ฟิโอภูมิใจเสนอสีผมใหม่ " Chocolate Love"❥ อย่าได้ตกใจไปว่านี่มันสีทำผมยี่ห้ออะไรชื่อหวานซะขนาดนี้ มันคือชื่อที่ทรายตั้งเองค่ะห้าๆ ที่ตั้งว่า Chocolate Love เพราะมันเป็นสีผมน้ำตาลเข้ม ที่เข้มกว่าตอนทรายย้อมผมไปรับ ปริญญาเมื่อสองปีก่อนซะอีก - -' ที่จริงแล้ว ถ้าใครติดตามจะเห็นว่าทรายทำผมสีเข้มๆหลาย ครั้งแล้ว ช่วงหลังๆมานี่ไม่เคยทำสีบลอนด์อ่อนเลย แต่ด้วยความที่พื้นผมเดิม เป็นสีอ่อนมาก ก็เลยทำให้เวลาที่หลุดลอกแล้ว มันกลายเป็นผมสีทองอ่อนๆ หลายคนก็มาถามว่าทรายทำผม สีอะไร คือบอกไมไ่ด้จริงๆค่ะ เพราะมันเป็นสีที่หลุดหมดแล้ว อย่างครั้งนี้ทรายเองก็ไม่รู้ว่า พี่ช่างเค้าทำสีอะไรให้ เพราะทรายตามใจเค้าตลอด ครั้งนี้เค้าบอกว่า เอาเข้มๆหน่อยละกันนะ อยากให้ทรายดูผมสุขภาพดี - -' คือผมสีเข้มจะทำให้ผมเราดูสุขภาพดีกว่าสีอ่อนน่ะค่ะ ทรายทำผมกับพี่ชิตมากว่า 6 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่อยู่ปี 1 จนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นช่างคู่ใจกัน ไม่ได้เขียนเพื่ออยากจะเชียร์ร้าน หรือเชียร์ช่างนะคะ ของแบบนี้ใครรักใครชอบ มันอยู่ที่ความ เข้าใจตรงกันของเรากับช่าง รู้สึกที่ร้านเค้าจะใช้ลอรีอัล มาจิรัล ลิฟ ตัวทรายเองไม่มีปัญหากับ แอมโมเนีย หรือตัวทำละลายอะไร ก็เลยไม่รู้สึกอะไรค่ะ ชอบตรงมันติดทนดี ไปทำสีคราวนี้ พี่ชิตบอกว่ามีตัวใหม่ไร้แอมโมเนียมาด้วยนะ ทรายเห็นปุ๊ปก็ร้องอ๋อ ไอนัวร์ที่สาวๆไปลองทำกัน มานี่เอง แต่ด้วยความที่ทรายผมเยอะ และยาวมาก หากเลือกย้อมด้วยไอนัวร์ที่หลอดเล็กมาก คงจะต้องเสียตังหลายพัน งานนี้เลยขอซบอก มาจิรัลเหมือนเดิมดีกว่า ชิคคลับค่าย้อมผมขึ้น ราคาอีกแล้ว T^T เคยทำตั้งแต่พันห้า ปีก่อนพันหก ปีนี้พันเจ็ด -*- มันจะเพิ่มถึงสองพันไหม? อาจจะเป็นไปได้ เพราะร้านที่ซอย 5 ของเค้าต้องปิดตัวไปเลย … ลูกค้าซวยคร่าาาาา แต่ตราบใดที่พี่ชิตยังอยู่ที่นี่ เราก็คงได้เจอกันต่อไป มาเข้าเรื่องสีผมดีกว่า คือตัวทรายเองไม่รู้หรอกว่ามันจะเข้มขนาดนี้ เพราะทุกทีพี่เค้าจะรู้ว่า ทรายเป็นคยไม่ชอบผมสีเข้มมาก ขนาดตอนรับปริญญายังอ่อนกว่านี้เลย แต่พี่เค้าว่าไม่ต้อง เกร็งสองอาทิตย์มันก็หลุดแล้ว เป็นธรรมชาติของผม ทรายก็รู้นะ แต่แบบว่าแอบกังวลเล็กๆ เอาบรรยากาศตอนทำมาให้ดู รูปส่วนใหญ่ถ่ายจากไอโฟนเก่ากึกของทราย มันไม่ค่อยชัดนะ เริ่มจากตัดหน้าม้าก่อน มันยาวจนมาถึงปลายจมูกแล้ว ทรายเป็นคนผมยาวเร็วมากอ่ะ เบื่อจัง เค้าเริ่มจากสระผม ไดร์ให้แห้งแล้วก็ลงโคนก่อนค๊าบ ครั้งนี้ไม่คันยิบๆ ไม่ค่อยเหม็นด้วย พี่ชิตบอกว่าใส่แอมโมเนียแค่ 6% ทรายไม่รู้หรอก ว่ามันมีผลอะไรยังไง เพราะไม่มีความรู้เรื่องนี้ แต่ว่าสบายหัวกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ห้าๆ ลงโคนได้พักนึงแล้ว ก็ลงปลายให้หมดทั้งหัวโล้ด พอเค้าปล่อยให้ผมเข้าที่สักครึ่งชั่วโมง ทรายก็เริ่มมองหัวตัวเอง อุ้ย! มันเข้มจัง พอเสร็จแล้วก็ไปสระออก กรี๊ดกร๊าด พอแห้งจะได้เห็นสีจริงแล้ว ช่วยกันไดร์ใหญ่เลย เพราะว่าทุกคนติดระบำดวงดาว -*- แม้แต่ลูกค้าเองก็ด้วย เสร็จแล้วค่า..... เข้มสะใจไปเลย กลับมาถึงห้องก็ขอแชะๆรูปเก็บไว้สักหน่อย เพราะตั้งใจว่าจะไม่รอให้ถึง 3 วันค่อยสระผม จากนั้นพอเช้าวันนี้ ทรายก็ลงมือสระผมเลย เพราะต้องไปงานเปิดตัวลูนาซอลคอลเลคชั่นใหม่ คงจะไปแบบหัวเหนียวๆไม่ได้ เพราะผมหน้าม้าเนี่ย มันโดนแป้งโดนเมคอัพตลอดเวลา จะจับ กันเป็นก้อนๆ น่าเกลียดมาก ตอนสระผมเห็นเลยหละว่าสีหลุดจริงๆ พอเสร็จแล้วชอบแฮะ มันต้องหลุดประมาณนี้แหละ แอบชอบสีผมตอนนี้ แต่ทุกครั้งที่สระมันก็ต้องหลุดอีกหละเนอะ แถมรูปวันนี้ เหมือนจะผอมลงไปอีกหน่อยแล้ว กี๊ซซซซซซ์   Create Date : 09 กันยายน 2553     Last Update : 24 มกราคม 2554 0:08:24 น. Counter : 2258 Pageviews.   7 comment Share Tweet

Review: Edward Lola Twilight + Juice Beauty Lip Color สวัสดีค่า บล็อคนี้เป็นบล็อคต่อเนื่องจาก Haul อันล่าสุดนะคะ ใครยังไม่ได้ดู ก็สามารถรับชมเป็นวีดีโอได้ด้านล่างนี้เลยค่า ที่บอกว่าต่อเนื่องก็เพราะว่าวันนี้ทรายจะมารีวิวเมคอัพสองตัวจากในวีดีโอ นั่นก็คือ LOLA พาเลท Luna Twilight ที่เพิ่งนำเข้าใหม่ที่ชื่อว่า Edward คุ้นกันไหมคะ? สาวกทไวไลท์ ซาก้า ต้องไม่พลาดอยู่แล้วเนอะ ก็พ่อหนุ่มแวมไพร์ สุดหล่อของเรานั่นเองค่ะ มาดูหน้าตากันก่อนดีกว่า เริ่มตั้งแต่กล่องก่อนเลยค่ะ ด้านหลังมี ingredient และบอกด้วยว่า Team Edward ค่า กรี๊ดๆๆ ทีนี้พอแกะกล่องออกเรามาดูพาเลทกันดีกว่า ทรายชอบมากเลย มันแบบดูสวย ลึกลับ ชอบตรงที่เค้ายิงเคลือบเงาเป็นรูปต้นไม้นี่แหละ แฮ่ะๆ ตัวอักษรลงสีทองก็งาม สำหรับขนาด ทรายเองตอนแรกยังไม่เคยเห็นตัวจริงเลย เคยได้แต่มองผ่านจอคอม ในรีวิวของคนนั้นคนนี้ กับพาเลทอลิซ โรซาลีน พอได้จับของจริงแอบตกใจเล็กน้อย เพราะขนาดมันเล็กและบางมาก ปกติทรายจะไม่ค่อยเห็นเครื่องสำอางค์ทำพาเลท ออกมาได้บางขนาดนี้ ถ้าดูจากในคลิปจะเห็นเลยว่าบางมว๊ากกกก(ขอแสดงน้ำเสียง) น้ำหนักเบา พกพาสะดวก และตัวล็อคเป็นแบบที่กดลงมาขัดกันพอดี ก็แน่นหนาดีค่ะ เอาละวิจารณ์แพ็คเกจภายนอกกันพอแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าด้านในเป็นยังไง ตอนแรกที่ Haul ไว้ในคลิปเพื่อนๆอาจจะเห็นสีไม่ชัด คราวนี้ทรายเลยถ่ายมาให้ดูแบบชัดๆ เซ็ทนี้เป็นพาเลทที่เป็นสีโทนเย็น เป็นพาสเทลอ่อนๆ ประกอบไปด้วยสี ชมพูอ่อน ฟ้าอ่อน เขียวอ่อน และดำเข้ม+กลิตเตอร์ ส่วนช่องใหญ่นั้นเป็นลิปกรอสค่ะ จริงๆแล้วทรายเป็นคนนึงหละ ที่ตอนแรกตัดสินพาเลทเอ็ดเวิร์ด จากสีเท่านั้น คือครั้งแรกที่เห็นสีให้พูดตรงๆเลย คือไม่ค่อยโดน เพราะเมื่อเราแค่มองจากตลับ มันก็ธรรมดางั้นๆ แถมสีอ่อนอีกต่างหากและดูไม่น่าจะเข้ากันได้สักเท่าไหร่ อาศัยที่ว่า มีชื่อพ่อเอ็ดเวิร์ด เป็นประกัน ทำให้คิดบวกกับพาเลทนี้ขึ้นมานิดนึง แต่….! พอได้จิ้มลองสีเท่านั้นแหละ โอ้ววววว แม่เจ้า! นี่มันไม่ธรรมดาแล้ว ตอนแรกนึกว่าสีจะตุ่นๆ เหมือนในตลับซะอีก กลับกลายเป็นว่า สีดู Fairytale สุดๆ เม็ดสีค่อนข้างชัดเจนเลย ขนาดสีอ่อนๆ ยังสามารถมองเห็นได้ชัด จากมือทรายที่เป็นคนผิวขาว นี่ไม่ธรรมดาแล้ว ที่ประทับใจคือ ทุกสีจะมีประกายเหลือบๆที่เราจะไม่ค่อยได้เห็นในพาเลททั่วไป ส่วนตัวทรายประทับใจสีฟ้ามาก เพราะมันสวยได้ใจไปเลย แต่ต้องบอกว่า เมื่อมองจาก ตลับสีฟ้าเป็นสีที่ทรายไม่คิดจะปลื้มมากที่สุด แต่พอได้จิ้มมาปาดแล้ว โอ้วว ก๊อดดด สำหรับ Looks ที่ทรายจะครีเอทออกมาจากพาเลทนี้ ก็เอาไว้รอดูกันนะคะ เร็วๆนี้ น่าจะว่างทำ How to ออกมาได้ หลังจากที่สัปดาห์ที่ผ่่านมาวิ่งรอกEventทั้งสัปดาห์ ♰♰♰♰♰♰♰♰♰♰♰♰♰♰✟♰♰♰♰♰♰♰♰♰♰♰♰♰ มาต่อกันที่ Brand Organic น้องใหม่ในไทยอย่าง Juice Beauty กันบ้าง ชาวไซเบอร์ หลายคนคงรู้จักและได้ยินกิตติศัพท์กันดีอยู่แล้วเนอะ วันนี้ทรายจะรีวิวเจ้าลิปตัวที่เคยเห่อไปค่ะ ลิปตัวนี้ีชื่อว่า Conditioning Lip Color เป็นลิปสติกแบบออกสีและบำรุงริมฝีปากไปในตัวค่ะ สีที่ทรายจะมารีวิววันนี้ได้แก่สี Organic Pink-Rose Bio เป็นสีชมพูนั่นเอง ส่วนผสมต่างๆมาจากธรรมชาติล้วน เลยค่ะ แพ็คเกจก็เป็นลิปแท่งเรียบๆสีเงิน ไม่มีสกรีนอะไรเลย ยกเว้นสติกเกอร์ที่ติดเป็น Logo และฉลากค่ะ ตัวแพ็คเกจเป็นอลูมิเนียม ถ้าทรายเรียกไม่ผิดนะคะ ปิดแน่นสนิทแต่คมไปหน่อย เนื้อลิปมีกลื่นหอมของผลไม้อ่อนๆ ทรายว่ากลิ่นเหมือลูกอมซูกัสเลย มีกลิตเตอร์เล็กๆผสมอยู่ เนื้อลิปด้านในไม่ได้ถูกอัดมาให้เรียบมาก ไม่รู้เพราะการขนส่งเก็บรักษา หรือว่าเพราะตั้งใจ ให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด แต่ว่าก็ไม่ได้มายอะไรเรื่องนี้เพราะว่า ที่ตัวเนื้อลิปไม่ได้มีการปั๊ม ลวดลายอะไรอยู่แล้วค่ะ แต่เนื้อลิปแอบติดที่ปลอกแต่งนิดหน่อยเหมือนละลาย เข้าใจว่าบ้านเรา มันร้อน ก็ต้องมีกันบ้างเนอะ ^^ สีที่ได้ก็เป็นสีชมพูอ่อนๆ เวลาทาลงปากถ้าใครปากมีสีแดงหรือชมพูอยู่แล้ว ก็จะได้ลุคที่ เงาวาวขึ้นเล็กน้อย เหมือนทาพวกลิปบำรุง จริงๆตัวนี้ก็เป็นลิปบำรุงนั่นแหละเพียงแต่ออกสีด้วย แต่สีที่ออกจะไม่เยอะนะคะ ออกสีกำดี เหมาะกับวันสบายๆ ที่ต้องการให้หน้าไม่จืดมาก สีลิป ไม่ใช้สีแปร๋นๆ แต่จะเป็นสีตุ่นๆ เวลาทาจะรู้สึกเย็นเล็กๆ ไม่รู้ทรายคิดไปเองหรือเล่านะคะ แต่ถ้าปากแห้งลอกมากๆ ทาทิ้งไว้สักพักก็จะดีขึ้นค่ะ ปล.กลื่นหอมมันติดจมูกมากน่ากินสุดๆค่ะ วันนี้ทรายก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ต้องบอกว่า วันนี้มีสิ่งใหม่ๆสิ่งนึงถ้าใครจะสังเกต ทรายใช้ลายน้ำใหม่ ซึ่งต่อไปก็จะเป็นโลโก้นี้ไปเรื่อยๆ ชอบไม่ชอบยังไงก็แนะนำกันได้นะคะ ^^   Create Date : 25 สิงหาคม 2553     Last Update : 24 มกราคม 2554 0:08:39 น. Counter : 1799 Pageviews.   10 comment Share Tweet

Review : MMU Blush แบรนด์ไทยตอนที่ 1 ร้านพี่จ้อย Nuchyshop สวัสดีค่ะสาวๆ หากใครติดตามทรายอย่างใกล้ชิดในเฟซบุค จะทราบว่าช่วงประมาณ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรายเกิดอาการอยาก MMU มาก แต่ไม่ได้อยากใส่ส่วนของ Base Makeup นะคะ ทรายอยากลองบรัช MMU เพราะราคาย่อมเยาและเม็ดสีสวยดีค่ะ ทรายเกิดความสนใจในตัวบรัช MMU ก็เพราะทรายได้ลองบรัชยี่ห้อ LauRess แล้วปรากฎ ว่ามันโดนมาก อันที่จริง ก่อนหน้านี้ทรายเคยลองหลายยี่ห้อแล้ว อาทิ Jillstuart, LA. Colors หรือแม้แต่ Bare Essential แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ด้วยความที่ทรายรู้สึกว่า MMU ใช้งานยากไปนิดนึงเพราะว่ามันเป็นผงน่ะค่ะ และยี่ห้อที่ทรายกล่าวมาทั้งหมดก็ไม่มีขายในไทย ต้องสรรหามาจากเมืองนอกราคาก็ไม่เป็นมิตรอีกด้วย ช่วงปีที่ผ่านมา ทรายสังเกตว่ากระแส MMU ในเมืองไทยมาแรงมาก และมีMMUแบรนด์ไทย เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและกำลังเติบโตไปได้ดีเลยค่ะ ทำให้ตัวทรายเองก็ทนกระแสไม่ไหว เนื่องด้วยพักหลังมานี่ งานน้อยลง เงินก็น้อยลงด้วย พอเห็นราคาMMUแบรนด์ไทย กลั้นไม่ไหว ถึงกับดีใจร้อง อะฮร้าาา... ราคาน่าคบเช่นนี้ เราคงได้พบกันอีกหลายๆครา ต้องขอท้าวความต่อไปอีก กลัวหลายคนจะคิดว่า ทรายตุกติกและการตลาดให้ร้านค้าเหล่านี้ ต้องบอกเลยว่า หากคุณติดตามทรายจริง คุณจะรู้ว่าทรายเสียเงินสั่งซื้อเอง ดังนั้นขอให้เชื่อ ว่าสิ่งที่จะเขียนต่อไปนี้ มันคือภาษาของทรายเอง ไม่ใช่ภาษาเกรงใจใคร เพราะเงินที่เสียไป เป็นของทรายล้วนๆ ส่วนของแถมที่ได้มาพี่เค้าก็ว่าขอให้วิจารณ์กันตรงๆ เป็นอย่างไรก็บอก จะได้เอาไปปรับปรุง ทรายก็เลยอยากแจกแจงให้ฟังดังนี้นะคะ ทั้งหมดนี่กระปุกเล็กเป็นบรัชออน กระปุกขาวเป็นบรัชออน+MMU Base makeup ทรายจะไม่ไล่สีเพราะถ่ายรูปแล้วมึนมากว่าสีไหนชื่ออะไร เอาเป็นว่าให้ดูเนื้อและพิกเมนต์ แพ็คเกจ การทรีตลูกค้า และองค์ประกอบอื่นๆ เป็นหลักดีกว่านะคะ และในส่วนนี้คือของแถมค่ะ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า MMU ที่ทรายเสียเงินซื้อคือบรัชออน ที่เหลือแถมมาค่ะ เรามาเริ่มกันเลยนะคะ กับตัวแพ็คเกจก่อน ที่ทรายซื้อเป็นการจัดชุดเล็กค่ะ แพ็คเกจของร้านพี่นุช หรือที่เรารู้จักกันว่าพี่จ้อย ในที่นี้ขอเรียกว่าพี่จ้อยนะคะ แพ็คเกจเป็นกระปุกที่ค่อนข้างแน่นหนา เป็นพลาสติกฝาเกลียวสีดำ ด้านบนสกรีนลาย โลโก้ของร้าน ขนาดกำลังดี และดูแข็งแรงค่ะ ทรายลองเปิดบรัชออนทั้งหมดและถ่ายรูปไว้ค่ะ ในนี้มีบรัชหลายเนื้อแต่ไม่มีเนื้อMatt เพราะทรายไม่ชอบเนื้อแมท ก็จะม่ีทั้งเพิล เอ็กตร้าเพิล ชิมเมอร์และเอ็กตร้าชิมเมอร์ค่ะ ส่วนกระปุกสูงๆนั้นเป็นบรัชพิเศษ เป็นพรีเมียนของที่ร้านพี่จ้อยที่คัสตอมเลียนแบบ บรัชออนแบบกระปุกเจ้าหญิงของ Jillstuart ซื้อทรายเองก็มีของจริงอยู่แล้ว แต่ ก็อยากจะรู้ว่าคัสตอมแล้วเหมือนไหม? ผลที่ได้คือ คล้ายมากค่ะ และนี่เป็นอีก 1 ข้อ ที่ทำให้ทรายอยากลองบรัช MMU เพราะหากเราอยากได้สีแปลกๆใหม่ๆ เราสามารถ เอาที่เรามีอยู่มาผสมกันเพื่อให้เกิดสีใหม่ได้ น่าสนุกใช่ไหมคะ? ทรายไม่ได้บอกชื่อสีอย่างที่แจ้งไปทรายงง มันเยอะมาก ยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ รูปนี้เป็น Swatch จะเห็นได้ว่า บรัช MMU ของร้านพี่จ้อย พิกเม้นต์จะไม่หนักค่ะ ออกไปทางสว่างและใสๆมากกว่า ชิมเมอร์ก็ละเอียดยิบๆ บางทีเราเห็นบรัชในตลับ ดูเหมือนสีเข้มมาก แต่พอลองทาจริงๆ สีจะแตกต่างในทางที่ใสกว่าค่ะ และนี่เป็นสีของบรัชจิลสองสีที่ทรายสั่งมา โอ้วว สวยและราคาถูกกว่าเยอะเลย T^T แต่ก็นะ จิลเค้าขายแพ็คเกจและชื่อเสียงของแบรนด์ด้วยอ่าเนอะ ส่วนของแถมที่พี่จ้อยแถมมา ทรายก็ลองทาดูค่ะ เป็นเบสเมคอัพที่พี่จ้อยเลือกมา ให้เหมาะกับผิวทรายที่เป็นคนผิวแห้ง แป้งมีมาให้สองแบบทรายเลือกแบบที่ทา แล้วจะให้ความรู้สึก dewy ทรายชอบหน้าวิ๊งค์ๆ ^^ รูปนี้คือเพิ่งลองแต่งเสร็จ ก็จะมี MMU Base-foundation-finish-Blushon สำหรับทรายผง MMU ที่พี่จ้อยเลือกมาให้ ไม่ได้ปกปิดมากมายนัก เน้นเผยผิวมากกว่า เนื้อไม่หนา ถึงแม้จะลงหลายเลเยอร์ ก็ยังให้ความรู้สึกเบาหน้าและดูไม่โบ๊ะค่ะ บรัชออนทรายเลือกบรัชพรีเมียมจิล ร้านพี่จ้อยมาใช้ เนื้อใสและเงาสวยดีค่ะ ทรายก็ทดลองด้วยการที่รอดูผลและถ่ายรูปอีกครั้งหลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมง ในการที่ออกไปทำกิจกรรมปกตินอกบ้านและกลับเข้ามาถ่ายรูปอีกครั้ง โดยที่ไม่ได้เช็ดหรือเติมอะไรเลย ผลก็เป็นอย่างในรูปข้างล่างนี้ค่ะ หน้ายังดูดีอยู่แต่จะมีความมันเงาจากน้ำมันในผิวเยอะหน่อย เพราะที่ทรายใช้ไม่ใช่ สำหรับคุมมัน เป็นสำหรับคนผิวแห้ง ส่วนเรื่องคราบก็เป็นคราบค่ะ แต่ทรายถือว่าอยู่ใน เกณฑ์ที่ใช้ได้สำหรับทรายจะมีบ้างในช่วงT-Zone ที่MMUหลุดลอกออกไปเยอะเหมือนกัน อันนี้ไม่แน่ใจว่า ถ้าต้องเติมระหว่างวันจะเป็นคราบมากขึ้นไหม? ยังไม่เคยลอง สำหรับผิว ทรายไม่แพ้ค่ะ ก็ถือว่าผ่านอีก เพราะบางยี่ห้อทรายแพ้กระจุยค่ะ จบแล้วสำหรับตอนที่ 1 ขอขอบคุณของแถมที่พี่จ้อยส่งมาด้วยนะคะ ^^ ครั้งหน้ามาดูกันว่าเป็นของร้านไหนนะคะ ทรายสั่งมาทั้งหมด 4 ร้านเกือบกินแกลบแน่ะค่ะ ^^   Create Date : 12 สิงหาคม 2553     Last Update : 24 มกราคม 2554 0:08:54 น. Counter : 3374 Pageviews.   20 comment Share Tweet

How to: Cappuccino Brown รวมมิตรBeauty itemใหม่ๆของเดือนนี้ค่ะ สวัสดีกันอีกครั้งค่ะ หายไปสองสามวันคิดถึงกันไหมเอ่ย? เย้ๆๆๆ ไม่มีใครคิดถึงลย - -' วันก่อนทรายเอาพาเลทเครื่องสำอางค์สวยๆจาก Urban Decay มาอวดจำได้ไหมคะ? วันนี้ทรายจะลองแต่งลุคเบสิคๆที่ได้จากพาเลทนี้ให้ดูค่ะ เริ่มด้วยเบสิคสีน้ำตาลก่อนเนอะ พาเลทนี้จะมีเนื้ออายแชโดว์หลายเนื้อค่ะ มีทั้งMatte,Shimmer,Satines และ Sparkleค่ะ แล้วก็พวกเครื่องสำอางค์ที่ทรายได้มาใหม่ๆช่วงนี้ ที่เห่อไปแล้วแต่ติดรีวิวไว้ ขอเขียนรวม ไปเลยทีเดียวนะคะ เสพย์กันได้เลยค๊า * ทุกรูปสาดแฟรชนะคะ รายละเอียดจะชัดเจนกว่ารูปที่ไม่แฟรช แต่แสงจะทำให้ หน้าดูลอยๆกว่าปกติ หากรูปอุบาทย์ต้องขออภัยด้วย ถ่ายเองทำเองไม่มีผู้ช่วยค๊าบ ขั้นตอนแรก ลงมอยเจอร์ที่หน้าให้เรียบร้อยค่ะ จากนั้นตามด้วยเบสซุกกุ เสร็จแล้วหน้าก็จะกระจ่างขึ้นมาอีกนิด จากนั้นวันนี้เรามาลองของใหม่กันค่ะ เป็นรองพื้นรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Armani ชื่อรุ่นว่า "Face Fabric Radiance" ซึ่งออกมาแค่ 3 สีเท่านั้นคือ ผิวขาว(1) ผิวสองสี(1) และเข้ม(1) ที่ฮ่องกงมีขายแค่เบอร์ 1 เท่านั้นค่ะ หน้าตาเค้าจะเหมือนกับรุ่นเก่าก่อนหน้านี้อย่างกับแกะ ที่ชื่อว่า Face Fabric Foundation หลายคนอาจจะสับสน ดังนั้นหากสนใจก่อนซื้ออย่าลืมถามและอ่านชื่อให้ดีก่อนนะคะ ตัวFFR รุ่นใหม่นี้จะเป็นการพัฒนาต่อยอดจากรุ่นเก่าค่ะ และยังเป็นรองพื้นกึ่งไฮไลต์เนื้อมูส ที่ยังไม่เคยมีเครื่องสำอางค์ยี่ห้อไหนแม้แต่อาร์มานี่เองทำได้มาก่อน เดี๋ยวเรามาดูกันค่ะ ทรายทาเพียงครึ่งหน้าให้ดูก่อนถึงความแตกต่าง ยิ่งสาดแฟรชยิ่งเห็นเลยว่า มันเป็นคล้ายๆ ไฮไลต์และรองพื้นที่ปกปิดได้พอสมควรค่ะ ใครชอบDewy น่าจะชอบเจ้านี่ทีเดียวค่ะ พอทาทั่วหน้าแล้ว หน้าBlink ขึ้นมาในบัดดล ราวกับมีสปอตไลท์จับ 20 ตัว สำหรับทราย สีนี้ขาวไปหน่อยค่ะ ทรายไม่ค่อยชอบรองพื้นที่สีอ่อนกว่าหน้ามาก เพราะมันทำให้เวลาที่ถ่ายรูปโดยใช้แฟรช หน้าเราจะวอก แบบในรูป บางรูปถึงกับ หน้าเป็นสีเทา อาจจะเพราะEffect ที่เค้าว่าเป็นชิมเมอร์สีเงิน มันอาจจะทำให้ผิวเรา ดับลง ถ้าไม่ตรงเฉดผิวจริงๆอ่านะคะ อันนี้ทรายคิดเอาเองนะ ใครว่าไม่ใช่ก็ขออภัยค่ะ จากนั้นเรามาทาแป้งกันค่ะ ทรายเลือกแป้งเพรสแบบ Translucent ของ Impress มาทานะคะ มีนานแล้วแต่ไม่ค่อยได้ใช้ เดี๋ยวมันจะเสียใจของใช้สัดหน่อยละกัน หน้าจะดูนวลเนียนขึ้นมาอีกสเต็ปอย่าลืมเอาแปรงปัดแป้ง ปัดเบาๆเพื่อเอาแป้ง ส่วนเกินออกนะคะ เหลือไว้แค่แป้งเท่าที่จำเป็นก็พอเนอะ แล้วก็มาเขียนคิ้วกันค่ะ เขียนได้ตามใจชอบ ไม่มีดั้งก็อย่าลืมไล้ช่วงหัวคิ้วด้วยนะคะ จากนั้นทรายขอเฉดดิ้งแบบรวดเร็วนิดนึง ด้วยแป้งสีเข้มจากชาแนลค่ะ ตัวนี้เป็น Limited Edition : Poudre Universelle Compact # 101 Beige Clair ทรายซื้อมาพร้อมกับไฮไลต์สีทองสุดแจ่มของชาแนลเมื่อปีที่แล้ว ด้วยความที่สีเข้ม กว่าผิวทรายเยอะ จึงไม่สามารถทาได้บ่อยๆเลยเอามาทำเฉดดิ้งแทนค่ะ เอาแปรงเฉดดิ้งปัดๆๆๆ ไปเลย ตามส่วนที่ต้องการให้แสงและเงาช่วยให้เราดูเพรียวลง เสร็จหน้าแล้วก็เริ่มตากันเลย ด้วยการลง Eye Primer กันก่อนค่ะ ตัวนี้เค้าว่าเริศกันมากๆ ของ Urban Decay เหมือนกัน ทรายใช้ไซส์มินิที่มากับน้องโป๊ค่ะ มันก็เริศจริงนะ กรี๊ดๆๆ ทาให้ทั่วเปลือกตาเลยค่ะ มันจะปรับสีเปลือกตาเล็กน้อยสำหรับคนที่เปลือกตาคล้ำ ทรายไม่คล้ำจึงเป็นตัวอย่างที่ไม่ชัด แล้วก็จะช่วยทำให้สีสันต่างๆที่เราจะลงที่เปลือกตา ต่อจากนี้ ติดทนขึ้น และชัดเจนขึ้นค่ะ ให้ดูสีที่จะใช้ต่อไปนี้นะคะ (1)(2) อันดับแรกทรายจิ้มไปที่สี NAKED (1)ค่ะซึ่งเป็นสีที่มีชื่อเดียวกับกับพาเลทเลย เป็นสีน้ำตาลตุ่นๆ และเนื้อแมทค่ะ สีในตลับแลดูไม่เข้มมาก แต่แตะแค่นิดเดียว สีก็ออกมาพิกเม้นต์เข้มมากเลยค่ะ แตะทีเดียวลงได้ทั่วเปลือกตาเลย ลงไปให้ทั่วเปลือกตาเลย ก็จะได้ประมาณนี้ค่ะ จากนั้นเลือกสี VIRGIN (2) ดูในคลับเหมือนจะเป็นไฮไลต์ธรรมดา แต่พอแตะสีจริงๆ สีแปลกดีค่ะ ทรายทาลงช่วงหัวตาค่ะ ไล่มาถึงกึ่งกลางเปลือกตา พอลืมตาเราก็จะดูมีมิติ มีลูกเล่นนิดนึงเนอะ จากนั้นเราก็จะมาต่อกันเลยค่ะ ที่สีเบอร์ (3) HALF BAKED เป็นสีทองอมส้มที่ ชิมเมอร์ทองออกสีชัดมาก เทรายทาลงเหนือรอยพับเปลือกตาดังรูปค่ะ ทรายเองไม่ได้มีเทคนิคอะไร แค่อยากจะลองแต่งให้แตกต่างจากการเบลนด์ปกติทั่วไปดูค่ะ จากนั้นใช้แปรง Crease จิ้มไปที่สีเบอร์ (4) DARKHORSE แล้วไล้ที่ช่วงหางตา สร้างเลเยอร์แบบในรูปค่ะ ทรายสร้างเลเยอร์แบบลูกศร "<-" จะเห็นเชฟเป็นประมาณนี้นะคะ คือไล้ที่เส้นรอบพับตา และไล้ชิดขอบเปลือกตาบน จากนั้นไล้ที่ชอบตาล่างด้วยค่ะ เสร็จแล้วก็จะได้ตาประมาณนี้ค่ะ ลองดูสองข้างค่ะ เสร็จจากเปลือกตาแล้ว เราก็มาที่ไลเนอร์กันค่ะ ทรายใช้อายไลเนอร์ที่มากับ น้องโป๊ค่ะ ชื่อว่า 24/7 Glide on Eye Pencil ค่ะ เนื้อค่อนข้างนิ่มสีเข้มและติดค่อนข้างทนเลยค่ะ เขียนให้ชิดขอบตาที่สุดทั้งขอบตาบนและล่างและอย่าลืมเขียนเป็น Inner Liner ด้วยนะคะ จากนั้นก็ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าเลยค่ะ มาต่อกันที่ส่วนของแก้ม ทรายลองใช้บรัชMMUของ Madammineral สี Lumi doll เป็นบรัชสีส้มๆแบบที่เกาหลีกำลังฮิตค่ะแตะนิดเดียวสีก็เข้มแล้วต้องสะบัดแปรงดีๆหน่อยนะคะ และมาถึงสีปากทรายใช้สีจากพาเลท Kiss+Thristy+2=4U จาก J-Unit Miamiค่ะ เอาสองสีที่ทรายวงให้ดูผสมกันค่ะ จากนั้นก็ลงกรอสจาก Lunasol Full Glamourous # 17Soft Coral ก็จะได้ปากสีประมาณแบบนี้ค่ะ เสร็จแล้วก็จะได้ประมาณนี้ค่า ^^ ต่อด้วย Looks ที่เหมาะกับหน้านิดนึง วันนี้อยากเป็น Hippie-Boho ค่า ลากันไปก่อนนะคะ เอาไว้เจอกันใหม่ใน HT หน้าค่า ❤ Information: Makeup Urban Decay : Naked Palette Urban Decay : Eye Primer Armani : Face Fabric Radiance Suqqu : Creamy Makeup Base Impress : Press Powder Chanel : Poudre Universelle Compact Canmake : Pencil eyebrow Majorica : Hope my lashes are full & smooth J-Unit Miami : Kiss+Thristy+2=4U Lunasol : Full glamourous gloss Other Contact Lens : Big Glamour # Brown Camera : Panasonic Fx07 Photo : feonalita   Create Date : 09 สิงหาคม 2553     Last Update : 24 มกราคม 2554 0:09:06 น. Counter : 2703 Pageviews.   16 comment Share Tweet

feonalita 14 วันกับแชมพูปริศนา พร้อมเฉลยแล้วว่าแบรนด์อะไรค่า หากใครติดตามอ่านบล็อคทรายเรื่อยๆคงจะทราบนะคะว่าเมื่อครึ่งเดือนก่อน ทรายได้รับผลิตภัณฑ์ปริศนาส่งมาให้ใช้ที่บ้าน ซึ่งเป็นแชมพูปริศนาไม่ปรากฎที่มา โดยจริงๆกิจกรรมคือ ให้ทดลองใช้โดยไม่บอกว่าเป็นยี่ห้ออะไร แต่เคลมว่า สามารถแก้ปัญหาผมได้ภายใน 14 วัน ซึ่งในวันที่ทรายเริ่มใช้ทรายก็อัพบล็อคไป แล้วหนึ่งครั้ง ถ้าเพื่อนๆจะจำได้ ทรายเขียนไว้ว่า ทรายยังไม่เห็นผลอะไรมาก แต่ทรายชอบกลิ่นของเจ้าแชมพูปริศนาตัวนี้มาก ในใจก็็คิดอยู่เสมอค่ะ มีแบรนด์ในใจแล้ว แต่ไม่อยากบอกออกมาก่อน กลัวจะหน้าแตกถ้าไม่ใช่ ^^ หลังจากใช้ได้ 7 วันทรายก็เขียนในเฟซบุคทรายไว้ว่า ทรายรู้สึกว่าผมดีขึ้น คือผมดูเรียงเส้นขึ้น แล้วก็ไม่ชี้ฟู ดูมีน้ำหนักมากขึ้น หากช่วงนี้ได้ดู how to ของทรากก็จะเห็นความแตกต่างได้เลย ทรายเองมีรูปมาให้ดูด้วย ว่าปัจจุบันผม ทรายเป็นอย่างไรบ้างหลังจากผ่านไป 14 วันแล้ว แต่ขอเก็บไว้ก่อน อยากให้สาวๆ ไปดูรูปกิจกรรมที่ทาง Mystery Shampoo ได้เชิญทรายและอีกหลายๆท่าน ไปร่วม workshop ที่ร้าน Mark Thawin ย่านทาวน์อินทาวน์ กันก่อนค่ะ เพราะงานนี้เป็นเวิร์คช็อปเกี่ยวกับแชมพูปริศนาและการดูแลเส้นผม ก็เลยมีวิทยากร พิเศษก็คือ คุณมาร์ค เจ้าของร้านและHairstylist ชื่อดัง คุณประเสิร์ฐ Hairstyllist อีกท่านที่เคยทำผมให้กับคุณฮลลารี่ คลินตั้นด้วย และคุณจอยผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม มาให้ความรู้เรื่องการดูแลบำรุงเส้นผมให้กับเราค่ะ ไปดูรูปกันก่อนเลยเนอะ (เป็นภาพจากสาวๆหลายๆคนนะคะ ทรายแอบจิ๊กมาขอบคุณมากค่า) หลังจากสาวๆได้รับการจัดทรงและเซ็ททรงกันแล้วนะคะ อาจารย์ทั้ง 3 ท่านก็ ให้ความรู้เรื่องการดูแลเส้นผมค่ะ ว่าไม่ควรปล่อยให้ผมแห้งเอง ควรจะเป่าให้แห้ง แต่อย่าเอาไดร์จี้ผม แล้วก็เวลาที่สระผมไม่ควรลงแชมพูและครีมนวดที่หนังศรีษะ โดยตรงอาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งในจุดนี้ทรายมีประสบการณ์มาแล้ว เพราะไม่รู้ก็เลยลง mystery shampooที่หนังศรีษะโดยตรง ทำให้แสบและคัน ด้วยความไม่รู้อ่ะค่ะ T^T แต่หลังจากอาจารย์แนะนำแล้ว ทรายก็เปลี่ยนมา เป็นลงที่ปลายผมก่อนและนวดผมแค่เฉพาะช่วงปลาย ปัญหานั้นก็หายไปค่ะ หลังจากนั้นแล้วอาจารย์ประเสิร์ฐก็สอนทริกในการจัดแต่งทรงผมแบบง่ายๆ 3 แบบ ให้เราดูกันค่ะ โดยมีคุณแอริณ ทราย พี่วา และพินนี่ เป็นนางแบบจำเป็นให้ เชื่อไหมคะ? แต่ละทรงใช้เวลาทำไม่ถึงห้านาที โดยมีอุปกรณ์แค่กิ๊ฟดำธรรมดา งานนี้อึ้งกันทั้งงาน อาจารย์เก่งมากเลยค่ะ เราไปดูกันนะว่ามีทรงแบบไหนบ้าง ทรายต้องขอขอบคุณMystery Shampoo มากเลยค่ะที่ให้โอกาสทรายได้ ไปร่วมเวิร์คช็อปในครั้งนี้ ประทับใจทางร้านมากเลย เค้าเซ็ทผมทรายได้สุดยอดมาก มาดูตอนที่สระแล้วเซ็ทออกมาใหม่ๆก่อนจะไปเป็นแบบผมกันนะคะทรายปลื้มมาก หลังจากกลับมาบ้านพร้อมความเบิกบานใจแล้ว ทรายก็ยังคงใช้เจ้าแชมพูปริศนา อย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้นะคะ ซึ่งก็ครบ 14 วันมาเป็น 18 วันแล้ว ก็ได้เวลาเฉลย กันแล้วว่าแชมพูปริศนานี้เป็นแบรนด์อะไร ทรายเองก็เพิ่งทราบเมื่อวานนี้ค่ะ ตรงกับใจเป๊ะเลย เดี๋ยวสาวๆมาดูกันนะคะว่าตรงกับที่ตัวเองคิดไหม? ขอทรายรีวิว ก่อนนะคะว่าผมทรายเปลี่ยนไปแค่ไหนอย่างไรใน 14 วันค่ะ ขอย้อนความค่ะ ว่าทรายเป็นคนผมทำสีเส้นเล็ก แห้ง แตกปลาย เสีย กรอบ ชี้ฟู แต่ยังโชคดีที่พื้นฐาณเป็นคนสุขภาพผมดี ไม่ค่อยหลุดร่วง แต่วันที่ไปเวิร์คช็อป คุณจอยก็บอกแหละค่ะ ว่าผมค่อนข้างเสียมาก และไม่ค่อยเปล่งประกายเท่าที่ควร หลังจากทรายใช้แชมพูปริศนามาครบ 14 วันที่เค้าเคลมว่าช่วยแก้ปัญหา ต่างๆของทรายได้ในเวลาเพียงเท่านี้ เราก็มาดูกันค่ะว่าเป็นอย่างไร ผมทรายไม่ได้ไดร์ตรงนะคะ ไม่เคยยืดด้วย ทรายเป็นคนผมตรงโดยกำเนิดอยู่แล้ว ในรูปทรายเพิ่งสระผมและเป่าให้แห้งค่ะ สังเกตุว่่าผมดูเงามากขึ้นและเรียงเส้นสวยขึ้น ปลายผมเรียงไม่ชี้ฟูมากเหมือนเมื่อก่อน ผมเงาขึ้น เมื่อก่อนถ่ายรูปจะไม่ค่อยขึ้นเงาเท่าไหร่เวลาที่สีผมหลุดลอกแล้วแบบนี้ค่ะ ผมทิ้งน้ำหนักมากขึ้น ต้องขอขอบคุณทางP&Gมากๆที่ส่งแชมพูปริศนามาให้ทรายได้ลองใช้ค่ะ สิ่งที่ทรายยังคงชอบมาก เป็นความประทับใจแรกและต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ คือกลื่นหอมติดทนนานของแชมพูปริศนา ความประทับใจที่สองคือ ผมมีน้ำหนัก ทิ้งตัวและสปริงตัวดีขึ้น ภายในเวลาที่เคลมจริงๆค่ะ เสียดายอย่างเดียว ตอนแรกที่ไม่รู้ว่า ไม่ควรเทแชมพูลงบนหนังศรีษะโดยตรง (ไม่มีใครบอก T^T) ทำให้หนังศรีษะเป็นแผลแสบคัน ตอนนี้รู้แล้วว่าควรทำอย่างไรก็อาการดีขึ้น ชอบที่เส้นผมสวยขึ้น แต่แอบเสียใจเล็กๆ ตรงจุดนี้ ที่โง่เอง T^T ขอให้คะแนนสักเล็กน้อยเป็นธรรมเนียมสากลสำหรับรีวิวแล้วกันนะคะ คะแนนเต็ม10 ให้ 9 ค่ะ (หักตรงความโง่ของตัวเอง = =) ทีนี้ก็ถึงเวลาเฉลยแล้วนะคะ ว่าเป็นแชมพูยี่ห้ออะไร ทายถูกไม่มีรางวัลให้ 555 แชมพูแพนทีน (Pantene) นั่นเองค่า ทายถูกกันไหม? ทรายทายถูกนะ ตอนนี้คงพบกันได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไปแล้วหละค่ะ 10 ปากว่าหรือจะสู้ลองเองเนอะ มีทั้งหมด 3 สูตรค่ะ สีเขียว Smooth & Silky สีชมพู Hair Fall Control และสีม่วง Total Care เลือกใช้ให้ตรงกับปัฯหาได้ตามใจชอบค๊าบบบ   Create Date : 01 สิงหาคม 2553     Last Update : 24 มกราคม 2554 0:09:26 น. Counter : 3098 Pageviews.   15 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com