ตอนที่ 8
โต้งยังไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนชุด เดินมาที่ตู้เย็นเพื่อกดน้ำดื่ม เสียงโทรศัพท์มือถือดังอยู่ในกระเป๋ากางเกง โต้งไม่คุ้นเบอร์จึงถามเสียงห้วนว่าใคร พอรู้ว่าเป็นมิวก้แปลกใจที่โทรมาดึกๆ

“มิวเหรอ? ว่าไง”
“เพลงของเรา เราไร้ท์ให้เสร็จแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เราเอาไปให้ที่สยามนะ”

เสียงมิวดังออกมาจากเครื่อง โต้งเดินคุยไปเรื่อยๆจนมาถึงห้องนั่งเล่น เห็นกรนอนเมาเลอะเทอะอยู่ที่โซฟา โต้งรู้สึกบางอย่างในใจลึกๆ สงสารพ่อจับใจ ไม่ได้ยินเสียงมิวที่เรียกอยู่ในโทรศัพท์
“มิว เดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยโทรหานะ”
“ อ๋อ ได้ งั้นแค่นี้ก่อนล่ะกัน”
โต้งตัดสายไป มิวรู้สึกเสียดาย และไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรโต้งถึงไม่อยากคุยด้วย ความรู้สึกบางอย่างแทรกเข้ามาใส่มิวไม่รู้ตัว

โต้งเดินไปหาผู้เป็นพ่อช้าๆ กรสะอึกเป็นระยะๆ มองดูพ่อด้วยแววตาเศร้าหมอง สุนีย์ถือผ้าห่มผืนใหญ่เข้ามา
“ยังไม่ไปอาบน้ำอีกเหรอ?”
โต้งหันไปสบตากับแม่
“กำลังจะไป” โต้งหันกับไปมองพ่ออีกครั้งแล้วเดินไปอาบน้ำ สุนีย์มองกรด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างจากลูกชายนัก

  

ที่โรงอาหารช่วงพักกลางวัน โต้งนั่งคิดถึงแต่อาการของกร จนเผลอสะอึกขึ้นมาเหมือนที่พ่อเป็น จนเพื่อนรำคาญ
“ เฮ๊ย!!นี่มึงเป็นเหี้ยอะไรเนี่ย” เพื่อนในกลุ่มถาม
“ขี้ติดคอหรือไงว่ะ” อีกคนแซว
“โต้ง เมื่อวานมึงทะเลาะกับโดนัทเหรอว่ะ”
“เอาข่าวมาจากไหนว่ะ” โต้งถาม
“เมื่อวานกูคุยเอ็มกับเพื่อนเค้า”
“แล้วเค้าว่าไงบ้างว่ะ” โต้งอยากรู้ว่าโดนัทเล่าอะไรให้เพื่อนฟังบ้าง
“เค้าก็บอกว่า มึงน่ะโคตรเหี้ยเลย ไม่ดูแลเค้าเลย”
“อ๋อ สงสัย มึงได้เค้าแล้วจะทิ้งใช่มั๊ย!!” เพื่อนคนแรกตั้งสมมุติฐานให้
โต้งหันไปให้ของลับอย่างฉุนเฉียว หันมาฟังเพื่อนคนเดิมเล่าต่อ
“กูไม่เข้าใจ โดนัทแม่งสวยเลือกได้ เค้าเลือกมึงนะโว้ย ทำไมมึงไม่ดูแลเค้าหน่อยว่ะ
“ไม่รู้สิ กูก็เป็นของกูอย่างนี้ เค้าไม่เข้าใจว่ะ” โต้งพยายามอิบายแต่เพื่อนก็แทรกขึ้นเสียก่อน

“มึงก็เป็นของมึงแบบนี้ ถามจริงๆเถอะ อยากเลิกกับโดนัทหรือเปล่า?”
เพื่อนทุกคนจ้องมองหน้าโต้งกันหมด ลุ้นว่าโต้งจะตอบอย่างไร
เลิกเรียนแล้ว โต้งโทรศัพท์ไปหาโดนัท เพื่อจะปรับความเข้าใจ

  

ชั่วโมงพละคาบสุดท้ายก่อนเลิกเรียน มิวกำลังตั้งใจฟังคุณครูสอนถึงการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งมีหลายวีธี โดยให้นักเรียนจับฉลากเลือก ที่หน้าแถวมิวและเอ็กส์ยืนเกี่ยงกันเพื่อเลือกจับฉลาก
เอ็กส์เป็นคนหยิบกระดาษข้างในขึ้นมาเป็นคนแรก

“ CPR.คืออะไรว่ะ?”
หันไปถามมิว ที่ทำหน้าไม่รู้เช่นกัน คุณครูตีแขนเอ็กส์เบาๆพรึมพรำว่าสอนไปแล้วแต่ไม่จำเอง และอธิบายให้ฟังว่าคืออะไร จากนั้นก็ให้สาธิตตัวอย่างให้เพื่อนๆดู

มิวนอนลงกับพื้น โดยมีเอ็กส์นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆใกล้กับหัวไหล่ เพื่อเตรียมปฐมพยาบาลให้ เพื่อนนักเรียนในชั้นต่างชะโงกหน้าดูกันอย่างตั้งใจ เอ็กส์ค่อยๆปั้มหัวใจเรื่อยๆที่หน้าอกจากนั้นก็จับคางของมิวเงยขึ้นเล็กน้อย

“ เอาจริงเหรอครู?” เอ็กส์หันไปถามหวาดหวั่น อยากให้คุณครูเปลี่ยนใจ แต่คำตอบของครูทำเอาเอ็กส์หน้าจ๋อย
“อ๊ะ!!หรือจะเอาศูนย์”
เอ็กส์ตัดสินใจรวบรวมความกล้าอีกครั้งก้มหน้าลงไปประชิดที่ริมฝีปากของมิวแต่ก็เงยขึ้นมาอีกครั้ง
“สัตว์เอ๊ย!!อย่าหลับตาสิว่ะ”
เสียงร้องกรี๊ดของเพื่อนๆในชั้นเรียนที่ลุ้นอยู่ต่างหวาดเสียวแทนพร้อมกับอดขำไม่ได้

คราวนี้มิวไม่หลับตา พยายามไม่เกร็ง
หน้าของเอ็กส์ก้มลงมาต่ำจนประชิดกันอีกครั้ง เป็นการปรฐพยาบาลแบบ “เม้าส์ทูเม้าส์”

“ แหวะ!! เหี้ยมิว มึงเอาลิ้นสอดเข้ามาในปากกูทำไมว่ะ”
มิวหน้าเหวอ รู้สึกอายเพื่อนๆ ลุกพรวดขึ้นมา

“เหี้ยอะไรเนี่ย กูไม่ได้ทำนะโว้ย”
มิวมองไปที่เพื่อนๆ เห็นทุกคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนานก็รู้สึกหน้าชา
“ก็มึงสอดเข้ามา” เอ็กส์ยังแกล้งต่อไปอีก
“เหี้ยอะไรเนี่ย”
มิวไม่พอใจ

  

หลังเลิกเรียน เพื่อนๆในกลุ่มทั้งเอ็กส์ ปิงปอง น้องอ้วน อ๋อง เอ็ม แวน อาร์ม ไมค์ ต่อ แม็ก มากันจวนครบแล้ว
“เออพี่เอ็กส์ พี่มิวล่ะ” ไมค์หันมาถาม
“ไม่รู้เหี้ยมัน”
เอ็กส์ตอบโดยไม่ได้เงยหน้าจากกีต้าร์ที่กำลังตั้งสายอยู่ ส่วนอ๋องเดินเข้ามาแซวเรื่องเอ็กส์
“ได้ข่าวว่าไปดูดปากกับไอ้มิวมาเหรอ?” เอ็กส์ให้ของลับไป อ๋องหัวเราะขำๆ

  

ที่สยามโต้งพยายามติดต่อกับมิวเพื่อมาเอาแผ่นเพลงที่มิวไร้ท์ให้ แต่ก็โทรไม่ติด มิวรู้สึกโกรธที่เอ็กส์แกล้งให้อายเพื่อนๆจึงไม่ไปซ้อมดนตรี แอบมาเดินคนเดียวที่สยาม เดินดูของที่โชว์หน้าร้านไปเรื่อยๆ และก็เจอกับโต้งโดยบังเอิญ โต้งโบกมือทักให้ มิวยิ้ม รู้สึกดีขึ้นมา

โต้งได้มีโอกาสเข้ามาที่ห้องของมิวอีกครั้ง หลังจากที่กลับจากสยาม โต้งกวาดสายตาดูรูปภาพต่างๆแล้วมาสะดุดที่กรอบรูปอันหนึ่ง
“ยังเก็บไว้อยู่เหรอ?” โต้งยื่นกรอบรูปถ่ายที่มิวและโต้งถ่ายคู่กันวันแสดงละครเวที เมื่อ 6ปีก่อน

มิวรับคำยิ้มๆ แล้ววางกรอบรูปไว้ใกล้ๆตุ๊กตาไม้ โต้งเอื้อมหยิบขึ้นมาดู จิตใจของโต้งตอนนี้หวนระลึกถึงวัยตัวเองเมื่อครั้งเป็นเด็ก ความทรงจำเรื่องราวต่างๆเรียบเรียงขึ้นมา สายตาของโต้งดูอ่อนโยนลง ในมือยังคงกุมตุ๊กตานั้นไว้แน่น
“มิว…” โต้งเรียกเบาๆ มิวค่อยๆหันไปหาโต้งที่ยืนพิงขอบหน้าต่างอยู่อีกด้านหนึ่ง
“เล่นเพลงตอนนั้นให้ฟังหน่อยสิ” สายตาของโต้งวิงวอน
“เพลงอะไรล่ะ”

“ก็เพลงที่มิวเคยเล่นตอนเด็กๆไง”
สายตาของโต้งยังคงจับจ้องที่ตุ๊กตาไม้ในมือ สิ่งของที่อยู่ในมือขณะนี้คือรอยเชื่อมต่อระหว่างเขาและมิว โต้งอยากจดจำวันเวลาที่เป็นเด็กอย่างนี้ให้เนิ่นนานต่อไป

มิวทำหน้าคิดไม่ออก แต่สักครู่ก็ยิ้มขึ้นมา
หันกลับไปที่อิเล็คโทนอีกครั้ง เสียงดนตรีค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆโต้งปล่อยความรู้สึกไปกับเสียงเพลงในวันวาน
สายตามองทอดยาวออกไปนอกหน้าต่าง

“บ้านหลังนั้นมีคนย้ายมาอยู่แล้วเหรอ?”
โต้งถามเมื่อเห็นว่าบ้านหลังเดิมที่เคยอยู่เมื่อช่วงเด็กๆมีคนอยู่ข้างใน โต้งน้ำตาซึมจนมองเหมือนเห็นพี่แตงกำลังยิ้มทักทายอยู่ในห้องฝั่งตรงข้าม
“เคยเห็นเค้ากลับมาบ้างหรือเปล่า?” โต้งถามเบาๆ เหมือนจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่พี่แตงจะกลับมา
“ใคร?” มิวชะงักเล็กน้อยแต่ก็ไม่ทำให้เสียงดนตรีสะดุดลง โต้งหันกลับมาทำหน้าเหมือนเดิม

“เปล่า ไม่มีอะไร”
แล้วก็ก้มหน้ามองตุ๊กตาไม้ที่อยู่ในมืออย่างเศร้าสร้อย
มิวเข้าใจความรู้สึกบางอย่าง พูดขึ้นเหมือนตอกย้ำความเจ็บปวด
“ยังไม่ลืมอีกเหรอ?” ไม่มีเสียงตอบจากโต้ง
“ถ้าหากโต้งได้มีโอกาสเจอพี่แตงอีกครั้งหนึ่ง โต้งจะพูดกับเค้าว่าไง”
“ไม่รู้สิ แค่เราจะถามว่า… ทำไม?” โต้งก้มหน้าพูด ไม่อยากให้มิวได้เห็นน้ำตา

“ทำไม?” มิวแปลกใจว่าเพราะอะไรจึงถามเพียงแค่นี้
“ทำไม ถึง ถึงทิ้งพวกเราไป”
โต้งยืนนิ่ง ไร้เรี่ยวแรง ความเหงามันเข้ามาเกาะอยู่ที่หัวใจของโต้งอีกครั้ง มิวเอื้อมมือหยิบแผ่นเพลงที่ไร้ท์เสร็จแล้วให้กับโต้ง

“มันไม่ใช่ความผิดของเค้าหรอกโต้ง”
โต้งรับแผ่นเพลงไว้แล้วส่งตุ๊กตาไม้คืนให้มิว
ทั้งสองคนประสานสายตาส่งกำลังใจให้กันและกัน เสียงเคาะประตูห้อง หญิงเปิดประตูมาทั้งสองคนหันหน้าไปที่ประตู เห็นหญิงยืนอยู่
“อ้าว มีเพื่อนอยู่ด้วยเหรอ? โห!!อุตส่าห์ว่าจะมายืมดิกส์เสียหน่อย งั้นไว้หญิงจะมายืมใหม่ล่ะกัน” หญิงทำท่าจะปิดประตู โต้งเรียกดักไว้
“เฮ๊ย!!ไม่เป็นไร” หญิงชะงักหันกลับมา มิวมองหน้าโต้ง โต้งบอกว่ากำลังจะกลับบ้านพอดี

“เอาไงดี ให้ไปส่งหรือเปล่า?”
มิวบอก
“ไม่เป็นไร หาดิกส์ให้เค้าก่อนเถอะ”
โต้งโบกมือลา มิวโบกมือตอบสายตาละห้อย โต้งเดินผ่านหญิงโค้งศีรษะให้เล็กน้อย หญิงยิ้มให้บอกกับมิวว่า เพื่อนมิวหน้าตาหล่อดี



หลังจากได้ดิกส์แล้ว หญิงก็กลับไปที่บ้าน หม่าม้าและอาเฮียจ้องหาเรื่องอยู่
“หม่าม้า ไม่ต้องไปว่ามันหรอก คนแถวนี้เขาก็รู้ว่าไอ้มิวมันเป็นกระเทย” หญิงชะงักหันมามองอาเฮียไม่พอใจ

“ โอ๊ย!!อาเฮียกับหม่าม้าทำไมไปว่าอามิว เขาแบบนั้น อามิวเขาเป็นผู้ชาย โอ๊ย!!อาเฮียนี่ปากหมาจริงๆเลย” หญิงสะบัดสะบิ้งวิ่งขึ้นห้องตัวเองไป
ที่ห้อง หญิงหยิบตุ๊กตาหมีขึ้นมากอดแล้วค่อยอารมณ์ดีขึ้น เดินไปแอบมองมิวที่หน้าต่างบิดตุ๊กตาไปมาซ้ายที ขวาทีแต่ก็ต้องตกใจที่เห็นมิวบิดแขนซ้าย แขนขวาไล่ความเมื่อยล้าออกไป หญิงเข้าใจว่าเป็นเพราะมนต์จากหนังสือแน่ๆ

มิวเคาะคีบอร์ดไล่จังหวะอยู่นานแต่ก็คิดไม่ออก เห็นกรอบรูปวางอยู่ใกล้ๆก็ยิ้มออกมา เหมือนได้กำลังใจบางอย่าง มิวค่อยๆใส่จังหวะและเนื้อหาของเพลงทีละน้อยๆ

(โปรดติดตามตอนต่อไป )



Create Date : 20 เมษายน 2552
Last Update : 20 เมษายน 2552 11:03:19 น.
Counter : 362 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณหมอกมลชนก
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



"Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them."

บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ

คำคมนี้ดูจะบ่งบอกความเป็นตัวตนของ"ออมสิน"ได้เป็นอย่างดี...


สมาชิกอยู่ในบ้านขณะนี้