Be crazy , Be me

หนึ่งวันทรหด แต่คุ้มเพราะหนุ่มหล่อ

เขียนอย่างนี้เหมือนเราโดนทรมาน วุ้ย แต่ไม่ใช่ วันนี้หนู๋ได้ฤกษ์ค่ะ ไปเดินช๊อบปื้ง เอาเรียกให้หรู เผื่อมีคนสนใจในชีวิตไฮโซของเรามั่ง เรื่องของเรื่องคือ แชมพูหมด แล้วเรามันพวกพอหาเรื่องออกจากบ้านแล้วธรรมดาที่ไหน ไปเลยค่ะ ตลาดใกล้ๆบ้าน วันนี้ไม่ได้ตังค์ ( สามี) ตรูหรอก ไปแล้วค่ะ ออกไปเลย ตั้งแต่ 10 โมง สามีจะไปทำงาน ( เลยไปวิงวอน แต่ไม่ได้ก้มกราบ ขอติดรถไปด้วย )

สามีเอาไปปล่อยค่ะ ออกจากบ้าน 10 โมง นั่งรถ 15 นาทีถึง วันนี้สามีรู้ บอกว่า เอาไอ้ที่วัดไปด้วยนะที่รัก ที่วัดที่พูดถึงก็คือ ที่ๆเค้าเอาไว้ดูว่า เราเดินไปว่ากี่กิโลอ่ะค่ะ แบบว่า คราวที่แล้ว พี่แกเห็นเราเดินมากมาย ( ตั้งแต่ 10 โมง ยัน 2 ทุ่ม เลยบอกว่า เพื่อเป็นกำลังใจแกเราให้เอาไปด้วย จะได้รู้ว่าน้ำหนักหายไปเท่าไหร่ตอนกลับมา จะดีใจดีมั้ยฟ่ะเนี่ย เค้าอุตส่าห์ห่วงเรื่องน้ำหนักเรา

กิจกรรมการเดินเริ่มอย่างเมามัน กะอีแค่แชมพูขวดเดียวอีชั้นก็คิดนอกใจค่ะ นอกใจสามีไป 3 วินาที ( โห ใครจะอดใจไหว แหม ก็พ่อหนุ่มเก็บตังค์ อ่ะ หน้าตาจิ้มลิ้ม ปากนิด จมูกหน่อย ( แต่ไม่ได้พิการนะค่ะ ) หน้าแบบว่านายแบบได้เลย แต่ยังมาจมตอก เก็บตังค์อยู่ในห้าง แว๊บแรกที่เห็น ก็นั่งร้องเพลงในใจ น่าจะเจอกันมาตั้งนาน ก่อนที่ชั้น จะเป็นของใคร แต่หากมันมีปราฏิหาร ชั้นคงไม่ย้อนเวลากลับไป ( เพราะที่มีมันก็ดีอยู่แล้ว แถมรักเราซะขนาด ไอ้หนุ่มแปลกหน้า จะเทียบได้ไง คิดได้ 3 วินาที ก็เรียกสติ จ่ายตังค์ แล้ว ก็เดินจากไป )

ดั่งคำนักปราชญ์ ( คนไหนก็ไม่รู้) ว่าไว้ว่า หากเราได้ออกจากบ้าน คิดหรอว่าเราจะกลับไปง่ายๆ ไปต่อค่ะ เดิน กระเต้ง ไอ้ แชมพูขวดเดียวนั้นหล่ะฟ่ะ เดินช๊อบปื้ง คือ เดิน นะ เน้น เดิน ไม่ได้เน้นซื้อแต่อย่างใด ไอ้เราก็ไม่รู้เป็นอะไร ตอนอยู่บ้านแม่งก็แต่งตัวซะสวย ไฮโซ ใส่กระโปร่ง ซะส่วนใหญ่ ( น้อยนัก จะแต่งตัวบ้านๆ ) แต่พอออกนอกบ้านสิ ผีมันสิงค่ะแต่ อีผีไฮโซ นะ ออกจากร่าง ใส่เสื้อยืด กางเกงยีสน์ รองเท้าแตะ แล้วก็ออกจากบ้านค่ะ ( แล้วหนุ่มที่ไหนมันจะมาเหล่เราฟ่ะ อุตส่าห์เป็นแผนออกไปเหล่หนุ่ม ข้องใจตัวเอง ออกจากบ้านทีไร แต่งตัวเอี้ย ทุกที อยู่บ้านเฉยๆ ดั้น แต่งซะแรด

บ่นเรื่องต่างตัวเองไม่พอ ก็เพราะไอ้แต่งตัวนี้หล่ะฟ่ะ ไอ้บรรดา กลุ่มรับบริจาค มักเล็งความสนใจมาที่เราเป็นพิเศษ เพราะคิดว่าเราเป็นพวกนักอนุรักษ์ เวรซิค่ะ เดินมาพูดภาษาอังกฤษกะกรูยังพอ สู้ไหว แต่พี่แกคิดว่ากรูพูดฟินด์แ
ล้วโผล่มารัว อย่างไม่ตั้งตัวนี้ เราทำขายหน้ามานักต่อนักแล้ว ไม่ว่าจะกระโดดหนี หรือ ทำหน้าตกใจสุดขีด

แต่พวกพี่แกกลุ่มนี้ก็ไม่ย่อท้อง่ายๆ พักหลังเล่นมุข อ้อ ค่ะ สมัครแล้วค่ะ หรือไม่ก็เป็นสมาชิกแล้วค่ะ เรื่อยไป แต่หน้าใหม่ๆ ก็ยังจำเราไม่ได้ ดังนั้น เราจึงใช้มุข งอนระยะสุดท้ายของสาวไทย เดินหนีวุ้ย เหมือนหนีผี แล้วไม่สบตา ( กลัวเป็นกระสือ) สบตาทีไร มีเดินมาหากรูทุกที

ได้แชมพู เดิน ช๊อบหมดมันไม่หมดแค่นั้นซิหล้า อย่างเราหยุดเดินง่ายๆ ที่ไหน ไปเดินกะสามีมาแล้วทั้งวัน เดินแค่นี้จะเป็งไร เอาวุ้ย สู้วุ้ย เดิน ๆๆๆๆ แล้วก็เดิน ที่นี่วิ่งขึ้นรถไฟใต้ดิน ไป 2ป้าย เนื่องจากถ้าเดินเอง เห็นจะไม่รอด ( ไม่ได้เพราะเหนื่อย แต่เพราะหลงค่ะ คือเราเป็นพวกไม่จำทิศซะด้วย เดินมันมั่วๆ เดี๋ยวก็ถึง แต่หลงตลอด )

และแล้วความเลวก็บังเกิดแก่ตัว ที่นี่เวลาเค้าขึ้นรถเนี่ย เค้าต้องจ่ายตังค์ค่าตั๋วผ่านตู้จ่ายตังค์อ่ะ แต่เรามันพวกลองของ แล้วคิดว่ามันใกล้ๆ ( แค่ 2 ป้าย ) ปรกติ เราไม่ค่อยใช้ตู้ เพราะอ่านไม่ออก เลยใช้จ่ายทางโทรศัพท์แทน ซึ่งจ่ายครั้งหนึ่ง มันขึ้นได้ 1 ชั่วโมง คือ ต้องเดินทางในหนึ่งชั่วโมง จะไปไหนก็ช่าง ต้อง ในชั่วโมงเท่านั้น

แล้วประจวบเหมาะหมา เอ้ย เหม็ง กะที่อีชั้น ต้องไปจ่ายตลาด( ลากไอ้ถุงแชมพูนั้นหล่ะ ไปด้วย วันนี้ขอจ่ายตลาดไกลๆ ) เลยไม่จ่ายตังค์ค่ะ ( ก็แค่ 2 ป้าย จ่ายทำไมเดี๋ยวต้องกลับมาขึ้นรถรางก็ต้องจ่ายอีก) และแล้ว สิ่งที่ไม่คิดไม่ฝันก็ตามมา เอ้ย พ่อแม่ไหว้พระมาดีวุ้ย ป้ายที่ 2 กระโดดลงค่ะ มีนายตรวจขอตรวจตั๋ว เด็กนักเรียนข้างหลังเราอ่ะ เอ้าแล้วกรู หน้าเสียเลย นึกว่าเค้าเรียกเรา ทีนี่อีชั้นจ้ำ ค่ะ จ่ำอ้าว เวรกรรม จ้ำซักพัก อุ้ยลืม มีพิรุธ เดียวเค้าขอเราตรวจซวยอีก ( คือถ้าเค้าจับได้อ่ะ โดนปรับ 60 ยูโร แต่ค่าตั๋ว อ่ะ แค่ 2 ยูโร) เดินสิค่ะ เดินธรรมดา พอเค้าตรวจเด็กคนนั้นเสร็จ เค้าก็กระโดดขึ้นรถไฟไป คิดในใจ โชคดีนะตรู เกือบเสียตังค์ แล้วมั้ยหล่ะ

เดินถึงบรรไดเลื่อน แม่เจ้า แม่งพังค่ะ พังอย่างเห็นได้ชัด มันไม่เลื่อนอ่ะ เราเลยต้องใช้พลังขาเราเลื่อนแทน แล้วก็ไม่มาก มันก็แค่สูงเท่าตึก 3 ชั้นอ่ะ แต่ว่า ขึ้นแบบตั้งฉาก เดินถึงข้างบน เกือบขาดใจ เหลือบไปเป็น ผู้หญิงดำคนหนึ่ง เค้าล้มอ่ะ ( ไม่เห็นตอนล้มหรอก แต่รู้ว่าล้ม เพราะเค้าไม่ยอมลุกอ่ะ) แล้วคนก็เริ่มไปยืนดูเค้า แล้วก็มีคนใจบุญโทรเรียกรถพยาบาลมารับ คิดในใจ ดีนะ ตรูไม่อ้วนขนาดนั้น เพราะถ้าล้มมีหวัง นอนตรงนั้นแน่เลย

กลับถึงบ้านดีใจม๊าก มาก ได้ซีดี และก็หนังสือที่สั่งไปทางเน็ท 10 วันพอดีไม่ขาดไม่เกิน กว่าจะส่งมา ลุ้นแทบตายว่ามันจะถึงมั้ย พอได้ปุ๊บ ก็อ่านเลยค่ะ หนังสืออ่ะ เราอ่านเร็วมาก ( ทีหนังสือเรียนไม่อ่านขนาดนี้) คือแบบว่า อ่านตั้งแต่ ทุ่ม ถึง 3 ทุ่ม จบแล้ว แถมมีเบรก นั่งกินน้ำร้อนน้ำชาอีก เอากะเรา ไม่อ้วนได้ไงฟ่ะ

อ่านจบแล้วก็อยากบอกต่อ เพราะเป็นหนังสือดีอีกเรื่องที่น่าอ่าน เป็นเรื่องเล่าของสาวไซด์ไลน์ เรื่องจริง ที่ตอนนี้เค้าไม่ทำแล้ว อ่านแล้วางไม่ลง ใครอยากอ่านก็ตามไปซื้อเน้อ ที่เวปนี้ โฆษณาให้เค้าเสร็จ เพราะสนุกจริงๆ อ่านแล้วไม่อยากวาง เลยแต่มันดันอ่านจบซะก่อน

//www.ethaicd.com/show.php?pid=18994

ต้องไปนอนแล้ว เพราะเด็กมันจะตบกระโหลกเราแน่ หากเรายังพิมพ์ แต๊กๆๆๆ อยู่ อิอิอิ สวัสดี ค่ะ

ป.ล. 1 วันที่หายไป เราไปอด คอม ที่ถ้ำเฮลซินกิมา เพราะอีสามีเริ่มกระแนะกระแหนแล้วว่าถ้ายูยังเล่นคอมอยู่ทั้งวันเนีย รับรองว่ายูได้ใส่แว่นเร็วๆนี้ สรุป ผลการอด คอม ทำได้ วันเดียว เพราะอาการลงแดงกำเริบ ต้องรีบกลับมาอัพบล็อก

ป.ล.2 เรื่องหนังสือที่บอกไป ถ้าใครไม่ชอบยุ่ง + อ่าน เรื่องชาวบ้าน ไม่ต้องซื้อมาอ่านก็ได้เน้อ แต่เรื่องนี้ก็ให้ข้อคิดสำหรับคนมีสามี หรือ ภรรยาเหมือนกัน เพราะเค้าก็เล่าถึงสาเหตุ ที่เค้าทำ และก็สาเหตุที่สามี ไปเที่ยวกับพวกเค้า ถ้าใครไม่ชอบ ไม่ต้องซื้อ อาศัยไปหาอ่านเอา ตามร้านหนังสือ ( หากอยู่เมืองไทย) ถ้าอยู่เมืองนอก ไม่อยากซื้อก็อาศัยโน้นเลย ยืมอ่ะ หาคนที่เค้ามีแล้วยืมเอา อิอิอิ แต่ขอบอก กุ๊กเอ้ยกึ๊กไก่หาก อยากยืม มาเอาเองที่เฮลซินกิเน้อ มีเรื่องเจ้าหงิญ อีกเรื่องให้ยืม ถ้าอยากอ่าน





 

Create Date : 16 สิงหาคม 2549   
Last Update : 16 สิงหาคม 2549 13:14:46 น.   
Counter : 554 Pageviews.  

ขอมอบให้คุณนาย

คุณนายที่พูดถึงนะ ไม่ใช่ ใครไกล แต่เป็น คุณหญิงแม่ของดิชั้นเองค่า แบบว่า อยู่บ้านตั้งแต่เด็กแต่เล็กนะ ไม่ค่อยเรียกแม่หรอก จะเรียก คุณนาย ซะมากกว่า เพราะบ้านเรานี่ระดับ คุณผู้หญิงทั้งนั้น ( คือ ผู้หญิง ล้วน มี พ่อคนเดียวที่เป็น ผู้ชาย )

รู้ก็รู้อ่ะ ว่าพ่อแม่ลำบากกว่าจะเลี้ยงเราจนโตมาเป็น ม้า ดีดกะลา อย่างนี้ วันนี้ ไหนๆ ใกล้วันแม่แล้ว เลยขอ อัพบล็อก เรื่องคุณนายหน่อยแล้วกัน

คุณนาย หรือ หญิงแม่ของเรา เป็น สาวไทย เชื้อสายจีน ( อย่าคิดว่าเราพูดภาษาจีนได้ตามหม่อมแม่นะ เพราะเราอ่ะ พวกไม่รู้เรื่องอ่ะ รู้แต่ด่า อย่างเดียว ) ตอนสาวๆ เธอสวยมากกก( สวยเหมือนเรา อิอิ ชม เข้า ไม่ด่าแล้ว ตัวเอง เสียกำลังใจ) คุณนาย เป็น คนช่างแต่งตัว อย่างแรง ตอนสาวๆ เครื่องสำอางราคาแพงเท่าไหร่ ชีไม่สน เค้าซื้อมาใช้หมด แต่พอ มีลูกสาว ( 4 ตัว เอ้ย 4 คน ) เธอก็หยุดซื้อเครื่องสำอางแพงๆ หันมาใช้ถูกๆ ทันที ด้วยเหตุผลที่ว่า อยาก เก็บเงินให้ลูกเรียนหนังสือ ( ซึ้ง )


หลาย 10 ปีผ่านไป ลูกสาวทั้งหมด ก็โตเป็น คน ( ตอนชีโมโห เราจะโตเป็นควาย ) แต่เราก็ไม่เคยโกรธหรอก ( หลังๆ แรกๆ ก็โมโหด้วยวุ้ย แม่กรูมาว่าเป็นควายได้ไง ) แต่หลังๆ พอโตมา( แก่ขึ้น) แล้วเข้าใจ

จะบอกว่า คุณนายเรา กะคุณชายที่บ้านเรานะ เป็นคนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ เย่อะ แต่เป็นพวกมีความรู้รอบตัวสูง เพราะเค้าชอบอ่านหนังสือพิมพ์ กะดูข่าว ไม่ว่าอะไรก็ตาม เค้าจะเกาะติด ตามสถานะการณ์ ทุกอย่าง ( ไม่เว้นแม้นแต่เรื่องชาวบ้าน ) ตอนพิมพ์ ๆ อยู่ รู้สึกเหมือน อะไรแดงๆ มากินหัว( นรก) แบบว่า เอาพ่อเอาแม่มาเผาเนี่ย แต่เราไม่ได้เผานะ เราแค่จะบอกว่า เค้ารักเรา แล้วเราก็รักเค้า

แต่แปลกอย่าง บ้านเราเป็นพวกรักนะ แต่ไม่แสดงออก คือ ก็เห็นอ่ะ ว่าวันที่เรามาที่นี่เค้าก็น้ำตาซึมๆ แต่ก็ไม่มีใครจะมากอด ( หรือเค้าดีใจที่เรามาฟ่ะ ) ครอยครัวเราเป็นครอบครัวค้า ขายธรรมดา ไม่ได้ร่ำรวย แต่ พ่อแม่ก็ส่งลูกสาว ทั้ง 4คนเรียน จน ตอนนี้ เหลือ น้องคนเล็ก ที่ใกล้ จะจบแล้ว อีก ไม่กี่ปี

พวกเราวางแผนไว้แล้วว่าจะให้เค้าหยุดทำงาน เคยบอกเค้าหลายรอบแล้ว แต่เค้าก็ไม่หยุด เค้าบอก ตราบใด ที่เรายังต้องกินต้องใช้ เค้าก็จะหาเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีแรง เข้าสโลแก ชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป ( เออ เอากะเค้า ค่า เด็จพ่อเด็จแม่อีชั้น) กะหาจนไม่มีแรง แล้ว จะเอาแรงที่ไหนไปเที่ยวฟ่ะ

พ่อแม่เราไม่ค่อยไปเที่ยวนักไม่ได้เรียนหนังสือเย่อะ ไม่เคยมีเงินเก็บ ( เพราะเอามาสุมกะลูกสาวหมด ) ตอนแต่งงานมา เค้าก็กะเอาเงินให้สามีเรา ( ประมาณว่า ดีใจที่นังนี่ขายออก กะแถมเงินให้ด้วย ) เพราะเค้าคิดแต่แรกแล้วว่านังลูกคนนี้อ่ะ สงสัยต้อง อยู่เกาะเค้าไปตลอดชีวิต แต่ที่ไหนได้ มันมาแต่งก่อนไปซะนี่

ครอบครัวเราเป็น ครอบครัวบ้าบอ แต่ไม่ค่อยมีใครแสดงออกต่อคนแปลกหน้านัก ( ยกเว้นหนู๋ค่ะ เป็นพวก บ้าออกหน้าออกตา) จะเขียนเรื่องของแม่ ล่อจะเข้าเรื่องตัวเองซะนี่ เออ พอดีกว่า ยังไงก็สุขสันต์ วันแม่กันทุกคนนะจ๊ะ ใครยังไม่บอกรักแม่ บอกซะ ก่อนที่จะสายไป เพราะว่า พ่อแม่ก็เหมือนยาคูลย์ ต้องรีบกตัญญูก่อนหมดอายุ สวัสดีค่ะ




รูปที่เห็นเป็นรูปคุณนาย กะพี่สาว แล้วก็ลูกพี่ลูกน้องเราค่ะ คือ แต่ก่อนคุณนายเราเค้าชอบถ่ายรูปเดี่ยว แต่พออายุมากแล้วชอบเป็นหมุ่คณะ ได้ใจสิค่ะ ยังไง แวะมาก็ เขียนอะไรถึงคุณนายเราหน่อยก็ดี แล้วเราจะเอาไปให้เค้าอ่าน ว่าเราเอาเค้ามาเขียนที่นี่

ไปจริงๆ แล้วสวัสดีค่ะ




 

Create Date : 11 สิงหาคม 2549   
Last Update : 11 สิงหาคม 2549 1:15:42 น.   
Counter : 463 Pageviews.  

หนึ่งวันที่หายไป กับ......ใครว่าฟินแลนด์ ไม่มีกีฬาตีกบ

กีฬา กีฬาเป็นยาวิเศษ ทำคนจกกะเปรต สร้างคนให้เป็นคน เพลงที่หลายๆ คนร้องเล่นเต้นกระจาย ตั้งแต่เด็กสมัยเรียนอนุบาล ในงานกีฬาสี เรียกได้ว่ารุ่นเราอ่ะ ถ้าใครเกิดมาหน้าตาดี หรือ สวยหน่อยอ่ะ ได้เป็นถึงคนถือดัมเมเยอร์ เลย ( พอดีสวยไม่พอ หรีด เค้ายังไม่ให้เป็น เลย เลยไปเป็นอาสาสมัครทำพวงหรีดแทน ) แต่เดี๋ยวนี้ มีพ่อแม่เด็ก อยากให้ลูกเป็นดาวเป็นเดือนเย่อะ เรียกได้ว่า ลูก 3 ขวบ จับเข้าอนุบาล ไม่ว่าจะงานอะไรก็แล้วแต่ ชั้นขอลูกชั้นเด่นไว้ก่อน เสียเท่าไหร่เท่ากัน ยอมเสียโดยไม่ยอมดูหน้าลูกตัวเอง ว่า ขี้มูก ยังเยิ้ม อยู่เลย จะให้เต้นนำลูกเดียว เออ เอากะเค้า

อ่ะๆๆ เข้าเรื่อง ประมาณว่าวันนี้มาเขียนเรื่องกีฬา ซะหน่อย ว่าที่นี่นะเห็นหนาวๆ อย่างนี้อ่ะ กีฬาเค้าก็มีเยอ่ะ เหมือนกัน ไม่รวมฟุตบอลประเพณี หรือ บาสเก็ตบอล อะไรหรอก แต่คนที่นี่อ่ะ เค้าเป็นพวกสร้างสรรค์ อยากทำให้คนในประเทศ มีสุขภาพจิตดีขึ้น( โดยไม่มีใครสนับสนุนแต่อย่างใด เรียกได้ว่า เล่นกันเอง จนดังไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งโยนโทรศัพท์ หรือกิจกรรม อุ้มเมียวิ่งเป็นกีฬาที่น่ารัก และ ฮามาก เพราะสามีแต่ละท่านจะไม่เหมือนใคร เรียกว่าใช้ทุกวิธี ให้เร็วที่สุดจะได้ ชนะ ( อันนี้ คุณสามีเราขอ บาย เนื่องจากน้ำหนักภรรยา ปาเข้าไปหลาย คงอุ้มวิ่งไม่ไหว ไปแข่งก็อายเค้า ) รายละเอียดเรื่องนี้ ( ไม่มี แต่เค้าจะแข่งกันทุกปี และ แต่ละปี ลีลาการอุ้มก็เริ่มพิลึกขึ้นทุกวัน เดี๋ยวปีหน้านึกได้แล้วจะ นำภาพพร้อม ลายละเอียดมาฝาก เผื่อใครสนใจ)

แต่วันนี้เราขอนำเสนอ กีฬา ตีกบ เห็นหนาวๆอย่างนี้อ่ะ ประเทศเค้าก็มีกบให้ตีเหมือนกัน แล้วดันไปประจบกับเมื่อวาน อีชั้นก็กระแดะไปดูเข้า กบที่นี่ตัวไม่ธรรมดาครับท่าน กบไทยมันจะตัวเขียวหรื่อไม่ก็ดำ แต่ที่นี่มันตัวกลมๆสีขาวคร้าบบ แล้ว เวลาตีเค้าก็ไม่เหมือนพี่ไทย ที่ออกไปยามฝนตก กับปีบหนึ่งใบ ที่นี่ ตีครั้งนึ่งก็เสียตังค่าเข้า แล้วต้องเอาอุปกรณ์ไปเอง ถ้าไปตีเมืองไทย เสียค่าคนหิ้ว ที่ถูกเรียกว่าแคดดี้ แต่ที่นี่ไม่มี ต้องลากเอง แถมเวลาเล่น ต้องเดินตีให้ครบ 18 หลุม เฉลยเลยแล้วกันว่ามันหน้าตาเป็นไง ก่อนโดนตบ





เมื่อวานเป็นฤกษ์ แล้วก็เกือบเลิกกะสามี เพราะอีกบนี้หล่ะค่า ประมาณว่าไม่ได้รวยหรอกนะค่ะ คือ มันฟรีอ่ะ งานนี้ แล้วใครจะไปดูก็ได้ อีสามีชวนก็เอาฟ่ะ ไม่เคยเห็นมันตีเป็นตัวเป็นตนเหมือนกัน จะได้เห็นซะทีว่ามันเป็นไง ( รูปที่เป็นเป็นรูปโลโก้งาน ที่ไปแอบถ่ายมาจากรถใครก็ไม่รู้ มันดันจอดไว้ดีนัก ดีนะเรา ถ่ายอย่างเดียวไม่งัดด้วย) งานนี้เป็นงานเด็กๆ ค่า เห็นแล้วจะน้ำลายไหล ก็พี่แกมีแต่เด็กๆ (หนุ่ม หน้าตาจิ้มลื้ม ) เดินไปตีไป คนเข้าแข่งก็หลายอยู่ ไม่รู้หรอกค่ะว่าเท่าไหร่ ดูไม่ทัน ตาลาย คนหน้าตาดีเย่อะ ( แต่พ่อหนุ่มคนที่ชนะเลิศนะ หน้าตาเหมือนหนุ่มโรคจิตในดาวินชีโคต อ่ะ ค่ะ อายุ 23 นามสกุล Savolampi หนุ่มบ้านนาที่ร่างกายกำยำ ตีไปติดลบ 9 สรุป เค้าตีไปแค่ 63 ที สำหรับ 18 หลุมค้าา ( ดีนะไม่มีหลุม 19 อิอิ) เห็นอย่างนี้ เมือ่วานเป็นครั้งแรกนะค่ะ ที่หนู๋ได้ไปดู เค้าตีกบ เพราะเป็นคนไม่ค่อยใส่ใจอ่ะค่ะ ( จริงๆแล้วไม่มีตังค์ไปตีอ่ะ )

ดูแรกๆ มองไม่เห็นค่ะ ลูกกบมันไปไหนฟ่ะ เรียกได้ว่า มันตีปั๊บ อีคุณสามี โอ้ย สวยมากกก อีหนู๋ก็งงค่ะ มันเห็นได้ไงฟ่ะ กรูยังไม่เห็นอะไรเลยแต่พอได้เดินไป 18 หลุม + กับหลุมย่อยๆ ที่อีสามีลากไปอีก ็ก็เกินค่ะ เรียกได้ว่าดูจนเห็นว่าลูกกบมันบินไปไหน ( ตาเริ่มตามทัน) แล้วตอนนี้หนู๋ก็เป็นโปรไปแล้วค่ะ โปรดูไม่ได้โปรตีแต่อย่างใด ( เพราะดูจนรู้ว่าหลุมนี้ตียังไงอะไรไกลแค่ไหน แต่ไม่ไปตีหรอก ไปดูอย่างเดียวก็จะอ้วกแล้ว มันไปตีกันไ้้้ด้ไงฟ่ะ)

สรุปเมื่อวาน เดินไป กว่า 10 กิโลค่ะ นี่ไม่รวม เดินไปกลับจากบ้านถึงสนานนะค่ะ ( หนู๋ถูกหลอก ถูกอีคุณสามีหลอกค่ะ มันหลอกให้เดิน มันบอกว่าใกล้ๆ ไม่ไกล ) สรุป เดินไป 45 นาที แล้วก็กลับ อีก 45 นาที นี่ไม่รวมเดินในหนามตีกบนะค่ะ เมือ่วาน ถึงบ้านรู้สึกทันที่ว่าเราเสียขาไป( โดยไม่ต้องเหยียบกับระเบิด ) เรียกได้ว่านั่งแล้ว ไม่อยากลุกไปไหนเลยค่ะ กลับมาดูหนังต่อ หนังอะไรไม่รู้ เศร้าชิบ หาไม่เจอมาก เลยค่ะ King kong เศร้าโครต เรียกว่า เลี่ยงมานาน เพราะรู้ว่ามันเศร้า ดูทีน้ำตาท่วมจอ สงสารคิงคอง

อ้อเขียนถึงกีฬานี้แล้ว ขอเสริมอาชีพเสริมสำหรับนักกีฬาตีกบทั้งหลายเลยแล้วกัน เพราะเมื่อวานไปดูมาแล้วมือสั่น แบบว่า เห็นแล้ว อันนี้น่าจะเป็นอาชีพเสริมของพี่แกทั้งหลายได้

เนื่องจาก นักกีฬาตีกบ เป็นคนที่มีวิสัยทรรศน์ และการเพ่งเล็งสูง คือ พี่แกจะนั่งยองๆ แล้วก็เล็งอยู่นั้นหล่ะ ทุกมุม เรียกได้ว่ามันเดินวนแล้วก็เล็งอยู่นั้นหล่ะ ไ่ม่ตีซะที ( ไอ้เราก็ลุ้นจนขี้เกียจลุ้นมันจะเล็งอะไรนักหนาฟ่ะ) สำหรับอาชีพแรกที่แนะนำสำหรับ นักตีกบ ไว้เป็นอาชีพเสริมคือ กรรมการเส้น หรือ กรรมการสนามก็ได้ แต่ต้องเป็นประมาณกรรมการกีฬา วอลเล่ย์บอล หรือ เทนเนิส เพราะพวกนี้จะมีจะตาไว เห็นเร็ว แล้วก็เป็นพวกเพ่งเล็งเก่ง ( จนบางครั้งไม่รู้มันเห็นได้ไงฟ่ะ ว่าลูกมันลงหรือมันออก )

  • อาชีพเสริมที่ 2 เป็นนักเต้น คาร์บาเล่ย์ เนื่องจากลีลาการพัต หรือ การสะกิดลูกกบของนักตีกบนั้น ช่างระทวยใจสาวๆ อย่างเราอย่างยิ่ง เพราะ ขาต้องติดกัน แล้ว ตูดต้องบิด โ้้อ้ย บางคนตูดใหญ่หน่อยบิดที พัตทีเห็น แล้ว อ่อนค่ะ ขาอ่อน ตูดมันใหญ่กว่าผู้หญิง แถม ยังบิดหนักกว่า สาวๆ ประเภทสอง ที่พัทยาอีก

อาชีพเสริมที่ 3 เห็นทีจะไม่แพ้ คนถอนหญ้าค่ะ เพราะพี่แกถอนกันเก่งเหลือเกิน ( ก็รู้หรอกว่า จะดูทางลมอ่ะ ) แต่พี่แกเล่น ถอนโยน ถอนโยน เป็นว่าเล่น ไม่รู้จะถอนอะไรนักหนา หลุมนึ่ง ถอนแล้วโยนทีเดียวก็พอ นี่หลุมนึ่งพี่แกถอนแบบ 2-3 รอบ ต่อหลุม แล้วไม่ธรรมดานะค่ะ เลือกค่ะ ถอนแต่ เขียวๆ ไอ้ที่เหลืองแล้วมันไม่ถอน เห็นแล้วอยากเข็กกระโหลกมันซะทีจริงๆ

อันนี้แค่หลักๆ ค่ะ ไม่รวม พนักงานสำรวจพื้นที่ ที่ต้องคอยเดินหาเศษก้อนหิน ( เพราะมันทำให้ลูกกบเปลี่ยนทิศได้ ) แล้ว ก็ แคดดี้ นะค่ะ เพราะพี่ท่านสามารถมาก ลากรถกบอ่ะ ไปไหนต่อไหน ขึ้นเขาลงห้วยข้ามสะพาน แกสามารถค่ะ

เก็บตกอันสุดท้ายค่ะ จากที่สังเกต มันซะหลายหลุม ได้เห็นว่า เวลา ที่เค้าทำ เบอร์ดี้หรือตีได้ต่ำกว่า ทีเค้ากำหนด นะ เค้ามีท่าประจำกายที่เหมือนกัน เรียกว่า ท่า Oh Yea คือ มือต้องกำ แล้วชูจักกะแร้ขึ้นไป แล้วดึงลงมา Oh yea สงสัยอยู่ว่า มันเป็นท่ามาตรฐาน เพราะมันเล่นทำเหมือนกันหมดทุกคน ไม่รู้โรงเรียนสอนตีกบเค้าสอนหรือไง

จบแล้ว อิอิ วันนี้ว่างจัด+ เขียนนอกเรื่องซะเพลิน อันนี้เป็นการแข่งเด็กๆ เน้อ ไม่ใช่โปร เรื่องที่โปรแข่งอ่ะไม่รู้มาก ( ไม่มีปัญญาไปดูอ่ะ แพง ) อ่านจบแล้ว เหมือนเดิมเน้อ แล้วจะตามไปหลอกไปหลอนนนนน สวัสดีค้าาาาา




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2549   
Last Update : 6 สิงหาคม 2549 20:34:40 น.   
Counter : 512 Pageviews.  

เมื่อคุณสามีพูดถึงเมีย

อีกแล้น ครับท่านได้อีแมวประเภทผัวๆ เมียๆอีกแล้ว คราวที่แล้วก็ได้เรื่อง การดูแลสามี คราวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ สามี ที่พูดถึงเมีย (ภรรยา) อ่านแล้ว คันมือ ยิกๆ ( ไม่ได้อยากตบใครแต่อย่างใด ) แต่เห็นแล้วมันอดไม่ได้(อยากเขียน) เพราะผู้หญิงอย่างเราก็มีคำเรียกสามี ( ผัว) อย่างนี้เหมือนกัน

แต่ก่อนอื่นขอเริ่มที่อื่นขอเริ่ม กับคำนิยามที่คุณสามีทั้งหลายเค้าใช้เรียก เมีย( ภรรยาก่อน) แล้วต่อด้วย คำนิยามที่คำนิยาม ที่บรรดาเมียๆ เอาไว้เรียกสามีมั่ง

เมียหลวง

คือ ภรรยาที่เคยดีที่สุดในอดีต แต่กาลเวลาและสิ่งแวดล้อมทำลายความดีของ เธอจนหมดสิ้นในระยะเวลาอันสั้นและทิ้งความโหดร้ายไว้ให้เธอต้องรับผลกรรม คือ ความจุกจิก จู้จี้ ขี้บ่น แก่ง่าย พูดมาก กินจุจนอ้วน ดุเหมือนเสือ โถ…น่าสงสาร

ผัวหลวง

ชายหนุ่มที่เคยคิดว่าเป็นชายในฝันในอดีต ปัจจุบันกลายเป็นตาแก่ ตัญหากลับ บ้ากาม หรือไอ้แก่ที่เราๆ เรียกกัน

เมียน้อย

คือ ผู้หญิงที่ดีที่สุดของผู้ชายที่เพิ่งมาค้นพบภายหลัง

ผัวน้อย

คือ ผู้ชายที่เราพบ ภายหลังเราจับได้ว่าไอ้แก่ที่บ้านมีเมียน้อย ( เลยขอมีมั่ง เพื่อความเสมอภาค)


เมียเก็บ

คือ อาหารพิเศษที่มีรสชาติแตกต่างจากอาหารธรรมดาทั่วไปเหมาะที่จะกินเป็น ครั้งคราวเพื่อแก้เลี่ยน เป็นสินค้ายอดนิยมและมีราคาแพง เงื่อนไขเยอะ

ผัวเก็บ

ถ้าเป็นกริยา คือ การออกคำสั่งให้ผัวทำงานบ้าน แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นนามเมื่อไหร่ ผัวเก็บ คือ หนุ่มๆ อายุน้อยกว่า ที่ไม่มีเงื่อนไขอะไรมาก แต่ต้องดูแลดีๆ ห้ามให้ผัวจริงจับได้

เมียแต่ง

คือ ผู้หญิงที่ทรงคุณค่าและคุณผู้ชายอยากจะประทับรอยรักสุดใจขาดดิ้น แต่ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่านี้


ผัวแต่ง

คือผู้ชายที่เราหลงแต่งงานด้วย ก่อนตาสว่างที่หลังว่า ถ้ารออีกนิด จะได้ผู้ชายที่ดีกว่านี้มาครอบครอง


เมียเช่า

คือ ผู้หญิงผิวคล้ำ ขี้ร้อน ใช้เสื้อผ้าน้อยชิ้นสูบบุหรี่กินเหล้าเป็นงานอดิเรก รสนิยมสูง นิยมบริโภคของนอกมีปริมาณความรักขึ้นลงตามกระแสไหลเวียนของเงินสด

ผัวเช่า

คือผู้ชาย หน้าตาดี ที่เราสามารถ เช่าได้เป็นรายวัน ความรักขึ้นลง ตามกระแสเงินสด เหมือนเมียเช่า แต่ดีหน่อย เพราะไม่มีการหึงหวง ตบแย่งเมีย

เมียจ๋า

คือ ผู้หญิงหน้าดุเหมือนเสือ ยืนชูไม้ตีพริกเหมือนเทพีสันติภาพ และมีสามีนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นประสานมือเหนือหน้าอกเหมือนไหว้เจ้ามีประวัติเพิ่งทำการละเมิด ข้อห้ามร้ายแรงของภรรยาบังเกิดเกล้า ลักษณะตัวสั่น น้ำลายไหลเล็กน้อย พูดตะกุกตะกักว่า "เมียจ๋า" ซึ่งเป็นคำพูดในความหมายขออภัย ไถ่โทษ

ผัวจ๋า

คือ ผู้ชายที่ดีโครต สำหรับภรรยา ประมาณว่า เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ มีเงินเท่าไหร่ให้เมียหมด ไม่คิดมีเล็กมีน้อย เลยได้ตำแหน่ง ผัวจ๋า

เมียกู

คือ ผู้หญิงสวย ขาว หุ่นเพรียวผอม อายุน้อย หน้าตาน่ารักยังไม่มีการรวมตัวกัน ของไขมันและตีนกา พูดจาไพเราะ อ่อนหวานผู้ชายที่พบเห็นจะเกิดอาการเขื่อนกันน้ำลายพัง
ทำให้น้ำลายเอ่อล้นออกมานอกปาก แสดงอาการหึงหวง กีดกันชายอื่นไม่ ให้เข้าใกล้ แสดงความเป็นเจ้าของทั้งที่บางครั้งยังไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง

ผัวกู

เป็นคำเรียกแทนสามีหลังจับได้ว่ามีเมียน้อย แล้ว ภรรยาอย่างเราตามไปตบนังเมียน้อย ( ก่อนหันมาตบผัวด้วย) คือ จะเอาอะไรเอาไป แต่อย่าเอาผัวกู นั้นเอง หรือเรียกง่ายๆ เข้าสโลแกน มีทองท่วมหัว เอาผัวไปเลย เอ้ย เสียทองท่วมหัว ไม่เสียผัวให้ใคร

เมียบังเกิดเกล้า

สามีที่มีภรรยาประเภทนี้จะใช้คำพูดอยู่สองคำ คือ "ครับ" กับ "ใช่ครับ" และใช้สรรพนามเรียกภรรยาว่า "แม่" มักอธิบายให้เพื่อนว่าเรียกตามลูก แต่เพื่อนๆ ไม่แน่ใจว่าเรียกตามลูก หรือเรียกด้วย ความเคารพยำเกรง เพื่อสวัสดิภาพของตัวเอง และที่สำคัญ ได้ลบคำว่า "นอกใจ" ออกจากสมองและพจนานุกรมในบ้านเรียบร้อยแล้ว


ผัวบังเกิดเกล้า

ไม่มีในพจนานุกรมเมียอย่างเราๆ

จบแล้ว ใครเลือกมีเมียอย่างไหน หาผัวยังไงก็เลือกเอา เองแล้ว กัน อ่านขำๆ นะจ๊ะ อย่าคิด มาก แล้ว อย่าลืมลงชื่อด้วย ว่าคุณคือ เมีย(ผัว) แบบ ไหน อิอิอิ สำหรับตัวเรา ได้กลายร่างเป็นเมียบังเกิดเกล้าไปซะแล้ววววววว




 

Create Date : 04 สิงหาคม 2549   
Last Update : 4 สิงหาคม 2549 14:15:15 น.   
Counter : 456 Pageviews.  

คู่มือดูแลสามีอย่างถูกวิธี

วันนี้เปลี่ยวอีกแล้วครับท่าน ได้นังน้องอีแมวมาหนึ่งฉบับ อ่านแล้วคิดถึงสาวๆไทยที่มีสามีไทย อ่ะ เห็นแล้วบู้ล้างผลาญดี เลยเอามาฝาก

คู่มือดูแลสามีอย่างถูกวิธี

รักผัวต้องหมั่นตบ ผัวสลบ เราตบซ้ำ

กลับดึกไม่ต้องถาม ไม้หน้าสาม หวดทันใด

ตีหนึ่ง...พึ่งถึงบ้าน แพ่นกบาล ให้หนำใจ

รักผัวไม่หวั่นไหว ซัดเข้าไป ไม่ยั้งมือ


หากผัวกลับบ้านดึก เตรียมเปิดศึก อย่ากลัวเกรง

รักผัวต้องข่มเหง ผัวเราเอง ใช่ผัวใคร

รักผัวต้องเข้มแข็ง กระหน่ำแข้ง ซัดเข้าไป

รักผัวต้องหลากหลาย ทั้งมีดไม้ ให้ครบมือ


รักผัวต้องหมั่นซ้อม โดดขึ้นคร่อม อย่าออมมือ

รักผัวต้องฝึกปรือ หมั่นซ้อมมือ ให้แม่นยำ

ผัวล้มเราเหยียบซ้ำ เอาให้หนำ ตายคามือ

ซ้อมผัวให้คนลือ ว่าเราคือ ยอดเมียไทย

มีผัวบ่นจู้จี้ ร่อนทัพพี ให้หน้าหงาย

มีผัวเอาแต่ใจ บีบคอให้ ตายไปเลย

ตีหัว?ผัวแหว่งวิ่น แอนตาซิล จ่ายทุกแผล

รักผัวต้องดูแล เพราะผัวแก่ ใกล้ลงโลง

ถ้าผัวแอบมีกิ๊ก ไม้ตีพริก ฟาดเข้าไป

กระทืบ?ผัวให้ตาย อย่าปล่อยไว้ ให้อายคน

รักผัวต้องอดทน ผัวเป็นคน ด้านกว่าใคร

โดนตบ จนหน้าหงาย ผัวยังไม่...สำนึกเลย


ผัวดีนั้นหายาก ต้องลำบาก ตรากตรำหา

รู้ไหมกว่าได้มา เหนื่อยเลือดตา แทบกระเด็น

รักผัวต้องใจเย็น เพราะผัวเป็น ของมีค่า

รักผัวต้องบูชา อย่าเที่ยวด่า ส่งเดชไป

ผัวด่า?เราต้องเงียบ ยกเจ๊เบียบ ให้ผัวไป

เผื่อฟลุ๊ค?ผัวช๊อคตาย หาผัวใหม่ สุขใจเอย
อ่านแล้วขำ แต่ก็สำหรับสาวๆบางคนที่ได้สามีเป็นอย่างในกลอน( หรือเปล่า) แต่สงสัยว่าข้อสุดท้ายจะทำกันไม่ค่อยได้ เพราะ เจ้เบียบแกอยู่ไกล ซะงั้น เดี๋ยวเจ้แกอ่านเจอ โดนแน่เลย โดนคดีเล่นของสูง ( อายุ ) อิอิอิ




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2549   
Last Update : 2 สิงหาคม 2549 16:50:15 น.   
Counter : 339 Pageviews.  

1  2  3  4  

Jiguli
Location :
กรุงเทพฯ- เมืองซานต้า Finland

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หลังมือหลังไมค์กดเลยเจ้>



คนบ้าๆ หน้าตาบ้านๆ ตัวบวมๆ เดินๆ กลิ้งๆ กับชีวิตบ้าๆ มาทำไม มาทำอะไร เป็นพี่เลี้ยงดีๆ ไหนเปลี่ยนเป็นแม่เลี้ยงได้หล่ะเรา งงจริง ชีวิต หรือเพราะชะตาฟ้ากำหนด ว่าแต่อยากรู้จักจัง ว่าฟ้านะ ใคร มากำหนดชีวิตเราได้ไง
Welcome to my world
Love is all around ,You can´t see but you can feel.
[Add Jiguli's blog to your web]