Counter : 752 Pageviews.   3 comment Share Tweet

Fall in Love with Pranburi #1 : "พระราชวังบ้านปืน...เพราะหลงทางจึงหลงรัก" "เพราะหลงทาง...จึงหลงรัก" เมื่อวันที่ 18-20 ก.ค.ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวปราณบุรีกับคุณแฟนค่ะ ออกจากกรุงเทพฯด้วยความหิวโหย เราเลยไปแวะกินข้าวกันที่"ร้านคุณจ๋า"ค่ะ ร้านประจำของครอบครัว ผ่านทางนี้ทีไรเป็นต้องแวะทุกที ร้านตั้งอยู่ในวัดเขายี่สารค่ะ เข้าไปทางคลองโคน ทางสะดวกแถมมีป้ายบอกตลอดทางเลย อาหารที่นี่อร่อย อาหารทะเลก็สดมาก แถมราคายังเป็นมิตรอีกตะหาก ของขึ้นชื่อของที่นี่คือเมนูใบชะครามค่ะ (แต่วันนี้เราไม่ได้สั่ง เพระากินบ่อยละ) ขอบอกว่าปลาแดดเดียวทอดของที่นี่อร่อยมากค่ะ ยิ่งกินกับข้าวสวยร้อนๆนะ แง่มๆ พูดแล้วอยากกินอีกจัง ท้องอิ่มละทีนี้เราก็ไปเที่ยวต่อกันที่เมืองเพชรฯค่ะ ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะพาคุณแฟนไปเที่ยวบนเขาวังโดยนั่งรถกระเช้าขึ้นไป เนื่องจากคุณแฟนเพิ่งถอยกล้องมาใหม่เลยอยากจะเอาไปถ่ายลิง แฟนออกจะสวย(หรอ?) ดันอยากถ่ายลิงซะงั้น  ขับรถวนไปวนมา แล้วก็วนมาวนไป เอ๊ะ...แล้วเขาขึ้นกันตรงไหนล่ะเขาวังเนี่ย? หลงไปหลงมา อ่านป้ายแล้วก็ยังงง แถมตีกันในรถอีก เห็นป้ายทางเข้า"พระรามราชนิเวศน์" เลยเลี้ยวเข้าไปซะเลย เชอะ...ไม่ง้อเขาวังก็ได้ ชิชิ (ได้ข่าวว่าหาทางขึ้นไม่เจอเอง -*-) พระรามราชนิเวศน์ หรือ พระราชวังบ้านปืน ตั้งอยู่ที่เขตบ้านปืน ริมแม่น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระราชวังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อเสด็จประพาสจังหวัดเพชรบุรี พระตำหนักได้ใช้ลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบบาโรค (Baroque) และแบบอาร์ต นูโว (Art Nouveau) หรือที่เยอรมันเรียกว่าจุงเกนสติล(Jugendstil)ตัวพระตำหนักจะเน้นความทันสมัยโดยจะไม่มีลายปูนปั้นวิจิตรพิศดารเหมือนอาคารในสมัยเดียวกัน พระตำหนักหลังนี้จะเน้นในเรื่องของความสูงของหน้าต่าง ความสูงของเพดานซึ่งกว้างเป็นพิเศษ ทำให้พระตำหนักดูใหญ่โต โอ่อ่า สง่างาม และตระการตา (ข้อมูลจากเวปวิกิพีเดียค่ะ) อ้อ...ถ้าจะเข้าชมด้านในด้วยต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาทนะคะ เป็นค่าบำรุงรักษาสถานที่ค่ะ เป็นพระราชวังที่สวยงามมากค่ะ แลดูอ่อนหวานและโรแมนติกมาก ได้อารมณ์วนิดาสุดๆ แต่เสียดายที่ด้านในอาคารไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพค่ะ เอาล่ะ...ถึงเวลานางแบบเริ่มทำงานแล้วค่ะ อิอิ 1 2 3 แชะ!!   ตรงนี้เป็นส่วนของสวนน้ำพุด้านในค่ะ คิด(เอาเอง)ว่าคงถ่ายรูปได้ เนื่องจากไม่ใช่ภายในอาคาร ก็แหม...สวยซะจนอดใจไม่ถ่ายไม่ไหวอ่ะค่ะ และตรงนี้เป็นส่วนด้านบนระเบียงชั้นสองค่ะ คิด(เอาเองอีกแล้ว)ว่าคงจะถ่ายรูปได้ แต่ครั้งนี้ไม่ได้จริงๆค่ะ มีน้องนักเรียนขึ้นมาบอกว่าถ่ายไม่ได้ เลยต้องหยุดเลย แต่ก็เก็บภาพมาได้บ้างนะคะ (ต้องขอโทษผู้ดูแลสถานที่ด้วยนะคะที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้ตั้งใจจะฝ่าฝืนกฎนะคะ ) แดดแรงมากค่ะ แต่เราก็ไม่หวั่น ยิ้มสู้ค่ะ ก็อยากได้ภาพสวยๆนี่นะ รูปคู่กันบ้างค่ะ ยังไม่ได้ซื้อขาตั้งกล้อง เวลาถ่ายรูปคู่กัน เลยแลดูอนาถๆยังไงก็ไม่รู้ ออกจากพระราชวังบ้านปืนแล้วเราก็จะมุ่งตรงสู่ปราณบุรีกันเลยค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ติดตามนะคะ แล้วอย่าลืมตามไปดูตอนต่อไปที่ปราณฯนะคะ จะได้รู้ว่าปราณฯมีดีอะไรเราถึงได้ตกหลุมรัก...แล้วเจอกันค่ะ   Create Date : 24 กรกฎาคม 2554     Last Update : 24 กรกฎาคม 2554 11:03:21 น. Counter : 1669 Pageviews.   3 comment Share Tweet

อะไรๆก็สวยไปหมดที่...วังน้ำเขียว ทริปนี้ไปมาตั้งแต่ต้นปีค่ะ เป็นทริปครอบครัวสุขสันต์ ยกโขยงไปกันเกือบยี่สิบคน สนุกสุดๆกันไปเลยค่ะ จุดหมายปลายทางของเรามีดังนี้ค่ะ Palio-เมืองในหมอก-Jim Thompson Farm-สวนเมืองพร พร้อมแล้วก็ออกรถกันเลยนะคะ อิอิ มาแวะที่แรกกันก่อนเลยค่ะ "Palio" นั่นเอง เห็นใครๆเค้าก็มากัน เลยขอตามกระแสด้วยคน(ถึงจะช้าไปหน่อยก็ตาม) แดดร้อนมากกก... คนเยอะมากกก...หามุมถ่ายรูปลำบากจริงๆ แต่นางแบบมืออาชีพอย่างเราก็มิหวั่นค่ะ แทรกตัวผ่านฝูงชนไปโพสท่าตามมุมต่างๆมาได้มากมาย อิอิ (สังเกตชุดนางแบบนะคะ มาในธีม Cowgirl สุดๆ)  ยอมรับว่าเค้าจัดสถานที่ได้สวยงามจริงๆ ร้านรวงต่างๆก็น่ารักกุ๊กกิ๊กไปหมด แต่ของแอบแพงค่ะ ซื้อไม่ลงเลยจริงๆ ได้แต่เกาะกระจกถ่ายรูปเฉยๆ จะถ่ายรูปกันทีบางมุมเกือบต้องแจกบัตรคิวกันเลยทีเดียว เสาร์-อาทิตย์ก็งี้แหล่ะค่ะ ทำใจไว้เลยที่ไหนๆคนก็เยอะ ออกจากPalioเราก็ไปเข้าที่พักซึ่งเป็นไฮไลท์ของเรากันดีกว่าค่ะ นั่นก็คือ..."เมืองในหมอก"นั่นเอง ตรงทางเข้าที่พักค่อนข้างลำบากนิดนึงค่ะ ป้ายบอกทางน้อยและดูยากมาก หลงตามๆกันไปหลายคันเลย ถนนก็เป็นลูกรังมีอิฐหินดินทรายเต็มไปหมด พ่อบ่นสงสารรถเลย ถ้ามาแบบรถ4x4ก็สบายค่ะ ทางรีสอร์ทน่าจะปรับปรุงทางเข้าหน่อยนะคะ จะเริ่ดมากเลยค่ะ บุกป่าฝ่าดงจนมาถึงรีสอร์ทก็หายเหนื่อยเลยค่ะ วิวสวยมากกก... อากาศก็ดีสุดๆ คุ้มค่ากับการจองล่วงหน้ากันเป็นเดือนๆมาก บ้านที่ครอบครัวเราพักกันเป็นบ้านหลังใหญ่บนเนินค่ะ น่าอยู่มากๆ เป็นบ้านสองชั้น มีทั้งหมดแปดห้องนอน และหลายห้องน้ำ (จำมะได้ละ มันเยอะ) แล้วทางรีสอร์ทก็ยังแถมเตนท์ให้อีกเกือบสิบหลังแน่ะค่ะ กางไว้ให้พร้อมที่ลานข้างบ้าน เป็นอะไรที่เริ่ดมากๆ นอนกันห้องละคนเตนท์ละคนเลยที่เดียว ที่นี่เค้าคิดราคาเป็นรายหัวค่ะ จำมะได้ละว่าเท่าไหร่ ประมาณ700-900นี่แหล่ะค่ะ มีอาหารค่ำหนึ่งมื้อ อาหารเช้าหนึ่งมื้อ เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ค่ะ (อร่อยด้วยน้า) เสียดายที่ถ่ายรูปบ้านมาน้อย มัวแต่ชื่นชมบรรยากาศรอบๆ ที่นี่เค้าจะจ่ายไฟเป็นเวลานะคะ ห้าโมงเย็นถึงห้าทุ่มแล้วก็อีกทีตอนเช้าอ่ะค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ ไม่ต้องพึ่งแอร์หรือพัดลมใดๆทั้งสิ้น อากาศดีมาก เย็นสบายจนถึงขั้นหนาวเลยทีเดียว พื้นที่ของรีสอร์ทจะอยู่บนเนินเขาทั้งหมดค่ะ ส่วนที่เป็นจุดทานอาหาร ลานกิจกรรมรอบกองไฟ และลานกางเตนท์ใหญ่จะอยู่บนสุด ซึ่งวิวสวยมากมองไปเห็นทะเลหมอกด้วย พอตกกลางคืนก็จะมีวงดนตรีมาเล่นด้วยค่ะ มันส์สุดๆไปเลย วงเล่นเพลงดี เต้นกันประหนึ่งว่าอยู่ในผับเลยค่ะ ประทับใจตรงนี้สุดๆเลย ทุกโต้ะลุกออกมาเต้นกันหมด สนุกมากกก...ทางรีสอร์ทก็จุดกองไฟให้เราไปเต้นรอบๆด้วย นับว่าเป็นผับที่บรรยากาศดีที่สุดในเมืองไทยเลย เต้นกันจนหายหนาวเลยค่ะ เสียดายเอาภาพบรรยากาศมาลงไม่ได้เพราะอายค่ะ เนื่องจากรั่วมาก 555+ ประมาณห้าทุ่มถึงเที่ยงคืนทางรีสอร์ทก็จะหยุดกิจกรรมทั้งหมด แล้วก็จะขอความกรุณางดใช้เสียงด้วยค่ะ เราก็เลยไปนั่งกินต่อกันที่ลานหน้าบ้านในบรรยากาศใต้แสงเทียน รู้สึกดีจริงๆค่ะ แล้วคืนนั้นเราก็หลับกันสบายมาก หมอนและผ้าห่มมีให้อย่างพอเพียงเลยค่ะ พอถึงตอนเช้าก็จะมีเสียงตามสายของเจ้าของรีสอร์ทปลุกให้ไปชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ สวยมากๆเลย อากาศก็เย็นๆกะลังดีเลยค่ะ เย้...พระอาทิตย์ขึ้นแว้ววว... ทะเลหมอกสวยๆ   แล้วก็ไปรับประทานอาหารเช้ากันค่ะ กินข้าวไป ชมวิวไป เพลินดีแท้ ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารในแต่ละมื้อมาให้ดูนะคะ แต่ส่วนตัวแล้วชอบค่ะ โอเคทั้งปริมาณและรสชาติค่ะ พอออกจากรีสอร์ทเราก็ไปเที่ยวต่อกันที่"ไร่จิมทอมป์สัน"ค่ะ เราโชคดีที่ได้ไปตอนที่ไร่ยังเปิดอยู่ เพราะที่นี่จะเปิดให้เข้าแค่ปีละครั้ง ครั้งนึงก็กินเวลาประมาณเดือนนึงค่ะ เสียค่าเข้าคนละเท่าไหร่ไม่แน่ใจ (พ่อจ่ายให้) แล้วก็จะมีรถเวียนให้ชมเป็นจุดๆค่ะ มีทั้งทุ่งดอกไม้ ทุ่งฟักทอง และการสาธิตการเลี้ยงไหมและทอผ้าไหมค่ะ และที่นี่ก็ยังมีผลผลิตจากทางฟาร์มจำหน่ายด้วยนะคะ ทั้งผัก ผลไม้ เสื้อผ้าไหม และของแปรรูปต่างๆ มาที่นี่ถือว่าคุ้มมากค่ะ ได้ทั้งช้อปทั้งถ่ายรูปสวยๆ เพลินมากๆค่ะ ทุ่งฟักทองค่ะ จุดแสดงภูมิปัญญาชาวบ้าน แปลงดอกไม้ย่อยๆ ออกจากไร่เราก็ไปแวะทานมื้อสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพกันที่..."สวนเมืองพร"ค่ะ ร้านอาหารวิวสวยเหนือเขื่อนลำตะคลอง ที่นี่มีที่พักด้วยนะคะ ราคาไม่แพงด้วย ห้องพักมีแค่ไม่กี่ห้องแต่สวยงามมาก แต่ทราบมาว่าถ้าจะมาเสาร์-อาทิตย์ต้องจองล่วงหน้ากันหลายเดือนที่เดียว ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยค่ะ เนื่องจากถึงตอนนี้เจ้าของบล๊อกก็ไม่สบายซะแล้ว เลยไม่มีแรงถ่ายรูปใดๆทั้งนั้น มีแต่วิวนิดหน่อยให้ดูกันพอหอมปากหอมคอนะคะ มุมนี้ถ่ายจากที่นั่งทานข้าวค่ะ จบทริปนี้ด้วยความประทับใจแต่สะบักสะบอมเล็กน้อยค่ะ นับว่าเป็นอีกหนึ่งทริปในความทรงจำเลยค่ะ สนุกมากกก...สนุกจนต้องกลับไปเยือนเมืองในหมอกอีกครั้งปลายปีนี้ เนื่องจากติดใจกันทั้งบ้านค่ะ แล้วจะเก็บภาพสวยๆมาฝากอีกนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ ป.ล. กลับมาเสียค่ารักษาพยาบาลไปพันสองค่ะ แถมหยุดงานอีกสองวัน เป็นหลอดลมอักเสบกับอาหารเป็นพิษค่ะ คุณหมอถามว่าไปทำอะไรมา แหมๆ...อยากเปิดคลิปให้หมอดูจังว่าคืนนั้นที่เมืองในหมอกมันมันส์ขนาดไหน นู๋ถึงมีอาการเยี่ยงนี้ อิอิ   Create Date : 12 กรกฎาคม 2554     Last Update : 12 กรกฎาคม 2554 14:57:14 น. Counter : 1131 Pageviews.   7 comment Share Tweet

ไปถ่ายรูปเล่นที่...อัมพวา ทริปนี้เป็นทริปปลอบใจค่ะ เนื่องจากเจ้าของบล๊อกเศร้าเพราะไปสัมภาษณ์งานมะผ่าน คุณแฟนเลยพาไปเลี้ยงข้าวปลอบใจที่ร้าน"แดงแม่กลอง"ค่ะ อาหารเค้าจานใหญ่สะใจดีจริงๆ สั่งมาสี่อย่าง ห่อกลับบ้านทั้งสี่อย่างเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า กินกันสองคน ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆค่ะ หม่ำๆ อิ่มแล้วก็เลยชวนคุณแฟนไปเดินเล่นที่ตลาดน้ำอัมพวาค่ะ ไปมันกลางวันแสกๆนี่แหล่ะ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ   ไม่ว่าอากาศจะร้อน หรือแดดจะเปรี้ยงซักเพียงไหน นางแบบจำเป็นอย่างเราก็สู้ไม่ถอยค่ะ โพสมันเข้าไป คุณแฟนถ่ายไปเช็ดเหงื่อไปเลยทีเดียว เพราะอากาศร้อนจริงอะไรจริง โดยส่วนตัวแล้วนู๋ชอบอัมพวาตอนกลางวันแบบนี้มากกว่าค่ะ คนน้อยแล้วก็เดินสบายๆกว่า ตอนกลางคืนมันมองอะไรมะค่อยเห็นด้วย กลางวันอย่างงี้เห็นวิถีชีวิตคนที่นั่นได้ถนัดหน่อย แม้ร้านรวงจะเปิดน้อยกว่าตอนกลางคืน แต่นู๋ก็ยังชอบมากกว่าค่ะ  เดินโพสท่าไปเรื่อยๆ มีเด็กมายืนดู เด็กคงคิดในใจว่าถ่ายอะไรกัน เพราะอีนางแบบนี่โพสท่าซะเยอะเชียว คุณแฟนก็ไปอำเด็กว่านู๋เป็นดาราซะงั้น เด็กถามจริงหรอพี่ๆ เพราะดูจากหนังหน้าแล้วคงไม่มีช่องไหนจ้างไปเล่นแน่ๆ  555+   ขอลาไปด้วยภาพนี้เลยละกันนะคะ ทริปนี้ต้องขอบคุณคุณแฟนมาก ที่พาไปปลอบใจไกลถึงอัมพวา และขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ   Create Date : 10 กรกฎาคม 2554     Last Update : 13 กรกฎาคม 2554 0:01:52 น. Counter : 898 Pageviews.   5 comment Share Tweet

In Love @ Hua Hin   สวัสดีค่ะ...เมื่อวันที่ 9-10 พ.ค.ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวหัวหินกับคุณแฟน เลยอยากจะขอมีรีวิวเล็กๆกะเค้ามั่ง (แอบอายนิดหน่อย เพราะเจ้าของบล๊อกบ้ากล้องมากกก รูปที่ถ่ายออกมาเลยมะค่อยมีรูปวิวซักเท่าไหร่ หรืออาจจะไม่มีเลยยย ) มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ... ออกเดินทางจากกรุงเทพฯก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่าแล้วค่ะ เนื่องจากตื่นสายและยังต้องเคลียงานอีก แต่ก็ไปแบบเรื่อยๆค่ะ ไม่รีบร้อนอะไร ไปเที่ยวทั้งทีก็ต้องชิวๆสิเนอะ   ไปถึงหัวหินก็เกือบมืดแล้วค่ะ แถมยังมะมีที่นอนอีกตะหาก เพราะกะว่าจะไปขับรถดูไปเรื่อย ขับไปถึงแถวเขาตะเกียบก็บังเอิญเหลือบไปเห็นป้าย"บ้านกางมุ้ง" ก็เลยตกลงปลงใจนอนที่นี่ละกัน เนื่องจากเคยเห็นรีวิวของเพื่อนๆในห้อง Blue Planet แล้วน่ารักดี คุณแฟนชอบถ่าย...นู๋ก็ชอบโพสค่ะ ถ่ายรูปห้องพักกันพอหอมปากหอมคอแล้ว เราก็ออกไปดินเนอร์กันค่ะ ครั้งนี้ขอเลือกที่ห้องอาหาร"สายลม"ค่ะ ชอบร้านนี้มากเลย บรรยากาศดี อาหารอร่อย ดนตรีก็เพราะ (พอดีเจ้าของบล๊อกชอบฟังเพลงฝรั่งเก่าๆค่ะ^^") เสียดายวันที่ไปฝนดันตกซะนี่ เลยอดนั่งด้านนอกเลย... หม่ำๆกันเสร็จแล้ว ก็ไปเดินเล่นกันที่ตลาดโต้รุ่ง หาขนมกินนิดหน่อย แล้วก็กลับที่พักค่ะ หนังท้องตึงหนังตาก็เลยหย่อนตามระเบียบ อิอิ วันรุ่งขึ้นก็ตื่นสายตามเคย อดกินอาหารเช้าตามระเบียบ ก่อน Check out เลยขอเก็บภาพห้องพักในเวอร์ชั่นกลางวันบ้าง ออกจากที่พักก็แวะไปกินข้าวเช้า+ข้าวกลางวัน กันที่ร้าน"เจ๊เขียวซีฟู้ด" (จริงๆแล้วหลงไปตะหาก ว่าจาไปกินอีกร้าน แต่หามะเจอ เด็กโบกรถให้จอดร้านนี้ อ่ะๆ ลองดูก็ได้) ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารเลย เนื่องจากหิวมากกก อาหารรสชาติดีนะ บรรยากาศก็ดี ติดทะเลเลย ราคาก็พอรับได้ค่ะ พอทานข้าวเสร็จก็ลงไปเดินเล่นถ่ายรูปทะเลซักหน่อย ไหนๆก็มาทะเลละ จากนั้นก็พาคุณแฟนไปเที่ยวที่"เพลินวาน" คุณแฟนไม่เคยมาค่ะ เลยอยากมาเพราะเห็นใครๆเค้าก็มากัน ถ่ายรูปมาเยอะมากกก รูปเราคนเดียวเลย คุณแฟนน่ารักมาก ถ่ายทุกชอตทุกมุมจริงๆ   ออกจากเพลินวาน เราก็ไปหาไรหม่ำๆกันต่อที่ร้านเค้ก "บ้านใกล้วังค่ะ" ไปกันแบบหลงๆเลยค่ะ เพราะดันจำผิดว่าชื่อร้านบ้านข้างวังบวกกับเคยได้ยินแต่ชื่อไม่เคยไป เลยไปขับรถวนหาอยู่แถวข้างหลังนั่นแหล่ะ สุดท้ายต้องพึ่งพี่ google ถึงจะเจอ พอไปถึงก็รู้สึกคุ้มมากที่ดั้นด้นไปกิน เค้าก็รสชาติธรรมดานะ แต่วิวนี่สิที่ประทับใจ ชอบๆ... ปิดท้ายด้วยรูปนี้เลยแล้วกันนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ...   Create Date : 08 กรกฎาคม 2554     Last Update : 10 กรกฎาคม 2554 12:15:52 น. Counter : 947 Pageviews.   8 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com