images by free.in.th
"
Group Blog
 
All blogs
 
สื่อสารอย่างมีเสน่ห์ ในยุค Social Media (1)

ไม่ต้องบอกก็ทราบกันดีว่าทุกวันนี้ Social Media มีอิทธิพลมากแค่ไหนในชีวิตประจำวันของคนเรา

รู้มั้ยว่า...ปัจจุบันมีคนใช้งาน Social Media อย่าง Facebook ถึง 900 ล้านคน หรือทุก ๆ 7-8 คนบนโลกใบนี้ จะมี 1 คนที่ใช้ Facebook  Smiley  ส่วน Twitter เองก็ไม่น้อยหน้า มีผู้ใช้งานถึงกว่า 550 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 13 ของประชากรโลกเชียวนะ!! แล้วก็มีคนนับล้านที่ใช้เวลามากกว่า 16 ชม./วันบนโลกออนไลน์ และเกือบทั้งหมดนี้สื่อสารกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก เฉพาะ Facebook อย่างเดียว ในแต่ละวันมีการอัพโหลดรูปภาพถึง 250 ล้านภาพ และทุกวันก็มีคนกด “Like” ถึง 3,000 ล้านครั้ง!!!

ลองคิดดูสิว่า จะมีข้อมูล รูปภาพ หรือข่าวสารปริมาณมหาศาลขนาดไหนที่ไหลเวียนในระบบนี้อยู่ทุก ๆ นาที แล้วข่าวสารทางการตลาด ข้อมูลประชาสัมพันธ์ หรือแผนโปรโมทต่าง ๆ ที่คุณอุตส่าห์นำเสนอออกมาจะไปอยู่ตรงไหน หรือทำออกมาแล้วใครจะเหลียวแล Smiley

แน่นอน ใครก็อยากนำพาธุรกิจให้แทรกตัวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่เชื่อมโยงกับผู้คนจำนวนมหาศาลในชุมชนแห่งนี้ แม้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะแสดงตัวตนให้เป็นที่รู้จัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้พวกเขายอมรับ ยอมสนิทสนมคุ้นเคย หรือยอมหันมาฟังในสิ่งที่คุณอยากบอก และที่สำคัญ ทำอย่างไรพวกเขาจึงจะยอมติดต่อคบค้ากับคุณหรือธุรกิจของคุณไปนาน ๆ (ก็เค้ามีทางเลือกตั้งมากมาย เรื่องอะไรที่จะต้องสนคุณด้วยล่ะ!! Smiley ) ทางออกสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ต้องรู้จักเข้าหาพวกเขาให้ถูกที่ ถูกเวลา และในแบบที่พวกเขาชอบ

วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาฝาก ถึงวิธีการโฆษณา รวมถึงการสื่อสารการตลาดอย่างมีเสน่ห์ ที่จะทำให้ใคร ๆ ก็อยากเข้ามา Like & Share อยากติดตามและสนับสนุนธุรกิจของคุณไปเรื่อย ๆ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำธุรกิจ ไม่ใช่นักโฆษณาหรือนักการตลาด เพียงแค่มี Blog ส่วนตัว ใช้ Twitter, Facebook  หรือใช้สื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ ก็สามารถหยิบเอาทริกดี ๆ เหล่านี้ไปใช้สร้างแฟนประจำของตัวเองได้ไม่ยาก

เอาละ...เรามาเริ่มจากเคล็ดลับข้อแรกกันเล้ย  Smiley

1.  ให้ดึงความสนใจด้วยความรู้สึกร่วม 

ที่ผ่านมา เรามักเห็นโฆษณาที่เน้นความสะดุดตาเร้าใจ ยิ่งแปลกใหม่น่าตื่นตาตื่นใจได้ยิ่งดี แต่แบบนี้ถือเป็นการดึงดูดความสนใจระยะสั้นที่ฉาบฉวย กระตุ้นความสนใจได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว สมัยนี้ต้องดึงความสนใจด้วย “ความรู้สึกร่วม” …แล้วความรู้สึกร่วมคืออะไรล่ะ ? ถ้าให้บอกง่าย ๆ คืออะไรก็ตามที่ “โดนใจ Smiley” เพราะมันตรงกับค่านิยม ความชอบ รสนิยม ความถูกต้อง หรือความดีงามที่อยู่ในตัวคนเรานั่นแหละ

จริง ๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่โดยทั่วไปแล้วมนุษย์เราก็มีพื้นฐานที่คล้าย ๆ กัน อย่างเช่น ถ้ามีสินค้า 2 ชิ้นที่คุณภาพใกล้เคียงกัน ชิ้นหนึ่งอาจจะแพงกว่า แต่มีเรื่องราวเบื้องหลังว่าผลิตขึ้นมาโดยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างไร ใช้สินค้านี้แล้วจะมีส่วนช่วยโลกช่วยสังคมได้อย่างไร ก็แน่นอนว่าย่อมมีหลายคนที่จะยอมจ่ายแพงกว่า เพราะรู้สึกดี ภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยเหลือสังคม (ก็แหม...ลึก ๆ แล้วใครก็อยากเป็นคนดีทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่ติดเรื่องตังค์ในกระเป๋าซะอย่าง Smiley)

รู้อย่างนี้แล้ว ครั้งหน้าหากจะโฆษณาหรือสื่อสารอะไรออกไป ก็อย่าลืมนำ “ความรู้สึกร่วม” มาเป็นตัวชูโรง สอดแทรกแทนการโฆษณาคุณสมบัติอันเลอเลิศของผลิตภัณฑ์ที่จะนำเสนอด้วยก็แล้วกัน  

แต่แหม...เล่าแล้วก็ไม่เห็นภาพ ว่าเจ้าความรู้สึกร่วมนี้จะมีผลต่อความรู้สึกของคนเราได้แค่ไหน ถ้าอย่างนั้นเราลองมาดูตัวอย่างจริงกันหน่อยดีกว่า ซึ่งตัวอย่างที่ว่านี้เป็นโฆษณาระดับโลกที่คว้ารางวัล Gold Lion มาจากงานประกวดโฆษณานานาชาติที่เมืองคานส์ เมื่อปี 2010 เชียวนะ Smiley ...แต่เดี๋ยวจะชมกันไม่สนุกเพราะเป็นภาษาอิตาเลียน จึงต้องขอเล่าความเป็นมาก่อนว่า เป็นแคมเปญโฆษณาเบียร์ไฮเนเกน Smiley ที่ต้องการเรียกคืนบรรยากาศความครื้นเครงของการซดเบียร์พร้อมกับส่งเสียงเชียร์บอลของคนอิตาลีให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากดูท่าว่าจะซบเซาลงไป Smiley  จึงวางแผนแกล้งจัดคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิกขึ้นมา ในวันเดียวกับที่มีการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ที่มีทีมโปรดจากสโมสรอีตาลีอย่างทีม A.C.Milan ลงชิงชัย แล้วก็ให้คนรอบตัวของบรรดาแฟน ๆ A.C.Milan อย่างเพื่อน แฟนสาว หรือแม้แต่อาจารย์ ไปขอร้อง (อืมม...อาจจะแกมบังคับด้วยก็ได้นะ  Smiley) ให้ดาราจำเป็นกลุ่มนี้ไปชมคอนเสิร์ตเป็นเพื่อนหน่อย Smiley

และแล้วพอถึงวันงาน สาวกทีม A.C.Milan นับพันต่างเดินหน้าตูมเข้ามาในงานกันเป็นแถว ฟังดนตรีคลาสสิกไปก็หาวหวอดกันไป Smiley....ปล่อยให้เบื่อสุด ๆ ไปสักพัก แล้วคำเฉลยก็ค่อย ๆ เผยขึ้นมาว่า...

"ไม่กล้าปฏิเสธหัวหน้าใช่มั้ยล่ะ” 

"ไหนจะแฟนอีก”

"แต่ยังไง ๆ ก็ยังคาใจกับแมตซ์นั้นอยู่ล่ะสิ”

"ทำใจแล้วใช่มั้ยว่าอดดูแน่ ๆ”

จากนั้น…… ถึงตรงนี้ก็ลองติดตามชมกันเองแล้วกัน ว่าอารมณ์ความรู้สึกร่วมและความประทับใจสำหรับคนคอเดียวกันจะพีคขึ้นมาสุด ๆ ขนาดไหน  Smiley

  

2. แบ่งปันปรัชญาการดำเนินธุรกิจ 

พอพูดว่าปรัชญาการดำเนินธุรกิจอาจฟังดูยากไป ถ้าจะให้ง่ายหน่อยก็อาจจะบอกว่าเป็นจุดมุ่งหมาย ความมุ่งมั่น หรือสิ่งดี ๆ ที่อยากนำเสนอผ่านการดำเนินธุรกิจหรือสิ่งที่เราทำนั่นเอง ถ้าเป็นเรื่องเล็ก ๆ ลงมาหน่อยก็อย่างเช่น เว็บนี้ บล็อกนี้ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ระดมทุนช่วยน้องหมาจรจัด หรืออะไรก็ว่าไป

ทีนี้ พอมีปรัชญาการดำเนินธุรกิจแล้ว ก็ต้องรู้จักถ่ายทอดและแบ่งปันสิ่งนี้ให้คนอื่น ๆ ได้รับรู้ด้วย เพื่อให้เขาเกิดความเข้าใจ เกิดความรู้สึกร่วม (Smiley เหมือนข้อแรกนั่นแหละ) แล้วสุดท้ายก็อยากสนับสนุนกิจกรรมหรือสิ่งที่คุณทำไปตลอด ขอยกตัวอย่างคลาสสิกระดับตำนาน ที่ถ้าไม่พูดถึงคงเอาต์แย่ นั่นคือปรัชญาการดำเนินธุรกิจของ Apple Inc. ที่เรียกว่า “Think Different” ของ สตีฟ จอบส์ ซึ่งนอกจากจะออกแคมเปญโฆษณาที่สร้างความฮือฮาในสมัยนั้นแล้ว  สิ่งที่ Apple ทำออกมาทั้งหมดทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ นำเสนอบริการ ไปจนถึงการตกแต่งร้านค้า ล้วนตอกย้ำถึงการปฏิวัติสิ่งเก่า สร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ดีกว่าเพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติอย่างชัดเจน

ลองมาดูโฆษณาชิ้นนี้กันเลยดีกว่า...

แต่ถ้าใครฟังไม่ทัน ก็มีบทบรรยายของนักแปลฝีมือเยี่ยมมาให้ดูด้วยนะ จะได้ดื่มด่ำกับปรัชญาการดำเนินธุรกิจของ Apple ให้เต็มที่ และรู้ซึ้งว่าทำไม Apple ถึงเข้าไปอยู่ในใจผู้คนได้มากมายถึงเพียงนี้  Smiley 

“นี่คือพวกคนเพี้ยน คนประหลาด คนกบฏ พวกคนตัวปัญหา คนที่ยืนยันจะตอกหมุดกลมลงในรูเหลี่ยมให้ได้ คนที่มองโลกด้วยสายตาที่ไม่เหมือนใคร พวกเขาเกลียดชังกฎเกณฑ์ พวกเขาไม่เคยพอใจสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มีคนสะเทือนใจในคำกล่าวของพวกเขา และก็มีคนที่ค้านหัวชนฝา มีคนชื่นชมพวกเขา และก็มีคนที่ตำหนิติเตียน แต่ไม่ว่าใครก็มองข้ามพวกเขาไปไม่ได้ เพราะพวกเขาเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ในโลกไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาทำให้มนุษยชาติก้าวไปข้างหน้า แม้ใครจะมองว่าพวกเขาแปลกประหลาด แต่สำหรับเรา...พวกเขาคืออัจฉริยะที่แท้จริง เพราะคนที่เชื่ออย่างสุดหัวใจว่าตัวเองจะเปลี่ยนโลกได้ คือคนที่เปลี่ยนโลกได้จริง ๆ” - Think Different - แปลโดย ประวัติ เพียรเจริญ

...

โอ๊ะ!! พอก่อนดีกว่า...เยอะไปเดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน Smiley

ยังไงก็ได้ข้อมูลดี ๆ ไป 2 ข้อแล้ว ลองนำไปใช้ดูก่อน แต่ยังเหลือเคล็ดลับสร้างเสน่ห์สำหรับการประชาสัมพันธ์บนโลกออนไลน์ อีก 3 ข้อ ขอให้อดใจรอติดตามตอนต่อไปกันหน่อยน้า...Smiley

 




Create Date : 30 สิงหาคม 2555
Last Update : 13 กันยายน 2555 17:36:01 น. 0 comments
Counter : 2319 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

textbook
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. สรรค์สร้างสาระสู่สังคม
มุ่งมั่นผลิตตำราวิชาการและหนังสือเทคโนโลยีสาขาต่าง ๆ การบริหารจัดการ ด้านส่งเสริมการศึกษา เพื่อการพัฒนาตนเองและองค์กร สำหรับภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม
Friends' blogs
[Add textbook's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.