Friends Forever
Group Blog
 
All Blogs
 
ครั้งแรกที่พบเธอ

Jerry Yan...เป็นคนแรกที่ทำให้เราอยู่ไม่เป็นสุข..อยากพบ
อยากรู้จัก...หลังจากได้ดูละครเรื่องรักใสใส..หัวใจ4ดวง [
Meteo Garden ] เมื่อ 17 มกราคม 2546....แต่กว่าจะได้
เจอตัวเป็นๆของเจอร์รี่ก็อีกหลายเดือนหลังจากนั้น....


บทนำ

เหตุอันเนื่องมาจาก..การที่เธอมาเมืองไทย

เมื่อ 30 ก.ย. – 4 ต.ค. 2546เพื่อมาถ่ายทำโฆษณา ยามา

ฮ่า...ฉ้านไม่ทำงาน 5 วันเพื่อตามเธอ...แต่ว่า...ไม่น่าเชื่อ

ว่าแม้แต่เงาก็ยังไม่มีโอกาสได้ยล....สุดจะทนแล้ว...

ปฏิญาณกับตัวเองว่าถ้ามีโอกาสไม่ว่าต้องทำไงก็ตามขอให้

ฉันได้เห็นหน้าเธอแบบตัวเป็นๆสักครั้งในชีวิต.....สาธุ......

ปลายเดือนตุลาคม 2546

มีข่าวว่าเธออาจจะไปร่วมงานรณรงค์ต่อต้านเทปผีซีดี

เถื่อนที่เซียงไฮ้วันที่ 15 พย.นี้ ....ฉันรีบติดต่อน้องๆที่ร้าน

บนลิโด้ทันที..ว่าให้ซื้อบัตรงานนี้มาขายทีเถิด..พี่จะซื้อและ

จะหาคนมาซื้ออีกเพียบ...น้องเค้าก็ช่างดี..สั่งซื้อบัตรมา

ขายหลายสิบใบ...โป๊ะเช๊ะ...เจอร์รี่มีงานเป๊ปซี่ เฟซทูเฟซที่

ปักกิ่งในวันเดียวกัน...นั่นหมายความว่าบัตรงานที่เซียงไฮ้

ไม่ต้องคิดขายแฟนๆเจอร์รี่เลย....และบัตรที่ปักกิ่งก็เป็น

บัตรที่ส่งชิงโชคของคนปักกิ่ง...หายากมาก...หมดหวัง....

พฤหัสฯ 6 พย. 2546

เราเลยไปช่วยน้องๆเค้าขายบัตรที่ร้าน..เป็นพวกเชียร์แขก

อะไรประมาณนั้น..เพราะแวนเนสกับเคนและมีนักร้องดัง

อีกหลายคนไปงานเซียงไฮ้....จำได้ว่าวันนั้นวันพฤหัส6

พย.2546...ไปที่ลิโด้..มีคุณพี่ท่านหนึ่งมารับบัตรที่จองไว้

เพราะจะไปดูเคนกับลูกสาว...เราก็อวยพรขอให้เดินทาง

ปลอดภัยชมคอนเสิร์ทสนุกสนานนะคะ...พี่ท่านนั้นเลยถาม

ว่า..อ้าวน้องไม่ไปด้วยเหรอคะ....เอ่อ...คนของหนูไป

ปักกิ่งค่ะ...อ๋อ..เจอร์รี่ซินะ..เพื่อนพี่เค้ามีบัตรงานเจอร์รี่

ด้วยนะ...ห๊า..มีได้ไงคะหายากมากนะคะพี่...แต่เห็นเค้า

บ่นๆว่าอาจจะไปไม่ได้..เดี๋ยวพี่โทร.หาเค้าให้นะถ้าเค้าไม่

ไปให้ขายบัตรต่อให้น้องบุ๋มดีมะ...ดีมากๆค่ะคุณพี่ขา..โทร.

เลยค่ะโทร.เลยค่า.....

พอคุณพี่ท่านนั้นโทร.หาเพื่อนได้ก็ถามไถ่เรื่องบัตรและสา

ถยายความดีน่ารักของน้องบุ๋มให้เพื่อนฟังว่าควรค่าแก่การ

ขายบัตรต่อให้มากๆ( ทั้งที่เพิ่งรู้จักพี่เค้าเมื่อครึ่งชั่วโมงมานี้

เอง....อาจเพราะถูกชะตาหรือฟ้ากำหนดก็ไม่รู้.. ) ว่าแล้ว

ก็ยื่นมือถือให้เราคุยเอง...พอสวัสดีค่ะไปเท่านั้น...พี่ที่

ปลายสายพูดออกมา ..เราก็จำเสียงพี่เค้าได้ทันที....( ย้อน

ความกลับไปที่ วันที่ 30 กย.ที่ผ่านมา ...ณ. สนามบิน

ดอนเมือง ขณะกะลังชะเง้อว่าเธอยังอยู่ด้านในหรือไป

ออกทางอื่นนั่งรถไปโรงแรมแล้วตามที่ได้ยินมา..ก็มีพี่ท่าน

นึง...เดินไปมาอยู่แถวนั้น..เดินตรงเข้ามาพูดกับเรา...ไม่รู้

เหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นเรา....น้องๆเจอร์รี่เค้าไปแล้ว

หล่ะออกอีกประตูนึง....จริงเหรอคะพี่...จริงๆเมื่อกี้พี่เจอเค้า

ข้างในยังให้ของเค้าไปเลย...ว้าวเยี่ยมเลยค่ะพี่...ผู้จัดการ

เค้าปัดมือพี่แต่ตัวเค้ายื่นมือแทรกมารับจากมือและก้มหัว

กล่าวขอบคุณด้วยเป็นเด็กมารยาทดีมากๆ...โห...น่าปลื้ม

จัง....พี่คะพี่ชื่ออะไรคะเผื่อวันหลังเจอกันจะได้เรียกถูก..พี่

ชื่อพี่อ้วนค่ะ........วันนั้นที่ถามชื่อเราแค่คิดว่าเราเป็นเด็ก

คราวหน้าถ้าเจอกันจะได้เรียกชื่อพี่เค้าไม่ได้คิดอะไรมาก

ไปกว่านี้เลยจิงๆ ) ...เอาหล่ะกลับมาได้...นั่นพี่อ้วนรึเปล่า

คะ...นั่นใครน่ะ.....ใช่พี่อ้วนแน่ๆเลยบุ๋มจำเสียงพี่ได้....หนู

เป็นใครทำไมรู้จักพี่....หนูคือคนที่คุยกับพี่ที่แอร์พอร์ทเมื่อ

เดือนก่อนค่ะ....ที่เราคุยกันว่า...(ก็พูดๆไป)...อืม..พี่จำหน้า

หนูไม่ได้แต่พี่จำเรื่องราวนี้ได้...อย่างนี้ละกันตอนนี้ก็มีคน

มาขอซื้อบัตรนี้หลายคนให้พี่ตัดสินใจก่อนว่าไปหรือไม่ไป

แล้วจะโทร.บอกหนูละกันนะ..บอกเบอร์ของบุ๋มมา...ตอน

นั้นเราไม่ได้ขอเบอร์พี่อ้วนและก็ไม่ได้ขอเบอร์เพื่อนพี่อ้วน

ด้วย..ในใจคิดว่าถ้าได้ก็คือได้...ไม่ได้ก็คือไม่ได้..ผลคือ

นอนไม่หลับไป 3วัน

จันทร์ 10 พย. 2546

สายๆวันจันทร์มีโทรศัพท์จากพี่อ้วนหาเราบอกว่า...พี่ติด

ธุระทางบ้านคงไปงานนี้ไม่ได้..พี่เลือกที่จะขายสิทธิ์ของ

บัตรใบนี้ให้บุ๋มนะ..โอ้วพระเจ้า...พี่ขาขอบคุณมาก..บุ๋ม

โทร.ติดต่อน้องเก๋นะเพราะน้องเค้าเป็นคนดิวบัตรกับคนจีน

อีกที.......

น้องเก๋....โทร.หาน้องเก๋...แล้วกลับต้องกุ้มใจเพิ่มอีก...

บัตรถูกโก่งราคามา...แต่ในที่สุดทุกคนตัดสินใจเอา..7

ใบ...7ชีวิต....เก๋แนะนำให้โทร.หาพี่ชื่อว่าพี่เล็กเรื่องจองตั๋ว

เครื่องบินเพราะอีก 5 คนจะล่วงหน้าไปก่อน...

อังคาร 11 พย. 2546

พี่เล็กใจดีและน่ารักมากแนะนำที่ซื้อตั๋วที่เดียวกันและให้ที่

ขายตั๋วไปขอวีซ่าให้ด้วยเลย....


ศุกร์ 14 พย. 2546

ได้วีซ่าและตั๋วบินที่คอนเฟิร์มไปกลับในตอนกลางวันวัน

ศุกร์ที่14พย......เพื่อบินไปปักกิ่งห้าทุ่มกว่าของคืนนี้.....

ฉันทำไปด้าย......โทร.นัดพี่เล็กตอนเย็นพี่เล็กบอกว่าจะมี

น้องอีกคนนึงไปด้วยกันจะไปเสี่ยงหาบัตรหน้างาน..พอไป

ถึงน้องที่ว่านั้นก็คือเจ้ากรีนนั่นเอง.....รู้จักกับกรีนเมื่อตอน

งานบลูเพาเวอร์เดือนมีนาที่ผ่านมา...เพราะไปสิงอยู่ที่ลิโด้

ได้เจอกับกรีนเพิ่งกลับจากไปดูบลูเพาเวอร์มา..ก็คุยกัน..

ตื่นเต้นมากๆเลยตอนนั้นที่ได้รู้จักกับคนที่เห็นเจอร์รี่ตัว

เป็นๆ.....5555 เราสามคนเดินทางราบรื่นดี



เสาร์ 15 พย. 2546

พวกเราได้พบหน้ากันหมดแล้ว ได้แก่ พี่เล็ก กรีน บุ๋ม เก๋ พี่

แอนนา แก้ว พี และน้อย ....สามคนที่มาวันนี้ได้รู้ว่าเมื่อ

วานคนที่มาก่อนได้พบเธอที่แอร์พอร์ทด้วย...อ๋อที่แท้การ

มาก่อนดีงี้นี่เอง555วันนี้น้อยเช่ารถตู้เล็กมาเพื่อพวกเราจะ

ได้ไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนและพระราชวังกัน....น้อยพูดจีน

เก่งมาก...เป็นที่พึ่งของพวกเรา..ก่อนไปแวะหาหาซื้อของ

กินกัน..ปลื้มใจ..ซื้อแมคฯกับคนขายที่พูดแต่จีนได้ด้วย

5555 เรานั่งรถกันไกลเหมือนกันแต่ก็สนุกสนานกับการไป

เที่ยวด้วยกันมาก...มีตอนนึงที่แวะจอดรถ..พี่เล็กเดินข้าม

ถนนไปซื้อเกาลัดหรือผลไม้จำไม่ได้..คนขับพยายามบอก

กับน้อยว่าไปตามกลับมา..เดี๋ยวโดนหลอกขายของแพง

ให้...น้อยคิดว่าถ้าพี่เล็กจะซื้อไปตามก็ไม่มีประโยช์เลย

บอกคนขับว่า..ไม่เป็นไรหรอก เธอมีตังค์เยอะ ....เล่นเอา

คนขับหัวเราะและพอน้อยแปลพวกเราก็หัวเราะกันใหญ่...

เลยกลายเป็นคำล้อเลียนพี่เล็กไปเลยว่า...ทาโหย่วเฉียน..

เธอมีตังค์เยอะ


ช่วงบ่ายแก่ๆพวกเรามารวมตัวกันที่โรงแรม.ซึ่งเป็นห้องพัก

ของพี่เล็กซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่จัดงานเพื่อรอเวลาไปรับตั๋ว...

นั่งนึกๆไปยัง คิดอยู่ว่า..เราโอนเงินมาโดยยังไม่เห็นตั๋วแล้ว

ถ้าโดนเบี้ยวทำไงวะเนี่ย.....พอถึงเวลาพวกเรามองจาก

หน้าต่างลงไปเห็นคนมาเยอะแล้วและมีป้ายรูปเจอร์รี่เต็ม

เลย...ได้เวลาเดินทางแล้ว....มีนักข่าวท้องถิ่นมาสัมภาษณ์

พวกเราด้วย..ตอนจะเข้างานบัตรของน้อยหล่นหายไป....

เลยแก้ปัญหาด้วยการที่แก้วเข้าไปเอาบัตรของพวกเราที่

เข้าไปแล้วออกมาใบนึง..ตอนนั้นบุ๋มยังอยู่ข้างนอกกับน้อย

และกรีน....พอเราเข้าไปใกล้เริ่มงานก็มีคนจีนถือบัตรของ

น้อยเข้ามา..น้อยบอกว่าเป็นของน้อยทำหายด้านนอกคือ

เรามีพยานและบัตรของเก๋กับแก้วซึ่งที่ติดกันอยู่ด้วย...สาว

จีนคนนั้นเค้าบอกว่าซื้อที่หน้างานเมื่อกี้นี้เองราคา 100

เหรียญ....พระเจ้าพวกเราซื้อ 2000 เหรียญ...ที่ตั๋วไม่มี

ราคาเพราะเป็นตั๋วชิงโชค...เรื่องที่นั่งไม่มีปัญหาเบียดๆกัน

ได้..น้อยต่อรองขอตั๋วเป็นที่ระลึก..เค้าก็ให้นะแต่มีข้อแม้ว่า

ถ้ามีการจับหางบัตรให้ขึ้นไปเล่นเกมส์น้อยต้องให้เค้า..

น้อยตกลงพลางคิดในใจว่าอย่าจับได้เบอร์ตรูนะโว้ย55555

ที่นั่งแยกเป็น 3 ..3...และ1 ส่วนกรีนต้องแยกไปข้างหลัง

เพราะหาซื้อบัตรได้เมื่อกี้เอง....เราได้นั่งเศษ 1 ที่เหลือใน

แถวที่ 7 ....คนนั่งข้างๆพูดอังกฤษไม่เป็นเราก็พูดจีนไม่

ได้..เออ..ดี...ดูอย่างเดียวเลยไม่ต้องคุยกัน....

ตื่นเต้นมากๆระหว่างนั่งรอ.....พอเจอร์รี่ออกมา...อยากจะ

ร้องไห้..แต่ก็ร้องไม่ออก....นั่งมองเค้าด้วยความรู้สึกว่า...นี่

น่ะหรือ..คนที่เราอยากเห็นหนักหนา...ขอสักครั้งในชีวิตให้

ได้เห็นคนๆนี้....ได้ยินเสียงของเค้าแบบไม่ต้องผ่านทีวี..

เห็นหน้าเห็นตัวเค้าแบบไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์.....ก่อนมา

คิดว่าช่างภาพเก่งมากที่ถ่ายภาพเค้าได้น่ารักมาก...มีแต่ท่า

ทางที่น่ารักทั้งนั้น...ทั้งจับผมจับหู..ยิ้ม..หัวเราะ..เขิน...

ฯลฯ...แต่พอมาเห็นเค้าแล้ว...ถึงรู้ว่า..ไม่ต้องเก่งหรอก...

กดๆไปเถอะชัตเตอร์น่ะ....เพราะเป็นธรรมชาติของเค้า

เลย...ทุกๆอากัปกิริยาน่ารักน่าดูไปหมด...ท่าทางที่ถูกถ่าย

ภาพมาลงในหนังสือหรือในอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นท่าทางพื้น

ฐานของเค้าเลย555คือทำท่าน่ารักตลอดเวลา.....แบบไม่

เสแสร้งด้วย.....อีกอย่างนึงคืออยากมาจับผิดเค้าด้วยว่า

เค้าสร้างภาพรึเปล่า?..สิ่งที่เราเคยอ่านจากเพื่อนๆคนจีนที่

เจอเค้ามาเขียนไว้นั้นจริงรึเปล่า...ไม่น่าเล้ย....กะจะมาจับ

ผิดกลายเป็นติดกับดักของเค้า...ประทับใจมากที่เค้าใส่ใจ

ทุกคนจริงๆอย่างที่เคยรู้มา...สายตาเค้ามองส่งคนที่เล่น

เกมส์บนเวทีจบลงแล้วต้องเดินลงจากเวทีทุกคน...ย้ำ..ว่า

ทุกคน....และพยายามสื่อสารกับทุกคนที่อยู่ข้างล่าง....เรา

ฟังไม่รู้เรื่องเลย...รู้แต่มองหน้าเค้าอย่างเดียว...มองท่าทาง

ของเค้า...เดิน..วิ่ง....พูด...ยิ้ม...หัวเราะ...

ช่วยคนเล่นเกมส์...หรือแม้แต่ร้องไห้.....เก๋โชคดีได้ขึ้นไป

เล่นเกมส์ขณะที่เตรียมเล่น เจ้าหน้าที่อธิบายวิธีเล่นอยู่มุม

หนึ่งของเวที..เค้าซึ่งยืนอยู่อีกมุมนึงเดินข้ามไปบอกว่าไม่

ต้องอธิบายเธอฟังไม่ออก(อันนี้เก๋ลงมาเล่าให้ฟัง..ว่าเค้า

พูดประมาณนี้เหมือนจะรู้ว่าไม่ใช่คนจีน) ...เค้าใส่ใจมากๆ..

ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย...ยิ่งนั่งอยู่ในนั้นนานเท่าไหร่...

ความน่ารักของเค้าก็ยิ่งส่องประกายออกมาให้เราได้

เห็น....ช่วงตอนท้ายที่เค้าร้องไห้เพราะความซาบซึ้งใจกับ

แฟนๆที่ทำเพื่อเค้าเมื่อได้ดูจากวีทีอาร์....เราตื้นตันใจจัง

น้ำตาคลอๆตามเลย...ท่าสะอื้นของเค้า...มันเหมือนใน

ละครที่เค้าเล่นนี่เค้าเล่นละคะรอยู่หรือตอนที่เล่นละครเค้า

เล่นเป็นธรรมชาติกันนะเนี่ย?....ฉันใช้เวลา 1 วินาที คิด

แล้วตอบตัวเองว่า...บ้าน่า...นี่แหล่ะตัวจริงของเค้าหล่ะ..ที่

เค้าเล่นในละครมันสะท้อนถึงตัวจริงของเค้าให้เราเห็นเลย

ต่างหาก....ทุกคนส่งเสียงร้องให้เค้าอย่าร้องไห้..สู้ๆ....แล้ว

เค้าก็ต้องไป...ฉันมองเบื้องหลังของเค้าเป็นครั้งสุดท้าย

ของคืนนี้....เมื่อไฟในโรงละครเปิดขึ้น..กรีนเดินมาหา..จำ

ได้ว่ากอดกับกรีนกลางงานและร้องไห้ด้วยความดีใจที่ได้

เจอเจอร์รี่ตัวเป็นๆแล้ว...เมื่อออกมากินข้าวกันและนัดกัน

ถึงภาระกิจพรุ่งนี้แล้วก็แยกย้ายกันไปนอน...คืนนี้ขอนอน

กับพี่เล็กพร้อมกรีนเพื่อไม่ไปเบียดกับเพื่อนอีก5คน...พี่

เล็กก็ใจดีมากให้เรา2คนนอนอยู่ด้วย....เรานอนคุยกับกรี

นว่า..พี่อยากเห็นเค้าใกล้ๆกว่าวันนี้จัง..กรีนบอกว่าถ้าเราไม่

โชคร้ายเกินไปพรุ่งนี้น่าจะได้เจอใกล้ๆนะพี่...กรีนพี่เป็นไร

ไม่รู้อ้ะ..พี่บุ๋มกรีนเข้าใจกรีนเข้าใจ.....นอนกันเถอะพี่5555

อาทิตย์16พย.2546

ตื่นมาเจอกรีน..พี่เล็กหายไปคาดว่าคงไปกินอาหารเช้า....

เรา2คนรีบอาบน้ำแต่งตัวกะว่าอยากไปดูร้าน s&k ของที่

นี่...พอพี่เล็กกลับขึ้นมาก็ออดอ้อนให้พาไป..มีเวลา 1

ชั่วโมงไปกลับเพราะเราต้องรีบไปดักรอที่แอร์พอร์ทก่อน

ไปได้กินโยเกิร์ตคนละถ้วยที่พี่เล็กแฮปมาจากห้องอาหาร

มาให้..น่ารักจริงๆพี่สาวคนนี้....เราไปถึงเดินหาร้านนาน

แล้วก็ไม่ได้ซื้ออะไรเพราะมีแต่เสื้อผ้าเมืองหนาวจัดขาย...

ซื้อมาคงไม่ได้ใช้เป็นแน่...เราถ่ายรูปกับป้ายข้างร้านที่มี

ภาพเอฟโฟร์...ทำให้ได้รู้จักกับเพื่อนชาวฮ่องกง( ที่ต่อมา

เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันกับจนถึงบัดนี้) ...เรา3คนนั่งรถกลับ

โรงแรมเพื่อรีบไปสนามบิน..พี่เล็กขอหนังสือพิมพ์ของคน

ขับแท็กซี่ที่นั่งมาเพราะมีรูปเจอร์รี่ในนั้น...เออ..เค้าให้ด้วย

แฮะ5555พอไปถึงก็พบเพื่อนอีก5คน..พวกเราเข้าไปรอใน

ส่วนที่เช็คอินซึ่งยังเช็คอินไม่ได้มันเร็วไป...ที่สนามบินนี้

เค้าจะกั้นส่วนคนที่ไม่มีพาสปอร์ตและตั๋วบินเข้าไม่ได้...

โดยจะไปมีส่วนกั้นตรงอิมมิเกชั่นอีกด่านนึง...ระหว่างนั่งรอ

อยู่เห็นพนักงานทำความสะอาดวิ่งๆกันได้ยินอะไร..ซวี่ๆๆ...

ต้องรีบกระโดดเหยงขึ้นมาเลย..สักครู่ได้ยินเสียงกรี๊ดดัง

มาก..พวกเรารีบวิ่งไปที่ประตูทางเข้าโดยทิ้งรถเข็นกระเป๋า

ให้พี่เล็กวิ่งเข็นตาม555เจริญจริงๆฉ้าน..(.พี่เล็กจ๋าบุ๋มขอ

โต๊ด...)...เราไปยืนตั้งแต่ต้นทางเขามาเลย..เห็นไฟ

แฟรชแว่บๆๆๆเสียงร้องกรี๊ดดังมั่กมาก...เห็นเค้าแล้ว.....ผม

สวยมาก....พอเดินเข้ามาการ์ดล้อมรอบเค้าไว้..เราเดินอยู่

ข้างซ้ายของเค้าเรียกเจอร์รี่สวัสดีค่ะ...ตลอด...ได้ยินน้อย

พูดภาษาจีนกับเค้า(ตอนหลังน้อยมาบอกว่าพูดกับเค้าว่าคน

ไทยรอคอยคุณอยู่นะประมาณนี้)....เค้าเดินช้ามากและยิ้ม

ตลอด....ไม่น่าเชื่อ...ตานี่ทำดีตบตาฉ้านอีกแล้ว555เดินไป

ถึงทางโค้งด้านในเห็นพี่เล็กยกป้ายขึ้นมากลับหัวและเค้า

หัวเราะทำนิ้วหมุนให้พี่เล็กรู้ว่ากลับหัวด้วยแต่พี่เล็กไม่รู้

ตัว...เราเข้าไม่ถึงตัวเลยฝากเข็มกลัดที่ทำเองรูปเค้า 10

กว่าอันในถุงเดียวกับของๆกรีนให้กับเจ้าหน้าที่คนนึงบอกว่า

ฝากให้เจอร์รี่ด้วย..เค้าก็ยิ้มพยักหน้าบอกว่าโอเคๆ...( ตอน

หลังมารู้ว่าเธอคือ มิสลี เจ้าหน้าที่ของเป๊ปซี่น่ะเอง ) ...พอ

ใกล้ถึงจุดตรวจอิมมิเกชั่นเหล่าบรรดาแฟนก็วิ่งนำล้ำหน้า

กันไปเพื่อไปดักรอดูด้านหน้า...แฟนนี่เดินไปยื่นเอกสาร

แล้ว..เจอร์รี่ยังยืนอยู่ด้านหลังตรงกลางของเหล่าการ์ดเป็น

วงกลมเหมือนไข่แดงโดนล้อมเอาไว้...ณ. ตอนนั้นมีเรายืน

อยู่คนเดียวด้านข้างของเค้า..เรายื่นมือออกไปเรียกชื่อ

เค้า..เจอร์รี่เจอร์รี่..( คือมันคิดอะไรไม่ออก..จะพูดอะไรก็

พูดไม่ออกด้วย ) ...เห็นเค้ายืนนิ่งอยู่ตรงกลางวงล้อมของ

การ์ด...แล้วเค้าก็หันทั้งหน้าและทั้งตัวของเค้ามาทางเรา...

ยื่นมือขวาของเค้าออกมาจนสุดมือของเค้าในขณะที่มือ

ของเราก็ยื่นจนสุดมือของเราแล้วแต่มือของเราสองคนก็ยัง

ไม่ถึงกัน...เค้าทำหน้าแบบสื่อความรู้สึกว่า..ขอโทษนะมัน

ไม่ถึง..ว่าแล้วเค้าก็เขย่ามือข้างขวาที่ยื่นออกมาของเค้า

เหมือนว่าเรากำลังจับมือกันอยู่..ฉันตกตะลึงในพฤติกรรม

ของเค้า..มองหน้าเค้าแล้วมองมือเค้าแล้วฉันก็รีบเขย่ามือ

ของฉันตามไปด้วยเหมือนว่าเราได้จับมือกันแล้วนะ.....ตา

เค้ายิ้มด้วยอ้ะ...วินาทีนั้นไม่รู้ว่าตัวเองแสดงอาการเอ๋อยัง

ไงออกไป..( น้ำลายไหลเปล่าก็ไม่รู้5555)..รู้แต่ว่าเห็นแสง

ระยิบระยับอยู่ตรงหน้าเค้าตรงผมเค้า ( มีคนแซวว่าอ่าน

การ์ตูนญี่ปุ่นเยอะไป..ก็เวลาที่ใครๆเห็นพระเอกจะต้องมี

แสงระยิบระยับไง555) ...แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆพี่

น้อง...คาดเดาว่าช่วงเวลาที่จ้องหน้าจ้องตาเค้าตรงนี้น่าจะ

ประมาณ 10 -15 วินาที...(ทำไมเค้าต้องทำขนาดนี้ด้วย..

เค้ายืนเฉยๆก็ได้..รึแค่หันมายิ้ม1ครั้งก็พอ...ฉันไม่เข้าใจ

จริงๆ)....แล้วเค้าก็หันกลับเดินไปเพื่อผ่านจุดตรวจ...เราก็

วิ่งไปเกาะเค้าท์เตอร์แถวๆนั้น....พอเค้าเดินผ่านไปแล้ว..

พวกเราตรงนั้นก็ตะโกนบอกว่า..เจอร์รี่บั้ยบัย....เจอร์รี่หัน

กลับมาโบกมือให้ปากพึมพำว่า..บั้ยบัย....แล้วเดินหายเข้า

ไปตรงทางเดินที่เป็นพวกร้านดิวตี้ฟรี....พอเค้าไปแล้วจรา

จลย่อยๆก็ยุติลง...ตอนที่พวกเรามานั่งกินข้าวกันแล้วน้อย

ถามเราว่าบุ๋มเมื่อกี้เจอร์รี่ใส่เสื้ออะไรสีอะไร?...อืมไม่รู้....

แล้วใส่กางเกงอะไร?...อืม...ยีนส์มั้งไม่รู้สิ...รองเท้าไม่

ต้องถามไม่รู้...รู้แต่ผมสวยมาก.55555ประสบการณ์ของ

แต่ละคนได้รับไม่เหมือนกัน....ใครจะเป็นอย่างไรบ้างฉัน

ไม่อาจรู้....ฉันรู้แค่เพียงว่าฉันคิดไม่ผิดจริงๆที่รักคนๆนี้..

เพราะเค้าควรค่า.....เพราะเค้าเป็นอย่างที่ฉันเคยรู้มา...ฉัน

ได้มาพิสูจน์ความเป็นตัวของเค้าแล้ว...

แต่ฉันก็ค่อนข้างรู้สึกไม่ค่อยดีกับตัวเองในบางเรื่อง..นั่นก็

คือ..ฉันคงต้องผิดคำพูดกับตัวเองที่ว่า....จะขอเห็นหน้าเค้า

สักครั้งเดียวในชีวิตน่ะ...ฉันคงทำไม่ได้แล้วหล่ะ...

--------------------------------------------------------จบ------------------------------------------------------------------------




Create Date : 31 พฤษภาคม 2550
Last Update : 4 มิถุนายน 2550 21:35:31 น. 1 comments
Counter : 195 Pageviews.

 
พูดจริงเปล่า


โดย: yangiuyi วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:0:07:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

jerry_bim
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หวัดดีค้ะเพื่อนๆบุ๋มเองจ้า...ในบางครั้งพวกเราอาจยุ่งวุ่นวายอยู่กับเรื่องต่างๆในชีวิตจนลืมนึกถึงเพื่อนไป..แต่ในบางครั้งก็อาจต้องการกำลังใจหรือคำแนะนำจากเพื่อนบ้าง..เพื่อนก็คือเพื่อน...เราหวังที่จะเป็น friends forever
กับเพื่อนทุกคนค่ะ.
...เพราะตัวเองเป็นคนล้าสมัย ก็เลยเพิ่งมาเริ่มทำบล็อก...หวังว่าคงไม่ช้าเกินไปสำหรับเพื่อนๆนะค้า. ^_^ชีวิตนี้ไม่มีแฟนไม่เป็นไร...แต่ไม่มีเพื่อนนั้นไม่ได้จริงจริง^_^
Friends' blogs
[Add jerry_bim's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.