ตรงสู่ถนนบาริสต้า
หายหน้าหายตัวไปนาน หลังจากผ่านซึ่งเหตุการณ์ ที่อาจเป็นที่สุดของวิกฤตเมืองไทยที่เกิดขึ้นในยุคสมัยของคนรุ่นเรา (ขอให้มันเป็นที่สุด คือสุดจริงๆ อย่าได้มีที่สุดกว่านี้เลย) ก้อขอกลับมาเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาของเส้นทางบาริสต้าต่อครับ หลังจาก พลาดงานจากร้านเจ้าแขกสุดแสบแล้ว (ลืมบอกครับ การแช่งของผมมันออกผลอย่างรวดเร็วทันตาเห็น เดือนสองเดือนก่อนเดินผ่านหน้าร้านมัน ปรากฎว่าเจ๊งสนิทเรียบร้อย อาทิตย์ก่อนผ่านไปใหม่ เป็นร้านใหม่แล้ว ฮ่าๆ เอิ๊กๆ) หลังจากวันนั้น แม้จะหดหู่ยังไง ก้อต้องหัดชง ฝึกมือ ต่อไป ใครให้ไปลองงานที่ไหน ให้ไปช่วยอะไร ไปหมด ค่ารถจ่ายไปเสียไปช่างมัน ขอแค่กุได้จับเครื่องชงต่อไป ซึ่งตรงนี้ต่อมามันกลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างนึงคือ ไม่ว่าจะสตีมนมกับเครื่องยี่ห้อไหนก้อสามารถทำมันให้เนียนสวยได้ไม่ยาก
วันนึงโอกาสก้อมาถึง จากพี่สาวคนนึงที่นับว่าเป็นหนึงในบรรดาผู้ที่มีบุญคุณกับผม กับเส้นทางกาแฟของผม เค้าชื่อพี่เก่ง คือมันมีงานชงกาแฟที่สน่ามกีฬา เป็นสนามคริกเก็ต แม้ไม่ใช่งานประจำเป็นแค่งาน On call แบบว่ามีการแข่งก้อเรียกไปทำ แต่มันก้อดีมากๆๆสำหรับมือใหม่ครับ ทีนี้มันก้อจะมีเป็นซุ้มกาแฟหรือcoffee cartตามจุดต่างๆ ซึ่งทีมงานที่ทำเกี่ยวกับกาแฟในสนามกีฬานี้ "เป็นทีมคนไทยหมดครับ" ยกเว้นบอส พี่เก่งคนนี้เค้าก้อไปพูดอ้อนให้บอสรับผมเข้าอยู่ทำด้วย ทั้งที่ฤดูกาลที่จะเริ่มใหม่นั้นคนเค้าครบหมดแล้ว บอสเค้าก้อให้ไปลองงานวันนึง ไม่จ่ายน่ะ ไปก้อไป ไม่มีปัญหาอยู่แล้นน โชคดีวันที่ผมไปมันเป็นแค่คล้ายๆรอบแถลงข่าวอะไรประมาณนั้นมั้ง มีแค่ซุ้มเดียว(จริงๆน่าจะเรียก "คาร์ท") มีแค่ผมกับพี่เก่งและบอส ตอนนึง บอสไปนั่งชิวๆอยู่ ก้อบอกให้ผมชงกาแฟไปให้ ก้อชงไป จากนั้นพี่เก่งก้อมากระซิบว่า " เฮ่ย ปอง แม็ท(ชื่อบอส)บอกว่าแกชงกาแฟดีว่ะ" และแล้วผมก้อได้เป็นหนึ่งในทีมงาน ที่จะมาเริ่มงานกันในวันที่ 5 January 2009 ผมจำวันได้แม่นครับ หน้าที่คือ เป็นบาริสต้าเลย โดยที่ไม่ต้องเริ่มจากเด็กวิ่งของครับ " เครื่อง compact ยี่ห้อ WEGA ที่ใช้ในวันที่ไปลองเทรนงาน และก้อเป็นเครื่องตัวเดียวกันที่พังในวันแรก " หลังจาก ได้งานชงกาแฟที่สนามคริกเก็ต จากการช่วยเหลือของพี่เก่ง(ที่ใช้ความสวย พูดหว่านล้อมบอสจนใจอ่อนให้ผมไปลองเทรนงาน) วันแรกเปิดสนาม เจอดีเลยครับ จุดที่ผมประจำ อยู่ชั้นบนสุดของอัฒจันทร์ วันนั้นจุดของผมใช้กาแฟไปทั้งหมด 11 กิโล แต่เครื่องชงแค่สองหัว ชงจนเครื่องพังต้องเอาเครื่องมาเปลี่ยน ตอนชงอยู่เงยหน้าไป คิวรอซื้อยาวจนไม่เห็นหางแถวเลย ลูกค้าหน้าหงิดหน้างอ โดนด่าก้อมี พอนึกถึงวันนั้นแล้ว สงสารคนมาซื้อครับ ราคาก้อแพงกว่าข้างนอกแล้วยังได้กาแฟชุ่ยๆอีก ยอมรับครับว่าชงไม่ได้เรื่องเลย ยุ่งสุดๆแบบที่ไม่เคยเจอ ผมยืนตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเข้าห้องน้ำครั้งแรกประมาณบ่ายสอง ข้าวปลาเหรอครับยังไม่ตกลงไปในท้องเลย เลิกงานเก็บของเคลียร์ของเสร็จห้าโมงครึ่ง จำได้ว่ากลับบ้านมาปวดขามากกกก แต่หลังจากวันนั้น มันก้อดีขึ้นไม่ยุ่งนรกเช่นวันแรก กาแฟใช้ตกวันละ 5-6 กิโล ต่อมาอีกครั้งผมก้อได้ย้ายไปประจำจุดที่ยุ่งที่สุด คือฝั่ง member stand ที่เป็นอัฒจันทร์เก่า คลาสสิค ของเฉพาะสมาชิกของสนามคริกเก็ต (คริกเก็ตเป็นกีฬายอดนิยมของออสซี่ ระดับท็อปทรี) การชงกาแฟของผมมีการพัฒนาไปทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆในทุกๆครั้งที่ เรียกผมไปทำ เรียกว่าที่นี่สร้างความมั่นใจให้กับผม ในการเข้าไปเดินสมัครงาน Full time barista ซึ่งผมถือว่านั่น คือสนามจริงหรือสังเวียนจริงๆของอาชีพคนชงกาแฟ " coffee cart จุดที่ผมทำตรง Member stand " " เครื่องชงยี่ห้อ Brasilia กับกาแฟของ Lavazza " ไว้มาต่อกันอีกครับ
Create Date : 02 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 17:18:53 น. |
|
3 comments
|
Counter : 711 Pageviews. |
|
|