สวัสดีค่ะทุกท่าน ทั้งที่กำลังเตรียมตัวจะเป็นบัณฑิต และว่าที่บัณฑิตในปีต่อๆไปนะคะ
มีรีเควชเข้ามาเยอะเหลือเกินสำหรับการแต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเอง และการเตรียมตัวก่อนวันสำคัญ
เมื่อขอมาพลอยก็จัดให้ค่ะ ทั้งวิธีทำสวย และเรื่องต่างๆที่ควรรู้ ก่อนวันรับปริญญาเตรียมตัวให้พร้อมค่ะพบกับ
All About เตรียมตัวรับปริญญาค่ะ ****คำเตือน****
บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของพลอยเท่านั้น ห้ามดัดแปลง คัดลอก หรือนำไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต
-----------------------------
หลายๆคนก็อาจจะต้องแต่งหน้าเองนะคะ ด้วยอาจจะมีงบจำกัด หรือพ่อแม่ผู้ปกครองไม่อนุญาต
บางคนอาจจะมีเครื่องสำอางเยอะอยู่แล้ว อยากแต่งเอง พลอยเลยทำฮาวทูให้ สามารถทำตามได้
พลอยอธิบายให้แบบไม่มีกั๊กค่ะ คลิกเพื่อชมคลิปได้เลยค่ะ
[How to] สอนแต่งหน้ารับปริญญา เสร็จแล้ว
ขนตาที่พลอยใช้ในคลิปเหมาะกับวันซ้อมนะคะ เพื่อให้ถ่ายรูปเห็นชัดวันจริงควรเลือกที่สั้นและบาง
กว่านี้นะคะ สีปากอ่อนลงเล็กน้อย หรือเป็นโทนชมพูก็ดูหวานไปอีกแบบนะคะ
เสื้อเพิ่งซื้อมาเพื่อการนี้เลย ชุดพลอยอยู่ กทม หมด ปกติจะสั่งตัดให้พอดีตัว ไม่ฟิตและพอดีแขน
ตัวนี้ฟิตไปหน่อย พลอยไม่ได้จบ มข. นะคะ ยืมกระดุมน้องมา พลอยจบประสานมิตรค่ะ
จริงๆไม่อยากจะบอก ว่าตอนพลอยรับปริญญานะอ้วนจนเหลือแต่หน้าออกมาจากครุยเลย
ควรจะละเว้นความวิงค์ไว้สักอย่ืาง ถ้าตาวิงค์แก้มวิงค์แล้ว ปากไม่ต้องวิงค์ก็ได้
บางมหาลัยห้ามทาอะไรวิงค์ๆเลยด้วยซ้ำไปนะคะ ต้องศึกษาให้ดี
หัดบ่อยๆนะคะ
อย่าลืมดูวิธีเตรียมตัวรับปริญญาด้านล่างนะคะ
>>สิ่งที่ควรรู้ และการเตรียมตัวก่อนรับปริญญา<< การสระผม
ควรสระผมก่อนทำทรงผมรับปริญญา 1 - 2 วัน เนื่องจากเส้นผมที่เพิ่งสระมักจะลื่น นิ่ม ยีแล้วไม่อยู่ทรง รวบแล้วหลุด
บางครั้งต่อให้สเปรย์ดีเริสประเสริฐดี แต่หวังดีกลัวหัวเห็นหมักทรีตเมนท์ซะพริ้ว ถ้าใช้แชมพูดไม่ถูกประเภทผม หรือชุ่มชื่นเกินไป
ก็อาจทำให้ผมหลุดร่วงหลังจากทำทรงผมในวันรับปริญญาได้ถ้าสเปรย์ไม่แน่นพอ แถมเมื่อปลายผมที่หนักแล้วอยากจะม้วนลอน
ก็ยิ่งทำให้ผมลอนทิ้งตัวเร็วมากขึ้น แต่ถ้าใครหัวมันมาก เยิ้มสุดๆทุกวันก็สามารถสระได้เดี๋ยวเพื่อนที่นั่งด้านบนจะเป็นลมเอา
ความยาวของผม จริงๆแล้ว สามารถทำได้หมดแต่ก็มีข้อยกเว้นบ้าง ซึ่งถ้าไม่เพิ่งช่างผมมืออาชีพ อาจจะลำบากนิดนึง
ถ้าคุณไม่มีสกิล ความชำนาญในการทำผมมาก่อน
ผู้ชาย : ใครผมยาวต้องตัดสั้น โกนหนวดเคราให้เรียบร้อย ห้ามไว้จอน ต้องเอาออกด้วยนะจ๊ะ ทำทรงเรียบร้อย ห้ามเซอร์นะจ๊ะ
มหาลัยเอกชนอาจจะไม่เคร่งมากจอนก็พอไว้ได้ขึ้นอยู่กับกฏข้อบังคับแต่ละมหาลัย
ผู้หญิง : ถ้าใครผมสั้นมาก ก็ทำทรงผู้ชายได้ ตีกระบังนิดๆให้ดูเรียบร้อย ถ้ายาวครึ่งๆกลางๆแนะนำให้ไว้ผมสักนิดนึง
จะได้ทำทรงผมง่าย ความยาวที่ทำง่ายคือความยาวประดับอก จริงๆความยาวก็ไม่ใช่ปัญหากับการทำทรงมากนัก
แต่แนะนำว่าอย่าตัดหน้าม้าเต่อ เพราะบางมหาลัย ต้องเก็บผมด้านหน้าทั้งหมด จะตลกเอานะเธอ
*** ทรงต้องเปิดหน้าด้านซ้ายนะคะ ***
สีผมสีผมที่ถูกต้องที่สุดคือ "ดำสนิท" นักศึกษาส่วนมากจะย้อมผมเป็นสีน้ำตาลออก แต่ถ้าอยู่มหาลัยรัฐก็ต้องย้อมกลับเป็นดำอยู่ดี
หลายๆคนบอกให้ช่างผมทำสีน้ำตาลเข้ม เพราะกลัวจะย้อมใหม่ไม่ติดสีอ่อน แต่ถ้ายังเหลือสีออกแดงอยู่ บางครั้ง
ถ้ายังแดงๆอยู่ จะหลอกตัวเองว่าดำแล้วแค่ไหน อาจารย์ หรือ คนจากงานพิธี เขาไม่ได้สนใจ เนื่องจากสเปรยฉีดผมราคาแพง
เขาก็คงไม่ซื้อมาเผื่อเราเยอะมาก ดังนั้นบางคนจึงแจ็คพ็อตโดนกีวี่ขัดรองเท้าป้ายผมไปตามระเบียบไม่ได้พูดเล่น
เห็นมากับตา ดังนั้น ใครไม่อยากย้อมดำสนิท จึงตุนสเปรย์ฉีดผมสีดำไว้สำหรับจุดที่ย้อมดำแล้วยังดูแดงๆเหมือนกั๊กๆไว้
แต่บางมหาลัยถึงเป็นมหาลัยรัฐก็ไม่ซีเรียสเรื่องสีผมนะคะ ขอให้เป็นโทนสุภาพเช่นดำน้ำตาลเข้มเป็นใช้ได้ ไม่ใช่ทองมาทั้งหัว
ส่วนมหาลัยเอกชนก็ขึ้นอยู่กับกฏมหาลัยค่ะ ว่าอนุโลมไหมอย่างไร
อุปกรณ์ตกแต่งผม อุปกรณ์แต่งผม ที่ใช้ได้ก็เช่น ยางมัดผม กิฟดำ กิฟฝอย สามารถติดบนผมได้เพื่เก็บความเรียบร้อย แต่บางครั้ง
ก็ต้องซ่อนกิฟต์ดำให้เรียบร้อย และหากถักเปียห้ามเห็นหนังศีรษะ ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาลัยอีกหละ ว่ามีกฏอย่างไร
ส่วนดอกไม้ต่างๆ ห้ามประดับประดาบนเส้นผมนะจ๊ะ งานรับปริญญานะไม่ใช่งานแต่งงานนะที่รักกกกก
การเตรียมผิวหน้าก่อนวันงาน
- ถ้ารักษาสิวอยู่ ก็พยายามให้สิวยุบ หรือหายอักเสบ เพราะรอยดำสามารถกลบได้ แต่รอยนูนจะเห็นได้ชัดเวลาถ่ายรูป
- การสครับหน้าทำได้ก่อน 1-2 อาทิตย์ก่อนรับปริญญา ห้ามสครับภายใน 2-3 วันก่อนจะรับปริญญา เพราะหน้าจะไวแดด
เกิดอาการแพ้ สิวเห่อขึ้นมาได้ แถมอาจไหม้เกรียมเป็นฝ้า เพราะผิวใหม่ยังอ่อนอยู่ แสงแดดจะทำร้ายโดยง่าย
- ควรบำรุงให้หน้าชุ่มชื่นที่สุดก่อนแต่งหน้า ไม่แห้งแตกเป็นขุย
- ก่อนวันงานควรนอนให้พอ มาร์คหน้า ก่อนนอน และทาอายครีม ดื่มน้ำมากๆลดอาการผิวขาดน้ำ
-ความเครียดเป็นสาเหตุให้ผิวแย่ได้ จะทำให้แต่งหน้าไม่สวย
- การทายาหมอควรละเว้นในวันรับปริญญา เพราะทำให้เมคอัพไม่ติด พลอยเคยเป็นช่าง
เคยงงมาก ว่าทำไมแต่งหน้าแล้วรองพื้นไม่เกาะหน้าเลยลอง 10 ยี่ห้อแล้วก็ไม่ชวย เพราะนางทายาหมอมานั่นเอง
ต้องขอร้องให้ล้างหน้าออกก่อนจึงแต่งหน้าได้ ถ้าต้องทาจริงๆใช้แป้งผสมรองพื้นในการแต่งหน้าแทนการใช้แบบน้ำ
- ควรทากันแดดที่มีค่า SPF ไม่ต่ำกว่า 30 ด้วยกันหน้าไหม้ จากการถ่ายภาพกลางแจ้ง
คอนแท็คเลนส์
- การเลือกคนแท็คเลนส์ สำหรับสาวๆที่ อยากตาโต สวยงาม สายตาสั้น แต่ไม่อยากใส่แว่น สามารถใส่คอนแท็คเลนส์ได้
ทั้งแบบใส อันนี้ไม่มีใครห้าม ส่วนคอนแท็คเลนส์ สี แฟชั่น ควรเป็นสีตาธรรมชาติ เช่น ดำ น้ำตาล เทาเข้มๆ
ไม่ควรเป็นสีสว่าง หรือเห็นได้ชัด ไม่ควรมีลายเพชรลายแฉกอะไร ควรธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะทำได้
ควรพกน้ำตาเทียมไปด้วย ติดไว้ที่เพื่อนพ้องก่อนเข้าห้องประชุมก็หยอดสักนิด เพราะมักจะอากาศหนาว
ตาจะแห้งมาก เป็นอันตรายต่อดวงตาได้
การแต่งหน้า สีสันของ Makeup
- ควรเลือก เครื่องสำอางชนิดที่ติดทนและกันน้ำ เพื่อให้เมคอัพอยู่ได้ทั้งวันถึงเย็น เผื่อออกมาถ่ายรูปอีก
แถมการรับปริญญาส่วนมาก อากาศนอกห้องประชุมมัก ร้อนมากกกกกกกกกก เหงื่อไหลเป็นสายน้ำ
ต้องเลือกที่เอาอยูจริงๆหากจะแต่งเอง ถ้ามีช่างมืออาชีพแต่งให้ไม่น่าห่วง ห่วงแค่จะสวยไม่สวยเท่านั้นเอง
- สีสัน ควรเป็นโทนสีสุภาพ เอิร์ธโทน(โทนน้ำตาล) โทน ส้ม พีช โทนชมพู ทองเบาๆ สโมกกี้ก็ควรแต่พ่องาม
อย่าบล็อคหนักจนพั้งค์ไป จะน่ากลัว แถมยังดูโทรมด้วย การเลือกสีก็ให้เหมาะกับสีผิว คนผิวขาวแต่งได้ทุกโทน
แต่ก็ไม่ควรใช้สีเข้มมาก จะดูแก่ อย่าทาปากแดงแจ๊ดนะจ๊ะไม่ได้ไปเดินแฟชั่น ทาได้เฉพาะเวลาถ่ายรูป
ซึ่งจริงๆก็ไม่ควรเท่าไหร่ ส่วนสาวผิวสองสีก็แต่งได้ทุกโทนเช่นเดียวกัน แต่มักจะสวยในโทนสีพีช
** วิธีการจัดไฟ สำหรับแต่งหน้าที่บ้าน**
เนื่องจากต้องแต่งหน้าก่อนรุ่งสางไม่มีแสงธรรมชาติ ทำอย่างไร?
ถ้าไฟห้องเหลือง ให้ซื้อขั้วไฟมาใส่หลอดขาว วางไว้ที่มุมห้อง ระนาบเดียวกับใบหน้าหันเข้าหาใบหน้า
ไม่ต้องกใกล้มาก เพื่อกลบแสงเหลือง
ใครห้องไฟขาวมาก ส่องกระจกแล้วซีด ให้ซื้อไฟเหลืองมาเพิ่ม แกนไฟแบบหมุนใส่ขั้วมีขายตามร้าน
ขายอุปกรณ์ก่อสร้างค่ะ หันเข้าใบหน้า แต่วางไกลๆเดี๋ยวตาจะพร่า
ขนตาปลอม
- ไม่ควรใช้ขนตาปลอม ยาว หนา เกินไป อาจจะโดนให้ถอดได้ ควรใช้ที่ดูเป็นธรรมชาติ หรือแค่พอแบ๊ว อย่าขนาดพริตตี้
- เลือกที่เกรดดีน้อยเพราะต้องติดทั้งวัน เลือกก้านนิ่มๆ น้ำหนักเบา วางบนตาแล้วรู้สึกไม่หนัก ไม่ควรมีเพชรหรือลูกเล่นอย่างอื่นประดับ
ชุดนักศึกษาควรมีขนาดและความยาว ถูกระเบียบ นั่งได้ เสื้อไม่รัดแน่นมากจนนั่งไม่ได้ กระโปรงยาว สีตามมหาลัยกำหนด
ผู้ชายต้องใส่สูตรด้านในด้วย อาจจะร้อน แต่ต้องอดทนเหนาะ ห้ามมีเหล็กเข้าไปด้วยนะจ๊ะ ผู้หญิงต้องใส่ถุงน่องให้เรียบร้อย
ห้ามทาสี ต้องตัดให้สั้นไม่มีส่วนขาวๆออกมาค่ะ เป็นเหมือนกันทุกมหาลัย
รองเท้าต้องเป็นหนัง สีดำ ไม่เป็นหนังแก้วหรือหนังกลับ ความสูง 1-2.5 นิ้ว ส้นหนา เอาให้ชัวร์ว่าจะไม่หัก บางมหาลัยก็ให้แค่ 2 นิ้ว
หัวรองเท้าไม่ควรหัวแหลมเกินไป จะทำให้ปวดเท้าเวลาเดิน ควรเป็นหัวมน หรือหัวตัด หัวแหลมเล็กน้อย เลือกทรงที่ใส่แล้วเดินสบาย เพราะต้องเดินเยอะ
ถ้าเป็นคนไม่สูงให้ซื้อเผื่อไว้อีกคู่ 3 นิ้วขึ้น เอาไว้ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ควรใส่เดินในบ้านให้นิ่มก่อน ที่กันลื่นที่กันกัด ติดให้เรียบร้อย
อุปกรณ์ข้าวของเหล่านี้ควรมีไว้ให้ใส่กระเป๋าให้เพื่อนพ่อแม่พี่น้องเก็บไว้
1.
กระดาษทิชชู่ อุปกรณ์สารพัดประโยชน์ ให้พ่อแม่พี่น้องติดไว้ เพราะมันร้อน เหงื่อไหล ไว้ซับหน้า สารพัดนึง
ทั้งหน้าบัณฑิต หน้าพ่อแม่บัณฑิต เช็ดได้หมดพกไว้ไม่เสียหลาย
2.
กระดาษซับมัน เอาไว้ซับหน้า โดยเฉพาะคนที่หน้ามัน มากกกกกกกกกกกกกกก เอาไว้ซับเบาๆก่อนถ่ายรูปได้
3.
อีก 1 อุปกรณ์ที่ควรมีไว้ สเปร์ยน้ำแร่ ทำได้หลายอย่าง ฉีดแก้ร้อน แก้หน้าไหม้ ฉีดหลังซับหน้าก่อนเติมเมคอัพให้หน้าสดชื่น
เมคอัพอยู่ทน รีเฟรชหน้าได้ดี ทำให้หน้าไม่แห้งเวลาถ่ายรูป
4.
เมคอัพสำหรับเติม - แป้งเค้ก ที่ปัดแก้ม ลิปสติกเตรียมให้พร้อมเผื่อหลุดเผื่อลอก เพราะต่อให้แต่งหน้ามาแน่นแค่ไหน
ต้องไหลต้องหลุดบ้างเป็นธรรมดาเพราะการแต่งหน้าไม่ใช่ฉาบปูนนะจ๊ะจะอยู่ได้เป็นเดือนๆ
เมคอัพอาร์ททิสส่วนใหญ่จะแต่งหน้าให้อยู่ทนมากอยู่แล้ว ถ้าไม่มีเลยจริงๆ ยืมลิปแม่ไว้เต็ม น่าจะไม่ได้หายาก
จะได้สวยเป๊ะตลอดวัน พร้อมถ่ายรูปตลอดเวย์
5.
กระจก แน่นอน จะเช็คว่าสวยเป๊ะไหมต้องมีกระจก คนพลาดมาเยอะแล้ว ผมหลุดหน้าลอกไม่รู้ตัว ตากล้องไม่ได้รีทัชให้ทุกคนนะจ๊ะ
6.
อัมเบลล่า ร่ม นั่นเองที่รัก ควรมีไว้ เอาไว้ให้บัณฑิตและญาติเพื่อนพ้องกาง เพราะเราไม่รู้ว่าจะฝนตกแดดออกเมื่อไหร่
ไปซื้อหน้างานแพง 2- 3 เท่านะคะ
7.
เงิน - ควรมีติดตัวไว้ 1 ใบ ก่อนเข้าไปข้างใน สามารถซ่อนไว้ได้ตามจุดที่คุณคิดว่า ไม่มีหลุดชัวร์ๆๆ
ต้องไม่หล่นเท่านั้นนะ เหรียญเขาไม่ให้เอาเข้า สาเหตุที่ต้องพกเพราะว่า อาจจะพลัดหลงกับผู้ปกครอง อาจจะต้อง
โทรตู้ จ้างมอไซด์ไปส่งหน้ามอบ้างอะไรบ้างเพราะพลัดพรากกัน คนมันเยอะมาก
อีกกรณีคือ เอาใส่ซองไว้ให้น้องมาบูม เป็นพี่บัณฑิตใจดีแจกตังน้องๆ อย่าลืมนะเออ กันไว้สัก 2 ซอง
ใครคนรู้จักเยอะๆ ต้องหลายๆซอง อิ อิ
8.
เสบียง ... อาหารการกินนั่นเอง ขนมนมเนย เตรียมติดกระเป๋าเพื่อนพ้องพ่อแม่ไว้ เพราะบัณฑิตออกมาจะหิวมาก
ราวกับป็อบลอง หงุดหงิด เป็นอาการขาดน้ำ เพราะข้างในเขาไม่ให้ทานน้ำนะคะ แต่เข้าห้องน้ำได้
โดฟไปให้เต็มที่ ตอนออกมาเตรียมไว้ทาน โดยเฉพาะน้ำขาดไม่ได้ กว่าจะไปถึงร้านอาหาร หิวตายก่อนพอดี
ใครเป็นโรคกระเพาะจะงานเข้า ก่อนเข้าพิธีก็โดฟให้เต็มที่ก่อนเพราะจะหิวได้
9.
สมอลทอร์ค - เวลารับโทรศัพท์หน้าจะเปื้อน ทำให้เมคอัพลอกได้ ใส่สมอลทอร์คไว้ เวลาคุยจะได้ยินเสียงชัดด้วย
ไม่งั้นเหงื่ออะไรทุกอย่างจะมาทาบลงบนมือถือ ไม่ดีหรอก
10.
เสื่อ - อุปกรณ์สุดทันสมัย ที่ เป็นประโยชน์กับครอบครัวมากโดยเฉพาะที่มาจากต่างจังหวัดอาจจะไม่มีที่นั่ง
บอกเลย ที่นั่งในมหาลัย ที่เคยเพียงพอ มันจะไม่เพียงพออีกต่อไป ถ้าไปช้า ไม่มีที่นั่ง ลุกก็เสียม้า
ดังนั้นถ้าที่บ้านจะรอบัณฑิตที่มหาลัย ควรแบกเสื่อใบเล็กๆไว้ด้วยเผื่อปูนั่ง ยิ่งถ้าฝนตก จะยิ่งไม่มีที่นั่งเข้าไปอีก
ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์นี่ สุดๆเลยหละค่ะ แต่ถ้าบ้านในไฮโซวหน่อยก็นั่งรอในรถ หาเวลาออกไปเที่ยวระหว่างรอ
ก็ได้แต่ต้องกลับมาก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ไม่งั้นรถจะติด บันฑิตจะรอจนเป็นลมได้
กองกำลังในที่นี้ไม่ต้องตกใจ ได้แก่ ญาติ พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนพ้องนั่งเอง พยายามขนไปเท่าที่จะขนได้
เพราะจะช่วยคุณได้มากทีเดียว นอกจากมาถ่ายรูปแล้ว เพื่อนจะช่วยถือของ ถือช่อดอกไม้ ของขวัญตางๆ
ที่มีคนเอามาให้ ดังนั้นควรเตรียมถุงมาเผื่อๆด้วย จะได้ไม่พะรุงพะรัง เวลาเพื่อนรับปริญญาก็ไปเป็นลูกหาบให้เพื่อน(ต่างมหาลัย)
สลับกัน เอาเพื่อนมัธยมก็ได้เก๋ๆ ยิ่งรู้จักคนเยอะยิ่งสบาย ให้พ่อแม่พากองกำลังไปเลี้ยงข้าวด้วยก่อนกลับบ้าน
พ่อแม่แก่แล้วเดินตามไม่ไหวหรอกบางที ให้ท่านนั่งพักบ้าง วิน วิน ทั้งสองฝ่าย
สิ่งที่ควรรู้ก่อนพบ เมคอัพอาร์ททิสมืออาชีพ
- การเลือกเมคอัพอาร์ททิส ควรเลือกให้เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง อยากได้หวาน อยากได้เปรี้ยว อยากได้เป๊ะ
ดูผลงานช่างแล้วตัดสินใจเองเลย ช่างเก่งๆ คิวเต็มเร็วมาก ดังนั้นควรหาล่วงหน้าหลายๆเดือน อย่ามาหาใกล้ๆ
จะได้คิวช่วงเที่ยงคืน หน้าจะไปก่อนเพื่อน ควรเลือกเวลาหรือคิวประมาณก่อนเวลาออกเดินทาง 3 ชั่วโมงกำลังดี
อย่าลืมว่าต้องทานอะไรด้วยก่อนเข้าพิธี
- ช่างมืออาชีพ มักมีสกิลที่ดีกว่าช่างตามร้านทำผมทั่วๆไป จะมีเทคนิคแพรวพราวกว่า จากประสบการณ์แล้ว
ราคาช่างตามร้านกับฟรีแลนซ์เก่งๆไม่ต่างกันมาก ห่างกัน 500- 1000 เท่าไหร่ สนนราคาช่างเก่งๆอยู่ที่ประมาณ 15000- 50000 บาท
ถ้าจะจ้างฟรีแลนซ์แล้วอยากแต่งกับเพื่อน ก็รวมตัวกับเพื่อนเลย ตามที่ช่างพอรับได้เป็นกลุ่ม จะได้มีแต่กลุ่มเพื่อน
แต่งคนเดียวอาจจะเกร็งๆ เขินๆ ไม่รู้จะทำยังไง หรือใคร เซเลป เจ้าบุญทุ่ม จ้างมาแต่งตัวเองเลยคนเดียวที่บ้าน ราคาเหมาๆก็หลายบาท
แต่ถ้ามีสตางค์มากก็สามารถจัดให้ตัวเองได้ ส่วนมากจะให้วางมัดจำก่อนหรือจ่ายเต็มแล้วแต่สะดวก
บัณฑิตชาย อาจจะราคาถูกกว่า 500 - 1000 บาท เพราะใช้เวลาแต่งน้อยกว่าผู้หญิงครึ่งนึง
- การวางคิวกับช่างต้องเลือกช่างที่เชื่อถือได้ เงินไม่ใช่น้อยๆ อย่างน้อยถ้าเลือกคนที่มีตัวตนในโลกไซเบอร์ยิ่งน่ากลัวน้อยลง
เพราะโดยประสบการณ์ คนโดนเบี้ยวมีเยอะ เกิดจากหลายกรณี
1 ไม่ยอมวางมัดจำช่าง ช่างไม่มีหลักประกัน ดังนั้นช่างจะถือว่าไม่ได้จองคิว ดังนั้น ระแวงแต่พอดี
2. ช่างเบี้ยวเพราะป่วย ต้มตุ๋น ก็มีมากมาย ศึกษาก่อน ถามหาช่างเก่งๆจากรุ่นพี่ก็ได้ เพราะเป็นหลัประกันว่าช่างคนนี้เป็นช่างจริงๆ
ไม่ใช่มิจฉาชีพ
3. ช่างจำนัดผิด ดังนั้น ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ควรคอนเฟิร์มกับช่างอย่างน้อย 2 รอบ วันเวลา สถานที่นัด ก่อนวันงานก็โทรเช็คอีกที
-.สถานที่ในการแต่งหน้า ส่วนมากมักเป็นบ้านช่างเอง ไม่ก็เป็นโรงแรมใกล้มหาลัย เพื่อจะให้เดินทางไปยังสถานที่ได้สะดวก
ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมค่าจ้างถึงแพงนัก คุณลองรวมค่าเดินทาง ค่าสถานที่ที่แต่งหน้า ค่าเครื่องสำอาง ค่าฝีมือ และค่าทำงานล่วงเวลา ตี 1 ตี 2
มันไม่มากเลย แถมเป็นงานที่ทำให้สุขภาพทรุดโทรมด้วย ดังนั้นควรไปให้ตรงเวลาที่เขานัด ไม่งั้นคิวจะถูกรันไปอยู่ท้ายสุด
หากเขารอคุณ ก็จะทำให้คนอื่นเสียเวลารอกันไปเป็นลูกโซ่
- ควรถามว่า ช่างมีอุปกรณ์เสริมให้ไหม เช่น ขนตาปลอม เพราะช่างแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ส่วนมากจะเตรียมไว้ให้
หากคุณแพ้เครื่องสำอางแบรนด์ใด ควรแจ้งช่างก่อน เขาจะได้ไม่ใช้กับหน้าคุณ จะได้ไม่แพ้
- การเตรียมผิวหน้า ก่อนไปพบช่าง คือ มาร์คหน้าให้ชุ่มชื่น อย่านอนดึก อย่าทายาสิวที่หมอให้ทั้งหน้า จะทำให้เมคอัพไม่ติด
ช่างจะหงุดหงิดมาก แค่นั้นไม่พอ ทำให้คุณเสียเวลาล้างหน้าอีก ทาลิปบาล์มด้วยก่อนนอน ทานน้ำเยอะๆ
- เส้นผม ไม่ต้องสระผสมทรีตเมนท์จัดเต็ม ไม่ควนไม่ผม 1-2 วันกำลังดี จะทำผมเสร็จเร็ว อยู่ทรง
ถ้าไม่ไหวลงแต่แชมพูพอ ไม่ต้องลงทรีตเมนท์
- บอกสไตล์ที่ต้องการ แต่หากบอกว่า ใสๆ คุณจะไม่ได้สิ่งนั้น เพราะการแต่งใสๆ บางๆ ไม่เหมาะกับการแต่งหน้ารับปริญญา
ที่ต้องทนแดดทนฝน ทนร้อนน แถมไม่ใช่แนวที่เป็นแฟชั่นด้วยดังนั้น ช่างมักจะไม่เสี่ยง กับคำว่า ใสๆ แล้วให้ลูกค้า
ไปซีดๆๆๆ อยู่ที่งานแน่นอน แต่จะแต่งให้ดูเหมือนไม่แต่งได้หากช่างมีฝีมือและประสบการณ์พอและรูปหน้าของลูกค้า
ไม่ต้องแก้ไขรูปหน้า หมายถึงเบ้าหน้าดี แต่งใสๆแล้วโอ แต่ไม่เบาแน่นอนขอบอก
- ควรเลือกสไตล์ตากล้องที่ต้องการ ตากล้องไม่เหมือนช่างแต่งหน้านะคะ รับถ่ายได้แค่คนเดียวเท่านั้น
ดังนั้นจะหมดเร็วมากกกกกกก โดยเฉพาะตากล้องเก่งๆ ราคา 2500- 10000 กว่า (ช่างแต่งหน้าดูราคาไม่แพงเลยใช่มะ)
ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ต้องการ ครึ่งวัน หรือเต็มวัน ออกต่างจังหวัดจะมีค่ารถเพิ่มด้วยส่วนมาก
- ต้องรอรูปสักพักหนึ่ง ต้องเข้าใจว่าช่างต้องรีทัชปรับแสงบ้างไม่ใช่วันเดียวได้เลย ใช้เวลาร่วมอาทิตย์ ร่วมเดือนถึงจะได้รูป
- นัดเวลาสถานที่เจอให้ดี
- ไม่ควรถามว่าใช้กล้องอะไร ดูรูปที่เขาถ่ายออกมาสวยพอใจไหมก็พอ
- และแน่นอน ควรแต่งหน้าด้วย จากประสบการณ์ ยังไม่เคยเจอตากล้องคนไหนเลย บอกว่าไม่อยากให้บัณฑิต (หญิง) แต่งหน้า
พลอยขอตัวอย่างทรงผมและแบบแต่งหน้าของช่างหลายๆคนที่รู้จักมาเป็นแบบให้
เผื่อใครนำไปใช้ ให้ช่างที่จ้างดูว่าอยากได้แบบนี้นะ
หรือสนใจ อยากจ้างแต่งรับปริญญาก็สามารถติดต่อไปได้ค่ะ
ผมสั้น
ผมยาวกลางหลัง
ผมยาว
ผลงานบางส่วนของพลอยปีนี้ค่ะ ทำบ้างแก้หายคันมือ
ขอบคุณภาพจาก
puyfai makeup
Karajinan Makeup
- ไม่ใส่น้ำหอม [มีข้อห้ามในบางมหาวิทยาลัย]
- พกของไปกินในพิธี [ข้อห้าม]
- เหวี่ยง [อย่าอารมณ์เสีย ทุกคนที่มางานคุณล้วนเหนื่อย]
ยินดีด้วยกับว่าที่บัณฑิตทุกคนนะคะ พลอย เขียนกลั่นกรองมาจากประสบการณ์การรับปริญญาเอง
และเป็นเมคอัพอาร์ททิสมาในอดีตค่ะ
ถ้าชอบก็กดแชร์ คอมเมนท์ ถูกใจกันได้นะคะ
หรือติดตามพลอยที่แฟนเพจค่ะ
Coco Psyche