14.00 น. ถึงสนามบิน พร้อมกับปรี่เข้าหาห้องน้ำเป็นอย่างแรก เพราะอั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ หลังจากเสร็จกิจกรรมก็จัดแจงหาแผนที่ เพราะว่าการเที่ยวครั้งนี้ no companions at all ก็คือมาแบบลุยเดี่ยวจริงๆ ซึ่งมันก็ทำให้รู้สึกสนุกไปอีกแบบ
วกกลับเข้ามาที่เรื่องรถที่ผมจองไว้คือ Honda Jazz (AT) ตื่นเต้นมากๆ เพราะเป็นการท่องเที่ยวแบบขับรถเองเป็นครั้งแรกในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย มีแค่เพียงแผนที่และปากที่จะใช้สอบถามเท่านั้นที่จะพาให้ผมไปถึงที่หมายได้อย่างถูกต้อง Tom Hopkins ผู้เขียนหนังสือ How to master the art of selling ได้กล่าวไว้ว่า Primary tool ของนักขายก็คือสิ่งที่เปิดอยู่บนหน้าที่เรียกว่าปากนั่นเองครับ และวันนี้ผมคงจะได้ฝึกฝนมันในด้านอื่นนอกจากการขาย ก็คือการถามเส้นทาง และต่อราคาของนั่นเอง!
ในช่วงที่เดินทางนั้นหากใครได้เคยดูเรื่อง The day after tomorrow ผมอยากจะบอกว่าตอนที่ขับขึ้นดอยไปนั้นความรู้สึกมันไม่ต่างกันเลย เพราะว่าเจอทั้งแดดออก ฝนตก หมอกลง แต่เจ้า Jazz ก็ไม่หวั่นสู้วันมามาก มีแต่ผมนี่แหละที่ใจลึกๆ สั่นไหวอยู่เหมือนกันว่าจะได้ไปเที่ยววันต่อๆ ไปอีกหรือเปล่าเนี่ย จุดแรกที่ผมแวะก็คือ พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุเจดีนภพลภูมิสิริ
อย่างที่บอกครับว่าอากาศมันไม่ค่อยดี รูปที่ถ่ายเลยดูขมุกขมัว แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง ช่วงที่ไปคุณป้าแถวนั้นเค้าบอกว่าช่วงนี้เค้ากำลังเตรียมลงดอกไม้เพื่อเตรียมงานวันพ่อ สวนดอกไม้สวยๆ ที่แต่ก่อนผมเคยเห็นก็เลยเป็นดินที่ขุดมากองไว้ซะส่วนใหญ่ แต่ไม่เป็นไรเพราะความมันส์มันอยู่ที่ I am the only tourist over there! มีผมคนเดียวเดินถ่ายรูปไปมาได้อย่างสบายใจเฉิบ แม้แต่ตอนขับรถก็ยังหยุดถ่าย เพราะเค้าไม่มีกฎหมายว่า ขับห้ามถ่าย นี่ :)
ขับต่อไปอีกไม่กี่อึดใจ ฝนก็ยังพรำๆ ลงมาอย่างต่อเนื่อง และเบื้องหน้าผมก็เห็นแล้วครับ ลานจอดรถพร้อมกับป้ายที่ระบุไว้ว่า สูงสุดแดนสยาม นั่นก็แสดงว่าผมอยู่เหนือกว่าใครหลายต่อหลายคนในประเทศไทย ผมคนเดียวอยู่สูงที่สุดในประเทศไทย ณ ตอนนั้น ใช่แล้ว Here I am, Doi Innthanon! หากใครได้ชมซีรี่ย์เกาหลีที่ชื่อว่า My lovely Sam Sun คงจะนึกฉากที่ เจ๊คิม ซัม ซุน เค้าขึ้นเขามาเพื่อจะลืมทุกอย่าง แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับชื่อใหม่ (คิม ฮี จิน) หมอกและหุบเขาที่อยู่เบื้องหน้าผมในขณะนั้นก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ผมไม่ใช่คิม ซัม ซุนเท่านั้นเอง