เ ที่ ย ว ไ ป ต า ม ะ วั น
Group Blog
 
All blogs
 
Istanbul ในที่สุดก็มาจนได้ ! (6)

จันทร์ที่ แปด พฤษภาคม สองห้าสี่เก้า (ต่อ)

ไม่นานเท่าไหร่ อากาศก็เริ่มดีขึ้น ฝนตกบางลง เริ่มมองเห็นวิวบ้าง เรือแล่นผ่านสะพาน Fatih Bridge (แปลว่า Conqueror's Bridge) เป็นสะพานเชื่อมอิสตันบูลฝั่งเอเชียกับยุโรปแห่งที่ 2 ผ่าน Rumeli Fortress ที่สร้างในปี 1452 ตั้งอยู่ทางฝั่งยุโรป ถ้าอากาศสดใส ที่นี่คงจะสวยมากมาก ฝั่งตรงข้ามก็มี Anadolu Hisari (Fortress of Anatolia) ซึ่งเป็นป้อมขนาดเล็ก ถูกสร้างขึ้นในปี 1390

Istanbul 563
- Rumeli Fortress -


อากาศดีขึ้นเรื่อยๆ ฟ้าเริ่มสดใส แต่เป็นใสแบบเดี๋ยวใส เดี๋ยวไม่ใสนะ เรือแล่นผ่านวังอีกหลายวัง ผ่านหมู่บ้าน เมืองเล็กๆ หลายเมือง บ้านสองฝั่ง Bosphorus นี่คงจะมีแต่ผู้มีอันจะกินที่สามารถเป็นเจ้าของได้ แต่ละบ้านมีสระน้ำ แถมมีเรือยอร์ชจอดอยู่แทบทุกบ้าน

Istanbul 567
- วังหรือคฤหาสน์ใครก็ไม่รู้ -


Istanbul 584
- ถิ่นบ้านไฮโซ -


Istanbul 633
- ทะเลดำ ฟ้าฟ้า -


Istanbul 623
- ที่ที่เราจะไป เป็นท่าเรือสุดท้าย -


เห็นมะ เดี๋ยวฟ้าก็ใส เดี๋ยวก็ไม่ใส แต่เอาเหอะเดี๋ยวพวกเราต้องลงเรือแล้ว แค่ไม่มีฝนก็พอ เฟอร์รี่แล่นไปจนถึงปากทะเลดำ แล้วก็เลี้ยวกลับมาที่ท่าเรือที่เราจะลง ซึ่งเป็นท่าเรือสุดท้ายอยู่ฝั่งทวีปเอเชีย ชื่อ Anadolu Kavagi ถ้าเดาไม่ผิดคงแปลว่าท่า Anatolia เรือเฟอร์รี่จะจอดรออยู่ที่นี่ชั่วโมงครึ่ง ให้เราพอมีเวลาเดินเที่ยว แต่กองทัพย่อมเดินด้วยท้อง ตั้งแต่ทานอาหารเช้าที่โรงแรมก็ยังไม่ได้มีอะไรตกถึงท้อง นอกจากน้ำชา โอ๊ะ...ลืมเล่า ชาที่เสิร์ฟในเรืออร่อยมากๆ ตั้งแต่ดื่มมาหลายสิบถ้วยตั้งแต่มาตุรกีนี่ ชาที่นี่อร่อยที่ซู้ดดดด...สั่งชาร้อนมาตั้ง 2 ถ้วยแน่ะ เนื่องจากฝนตก อากาศเย็น ลมแรง (แล้วดันทะลึ่งนั่งตากลม (ตาก-ลม) อยู่ด้านนอก)

เข้าเรื่องต่อ ที่ท่านี้มีร้านอาหารทะเลเต็มไปหมด แต่เนื่องจากมีเวลาเพียงน้อยนิด (ไม่ใช่เพราะงกเลย) เราจึงสั่งปลาปิ้งใส่ขนมปัง เดินกิน ไม่ใช่เดินกินธรรมดา แต่เป็นเดินขึ้นเขา เห็นป้อมอะไรอยู่บนเขาในรูปเมื่อกี้มั้ย น่านแหละ...ที่ที่เราจะไป เค้าเรียกว่า ruined fortress of seven towers หรือบางคนก็เรียกว่า seven-towered Genoese fortress ซากป้อมนี่ตั้งอยู่บนเขา Yusa Tepesi (Joshua's Hill) ใช้เวลาไม่นานเราก็ได้มายืนชมวิวอยู่ด้านบน เห็นทะเลดำอยู่ลิบๆ มีเรือขนสินค้าแล่นไปแล่นมา ฝั่งทะเลดำน่ะฟ้าใสเชียว แต่พอมองกลับมาฝั่งเมืองอิสตันบูล ฟ้ายังคงทะมึนอยู่

Istanbul 671
- วิวจากด้านบน -


ชื่นชมบรรยากาศได้ไม่นานมาก ก็ต้องเป็นอันจรลี ไม่งั้นเรือจะจรลา เรามาถึงเรือกันทันเวลา เรือออกเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง กำหนดถึงท่าเรือ Eminönü ที่ที่เราขึ้นมา เวลาประมาณห้าโมงเย็น เที่ยวนี้เรากะจะไปนั่งตากลม (ตาก-ลม) อยู่บนชั้นสอง แต่ที่นั่งไม่ค่อยจะมี เดี๋ยวต้องนั่งเบียดกันกัน 4 คน เราเลยเสียสละให้พี่บูกับพี่โตนั่งเบียดกันสองคน เรากับ Barış ขอมานั่งสวีทกันขอบเรือด้านล่าง ซึ่งก็ต้องนั่งตากลม (ตาก-ลม) ไม่แพ้กัน แต่สวีทกันได้ไม่นาน ก็มีมาร...อ๊ะ ม่ายช่ายยย...ก็พี่ตาโตกับพี่บูทนนั่งตากลมตากลม (ตาก-ลม-ตา-กลม) อยู่ข้างบนไม่ไหว เนื่องจากฝรั่งเยอรมันที่นั่งข้างๆ ดันชวนคุยภาษาเยอรมันอันแสนจะถนัดซะนี่ ทั้งสองเลยขอมานั่งตากลม (ตาก-ลม) ข้างล่างกับเราดีกว่า แม่...เสียดายจัง

Istanbul 687
- มัสยิด Ortaköy อยู่ก่อนถึงสะพาน Bosphorus (สะพานแรก)

เมื่อตอนขามามองแทบไม่เห็นเพราะฝนตกหนัก -



นั่งคุยกันถึงแผนพรุ่งนี้ Barış แนะนำให้พวกเราไป วัง Dolmabahçe ที่เรือแล่นผ่านเป็นวังแรก วังนี้ Aylin ก็แนะนำให้มาเหมือนกัน ปะ...ไปก็ไป

“แต่ไอไม่ไปนะ” Barış บอก
“อ้าว ไหงงั้นล่ะเพื่อน” ทิ้งกันเห็นๆ ต้องเป็นเพราะโดนขัดใจ มีคนมาขัดจังหวะสวีทเมื่อกี้แน่ๆ เลย
“ก็ไอเคยไปมาแล้ว” Barış แก้ตัว
“ไปมาแล้วไปอีกก็ได้นี่ แล้วพวกไอจะไปกันถูกได้ไงล่ะ ยูไม่พาไปเนี่ย”
“ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวไอจะพาไปตอนเย็นนี้แหละ เดี๋ยวเราลงกันที่ท่าก่อนท่าสุดท้าย แล้วเราเดินไปทางนั้นกัน แล้วหลังจากนั้นไอต้องกลับบ้านก่อน พอดีมีธุระ เดี๋ยวไอจะชี้ทางกลับโรงแรมให้ เดินไม่ไกลหรอก” อ้าว...ทิ้งกันพรุ่งนี้ยังไม่พอ ยังเสือกใสไล่ส่งตั้งแต่เย็นนี้เลยเหรอเนี่ย

เอาไงก็เอา...เซ้าซี้ไปเดี๋ยวโดนเพื่อนเตะก้านคอตกทะเล เราลงเรือกันก่อนห้าโมงเล็กน้อย แล้วเดิน (คอตก) เลียบ Bosphorus กลับมาทางใต้ มุ่งสู่ตัวเมือง สักพักใหญ่ ก็มาถึงวังที่ว่า วัง Dolmabahçe นี่ยาวมากๆ กว่าจะเดินจากกำแพงทิศเหนือ มาถึงทางเข้าที่อยู่ทางทิศใต้ขาแทบลาก กำแพงวังก็สูงมากๆ มีแนวต้นไม้สูงปรี๊ดจากริมถนนด้านนอกโน้มลงไปด้านใน จนพี่บูชาเกิดความคิดว่าจะปีนต้นไม้เข้าวัง เอาเลยพี่ เดี๋ยวจะให้พี่ตาโตคอยหยอดน้ำข้าวต้มให้

…Adventure #11 – Oh my goddd…ปีนต้นไม้เข้าวังก็ได้
หน้าวังมีมัสยิดใหญ่ชื่อเดียวกับวังตั้งอยู่ เราถ่ายรูปกันเล็กน้อย เผื่อพรุ่งนี้อากาศไม่ดี หน้าวังมีป้ายค่าเข้าชมวังแปะอยู่ พวกเราเห็นราคาแล้วกลืนน้ำลาย แล้วก็ถ่ายรูปต่อ แต่คราวนี้ ถ่ายเพราะเผื่อพรุ่งนี้จะไม่มา ดูราคามันดิ ค่าเข้าคนละ 12 Lire (ปกติ 10 Lire เรายังว่าแพงเลย ค่าเข้าปราสาทที่เยอรมันยังแค่ 4-5 ยูโรเอง) ยังไม่พอ ถ้าจะเข้าชม Harem ต้องเสียเพิ่มอีกคนละ 10 Lire แพงเข้าไปใหญ่ มิหนำซ้ำ ถ้าจะเอากล้องเข้าไป ยังต้องเสียค่ากล้องอีกตัวละ 5 Lire !!! นี่ถ้ามีกล้องวีดีโออีกยังต้องเสียอีก 6 Lire นะเนี่ย ตูจะบ้าาาา…

“พี่บู อยากเข้ามั้ย ฝากถ่ายรูปด้วยนะ” เราเริ่มหาตัวแทน
“งั้นบูมาคนเดียวนะ เดี๋ยวโตรอที่โรงแรม” พี่โตเอามั่ง
“เฮ่ย ไหงงั้นล่ะ” พี่บูเริ่มโวยวาย
“ก็กล้องพี่น่ะโปรสุด เดี๋ยวให้งบเข้า Harem ด้วยอ่ะ” สนใจยัง? ทุ่มสุดตัวเลยนะเนี่ย
“ม่ายอาว...ม่ายอาว มาก็มาด้วยกันดิ” พี่บูตอบ

ประโยคเมื่อกี้แปลแล้วได้ความว่า “ไม่มาก็ไม่มาด้วยกันดิ”

ที่ถกเถียงกันเนี่ย Barış ไม่รู้เรื่องด้วยหรอกนะ มันยังคงคิดว่าพวกเราจะมากันเองพรุ่งนี้อยู่ แต่เท่าที่เรารู้ๆ นิสัยกันอยู่ จากโรงแรมก็ต้องเดินมา (ไม่งั้นต้องนั่งแท็กซี่) แถมมาแล้วต้องเสียเงินท่วมหัวหมดตัวเกินงบเลย (ถ้าไม่อยากเกินงบ ก็ต้องส่งตัวแทนเข้าไปถ่ายรูปมาให้ดู หรือจะให้ดีกว่านั้น..คงต้องปีนต้นไม้เข้าเหมือนที่พี่บูคิดเล่นๆ ตอนแรก) คิดแล้วพวกเราคงจะมากันหรอก

จากวังเราเดินเลี้ยวขวาตรงถนนแยกถัดไป ขึ้นเขาไปยังสนามฟุตบอลทีมอะไรก็ไม่รู้ เพื่อนบอกแล้วไม่จำ ตอนขับรถผ่านวันแรก Aylin ก็บอกทีนึงแล้ว คราวนี้เดินผ่าน Barış ก็บอกอีก แต่มันจำไม่ได้อยู่ดี จากสนามฟุตบอลก็ขึ้นเขาต่อไปอีก ตัดผ่านสวนอะไรไม่รู้ที่ Barış บอกว่าถ้ามาคนเดียวอย่าเดินลัดสวนแต่ให้เดินอ้อมไปทางถนนใหญ่ เดี๋ยวจะไม่ทะลุสวน แล้วเพื่อนก็เปลี่ยนใจ แทนที่จะแยกกลับบ้านไประหว่างทาง กลับเดินไปทางโรงแรมกับพวกเราเพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดินกลับบ้าน (คงไม่เชื่อใจ ว่าคนอย่างพวกเราจะไปกันเองรอด)

ทางกลับโรงแรมเรายังคงต้องเดินขึ้นเนินไปอีก สมแล้วที่อิสตันบูลได้ชื่อว่าเป็น “City of Seven Hills” แค่วันนี้เรายังขึ้นเขาลงเขามาแล้วตั้ง 4 ลูก (เริ่มจาก Taksim, Joshua's Hill, เขาตรงสนามฟุตบอล แล้วยังต้องขึ้นต่อมาทางโรงแรมอีก) ยังไม่นับเมื่อวานที่เราไป Old City สถานที่ท่องเที่ยวล้วนแต่อยู่บนเขา (แต่วันนั้นไฮโซ นั่งแท็กซี่ไป)

เราเดินไปส่งเพื่อนที่สถานีรถไฟใต้ดิน Taksim ที่อยู่เกาะกลางวงเวียน Taksim Square จริงๆ ไม่ได้กะไปส่งเพื่อนหรอก แค่อยากจะไปดูสภาพความเจริญของอิสตันบูล ก่อนลา Barış ย้ำว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้พอเราชมปราสาทเสร็จ ให้เราส่ง SMS ไป แล้วเค้าจะมาหาที่วัง (ฝันเถอะ ว่าเราจะมากัน)

เย็นนั้นเราไปทานอาหารเย็นที่ร้านที่เราไปเกาะขอบกระจกดูเมื่อวาน ร้านนี้คุยกับ Barış มาแล้วได้ข้อมูลมาว่าอร่อยกว่าร้านที่เราหลงเข้าไปเมื่อวาน ด้วยความช่ำชอง เราหยิบถาดต่อแถว ชี้โน่นชี้นี่ แล้วจ่ายตังค์ แน่ะ...เป็นไงเล่า อยู่วันเดียวก็เชี่ยวแล้ว เก่งที่สุด วันนี้หยิบขนมปังมาเพียบเลย รู้แล้วว่าฟรี วันนี้ทานอะไรไม่รู้จำไม่ได้แล้ว น่าจะเป็นพริกหวานยัดไส้อีก แต่เป็นแบบอุ่น จำได้แต่ว่าพี่บูสั่งเส้นสปาเก็ตตี้ที่มีซอสอยู่นิดหน่อย หน้าตาจืดๆ และก็จำได้ว่าขนมปังไม่อร่อยเล้ยยย ไม่เหมือนร้านเมื่อวาน สงสัยจะเป็นขนมปังเหลือมาจากเดือนที่แล้ว อุตส่าห์หยิบมาซะเยอะ ในที่สุดก็จบด้วยการกลับไปกินมาม่าใส่ไข่ที่ห้องอีกจนได้

คืนนี้ได้คุยกับ Aylin ด้วย เธอสบายดีแล้ว เมื่อวานระหว่างทางขับรถกลับบ้าน เธอต้องแวะ “อาเจียน” อีก 3 รอบ แล้วที่เราได้รับ SMS ว่าเธอถึงบ้านแล้วน่ะ เธอบอกว่าเธอรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายพิมพ์ข้อความส่งมาหาเรา แล้วก็สลบไปเลย...โถ Aylin....

จากนั้นแทนที่เราจะนอนเอาแรงเพื่อจะลุยต่อพรุ่งนี้ กลายเป็นว่าเราต้มมาม่ากับโจ๊กคัพ นั่งกินนั่งเม้าท์เมามันกันจนถึงตีสามกว่า



…to be continued…Istanbul (7)…




Create Date : 12 กรกฎาคม 2549
Last Update : 1 สิงหาคม 2549 2:24:05 น. 3 comments
Counter : 940 Pageviews.

 
รูปสวยทุกรูปเลยค่ะ


โดย: ลูกบัว IP: 58.147.125.14 วันที่: 13 กรกฎาคม 2549 เวลา:9:13:16 น.  

 
น่ารักมากค่ะ อยากบ้างจัง


โดย: kitty IP: 203.146.63.187 วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:0:29:17 น.  

 
อ่านแล้วสนุกมากๆ
รูปก็สวยมากกกกกกกกกกก
ตั๋วเครื่องบินประมาณเท่าไหร่เนี้ย ...เฮ้อ...


โดย: MinT IP: 124.121.40.54 วันที่: 21 มิถุนายน 2550 เวลา:23:45:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

daonari
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add daonari's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.