เ ที่ ย ว ไ ป ต า ม ะ วั น
Group Blog
 
All blogs
 

Istanbul ในที่สุดก็มาจนได้ ! (3)

อาทิตย์ที่ เจ็ด พฤษภาคม สองห้าสี่เก้า

วันนื้พวกเราตื่นนอนแบบไม่มี “คน” ปลุก ทานอาหารเช้าเคล้าควันบุหรี่ (คนที่นี่สูบบุหรี่กันเยอะมาก แม้จะในตึกก็เถอะ) แล้วนั่งรอ Aylin มารับ เพื่อนมาถึง 10 โมงกว่า ท่าทางอิดโรย แต่จะว่าไปขนาดเรานอนหลับสนิท วันนี้ยังรู้สึกง่วงมากมาก แล้วเพื่อนต้องขับรถ 50 กิโลกลับไปกลับมา จะเหนื่อยขนาดไหนเนี่ย

โปรแกรมวันนี้คือ Old City อันได้แก่ Ayasofya, Blue Mosque แล้วก็ Topkapı Palace ก็เหมือนเดิม นั่งแท็กซี่ไป ไฮโซเหลือเกิน

ที่แรกคือ Ayasofya (อา-ยา-โซ-เฟีย) ชื่อภาษาอังกฤษคือ Hagia Sophia แต่ชื่อท้องถิ่นมันน่ารักกว่าเลยเรียกอายาโซเฟียละกัน ที่นี่เคยเป็นโบสถ์เก่าแก่ ใหญ่โต แต่ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นมัสยิด ภายในยังมีรูปวาดพระเยซูอยู่เลย จบ...ความรู้ประวัติศาสตร์เป็นศูนย์ ดูรูปเอาละกัน

Istanbul 143
- เห็นป่าว มีทั้งพระเยซู ทั้งภาษาอาหรับ -


Istanbul 169
- จิตรกรรมฝาผนัง -


Istanbul 297
- Ayasofya ด้านนอก -


จุดมุ่งหมายต่อไปคือ Blue Mosque หรืออีกชื่อคือ Sultan Ahmet อยู่ตรงข้ามกับ Ayasofya นี่เอง มัสยิดนี้สร้างโดยสุลต่าน Ahmet ที่ 1 ระหว่างปี ค.ศ. 1609-1616 (เป็นไงล่ะ อุตส่าห์แก้ตัวไปค้นประวัติมานะเนี่ย ได้มาแค่เนี้ยแหละ) ปกติมัสยิดจะมีเสาได้ไม่หนึ่ง ก็สอง หรือสี่เสา แต่ Blue Mosque มี 6 เสาเนื่องจากเป็น Royal Mosque ไฮโซ

Istanbul 194
- Blue Mosque มีหกเสา -



…Adventure #6 – เอ...หรือเราจะเป็นตัวประหลาด ?
กว่าจะเดินข้ามสวนจาก Ayasofya ไปถึงก็เกือบชั่วโมง ระยะทางน่ะ นิดเดียว แต่...อย่างว่า ช่างภาพ (นางแบบ) อาชีพอย่างเราต้องใช้เวลานานเป็นธรรมด๊า ไม่ใช่แค่เป็นช่างภาพนะ เป็นนางแบบด้วยจริงจริ๊ง... ก่อนจะเข้า Ayasofya ก็มีเด็กมาขอถ่ายรูปด้วย (เสียดายที่เป็นเด็กผู้หญิง) เมื่อวานตอนเช้าก็มีแต่เด็กแอบมอง แถมโบกมือให้ด้วย (แต่ก็เด็กผู้หญิงอีกแหละ) ตอนอยู่มิวนิค มีวันนึงที่เป็นวันพาเหรดเกย์ Christopher Street Day ก็มีเกย์มาขอถ่ายรูปด้วย ตกใจหมดเลย เราแอบถ่ายรูปพวกเค้าอยู่ดีๆ หันมาก็มีคนแอบถ่ายรูปเราเหมือนกัน เสียดาย...เป็นเกย์ (หรือเค้าจะคิดว่าเราแปลงเพศแล้ว)

และแล้วก็สำเร็จ...ในที่สุดก็มีชายหนุ่มมาขอถ่ายรูปด้วย

เหยื่อเป็นหนุ่มนักท่องเที่ยวฝรั่งตัวสูงปรี๊ด เรากำลังถ่ายรูปพี่ตาโตอยู่ หนุ่มก็มาสะกิด ขอถ่ายรูปคู่กับยูได้มั้ย อ๊ะ..แน่นอน ได้ซี Aylin บอกว่าคราวหน้าถ้ามีคนหลงหน้ามืดตามัวมาขอถ่ายรูปด้วยอีกให้เก็บเงินค่าถ่ายรูปทำทุน


ที่อิสตันบูลนี่จะเห็นคนแบบของขาย อย่างเช่นขนมปัง Simit แบบในรูปนี่ มีเต็มไปหมด เป็นขนมปังคล้าย Pretzel โรยงา

Istanbul 207
- หน้าตาขนมปัง Simit -


ข้าวโพดก็มีขายทั่วไป ทั้งต้ม ทั้งปิ้ง น่ากินที่สุด แต่ไอ้ถุงที่ใส่นี่สิ เป็นถุงดำเหมือนถุงขยะบ้านเราเลย เห็นโรงแรมเอาอาหาร delivery มาส่งตามบ้าน ก็ใส่ถุงดำ อะไรกันนี่

Istanbul 206
- อันนี้หน้าตารถเข็นขายข้าวโพด -


Istanbul 217
- อันนี้ขายน้ำอะไรไม่รู้ ดื่มแล้วจะออกอาการไฮเหมือนคนขายมั้ยเนี่ย -



กว่าจะมาถึง Blue Mosque ก็เกือบเที่ยง แขกทั้งหลายต่างมุ่งหน้าเข้ามัสยิดจนผิดสังเกต มาถึงก็จัดแจงล้างเท้าล้างมือล้างหน้ากันใหญ่ ไม่ช้าไม่นานก็ถึงบางอ้อ “...อ่ออมมมอึ่มมมมอั่มมมหมั่มมมม...”
“นี่อีหนู อีก 1 ชั่วโมงค่อยกลับมาใหม่นะ ตอนนี้เค้าจะละหมาดกัน” พวกเราโดนเจ้าหน้าที่หน้าประตูไล่กลับ
ไม่บอกก็รู้ เสียงเพลงสวดกระหึ่มโลกอย่างนี้ ไม่รู้ว่าเค้าจะละหมาดกันก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว

“ปะ งั้นเราไปหาอะไรใส่ท้องกันหน่อยดีกว่า”
วันนี้ อาหารกลางวันคือเนื้อสับเป็นแท่งเล็กๆ ประมาณนิ้วมือ ทานกับน้ำจิ้มรสชาติคล้ายพริกเผาบวกเต้าหู้ยี้ เค้าเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ จำบ่ได้ ทานไปทานมาก็ได้แถมมาอีกจาน พร้อมกับขนมท้องถิ่นอีกหนี่งจาน พวกเราเกรงใจบอกบ๋อยว่า ไม่เอ๊า ไม่เอา แต่ก็กินกันหมดเกลี้ยง ตอนจ่ายตังค์ บ๋อยยังไม่คิดเงินอีกตังหาก พวกเราเลยขอบคุณกันยกใหญ่ พอจะออกจากร้าน บ๋อยก็มาสะกิด Aylin บอกว่า เพื่อนที่นั่งข้างยูน่ะ น่ารักดีนะ...โฮะ โฮะ จะใครที่ไหนล่ะ... วันนี้ช่างประสบความสำเร็จในชีวิตจริงๆ เลยเรา

เมื่อท้องอิ่ม ขาก็มีแรงเดิน เราแวะไป Basilica Cistern ที่อยู่ห่างจากร้านอาหารไม่ถึง 200 เมตร ที่นี่เป็นสถานที่เก็บน้ำสำหรับ Istanbul ทั้งเมืองในสมัยก่อน เราต้องเดินลงไปใต้ดิน ภายในโอ่อ่า มีเสาโรมันนับร้อยต้น มีน้ำขังอยู่เล็กน้อย ในน้ำมีปลาตัวโตน่ากินอยู่เต็มไปหมด อากาศเย็นชื้นใช้ได้เลย มีน้ำหยดติ๋งๆ จากเพดานตลอดเวลา

Istanbul 277


ขึ้นมาจากใต้ดิน ก็รีบจ้ำกลับไปมัสยิดสีน้ำเงิน เถลไถลมาซะนานเดี๋ยวเค้าละหมาดกันอีกรอบล่ะแย่เลย แต่โชคดี สัญญาณสงบ ยังไม่มีเสียงสวรรค์เรียก

ที่นี่จะเห็นเด็กผู้ชายแต่งชุดขาว ล้อมรอบด้วยบริวารญาติมิตรที่ยิ้มแก้มปริ ภูมิอกภูมิใจ รุมถ่ายรูปกันพอๆ กับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น (แค่ไม่มีการชูสองนิ้ว) ไม่ใช่อะไรหรอก เค้าเพิ่งไปเข้าพิธี “ขลิบ” มาน่ะ จะได้เป็นชาวมุสลิมเต็มตัว สังเกตได้ ไม่เห็นมีเด็กคนไหนยิ้มออกซักคน...

Istanbul 241
- เด็กชายชุดขาวหน้าปุเลี่ยนปุเลี่ยน -


Istanbul 250
- Blue Mosque ด้านใน -


ทางเข้า Blue Mosque มีหลายประตู มีประตูสำหรับชาวตุรกีซึ่งแบ่งเป็นประตูชายหญิง นักท่องเที่ยวต้องอ้อมไปเข้าประตูหลัง ผู้หญิงต้องเอาผ้ามาคลุมผมด้วย ซึ่งเราก็เตรียมผ้าพันคอมาเรียบร้อย พอเอามาคลุมหัวเท่านั้นแหละ เพื่อนขำใหญ่เลย ทำไม..ตลกตรงไหนยะ

ตามธรรมเนียม เหมือนเข้าอุโบสถวัดไทย อุบาสก อุบาสิกาที่ดีย่อมถอดรองเท้า แต่ที่นี่สงสัยจะกลัวรองเท้าหาย มีการแจกถุงให้ใส่รองเท้า หิ้วเข้ามัสยิดไปด้วย แต่พอเข้ามาด้านในได้นี่สิ.. โอ้อัลลาร์ช่วย...มัสยิดสวยน่ะสวย แต่คุณเอ๊ย...กลิ่นน่ะค่ะกลิ่น กลิ่นบาทาใครต่อใครหอมตลบอบอวลตีกันยุ่งไปหมด

Istanbul 303
- Blue Mosque ด้านในเข้าไปอีก -


“เอ่อ เพื่อนๆ ข้างในนี่สวยดีนะ แต่กลับกันเถอะ ต้องไปวังข้างๆ อีกที่นึงนี่ เดี๋ยวไปไม่ทันนะ” เราเริ่มชักแม่น้ำทั้งห้า

เพื่อนคงจะได้กลิ่นดีด้วยจึงรีบออกมาข้างนอกกันทันที

จุดหมายต่อไปคือวัง Topkapı Palace (อ่านว่า ท็อป-กะ-เปอะ สังเกตว่าตัวไอไม่มีจุดนะ) วังนี้อยู่ถัดไปจาก Ayasofya หมายความว่าเราต้องเดินจาก Blue Mosque กลับไป Ayasofya แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายเล็กน้อย ผ่านน้ำพุ Sultan Ahmet เสาอียิปต์ และ Hippodrom พูดเหมือนไกล แต่ไม่ไกลหรอก แต่ตอนนี้เราหมดแรงแล้วล่ะ แรงเขียนน่ะ ไว้มาต่อกันคราวหน้านะจ๊ะ...

…to be continued…Istanbul (4)…






 

Create Date : 30 มิถุนายน 2549    
Last Update : 8 กรกฎาคม 2549 2:37:13 น.
Counter : 815 Pageviews.  

Istanbul ในที่สุดก็มาจนได้ ! (2)

เสาร์ที่ หก พฤษภาคม สองห้าสี่เก้า (ต่อ)

โปรแกรมวันแรกปรากฏว่า...ไม่มี
“วันนี้จะพาพวกเราไปไหนกันเหรอ” สายตาสามคู่จ้อง Aylin เขม็ง
“ไม่รู้เหมือนกัน พวกยูอยากจะไปไหนล่ะ” อ้าว...ไหงเป็นงั้นล่ะเพื่อน กะมาแบบว่า เดินตามอย่างเดียวนะเนี่ย ไม่ได้หาข้อมูลมาซักกะติ๊ดเดียว แค่รู้ว่าอิสตันบูลมันอยู่ 2 ทวีปนี่ก็บุญแล้วนะ
“เคยคุยกับ Barış ที่จะมารับช่วงต่อวันจันทร์-อังคาร เค้าบอกว่าให้ยูพาไปที่ง่ายๆ ส่วนที่ยากๆ ขอให้เป็นหน้าที่ของเค้าเอง” เป็นไงล่ะ บอกแล้วเกิดเป็นดาว ช่างโชคดี มีเพื่อน 2 คน คนนึงว่างเสาร์-อาทิตย์ อีกคนว่างจันทร์-อังคาร อะไรจะเหมาะเหม็งขนาดนี้
“งั้นวันนี้เราไปเดินบาซาร์กัน เพราะพรุ่งนี้ตลาดไม่เปิด พรุ่งนี้ค่อยไปเมืองเก่า วันต่อไปก็ยากแล้วล่ะเพราะไม่รู้จะพาไปไหนแล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเพื่อนยูละกัน” เออ ยากจริงๆ ด้วย ไม่รู้จะไปไหนเนี่ย

เราเรียกแท็กซี่จากหน้าโรงแรมไปลงที่ Eminönü (เอ-มิ-เนอ-นือ) ซึ่งต้องข้ามสะพานไปอีกฝั่งทางใต้ อูย...แท็กซี่ที่นี่ขับได้ไม่น้อยหน้าแท็กซี่กรุงเทพเลย พอดีว่ารถติดมาก ถ้าไปถึงที่คงจะอีกนานโข แถมแท็กซี่จะต้องกลับไปส่งรถอีก เลยตกลงกันว่าจะเดินต่อ ไม่ทันขาดคำ คุณแท็กซี่ก็กลับรถขวับ แล้ววิ่งแทบจะตั้งฉากถนน ตัดเลนสี่เลนไปจอดเทียบฟุตบาธฝั่งตรงข้าม ผู้โดยสารหัวใจแทบวาย

เราเดินข้ามอุโมงค์จะไปฝั่งตรงข้าม ใต้อุโมงค์มีของขายเพียบ รองเท้า กระเป๋า แว่นตากันแดด อย่างละ 10 Lire (1.67 Lire ประมาณ 1 ยูโร แล้ว 1 ยูโรก็ประมาณ 48 บาท คำนวณกันเองละกันนะ) พี่ตาโตตาโตสมชื่อ เราต้องคอยเตือน พี่..พี่ ที่เมืองไทยน่ะ มัน 4 ยูโรเองนะ ใจเย็นๆ (อยู่เยอรมัน อะไรๆ มันก็แพง เห็นของอย่างนี้เลยตื่นเต้นไปนิด)

พอไปถึงอีกฝั่งก็เจอมัสยิด (ที่นี่มองไปทางไหนก็เห็นแต่มัสยิด) ถัดไปเป็น Spice Bazaar หรืออีกชื่อนึงคือ Egyptian Market คนเพียบ สีสันตระการตา มีเครื่องเทศขายเป็นกองๆ ทั้งผงกระหรี่ สะหระแหน่ ขิง ลูกผักชี พริกไทยแดง ดำ เขียว ขาว แล้วก็อะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด นอกจากเครื่องเทศแล้ว ก็มีผลไม้แห้งทั้งหลาย ถั่วหลายร้อยชนิด และก็ขนมหวานตุรกี Turkish Delight ที่หวานโคตรโคตร

Istanbul 055


Istanbul 061


กว่าจะเดินทะลุจาก Spice Bazaar มาได้แทบเป็นลม เราเดินผ่านตรอกเล็กตรอกน้อย ที่สองข้างทางมีร้านค้า (และผู้คน) เต็มไปหมด ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในตลาดสำเพ็ง ในที่สุดก็มาถึง Grand Bazaar ขึ้นชื่อว่า Grand จะมีรึ คนจะน้อย น้องๆ จตุจักรนี่เอง ต้องมีป้ายชื่อถนน บอกโซน มีโซนเครื่องประดับ เสื้อผ้า ของที่ระลึก โคมไฟ พรม (จะขาดได้อย่างไร) ตลอดทางก็จะมีร้านน้ำชาประปราย แถมมีบริการ delivery ด้วย จะเห็นคนถือถาดน้ำชา วิ่งไปวิ่งมาตลอดเวลา

Istanbul 073


Istanbul 071


บ่ายสี่โมงกว่า ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องนอกจากไอ้แซนด์วิชไส้กรอกแดงเดือด กับน้ำชา Aylin เริ่มตาลาย ไมเกรนขึ้น เราเดินออกมาหาร้านนั่งด้านนอกบาซาร์ สั่ง Döner เนื้อแกะสไลด์ มานั่งกิน ก่อนที่เพื่อนจะอาละวาด (เวลามันปวดหัว จะออกอาการโหด) หลังจาก Aylin อารมณ์ดี เราก็มาเดินหาลูกปัดแปลกๆ เป็นของฝากให้ Carrie เพื่อนชาวอเมริกันที่คราวที่แล้วมาตุรกีด้วยกัน แต่ดันไม่มีบุญมาอิสตันบูล (ไม่เหมือนเรา ฮิ ฮิ)
“Just get me some fun stuff and take lots of photos with Aylin !” Carrie สั่งเสียก่อนเราจะมาอิสตันบูล

ได้ของทันเวลาตลาดวาย เราเดินกลับ Taksim โดยข้ามสะพาน Galata ซึ่งเป็นสะพานข้าม Golden Horn ซึ่งคล้ายจะเป็นแม่น้ำไหลมาจากทะเล Marmara กับ Bosphorus แต่ไม่ใช่แม่น้ำแฮะ เพราะมันตัน แล้วปกติแม่น้ำมันต้องไหลออกทะเลสิ โอย...อธิบายไม่ถูก ไปดูแผนที่เอาเองละกัน อยู่ระหว่าง Old City กับ New City น่ะ

สะพาน Galata นี้มีสองชั้น ชั้นล่างเป็นร้านอาหารทะเล ชั้นบนเป็นสะพานรถวิ่ง แต่ที่แปลกคือสองฝั่งสะพานด้านบนมีคนยืนตกปลากันสลอน ไม่กลัวจะตกได้คนข้างล่างรึไง แถมมีธุรกิจให้เช่าเบ็ดตกปลาซะด้วย ยั้งงง...ยังไม่พอ ถ้าคุณมาเช่าเบ็ดตกปลาภายใน 5 นาทีนี้ เราจะแถมอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกให้ท่าน เบ็ดน่ะ ไม่ต้องถือเอง เรามีอุปกรณ์ช่วยท่าน (เป็นไม้ไว้ยึดเบ็ดกับราวสะพาน) ยังไม่หมด...เรายังจะแถม กระป๋องใส่ปลากับเหยื่อตกปลาให้ท่านฟรีๆ สนใจมั้ยท่าน

Istanbul 088
- นี่ไงล่ะท่าน -


Istanbul 078
- ฝั่ง New City…Taksim อยู่หลังเขาโน่น -


Istanbul 080
- นี่ไงสะพานสองชั้น -


Istanbul 109
- กว่าจะข้ามพ้นสะพาน พระอาทิตย์ก็ตกซะแล้ว -


ถึงฝั่งตรงข้าม เราก็นั่งรถ Metro ขึ้นเขาไป เพื่อนเริ่มแสดงอาการเหนื่อยอ่อน เนื่องจากอดหลับอดนอน Aylin เล่าว่าเมื่อเช้า ขนาดโทรศัพท์ปลุกยังไม่ได้ยินเลย ปลุก 9 โมงครึ่ง กว่าจะตื่นก็เกือบ 10 โมงแล้ว แล้ว Aylin ก็ขำใหญ่เลย เราก็เลยต้องหัวเราะด้วย พี่โตก็ฟังแล้วหัวเราะแบบอึ้งๆ เอาเหอะๆ ไปหาข้าวเย็นกินกันดีกว่า

Dinner วันนี้หะรูหะรานิดหน่อย เป็นอาหารตุรกีสไตล์ Ottoman ซึ่งเป็นอาณาจักรเก่าแก่ ครองแคว้นมายาวนาน พวกเราสั่ง Mix Plate มาสองจาน จานนึงเป็น Grilled Meat อีกจานเป็น Grilled Vegetable เราทานอย่างเอร็ดอร่อย (อร่อยอยู่คนเดียว) จานเนื้อมีแกะอบชีส Aubergine บด แล้วก็อะไรไม่รู้คล้ายๆ สตูว์แกะ ประมาณนี้แหละ ส่วนจานผักก็มี Paprika ยัดไส้ แตงยัดไส้ มะเขือม่วงยัดไส้ อร้อย อร่อย (พี่โตกับพี่บู บอกว่าอร่อยตรงไหนฟะ) ส่วน Aylin ทานแค่ซุปกับขนม ทานไปหาวไป

ทานเสร็จเราก็เดินผ่านถนนช้อปปิ้งลงมาสู่ Taksim ก่อนถึงข้างล่างพี่บูชาแวะซื้อไข่กับเบียร์ (จะเอาไข่ไปต้มกับมาม่า) Aylin เห็นเข้าเกิดอาการเง็ง ซื้อไข่ทำไมน่ะ

Aylin แยกกลับไปแล้ว เธอต้องขับรถกลับไปบ้านที่อยู่ไกลออกไปกว่า 50 กิโลในฝั่งทวีปเอเชีย พวกเรากลับเข้าโรงแรมด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ยังไม่หายข้องใจ เรากับพี่ตาโตเริ่ม discuss กันอย่างเป็นทางการ


…Adventure #5 – แล้วไอ้เมื่อเช้า มันใครกันล่ะ !
“ดาวว่ามั้ย เมื่อเช้าเหมือนมีคนเข้ามากู๊ดมอร์นิ่งนิ” พี่ตาโตเปิดประเด็น
“นั่นดิ ดาวก็ว่าทำไมมาปลุกเช้าจัง โทรศัพท์ยังไม่ทันดังเลย” เราว่าเรารู้สึกจริงๆ นะ
“พี่ก็ว่า พี่ลืมตาขึ้นมาดู ยังเห็นประตูเปิดเลย” พี่โตสาบาน
“ดาวไม่เห็นพี่โตขยับตัวหรอก แต่รู้ชัวร์ว่าพี่บูขยับแน่ๆ ยังส่งเสียงอือตอบเลย” ตอนนั้นรู้แต่ว่า อยากจะนอนต่อ เลยพลิกตัวหนีเข้าข้างกำแพง เลยไม่เห็นอะไร

คือว่าเรานอนกันคนละผนัง พี่บูชานอนติดกำแพงหน้าประตู เอาขาชี้มาทางประตู พี่ตาโตนอนสุดห้อง กำแพงขนานกับกำแพงด้านประตู ถ้านอนตะแคงก็จะหันหน้าเข้าประตูพอดี ส่วนเรานอนฝั่งตรงข้ามพี่บู แต่เท้าชี้ไปทางเตียงพี่ตาโต หันหัวเข้าฝั่งประตูซึ่งอยู่เยื้องไปตรงกับเตียงพี่บู

พี่ตาโตยังย้ำอีกว่าเห็นประตูเปิดอยู่แน่ๆ

“แล้ว Aylin ยังบอกอีกว่าตัวเองตื่นสาย ตื่นมาก็เกือบ 10 โมงแล้ว” เริ่มย้อนวิเคราะห์ถึงคำพูดเพื่อน
“ใช่สิ แล้วก็หัวเราะใหญ่เลย พี่หัวเราะไม่ออกเลย” พี่ตาโตก็คิดมาตลอดเหรอเนี่ย เราก็คิด นึกว่าเราข้องใจอยู่คนเดียวซะอีก
“แต่ดาวรู้สึกแน่ๆ ว่ามีคนเข้ามาหวัดดีตอนเช้า”

พี่ตาโตกับพี่บูก็เห็นด้วย มันรู้สึกจริงๆ ตอนที่ Aylin เข้ามาหวัดดีตอนเช้า ยังงงเลยว่าหวัดดีอีกแล้วเหรอ

พี่บูที่นั่งเงียบอยู่นาน เริ่มหนาว แล้วเมื่อเช้าตูไปนั่งอยู่ในห้องน้ำคนเดียวตั้งนานสองนานเนี่ยนะ อูย ฮึ..ฮึ ไปนั่งคุยกับใครเหรอพี่

“พี่บูชา พี่ไปอาบน้ำก่อนแล้วกันนะ”
“อูย...ไม่เอาหรอก ขอนั่งทำใจก่อนนะ” พี่บูเริ่มกระดกเบียร์ ย้อมใจก่อนเข้าห้องน้ำ

แต่ด้วยความเหนื่อย คืนนั้นทุกคนก็หลับสนิท


แต่...แล้วมันใครกันล่ะ !!!!

…to be continued…Istanbul (3)…




 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2549 1:23:52 น.
Counter : 1035 Pageviews.  

Istanbul ในที่สุดก็มาจนได้ ! (1)

“Hey…ยูจะไปอิสตันบูลอีกแล้วเหรอ ?”….เพื่อนทุกคนต่างถามเป็นเสียงเดียวกัน
“ปล้าาาว…ไปอีกแล้วอะไรกันเล่า ยังไม่เคยไปเลยตังหาก อิสตันบูลเนี่ย”
…ก็คราวที่แล้วจองทัวร์มาตุรกี แต่ดันมาไม่ถึงอิสตันบูลนี่นา คนมีความตั้งใจสูงอย่างเรา ก็ต้องพยายามมาให้ได้เป็นธรรมดา (เปล่าหรอก จริงๆ แล้ว คราวที่แล้วโดนสบประมาทไว้ กลัวเสียหน้าเลยต้องดันทุรังมาตุรกีอีกรอบ) ทริปนี้แพลนไว้ 4 วันเต็ม 6-9 พฤษภา

คราวนี้ เพื่อความมั่นใจว่ามาถึงอิสตันบูลแน่ๆ เราเลยจองตั๋วเครื่องบินบินตรงจากมิวนิคมาอิสตันบูล แต่เนื่องจากเป็นตั๋วราคาประหยัด จึงไม่ได้มาลงที่สนามบิน Atatürk ที่อยู่ในเมือง (เขตทวีปยุโรป) แต่บินไปลงสนามบิน Sabiha Gökçen ที่อยู่ไกลโพ้นในเขตทวีปเอเชีย มาลงสนามบินไกลยังไม่พอ ตารางบินดันประหลาดอีกตังหาก ออกจากมิวนิค 4 ทุ่ม 50 วันที่ 5 ถึงอิสตันบูลตั้งตอนตี 2 ครึ่งของวันที่ 6 ขากลับบินเช้าตรู่วันที่ 10 ตอนตี 3 กว่า

ร้อนถึงชาวบ้านตุรกี (เพื่อนชาวตุรกี) 2 คน ที่ต้องหาข้อมูลการเดินทางให้เราเป็นการใหญ่ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าอิสตันบูลใหญ่มากมาก จากตะวันตกมาตะวันออกก็ร่วม 100 กิโล ประชากรที่ไม่เป็นทางการประมาณ 20 ล้านคน (ข้อมูลประเมินจากเพื่อน ซึ่งดูท่าจะโอเว่อร์ไปไม่น้อย) รถจะติดขนาดไหน ไม่ต้องคิดเลย

Turkey map

- ก่อนอื่น เอาแผนที่ตุรกีไปดูก่อน -


istanbul_map

- ต่อไปก็แผนที่อิสตันบูล -


…เหยื่อของเราคนแรก คือเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันที่ Hannover…
“Aylin ไอจะไปหายูที่อิสตันบูลนะ” อีเมลล์หาเพื่อนรักที่พลัดพรากไม่ได้เจอกันคราวที่แล้ว (โชคดีของ Aylin)
“จริงเหรอ...มาเลย มาเลย” ท่าทาง Aylin จะตื่นเต้นดีใจ
“คราวนี้ไม่มีสโนว์แน่ๆ เพราะจะไปเดือนพฤษภา ถ้าเจอหิมะอีกจะโดดสะพาน Bosphorus ตาย”
“ไม่ต้องห่วง ถ้าหิมะดันทะลึ่งตกลงมาอีก ไอจะขอให้สถานทูตประกาศว่ายูเป็นตัวซวย ห้ามเข้าประเทศไออีกเด็ดขาด” Aylin พูดเล่น แต่ท่าจะเอาจริง
“ไอจะไปลงที่สนามบิน Sabiha Gökçen นะ” บอกเสร็จ รู้สึกได้ว่าเพื่อนอึ้งไป พักใหญ่
“No problem เดี๋ยวไอหาข้อมูลให้ว่าจะเข้าเมืองยังไง” อ้าว คิดว่าจะมารับซะอีก
“เออ...คือว่าไอจะไปถึงคืนวันที่ 5 ตอนตี 2 ครึ่งน่ะ เอ่อ...พูดง่ายๆ ก็คือเช้าวันที่ 6 นั่นเอง” Aylin อึ้งไปอีกแล้ว ความดีใจคงหายไปปลิดทิ้ง แถมคงคิดด่าในใจ แค่มาเวลาปกติยังจะเข้าเมืองยากเลย

หลังจาก Aylin หายไป 3 วันก็ติดต่อกลับมาอย่างจนใจว่า “ตกลง ไอไปรับยูก็ได้” เย้! นั่นแหละคำตอบที่ต้องการ (เกิดเป็นดาว ช่างโชคดี) Aylin ยังจัดการหาโรงแรมให้ด้วย แถมยังสัญญาว่าถ้ายังไม่ได้งานทำจะพาเที่ยววันเสาร์-อาทิตย์


…เหยื่อคนต่อไป คือเพื่อนซี้ที่รู้จักกันที่ Munich…
Barış (อ่านว่าบารึช) คือเพื่อนของเพื่อนซึ่งอุตส่าห์ย้ายหนีกลับอิสตันบูลหมาดๆ หลังจากรู้จักเราได้ไม่ถึงปี คงคิดว่าหมดเวรหมดกรรม แต่คิดผิด เพราะเวรกรรมยังตามทัน
“Barış ไอจะไปหายูที่อิสตันบูลนะ” อีเมลล์รบกวนชาวบ้านอีกฉบับถูกส่งออกไป
“จริงเหรอ...ได้เลย ถ้าไอยังหางานทำไม่ได้ เดี๋ยวจะพาเที่ยว” ท่าทาง Barış จะตื่นเต้นดีใจไม่แพ้ Aylin สาธุ...ขอให้ไม่ได้งานทำ

หลังจากนั้นก็ได้ข่าวว่า Barış ได้อุทิศกายเดินสำรวจทุกตรอกซอกซอยของอิสตันบูล แถมค้นคว้าหาข้อมูลท่องตำราประวัติศาสตร์ชาติตัวเองเป็นการใหญ่ แถมส่งแผนที่มาให้เราดูเพื่อย้ำว่า เราทำให้เพื่อนลำบากขนาดไหน ต้องกระเสือกกระสนมารับที่สนามบินเนี่ย

Turkey Istanbul servisler2
- เพื่อนส่งมาให้รู้สำนึก -



เมื่อเวลาที่รอคอยมาถึง คำอธิษฐานของเราก็เป็นจริง เพราะทั้ง Aylin และ Barış ยังหางานไม่ได้ทั้งคู่ เย้...!


ศุกร์ที่ ห้า พฤษภาคม สองห้าสี่เก้า

ลางท่าจะดีอีกแล้ว วันนี้งานยุ่งทั้งวันเลย หกโมงกว่าแล้วยังไม่เสร็จเลย ต้องออกจากบ้านอย่างน้อย 2 ทุ่มครึ่งเพื่อจะไปขึ้นเครื่อง พี่ตาโตเพื่อนร่วมชะตากรรมทริปนี้ก็ยังทำงานไม่เสร็จเหมือนกัน กระเป๋าก็ยังไม่ได้จัด เวรกรรม

แต่ในที่สุดก็กระเสือกกระสนมาสนามบินได้ทันเวลา ถึง Gate ไม่เป็นคนสุดท้าย แต่รู้สึกจะเราสามคนจะกลายเป็นกะเหรี่ยงข้ามชาติ คราวนี้เป็นกะเหรี่ยงท่ามกลางแขกตุรกี


…Adventure #1 – The funniest flight ever !
“ยูพูดภาษาเยอรมันได้มั้ย ขอดูตั๋วหน่อยซิ” ผู้ช่วยกัปตันมาแปลก
“ได้ก็ได้อยู่ อ่ะนี่ตั๋ว” ตอบแบบไม่มั่นใจ ไม่รู้มันจะมาไม้ไหน
“ยูจะไปอิสตันบูลนี่...เออ คือว่า...” ผู้ช่วยกัปตันทำหน้าเศร้า “ยูขึ้นเครื่อง...ถูกต้องแล้วคร้าบบบ...” เออ...มันมาแปลกจริงๆ ด้วย เล่นเอาใจหายหมดเลย นึกว่าขึ้นเครื่องผิด

พอผู้โดยสารทั้งหมดนั่งประจำที่เรียบร้อย ผู้ช่วยกัปตันก็ประกาศ
“เราได้รับรายงานมาว่ามีผู้โดยสารบางท่านขึ้นเครื่องผิด” เอาอีกแล้วไง
“ไหนดูซิ ใครจะไปอิสตันบูลบ้าง” คนยกมือกันสลอน ก็แหงดิ เราจะไปอิสตันบูลนี่
“โอ...เยอะจัง งั้นเราก็บินไปอิสตันบูลก็แล้วกัน” บินนี้...ฮาตรึม

พอเครื่องบินทยานขึ้นฟ้า ผู้ช่วยกัปตันก็เอาอีกแล้ว
“ตามที่เราตกลงกันเมื่อกี้ กัปตันก็จะพาเครื่องมุ่งสู่อิสตันบูล เราจะใช้เวลาบินทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 32 นาที 36 วินาที ทุกคนไม่ต้องกลัว กัปตันของเราเคยบินมาแล้วครั้งนึง คราวที่บินครั้งแรกเมื่อสองวันก่อน ก็รอดปลอดภัยดี คราวนี้กัปตันก็จะพยายามรักษาเวลาบินตามที่บอกให้ได้” เอ้า เอาเข้าไป

“ต่อไปเราจะขอแนะนำข้อมูลเพื่อความปลอดภัยบนเครื่อง ขอให้ทุกท่านนั่งประจำที่ รัดเข็มขัด อย่าเอามือของท่านไปวางสะเปะสะปะที่ตักคนข้างๆ นะ เดี๋ยวเราจะฉายวีดีโอข้อมูล safety ให้ดู ขอให้ทุกท่านตั้งใจฟัง หยุดคุย หยุดอ่านหนังสือพิมพ์ หลังจากดูวีดีโอจบ ถ้าท่านยังมีคำถาม แสดงว่าไม่ตั้งใจฟัง ทางเราจะไม่ตอบแต่จะขอแนะนำให้ท่านกระโดดออกจากเครื่องไป” เอากับมันสิ


เสาร์ที่ หก พฤษภาคม สองห้าสี่เก้า (เวลาหล่นหายไป 1 ชั่วโมงระหว่างทาง)

สองชั่วโมงครึ่งผ่านไป จะนอนก็นอนได้ไม่เต็มตา เพราะไอ้ผู้ช่วยกัปตันบ้า ดันเล่นตลกคาเฟ่เป็นระยะๆ
“ในที่สุดกัปตันเราหาอิสตันบูลเจอแล้ว เราจะพาเครื่องลง ณ บัดนี้” เฮ่อ..รอดตาย

โอ้โห มองไปนอกหน้าต่าง ทำไมเมืองมันใหญ่โตอลังการอย่างนี้เล่า ไฟสว่างไสวสุดลูกหูลูกตา

ลงจากเครื่องก็มีรถโดยสารมารอรับหน้าเครื่องเพื่อไปส่งที่ตึก Terminal เอ..ไอ้ตึกที่เห็นอยู่สามก้าวถัดไปนี่มันไม่ใช่ตึกที่ว่าเหรอ สนามบิน Sabiha Gökçen มันไม่น่าจะใหญ่นี่นา พอคนลงมาหมดเครื่อง รถก็เคลื่อน..ไปสู่ไอ้ตึกที่เห็นนั่นแหละ โถ โถ โถ...ถ้าเดินเองก็ถึงตั้งนานแล้ว นี่มัวแต่รอคนเต็มรถ

แล้วกว่าจะรอกระเป๋าออกมา Aylin คงถ่างตารออยู่ข้างนอกนานแสนนาน

“Aylin โหสวยขึ้นจนจำไม่ได้แน่ะ นี่พี่ตาโต นี่พี่บูชานะ” แนะนำให้เพื่อนรู้จักบุคคลสำคัญที่จะฝากชีวิตสามสี่วันนี้ไว้กับตน
“รถเราอยู่ทางนี้ ตามมา”
แล้ว Aylin ก็พาพวกเรามุ่งสู่ Apartment ที่เคยเป็นออฟฟิศเก่าของแม่ ที่ Aylin ต้องเข้ามาทำความสะอาด ขนที่นอนหมอนมุ้งมาจัดที่นอนชั่วคราวให้พวกเรา (บอกแล้วว่าเราทำเพื่อนลำบากขนาดไหน) เพื่อนคงคิดสรตะแล้วเห็นว่ายอมลำบากมาจัดที่นอนให้ที่ออฟฟิศร้างนี่ คงเป็นผลดีต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนทางบ้าน ดีกว่าจะให้กะเหรี่ยงพวกนี้เข้าไปยุ่มย่ามกับชีวิตคนในครอบครัวที่บ้านตน

ไม่นานเท่าไหร่ก็ถึง โอ้ อัลลาร์ ตึกช่างน่ากลัวจริงๆ เหมือนตึกร้างเลย แต่เอาก็เอาวะ ดีกว่าไม่มีที่ซุกหัวนอน เราสามคนนอนในห้องใหญ่ที่เพื่อนจัดไว้ให้ เป็นที่นอน 3 ชุดแยกกันตามมุมห้อง Aylin แยกไปนอนคนเดียวในห้องอีกห้องนึง นัดกันเรียบร้อยว่าจะตื่นเก้าโมงครึ่ง


…Adventure #2 – ใครหว่า ?!?!
ตีสี่แก่ๆ กว่าๆ ได้ฤกษ์นอน ยังไม่ทันจะข่มตาหลับ ก็เอาแล้ว “...อ่ออมมมอึ่มมมมอั่มมมหมั่มมมม...” มัสยิดเริ่มเรียกคนมาละหมาด เวรกรรม...แล้วเราจะขับตานอนได้มั้ยเนี่ย แต่ด้วยความเหนื่อยอ่อน พวกเราก็เคลิ้มหลับไป

เก้าโมงยังไม่ทันครึ่ง ก็สลึมสลือเหมือนได้ยินคนเปิดประตูเข้ามา Good Morning พี่บูซึ่งนอนอยู่หน้าประตูขยับตัว เราก็หันตัวหนีมั่ง นึกในใจว่าทำไมเช้าจัง โทรศัพท์ที่ตั้งไว้ยังไม่ทันปลุกเลย สักพักพี่บูก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ เรายังนึกในใจทำไมพี่บูตื่นเช้าได้นะ

พี่บูหายเข้าไปในห้องน้ำนานสองนาน โทรศัพท์เราก็ปลุก พี่ตาโตลุกขึ้นมาเดินรอบห้อง 1 รอบแล้วลงไปนอนต่อ พี่บูกลับมาอย่างตัวเบา สบายตัวยิ่งนัก พวกเราผลัดกันไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนชุดพร้อมลุย Aylin ก็เปิดประตูเข้ามาสวัสดีตอนเช้า ถามว่านอนหลับสบายมั้ย ก็คงจะสบายอ่ะนะมีเพลงอัลลาร์กล่อมซะ เอ..แต่ Aylin ไม่ได้มากู๊ดมอร์นิ่งไปแล้วเหรอ ?


…Adventure #3 – อาหารมื้อแรก !
10 โมงกว่า ได้ฤกษ์ออกเดินทาง เมื่อคืน Aylin พาเรามาจากสนามบินได้เกือบครึ่งทาง (โปรดดูแผนที่จาก Barış จากตอนที่แล้วประกอบ ถึงประมาณ ‘Your friend’ น่ะ) วันนี่ Aylin เลือกเส้นทางเลียบฝั่ง เราจะได้ชมวิวทะเลไปเพลินๆ เราพักทาน Brunch กันที่ริมทะเลแถบ Üsküdar ซึ่งอยู่ปากช่องแคบ Bosphorus ฝั่งเอเชียก่อนขึ้นสะพาน พี่ตาโตสั่งไส้กรอกตุรกีมาเติมพลัง พี่บูสั่งมะเขือเทศกับไข่ เราสั่งแซนด์วิชพิเศษ ส่วน Aylin สั่งแค่ขนมปังปิ้งไส้ชีส

นั่นแน่ ของเรามาก่อน..ไอ้หยา...ไอ้แซนด์วิชพิเศษเนี่ย มันพิเศษจริงๆ มีไส้ไส้กรอกตุรกีด้วย เป็นยังไงรู้มั้ย ไส้กรอกสีแดงแป๊ดใส่เครื่องเทศเล็กน้อย แดงขนาดไส้กรอกชมพูบ้านเราต้องอาย พี่ตาโตเริ่มสยอง...แล้วไอ้ Sausage plate ของตูจะเป็นยังไงเนี่ย จะเป็นยังไงน่ะเรอะ ก็แดงทั้งจานน่ะสิ โชคดีมีเฟรนช์ฟรายเหลืองอ๋อยประดับไม่ให้จานแดงจนน่าเกลียด ของพี่บูกลับดีเกินคาด หน้าตาคล้ายซุปมะเขือเทศใส่ไข่ เสิร์ฟพร้อมขนมปัง อร่อยดี (เอ๊ะ ไปรู้ของเค้าได้ไงน่ะ ว่าอร่อย)

แล้วก็ตามธรรมเนียม ทานเสร็จก็มีชาตุรกีตบท้าย ค่อยหายเลี่ยนหน่อย

ทานเสร็จ เราก็เสี่ยงตายข้ามถนน ข้ามรั้ว ไปริมทะเล แล้วเราก็เริ่มถ่ายรูปกันเป็นการใหญ่ Üsküdar เป็นจุดที่ Bosphorus, Golden Horn และทะเล Marmara มาพบกัน ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนเมืองเก่าหรือที่เรียกกันว่า Sultan Ahmet มองไปเห็น Topkapı Palace, Ayasofya (อ่านว่า อายาโซเฟีย) แล้วก็ Blue Mosque (คนท้องถิ่นเรียก Sultan Ahmet เหมือนชื่อเขต) เสียดายที่อากาศขมุกขมัวเล็กน้อย มีแดดนะ แต่ท้องฟ้าเทาสนิท

 Istanbul 014

ถ่ายรูปหอมปากหอมคอก็กลับขึ้นรถ แต่ขับรถมาได้ไม่ถึง 5 นาที Aylin ก็ต้องจอดรถให้พวกเราลงไปถ่ายรูปกันอีกตลบ


…Adventure #4 – จราจร…จราจล !
อิสตันบูลแบ่งเป็นสองทวีปแบ่งโดย Bosphorus ฝั่งเอเชียจะเป็นเขตที่อยู่อาศัยมากกว่า ส่วนฝั่งยุโรปจะเป็นแบ่งเป็นส่วนเมืองใหม่ที่มีร้านค้า ธุรกิจ และมีเขตเมืองเก่าที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ยังไม่ทันจะข้ามสะพาน Bosphorus มหกรรมรถติดก็เริ่มขึ้นให้รู้ว่านี่เราจะเข้าเมืองล่ะนะ คนที่นี่ขับรถน่ากลัวกว่ากรุงเทพอีกแฮะ บางถนนถึงขนาดไม่มีเลน เนื่องจากถึงมีก็ไม่มีใครสน เค้าเลยลบทิ้ง บ้านเรายังขับแบบกลัวรถชน แต่ที่นี่รถค่อนข้างเก่า แล้วก็ไม่มีใครสนใจเท่าไหร่ว่ารถจะเป็นรอย แถมยังบีบแตรกันเป็นว่าเล่น คนข้ามถนนก็แบบว่า ชั้นอยากข้ามชั้นก็จะข้าม เล่าไปเล่ามาก็ฟังดูคล้ายกรุงเทพล่ะนะ แต่ความรู้สึกมันต่างกันเยอะ ใครจะมาอิสตันบูล ขอแนะนำให้ทำประกันชีวิตและสุขภาพมาด้วยนะ

 Istanbul 022


 Istanbul 037ข้ามฝั่งผ่านป้าย Welcome to Europe มาได้ รถก็ยิ่งติดขึ้นไปอีก แล้วก็ถึงบางอ้อ มีเดินขบวนประท้วงนี่เอง อะไรกันเนี่ย มาตุรกีทีไรทำไมต้องแจ๊กพ็อตทุกทีเลยเนี่ย

Aylin จอดรถทิ้งไว้ก่อนถึงเขต Taksim ที่โรงแรมเราตั้งอยู่ Taksim (ทักซิมนะ m ไม่ใช่ n) เป็นเขตที่ดีที่สุดที่นักท่องเที่ยวอย่างเราจะเลือกพัก แถบนี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมเต็มไปหมด เอาเป็นว่าไม่เปล่าเปลี่ยว อดตายละกัน เดินหอบหิ้วกระเป๋าเข้าไปเช็กอินเสร็จก็เตรียมออกผจญภัยต่อ


…ทริปนี้จะเจออะไรเหมือนคราวที่แล้วมั้ยน้อ....

…to be continued…Istanbul (2)…




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 15 เมษายน 2551 17:34:46 น.
Counter : 3066 Pageviews.  

1  2  

daonari
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add daonari's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.