Turkish Airlines, My lovely career :) เหตุเกิดเมื่อเสื้อหลืองปิดสนามบิน!! Nov - Dec 2009
29 MAY 2010 (14:32)

สวัสดีค่ะ

วันนี้มีเวลาน้อย อาจจะเล่าไม่จบกับเรื่องนี้ เพราะเดี๋ยวต้องออกไปทำงานตอนบ่าย 3 แระ อิอิ เอาเป็นว่าถ้าวันนี้ไม่จบเดี๋ยวมาต่อให้คืนนี้จ้า


ฮืม.... ย้อนไปเมื่อปี 2009 จำไม่ได้แระว่าวันที่เท่าไหร่
ขณะนั้นสถานการณ์บ้านเมืองก็ไม่ปลอดภัย เพราะมีม็อบพันธมิตรไปปิดแถวๆสยาม สีลม แหม...ไอ่เราก็ชิลๆ ทำงานอยู่สนามบิน ไม่เป็นไรหรอกน่า เช็คอินไปด้วยความเพลิดเพลิน

จริงๆแล้วตอนนั้น ยังอยู่อพาร์ทเมนท์ที่ลาดกระบังอยู่ แต่ก็นะ เลิกงานตี 1 กว่า กว่าจะกลับมาถึงหอก็ เกือบตี 2 กว่าจะนอนก็เกือบตี 3 แระ ไหนจะต้องพักผ่อนให้เยอะๆหน่อยเพื่อความสวยงามและสุขภาพที่ดี อิอิ ตื่นมาก็เกือบบ่าย มีเวลาเปิดทีวีตอนอาบน้ำ แต่งตัวนิดหน่อย

เอ๊.... ได้ยินอะไรแว่วๆ ว้าาา เหมือนได้ข่าวว่าจะมาสนามบินกันหรอ
อืม...มันคงไม่เดินขึ้นมาบนเทอร์มินอลกันหรอกมั้ง เค้าคงรักษาความปลอดภัยกันอย่างดี เอาน่า ไปทำงานปกติ ไปๆ

ตกเย็นมาดูข่าวในออฟฟิศ...เอ๊ สถานที่ๆเค้ายืนชุมนุมกันทำไมมันดูคุ้นๆหว่า เหมือนจะเป็นถนนที่จะขึ้นมาชั้น 4 เลยน้า ในขณะที่เพื่อนๆ พี่ เริ่มนอยด์กันแล้ว ชั้นกลับบ้านกันยังไงเนี่ย เราหรอ 555 ไม่มีปัญหา หออยู่แค่นี้มีรถอยู่แร้วว


ตอนเย็นทุกอย่างยังปกติ ขึ้นเช็คอินได้ทุกอย่าง แต่แล้ว....

2 ทุ่มกว่า เราก็ได้ยินเสียง เฮ!!!!!!! ดังมาก ตอนแรกยังไม่เอะใจ เพราะบางทีแบบว่าคนไปแข่งกีฬาหรืออะไรก็ตามก็มักจะ โห่ฮา แบบนี้เป็นการเรียกขวัญและกำลังใจ แต่ซักพักมันเริ่มดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ เอ๊ะ ทำไมมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆหว่า และพี่พอร์ตเตอร์ข้างหลังก็ตะโกนมาว่า มาแล้วๆ มันมาแล้ว เสื้อเหลืองเต็มถนนข้างหน้าไปหมดเลย" (อ้อ ลืมบอกไป พอร์ตเตอร์เป็นชื่อของพี่ที่ทำหน้าที่ ยกกระเป๋าลงถาด ที่ยืนอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่เช็คอินจ้า)

เฮ้ยยยยยยย อะไรก๊านนน จะมาทำไมเนี่ย

เอาไงดีล่ะเนี่ย ผู้โดยสารก็ถาม ยูเกิดอะไรขึ้นอ่ะ นี่เสียงอะไรเนี่ย (เอ่อ..)
เราก็เลยบอกไปแบบ งงๆ
"Do you know the Yellow shirt? PAD, Do you know them?" They are out there. Here is your passport and boadring pass, Please hurry go to the boarding gate right now, You will be safe over there, hurry up!"

แปลได้ว่า คุณรู้จักเสื้อเหลืองมั้ย พันธมิตรอ่ะ ตอนนี้พวกเค้าอยู่ข้างนอก นี่พาสปอร์ตกับบอร์ดดิ้งพาสของคุณนะ รีบเข้าไปที่บอร์ดดิ้งเกท ตอนนี้เลย แล้วคุณจะปลอดภัย (อะไรประมาณนี้)

ว่าแล้วเราก็รีบเช็คอินให้ผู้โดยสารโดยด่วน แหม..แต่ด้วยความที่มันเพิ่งจะสองทุ่มกว่า เองไงคะ ผู้โดยสารก็ยังคงทะยอยมาเรื่อยๆ เอาไงดีเช็คไม่หมดซะที

ตอนนั้นการท่าฯ ก็เริ่มประกาศแล้วว่าขอให้ผู้โดยสารทุกคนลงไปรวมกันอยู่ที่ชั้น 1 แล้วรอจนกว่าจะมีประกาศอื่นๆต่อไป (พธม อยู่ชั้น 4 ตรงอาคารผู้โดยสารขาออกค่ะ)


แล้วเสียง เอ่อ สวรรค์หรืออะไรดี นายสถานีของเราก็บอก "ทุกคนหยุดเช็คอินได้แล้วค่ะ เข้าไปเกทเดี๋ยวนี้เลย เร็วเข้า พอได้แล้วไปๆ"

อ๊ะ...เดี๋ยวสิ แล้วผู้โดยสารที่ต่อคิวอยู่ข้างหน้าชั้นนี่ล่ะ ทำไงดี ดูดิ ทำหน้าตาน่าสงสารมากเลยง่ะ แล้วถ้าชั้นไปผู้โดยสารจะปลอดภัยมั้ยเนี่ย เอาไงๆ ระหว่างนั้นเพื่อนๆคนอื่นก็เริ่มทิ้ง counter เข้าไปข้างในแล้ว เหลือเรากะเพื่อนอีกคนนึงอยู่ นั่งข้างกัน มองหน้ากัน แก เอาไงดีง่ะ สงสารอ่ะ ก็เลยรีบเช็คคนที่เราถือพาสปอร์ตให้เสร็จ พี่ซุปฯวันนั้นก็มาไล่บอกให้เข้าไปเดี๋ยวนี้

เออ ไปก็ไปวะ

(15:00) ต้องไปสนามบินแล้วง่ะ เดี๋ยวไปพิมพ์ต่อบนรถแล้วกัน ฮี่ๆ



Create Date : 29 พฤษภาคม 2553
Last Update : 29 พฤษภาคม 2553 15:01:08 น.
Counter : 1632 Pageviews.

5 comment
Curfew!!!! จะตกงานมั้ยเนี่ยช้านนน
24 MAY 2010 0:11


CURFEW!!

พระเจ้า! เนื่องจากการกักกันไม่พวกเราออกจากบ้านตอนกลางคืนนี่แหละ จะทำให้เราตกงาน อ๊ายยยยย


อ่ะ... ลืม สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ นี่ก็ เอ่อ.. จริงๆแล้วก็เช้าวันที่ 25 แล้วนะเนี่ย

ไม่ได้เข้ามาอัพเดทไดอารี่ซะนาน เนื่องจากหลายๆอย่าง

"คืนนี้ว่าง" เลยได้โอกาสมีอัพบล็อคซะนิดนึง

เป็นไงกันบ้างคะ กับสถานการณ์ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา
ผลกระทบที่เกิดกับเราเองอย่างมากที่สุด คือ...ไม่ได้ไปทำงานมา 6 วัน แล้วค่ะ -_-"

เรื่องมันเริ่มมาจากสถานการณ์บ้านเมืองอันเริ่มย่ำแย่ในวันที่ 19 May

เราเองต้องเข้างานตอน หกโมงเย็น ก็โอเค ชิลๆ เดี๋ยวไปนั่งกินข้าวที่ Big C ข้างๆคอนโดแล้วกัน ไม่รีบ

ไปถึงก็สั่งก๋วยเตี๋ยวมากินตามปกติ แหงะ...ไม่อร่อยเลยง่ะ วันหลังไม่กินละ สรุปว่าก็กินไม่หมด ผลักชามก๋วยเตี๋ยวออกไปได้ไม่ถึง 3 วิ คนในห้างก็เกิด อลหม่านขึ้นมาอย่างที่เราแบบว่า......อะไรก๊านนนน เกิดอะไรขึ้น

หันไปดูปรากฎว่าผู้คนจากไหนไม่รู้วิ่งกรูกันออกไปนอกห้าง เกิดอาการแตกตื่นกัน ร้านค้งร้านค้าก็แบบ กรูไม่ขายละใครจะซื้อก็ไม่สนไปแระ ปิดกัน ลูกค้ายืนซื้อเจรจา เจ๊ก็บอกว่าวันหลังมาใหม่นะน้อง (เอิ้ก)

มีพวกลุงๆที่ติดตามข่าวสาร กำลังกินข้าวอยู่ก็ตะโกนขึ้นมาว่า "เฮ้ย เป็นอะไรกาน แกนนำเค้ามอบตัวแล้ว ไม่รู้เรื่องเลย วิ่งทำไม อาร๊ายยยยย"


เราก็แบบ เฮ้ยอะไรกันเนี่ย ก็รู้นะว่าใต้ทางด่วนน่ะมีเสื้อแดงมาตั้งอยู่กลุ่มนึง แต่เค้าประกาศสลายการชุมนุมไปแล้วนี่นา แล้วนี่อะไรอ่ะ ไม่เห็นได้ยินเสียงเฮ หรืออะไรเหมือนตอนที่เสื้อเหลืองบุกสนามบินเลย แล้วเกิดไรขึ้นล่ะเนี่ย

ว่าแล้วก็ไม่กงไม่กินมันละ เค้าวิ่งเราก็วิ่งด้วย ไหนขอดูมั่งซิ เกิดอะไรขึ้น
วิ่งออกมาหน้าห้าง เอ๊...ไม่เห็นมีอะไรนี่นา พอหันไปทางขวามือ ดูไปทางใต้ทางด่วนเท่านั้นแหละ เอิ้ก....ไฟไหม้!!!!! กรี๊ดดดดดด ควันดำโขมงก้อนเบ้อเริ่ม อะไรล่ะเนี่ยยยยยยยยย

โดนลากกลับคอนโดแบบรวดเร็ว แล้วมาสังเกตการณ์ที่ระเบียงต่อ เอ่อ ควันเยอะมากง่ะ ขนาดอยู่คอนโดยังมองเห็นเลยอ่ะ

จากนั้นรัฐบาลก็ประกาศรถเมล์หยุดวิ่ง เคอร์ฟิว 2 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า กรี๊ดดดด จะทำยังไงเนี่ยยยยย ชั้นเลิกงานเที่ยงคืน ตายยๆ จะกลับบ้านยังไงล่ะเนี่ยยยย หยิบโทรศัพท์มาโทรถามเลย เอาไงดีพี่ จะไปทำมั้ย เค้าตอบกลับมาแบบว่า ถ้าอันตรายก็ไม่ต้องไปหรอกจ้า เอีะ ดีจัง ได้พักแหะๆ แต่พอมาวันนี้หยุดมา 6 วันละ เอ...จะตกงานมั้ยล่ะเนี่ย เพิ่งไปเริ่มทำงานเดือนแรก หยุดแหลกซะขนาดนี้ ตายๆๆๆๆ

หวังว่าพรุ่งนี้จะได้ทำงานนะ เฮ้อ....



Create Date : 25 พฤษภาคม 2553
Last Update : 29 พฤษภาคม 2553 14:04:37 น.
Counter : 1209 Pageviews.

1 comment
10 วันแล้วกับ PSA Marketing Project @LH
15 MAY 2010 (15:51)


สวัสดีค่ะ เหลือเวลาไม่มาก อีกแป๊บนึงต้องออกไปสนามบินแล้ว แหะๆ
แต่แวะเขียนบล็อกอัพเดทให้เพื่อนๆ นิดนึงกลัวเหงา

วันนี้ทำงาน 6 โมงเย็น เลยแวะเข้ามาที่ Yoso ก่อน มาเคลียร์ package Hanoi-Sapa ให้ลูกค้า เอิ้ก...เหนื่อยจริงๆ เรยย

ทำงานมาได้ 10 วันแล้วค่ะ (คือวันนี้นับเป็นวันที่ 10 นะ)
เหนื่อยมากกกกกกกก ไม่เคยเหนื่อยเท่านี้มาก่อน เหนื่อยกว่าตอนนั่งเช็คอินเยอะ
แต่ทำไงได้อ่ะ หลวมตัวมาแระ ยังไงก็ต้องทำให้ครบ 4 เดือน T^T

แหม...ก็มันเมื่อยจริงๆนี่นา...ยืน เิดิน ถาม ผู้โดยสารตลอดเวลาเรยอ่ะ ไม่ได้นั่ง
เอาน่าอีก 3 เดือนครึ่งก็จะได้กลับไปนั่ง เช็คอินตามปกติแร้ว ฮือ...

แต่ว่าก็ถือว่าประสบความสำเร็จอยู่บ้างนะ ได้ Miles & More new member มาทั้งหมด อืม...น่าจะประมาณ 30-40 คนได้มั้ง ภายใน 10 วันที่ทำงานเนี่ย ถือว่าประสบความสำเร็จนะ
เหะๆ

เมื่อวา่นและเมื่อวันก่อนแอบมีโทรศัพท์จาก SCB โทรมาเรื่องที่เราเคยยื่นสมัครตำแหน่ง Booth Exchange จะตามให้ไปสัมภาษณ์...เราก็ ฮือ..ต้องปฏิเสธไป เนื่องจากได้งานแล้ว

เมื่อวา่นนี้...EVA Air โทรมาเรื่องที่เราเคยสมัคร Reservation ไว้ ก็ต้องปฏิเสธไปอีก เสียดายมากอ่ะ พอวางไปแล้วนึกในใจ...เอ รึว่าจะโทรกลับไปขอสัมภาษณ์กะเค้าดีน้า


แต่ก็แบบว่าแอบตั้งปนิธานไว้แล้ว ว่าจะไม่เปลี่ยนงานอีกจนกว่าจะได้ Cabin Crew หรือ ย้ายไปอยู่เมกา เพราะตอนนี้เนี่ย จบมาได้ 2 ปี เปลี่ยนมา 4 งานแร้ววว ชักจะเยอะละ เริ่มจะไม่ดีต่อ Profile ใน Resume แระ แหะๆ ถึงแม้ว่า..อืม พูดตรงๆ อะ่ ก็อยากเช็คอินมากกว่านะ เพราะจะได้ไม่ต้องเจอความผิดหวังอ่ะ

คือนึกออกป่ะ เวลาเราเสนอไปแล้วเค้าไม่สมัครมันก็ fail อ่ะนะ รู้สึกแย่ แบบ..ทำไมล่ะเนี่ย ดีออกขนาดนี้สมัครฟรีนะ ไม่เอาหรอ งี้เค้าจะคิดว่าเราทำงานมีประสิทธิภาพมั้ยน้อ
แต่เช็คอินคือแบบว่า ยังไงผู้โดยก็ต้องไป เราเองถ้าผู้โดยมีปัญหา จากประสบการณ์ที่มีก็ช่วยให้เราคุยกะเค้ารู้เรื่องได้เองแหละ เหอะๆ ไม่มีใครบอกหรอกว่าไม่เอาอ่ะชั้นไม่บิน..ไม่มี๊ (เสียงสูง โปรดสังเกต 55+)


เลยต้องก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป แต่เมื่อวานซืนแอบเห็นใน TCC ว่า มีสายการบินใหม่ชื่อ Mega Global Air อะไรเนี่ย เปิดใหม่ เราก็เลยเออ..ส่ง Resume ไปก้ไม่เสียหายนะ

ว่าแล้วก็ส่งปุ๊บ เช้าวันต่อมา (วันศุกร์ก็ได้ Invitation mail ทันที โอ้โห..เร็วทันใจจริงๆ คนอื่นนี่ (ที่แอบอ่านใน TCC นะ) ส่งไปตั้งกะวันที่ 7 ที่ 8 ตอนนี้วันที่ 15 แล้วยังไม่ได้เมล์กันเลย)

แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันน้า ว่าคุ้มรึปล่าว เพราะอยู่ LH นี่ก็ได้สวัสดิการโอเคแล้ว อย่างพวกเรื่องตั๋วไรเงี้ย แต่ว่าถ้าสมมติได้ขึ้นมาแล้วทำงานไปไม่เท่าไหร่ก็ปิด หรือไม่ operate ขึ้นมา แล้วเราลาออกไปแล้วล่ะก็ เอ่อ...แย่แน่ทีนี้ เพราะตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข้อมูลใดๆของสายการบินเรยน่ะ เอาน่า ก็ดูกันไปก่อนแล้วกัน

สัมภาษณ์ 22 May @ 10.45 am มีใครสมัครเหมือนเราบ้างป่าวคะ?

ถ้ามีก็เดี๋ยวไปด้วยกันจิ นะ อิอิ


อ่อย... 16:08 ได้เวลาออกไปทำงานแล้ววว เฮ้อ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล ไปทำงานกันได้แระช้าน

เดี๋ยวไว้ว่างไๆ จะมาอัพเดทใหม่นะค้า



Create Date : 15 พฤษภาคม 2553
Last Update : 15 พฤษภาคม 2553 16:11:13 น.
Counter : 1969 Pageviews.

4 comment
Finally!!! เริ่มงานซะทีกับ PSA Marketing Project@Lufthansa
8 May 2010 (15:53)

(เขียนครั้งที่ 2 เมื่อกี๊พิมพ์ไปได้ครึ่งหน้าแล้ว...ดันไปกดโดนปุ่ม ESC...เสร็จกัน เซ็งเป็ด!!!!!)



สวัสดีค่า

หายหน้าหายตาไปซักพักเลย อิอิ เพิ่งเริ่มทำงาน เข้าสเก็ตแล้วเลยต้องใช้เวลาปรับตัวนิดหน่อย เฮ้อ..ไม่มีเวลาเล่นเนต อัพเดทบล็อค เหมือนตอนทำที่ Yoso ง่ะ -_-"


กลับมาอัพเดทให้ทุกท่านทราบว่าในที่สุดก็ได้เริ่มทำงานซะทีกับ Lufthansa หลังจากผลัดเปลี่ยนเลื่อนวันเซ็นสัญญามาประมาณ 2 อาทิตย์

ก็ได้คอลเรียกไปเซ็นสัญญาวันที่ 30 เมษา ที่ผ่านมา Date of Join ก็เป็น 1 May 2010

เซ็นสัญญาอะไรเสร็จ ก็เป็นเวลาที่เราต้องรู้ว่าพรุ่งนี้เริ่มงานจะให้เราไปที่ไหนก่อนเลยถามพี่ HR เค้าไป พี่คะ พรุ่งนี้ให้หนูทำไงดีคะ ..คือ ออฟฟิศในเมืองหยุดเสาร์อาทิตย์ถูกมั้ยเอ่ย?


เอ่อ...ใช่ วันพรุ่งนี้วันเสาร์ด้วยสิ แล้ววันจันทร์ก็หยุดชดเชยวันแรงงาน เอ...หรือจะให้เข้ามาทำงานที่แอร์พอร์ทเลยดีมั้ย (อ๊ะ....จะดีเร้อ...เค้ายังไม่ได้รับการเทรนอะไรเลยน้า ไม่มีข้อมูลเลยด้วยง่ะ ตัวเอง)


เสร็จศัพท์พี่เค้าก็โทรไปเช็คในเมืองให้ ถามไปถามมาได้ความว่า งานของเราอ่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องได้รับการ Assign มาจากออฟฟิศในเมืองเสียก่อน เลยสรุปว่า...น้องคะ มาเริ่มงานอีกทีวันอังคารเลยแล้วกันจ้ะ (เย้!!!!!! หยุดยาว 3 วัน อิอิ ชอบ)

อธิบายก่อนค่ะ หน้าที่ของเราคือ Passenger Service Agent นี่แหละ แต่ว่า ได้รับเข้ามาทำงานในตำแหน่งพิเศษก่อน 4 เดือน ตั้งแต่ พ.ค.-ส.ค. โดยที่จะต้องดูแล โปรโมท โปรแกรมบัตรสะสมไมล์ที่ชื่อว่า Miles & More และ โปรโมทการรับจดหมาย-ข่าวสารโปรโมชั่นทาง lh.com ซึ่งเป็นโปรเจ็คพิเศษของฝ่ายการตลาดเค้า หลังจากโปรโมทนาน..ครบ 4 เดือน ก็จะได้รับการ transfer ไปทำเป็น Check-in staff ตามปกติค่า

คิดว่าไม่น่ายากเลยใช่มั้ยล่ะ โปรโมทบัตรเนี้ย สมัครก็ฟรี มีแต่ได้กับได้ บินปุ๊บได้คะแนนจากไมล์ที่บินปั๊บ สามารถใช้เก็บไมล์ของสายการบินที่อยู่ในเครือ Satr alliance ได้ทุกสายการบิน รวมถึงโรงแรมในเครือ Lufthansa Group ถ้าคุณไปพักก็เก็บไมล์ได้อีกตะหาก


สะสมไมล์แล้วได้อะไร? นี่เลยค่ะ...ถ้าคุณเก็บสะสมถึงขั้นที่เค้ากำหนดไว้ คุณสามารถไปใช้ Lounge ได้ สามารถเช็คอินช่อง counter business class หรือ First Class ได้ ได้น้ำหนักเพิ่มอีกตะหาก..แถมเวลาไฟลท์เต็มๆ ถ้าคุณมีการ์ด คุณก็จะได้รับอภิสิทธิ์ อัพเกรดจากชั้นประหยัดไปนั่งชั้นธุรกิจ ทั้งนี้ เพื่อให้คนอื่นๆที่ถือตัว economy แต่ไม่มีการ์ดได้มีที่นั่ง..แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ ไม่ใช่อัพแล้วคุณจะยังมีสถานะเป็น Eco...


คุณจะได้รับอาหารชุดเดียวกันกับผู้โดยสารที่เสียตังค์ซื้อตั๋วชั้นธุรกิจราคาเต็มคนอื่นๆ และการดุแลแบบเดียวกัน


หรือ...ถ้าคุณซื้อบิสิเนสคลาสอยู่แล้ว และไฟลท์เต็ม คุณก็จะได้อภิสิทธิ์...อัพเกรดไปนั่ง First Class ก่อนใครเพื่อนเลยค่ะ!!

และที่ดีกว่านั้น ยิ่งมีไมล์มากเท่าไหร่ ยิ่งดี เพราะคุณสามารถใชไมล์นั้นแลกตั๋วเครื่องบินฟรีได้ด้วยนะ :)

ทั้งหมดนี้..ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไรเล๊ยยยย เห็นแล้วใช่มั้ยคะ ว่าดีขนาดไหนสำหรับไอ่บัตรนี้น่ะ เราเองถ้ามีปัญญาซื้อตั๋วไปบินกะเค้าก็จะสมัครอย่างไม่มีข้อสงสัย ไอ่เราก็คิดว่าเออ....เงื่อนไขดีขนาดนี้

ผู้โดยสารคงไม่ปฏิเสธหรอกน่า น่าจะทำงานง่าย แต่..ที่ไหนได้ล่ะ

ก็อย่างที่บอกค่ะ คนนั้นมีหลายประเภท ไอ่แบบที่เราเจอมาสดๆร้อนๆ นี่ก็ เหลือเกิน ไปกันเป็นครอบครัว 4 คน สามีเป็นเยอรมันที่พูดไทยได้ ผู้หญิงคนไทย (ยังอายุน้อยๆกันอยู่นะ แต่ถ้าทางแบบมึนๆ เมาๆง่ะ คุณภรรยาเค้าย้อมหัวทองมาเชียว) และพ่อแม่ของเธอ ไอ่เราก็เข้าไปถาม

ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่ามีบัตรสะสมไมล์หรือยังเอ่ย..ยังไม่มีหรอคะ โอเค..คือบัตรนี้มีประโยชน์อย่างนี้ๆๆ นะคะ เริ่มเก็บไมล์ได้ตั้งแต่ไฟลท์นี้ได้เลยค่ะ สนใจสมัครมั้ยคะ

อ่ะสนใจ เราก็ไปเอาใบสมัครมาให้ แต่พอเปิดช่องที่ต้องกรอกให้เท่านั้น (มีแค่ประมาณ 5 บรรทัดที่ต้องกรอกค่ะ 5 บรรทัดเท่านั้นจริงๆ)

"ไม่เอา อ่ะ ไม่อยากทำ ขี้เกียจ ขี้เกียจเขียน สูบบุหรี่ดีกว่า"


เอ่อ........

ก็แค่กรอกใบสมัคร เสียเวลาก็ไม่เกิน 2 นาที แลกกับผลประโยชน์ตั้งเยอะตั้งแยะ...ขี้เกียจอ่ะ..ชีวิตนี้นี่.....เฮ้อ....



นี่แค่ตัวอย่างเดียวนะคะ เพราะเพิ่งเริ่มทำ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเจอแบบไหนอีก 55+ แต่ว่ายังไงก็สู้ตาย แหละน่ะ อ๊ากกกกกกกกกกก

อ้อ...ผู้โดยสารคนไทยส่วนใหญ่ก็จะมี ROP (Royal Orchid Plus) กันแล้ว เราก็จะแนะนำให้สมัครเป็น E-Newsletter ไปซะ อิอิ รับโปรโมชั่นไปเถอะค่ะ ประโยชน์ของคุณเองแหละ

แต่เดินๆๆๆๆ แถวCounter ทั้งวันเนี่ย....เมื่อยชะมัดเรยอ่ะคุณ
ปวดเท้าที่สุด เดี๋ยวไว้พรุ่งนี้ต้องไปหาส้นเตี้ยมาใส่ซะละ


วันนี้แค่นี้ก่อนแล้วกันค่ะ เดี๋ยวไว้ว่างๆจะมาอัพเดทใหม่ ยังติดเล่าเรื่องอู่ตะเภาอยู่เลยนะเนี่ย แหะๆ รอติดตามชมกันนะค้า


พระเจ้าอวยพรค่ะ ทุกคน



Create Date : 08 พฤษภาคม 2553
Last Update : 8 พฤษภาคม 2553 16:25:20 น.
Counter : 8029 Pageviews.

9 comment
Turkish Airlines, My lovely Career :) 3 เจ๊คะ น้ำหนักเจ๊เกินอ่ะค่ะ
29 APR 2010 (17:01)

5 โมงแร้ววววววใกล้เวลาเลิกงานซะที

ก็ยังคงว่างงานเพราะไม่มีลูกค้าอยู่ดี เลยมานั่งอัพพล็อคให้เพื่อนๆอ่านกันต่อ

เรายังค้างผู้โดยสารพูดยากอันดับ 3 ไว้ค่ะ

เอ่อ...อันนี้รบกวนใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ บอกแล้วว่าไม่ได้ดูถูกเชื้อชาติและไม่ได้รักฝรั่งมากกว่าคนไทย แต่นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงตอนเวลาเราทำงานค่ะ :)

ผู้โดยสารพูดยากอันดับ 3 คนไทย

อาจจะคิดใช่ัมั้ยคะ พูดภาษาเดียวกันทำไมพูดยาก ก็มันยากเพราะพูดรู้เรื่องมากเกินไปนี่แหละค่ะ
ด้วยนิสัยคนไทยชอบเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ใจดีแบ่งปัน

แต่ขอโทษค่ะ กฎก็ต้องเป็นกฎเราหยวนให้ได้เท่าที่ให้ได้ แต่มากไปเราเองที่จะเสียนะ

บ่อยๆเล๊ยยยยย ผู้โดยสารคนไทยเนี่ย ชอบมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก กรุ๊ปทัวร์ไม่เท่าไหร่หรอก เพราะเค้าก็แค่ไปเที่ยวเดี๋ยวก็กลับ ไม่ขนอะไรไปเยอะเท่าไหร่ แต่คนไทยที่อาศัยอยู่ต่างประเทศนี่แหละ
มากเรื่อง

วันนึงก็มีผู้โดยสารหญิงคนนึงเข้ามา คนไทยค่ะจะไปไหนไม่รู้กระเป๋าเนี่ยหนัก 36 KG

เรา : เอ่อ....พี่คะ มีบัตรสะสมไมล์การบินไทยหรืออื่นๆมั้ยคะ
Pax: ไม่มีอ่ะค่ะ ทำไมหรอ
เรา : พี่คะ คือน้ำหนักมันเกินอ่ะคะ พี่ต้องรีแพ็คใหม่นะคะ 1 ใบ ต้องไม่เกิน 32 KG แล้ว น้ำหนักของพี่เนี่ยได้แค่ 20 KG นะคะ หนูให้พี่ 25 เลยค่ะ ไปแพ็คมาใหม่หน่อยนะคะ

Pax: อะไรกันน้องงงงง คนไทยด้วยกันช่วยกันหน่อยไม่ได้หรอ นิดๆหน่อยๆ ไม่กี่กิโลเอง

(อ๊ะ...เริ่มแระ ไอ่มุกคนไทยด้วยกันเนี่ย เกลี๊ยดด เกลียด แล้วเจ๊คะ มันไม่ได้นิดหน่อยๆเลยนะ นี่มันเลยมาตั้ง 16 กิโลจากหน้าตั๋วเจ๊น่ะ กล้าพูดนะเนี่ย)

เรา : ไม่ได้หรอกค่ะพี่ยังไงพี่ก็ต้องแพ็คใหม่ น้ำหนักมันเกินนะคะ 1 ใบต้อง 32 กิโลเท่านั้นค่ะ ไม่งั้นเค้าไม่เอากระเป๋าพี่ขึ้นเครื่องบินนะคะ

Pax: (กระฟัดกระเฟียด ลากกระเป๋าลงจากสเกลดังตึง!!! แล้วก็re-pack มันหน้าเคาท์เตอร์น่ะแหละ)

เรา : เอ่อ...พี่คะ ช่วยหลบนิดนึงได้มั้ยคะ หนูจะได้เช็คอินผู้โดยสารที่อยู่ด้านหลังต่อ

pax: แหงนหน้ามามองเรา นิดนึง แล้วขยับให้ประมาณ 2 เซ็นต์ (ทำหน้าเหมือนจะบอกว่าก็มันรอไปเสะ)

เราเห็นว่าต่อปากต่อคำไปกับเจ๊ก็เป็นเรื่องยาว เลยบอกให้ผู้โดยสารฝรั่งที่อยู่ด้านหลังขัยบเข้ามาชั่งต่อ แล้วฝรั่งคนนี้ก็น้ำหนักเกินอีก เอิ้กกกกกก ชีวิต จะเช็คอิน ธรรมดาๆ บ้างได้มั้ยเนี่ย

เรา : Excuse me sir. Your luggage is overweight (28 KG/bag) Could you remove some stuff? If you don't have any hand carry, You can remove something out and carry it. It would be better, I don't want to charge you for the excess baggage.

(กระเป๋าเค้า้ำหนักเกินมาจากหน้าตั๋วประมาณ 8 กิโลค่ะ แต่สายการบินเราให้ waive ให้ได้ประมาณ 3-5 กิโล ดังนั้นก็จะถือว่าเกินมา 3 กิโลจาก 25 KG ค่ะ เราเลยบอกให้เค้าเอาบางสิ่งบางอย่างออกมาถือก็ได้ถ้าเค้าไม่มีกระเป่าถืออะไร)

Pax : OK How many kilos that i have to take it off? I don't have any hand carry so... it's ok I will carry it. :)

(เค้าก็บอกว่า อ๋อได้ ผมต้องเอาออกกี่กิโลล่ะ ผมไม่มีกระเป๋าถือเลย ก็เดี๋ยวเอาออกมาถือก็ได้ครับ)

เรา : 3 Kgs would be fine. I'll give you 5 Kgs more from 20 so just take it off 3 kg.

(แค่ 3 กิโลก็ได้ค่ะ ชั้นให้คุณเพิ่ม 5 กิโลจากหน้าตั๋ว 20 นะ เอาออกไป 3 กิโลแล้วกันค่ะ)

แล้วคุณฝรั่งก็จัดการเอาออกไปถือ 3 กิโล เรียบร้อย คราวนี้เจ๊คนไทย re-pack เสร็จเอากลับมาชั่งใหม่ วางกระเป๋าลงบนสเกล ตึง!!!.........32 KG...... เอ่อ.....

เรา : พี่คะ...มันยังเกินอยู่เลยค่ะ หนูให้พี่ได้แค่ 5 กิโลเอง เอางี้ หนูให้พี่ 27 นะแล้วเดี๋ยวที่เหลือเอาไปถือแล้วกันค่ะ พี่มีกระเป๋าถือเยอะรึยัง?

Pax: อะไรกัน ก็บอกไม่เกิน 32 ไง นี่ก็ไปเอาออกมาให้แล้วก็ 32 กิโลแล้วไงจะเอาไรอีก ช่วยแต่ฝรั่งนะเนี่ย คนไทยด้วยกันไม่คิดจะช่วยเลยนะ ทำงานสนามบิน คุยกับฝรั่งเยอะแล้วลืมสัญชาติรึไง (โห....เจ๊!!!! พูดอย่างนี้ต่อยกันดีกว่ามั้ยเนี่ย หา! เจ๊เกินมาเยอะกว่าเค้าตั้งเยอะ แล้วเค้าก็พูดง่ายนะให้เอาออก ก็เอาออก ไม่มาเถียงๆอย่างนี้น่ะ)

เรา : พี่คะ คือ ที่หนูบอกน่ะ คือ 1 ใบมันต้องไม่เกิน 32 กิโล แต่หน้าตั๋วพี่มันได้ 20 กิโลไงคะ น้ำหนักในกระเป๋านี้ต้องเท่ากับน้ำหนักที่จะใส่ไปในระบบนะคะ หนูก็ให้พี่ 27 กิโลแล้วไง พี่เอาออกไปถืออีก 5 กิโลแ้ล้วกันนะ กระเป๋าถือเยอะมั้ยคะ

pax: ไม่มีอ่ะ มีแต่กระเป๋าสะพายใบเดียว แล้วน้องก็ใส่น้ำหนักหลอกๆไป ไม่ได้หรอ ก็ใส่ไป 27 นั่นแหละ ไม่ต้องให้พี่เอาออกหรอก ช่วยหน่อยเหอะน่า พี่ขี้เกียจเอาไปถือมันเมื่อย ใส่ๆไปเลยน้องไม่มีใครรู้หรอก

(อ้าววววววว เจ๊...มาบอกให้ชั้นทุจริตได้ยังไงเนี่ย รู้มั้ยว่ามันมีผลยังไงถ้าใส่น้ำหนักไม่ตรงน่ะ ถ้ามันผิดไปเยอะๆ พวก Load control เค้าก็คำนวณน้ำหนักผิด คำนวณน้ำมันผิด ใช้น้ำมันน้อยไปกว่าความเป็นจริง เพราะน้ำหนักมันไม่ตรง แล้วถ้าบินไปน้ำมันไม่พอเครื่องตกเจ๊จะทำไงหา!!! แล้วนี่ชั้นอุตส่าห์ช่วยแล้วนะ ก็บอกให้เอาไปถือยังมีหน้ามาบอกว่าเมื่อยอีก โอ๊ยยย ปวดกะบาล ตกลงจะไปมั้ยเนี่ย หา!!!! )

เรา : (ยังยิ้มอยู่นะเนี่ย Service mind จริงๆ) ไม่ได้หรอกค่ะพี่ต้องใส่ตามความจริงค่ะ ไม่งั้นจะมีผลกระทบไปส่วนอื่นด้วย พี่เอาไปถือเถอะนะคะ ไม่อย่างนั้น ถ้าพี่ยืนยันว่าจะไม่ถือ หนูก็ต้องเก็บเงินค่าน้ำหนักเกิน มันแพงนะคะ กิโลตั้ง 16 ยูโรแน่ะ

pax: อะไรกันน้อง ที่พูดมานี่อยากเก็บเงินใช่มั้ยเนี่ย (อ๊ะ อินี่!!! ชั้นเริ่มโมโหแล้วนะ) ไหนๆบอกมาซิเท่าไหร่ เงินไทยเท่าไหร่

เรา : ตอนนี้น้ำหนักในกระเป๋ามัน 32 หนูให้พี่ได้แค่ 25 นะถ้าพี่ไม่เอาไปถืออ่ะ เดี๋ยวเจ้านายว่าเอา มันก็เกินมา 7 กิโล กิโลนึง 16 ยูโรก็ 745 ทั้งหมดก็ 5215 บาทค่ะ

pax : โห...อะไรเนี่ยทำไมมันแพงอย่างนี้ (ก็บอกไปแล้วไงว่ามันแพ๊งงงง ไม่ฟังยังจะดื้ออีก) นี่มันขูดรีดนี่น้อง ทำไมทำอย่างงี้ล่ะ

เรา : พี่คะ...หนูถึงบอกไงคะว่าให้พี่เอาไปถือ แค่ 5 โลเองนะ มันไม่ทำให้พี่เมื่อยเท่าไหร่หรอกค่ะ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ขึ้นเครื่องแล้ว เอาไปถือเถอะค่ะ

pax: เออ ก็ได้ คอยดูนะวันหลังจะไม่มาใช้บริการที่นี่อีกเลย อะไรกัน คนไทยด้วยกันแท้ๆ กลับไม่ช่วยเลย รู้งี้ไปขึ้นการบินไทยดีกว่า

(อินี่....ชั้นไม่ช่วยแกตรงไหนฮะ? ขนมาตั้ง 36 กิโล แถมยังพูดจาไม่รู้เรื่องแล้่วด่าชั้นอีก มันน่าช่วยมั้ยเนี่ย ให้หยวนไปตั้ง 8 กิโลเนี่ยไม่ช่วยรึไง แล้วเจ๊ พูดอย่างเนี้ย ทำไมไม่ไปขึ้นการบินไทยตั้งแต่แรกล่ะเจ๊ หนูจะได้ไม่ต้องมาลำบากเถียงเจ๊เนี่ยยยย)

เรา : ......

pax: อ้อ...ขอที่นั่ง exit ด้วยนะ (ดู๊...ดูมัน ยังมีหน้ามาขอ exit row อีกนะ เจ๊ไม่ได้สูงเลยนะ ไม่มีใครเค้าให้หรอก)

เรา : ...... ไม่มีแล้วค่ะ เป็นที่นั่งตรงทางเดินแทนแล้วกันนะคะ (แหม...ใจจริงชั้นจะอยากจะมันนั่งตรงกลางซะให้เข็ด!!!)

เป็นยังไงคะ คนไทย...มากมายกว่าฝรั่งเยอะ เพราะพูดกันรู้เรื่องนี่แหละค่ะ

แต่ที่น่ารักๆก็มีนะคะ แบบว่าน้ำหนักเกินมาเยอะ แต่พอเราบอกให้ไปรีแพ็ค เค้าก็ไปง่ายๆ หรือถ้ามันเยอะมากเราก็บอกให้เค้าเอาสิ่งที่ไม่จำเป็นฝากญาติๆกลับบ้านไปดีกว่านะ จะได้ไม่เสียตังค์ เค้าก็แบบอ๋อเหรอ โอเคๆ เนี่ยพอดีเพื่อนพี่ที่เมืองนอกมันอยากกินอ่ะ แต่สงสัยคงไม่ได้เอาไปละ ไม่เป็นไรๆ หรือบางทีก็ เออ....น้องพี่เอาอะไรไปถือได้บ้างมั้ยจ๊ะ ถ้าเค้ามีของถือไม่เยอะมากเราก็แนะนำไป


ผู้โดยสารคะ ถ้าคุณพูดจาดีๆ ใครๆเค้าก็อยากช่วยนะคะ แต่ทีนี้ก็ต้องดูนิดนึงว่า กฎของสายการบินเค้ามีอะไร คุณก็ต้องปฏิบัติตาม จะมาขอยกเว้นเป็นพิเศษอะไรไม่ได้นะ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างก็วุ่นวายไปหมดน่ะ

แล้วที่นั่งตรง Exit row น่ะค่ะ ไม่ต้องเดินมาแล้วบอกว่า ปวดแขน ปวดขา ปวดหลัง อยากจะขอนั่งตรงที่ Emergency Exit เลยนะคะ ที่ตรงนั้นน่ะ สงวนไว้เฉพาะคนที่มีร่างกายแข็งแรงเท่านั้นค่ะ บางคนเนี่ยเดินมาตัวยังสูงไม่เลยเคาท์เตอร์จะขอที่นั่ง Exit ไม่ว่าจะไทย จะฝรั่งค่ะ เรื่องนี้ ที่นั่งมันมีแค่ 2-3 แถวบนเครื่องเอง เราจะเอาไว้คนที่สูงจริงๆมากกว่า อย่าง 190 - 2 เมตร อย่างเนี้ย สงสารเค้าบ้างเถอะ นั่งธรรมดามันก็ติดขาน่ะ

อยากได้กันเหลือเกินที่ตรงเนี้ยย Exit Row!!





ยังมีอีกหลายเรื่องนะคะ เพื่อนๆ ติดตามอ่านไปเรื่อยละกัน บล็อคหน้าตั้งใจว่าจะเขียนเรื่องราวการผจญภัย ตอนที่เสื้อเหลืองมาปิดสนามบินแล้วเราโดนเนรเทศไปปล่อยเครื่องที่อู่ตะเภาค่ะ ทรหดสุดๆ!!!!!






Create Date : 29 เมษายน 2553
Last Update : 30 เมษายน 2553 23:04:41 น.
Counter : 5359 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  

I'm in awe
Location :
Castro Valley,CA  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]



บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเป็นคนไกลบ้านแล้ว ก็ยังแต่งบล็อกไม่เป็นเหมือนเดิม อิอิ แวะมาแลกเปลี่ยนเรื่องราวด้วยกันบ่อยๆนะคะ ยินดีอย่างยิ่งหากเรื่องราวในบล็อกนี้เป็นประโยชน์ต่อคุณค่ะ :)
New Comments
All Blog