• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• My Home
• รักษาสิวด้วยตนเองด้วยยาตามท้องตลาด

>> ย้อนรอย 16 << How to : สวย 30 นาที (ง่ายมาก) How to : 30 นาที (เรียบง่าย & รวดเร็ว) เนื่องจากวันนี้มีเหตุจำต้องไปงานรุ่นน้องรับปริญญาที่ ม.รังสิต จึงจำเป็นต้องแต่งหน้า เลยขอบรรเลงแบบบางเบาอัดตาดำๆ เพราะชุดที่ใส่เป็นสีขาว-ดำ ไหนๆ ได้แต่งหน้าทั้งทีเลยขอเก็บเป็นฮาวทูสะเลย ระหว่างรอคุณเพื่อน (กาน) ขับรถมาจากปราจีนฯ 30 นาที ที่ว่าคือ....... 2 นาที ทาครีมบำรุง + กันแดด 3 นาที ทาเบสเขียว + คอนซิวเลอร์ (รอแห้ง) 5 นาที รองพื้น + ซับหน้าด้วยพับ + ปัดแป้งฝุ่น (สีเนื้อ) 15 นาที ทาตา + กรีดตา + ดัดขนตา + ติดขนตา (เฉพาะหางตา) + ปัดมาสคาร่า 5 นาที ปัดแก้ม + ทาลิปสติก ขั้นตอนที่ 1 ทาครีมบำรุงให้ทั่วหน้าและทากันแดด ขั้นตอนที่ 2 ลง Primer ของ Model Co ทิ้งไว้สักนาทีและทาเบสเขียว (แต้มเฉพาะรอยดำ รอยแดงสิว) รอให้แห้งสักครู่ แต้มคอนซิวเลอร์ลงซ้ำบนเบสเขียวอีกที เพื่อเป็นการกลบรอย ค่อยๆ แตะอย่างเบามือ ขั้นตอนที่ 3 ลงรองพื้นบนผิวหน้าให้ทั่วและเกลี่ยเบาๆ เนื่องจากจะได้ไม่เป็นการถูเนื้อเบสกับคอนซิวเลอร์ติดไปด้วย จากนั้นซับความมันของการลงรองพื้นด้วยพับ และปัดด้วยแป้งฝุ่นสีเนื้อ ขั้นตอนที่ 4 ทาอายแชร์โดว์สีน้ำตาลเข้มเฉพาะรอยพับเปลือกตา และนำสีน้ำตาลอ่อนมาทาไล้ขึ้นตามรูปลูกศรด้านบน เบลนสีให้กลมกลืนกันตรงช่วงรอยพับเปลือกตา ขั้นตอนที่ 5 กรีดตาด้วยอายเจล (สีดำ) และดัดขนตา + ติดขนตาเฉพาะช่วงหางตา และปัดมาสคาร่าเพื่อให้ช่วงขนตาเด้งเสมอกันและขนตาปลอมดูกลมกลืนกับขนตาจริงมากยิ่งขึ้น ขั้นตอนที่ 6 ปัดแก้มด้วยการมิกซ์ 2 สี (ในรูป) ทำให้พ่วงแก้มดูมีสีสัน และเติมลิปสติกสี VOLUPTUOUS เท่านี้ก็เสร็จสิ้นการแต่งหน้าแบบเรียบง่ายแล้วจ้า มาชมภาพ AFTER กันค่ะ ในภาพถ่ายกับแสงธรรมชาติ ยังเห็นรอยสิวและสิวอยู่บ้าง โชคดีงานนี้สิวนูนๆ ยุบหมดแล้ว ขั้นตอนระหว่างวันแค่เติมแป้งพับ และรีบล้างหน้าทำความสะอาดอย่างหมดจดหลังเสร็จธุระทันที   Create Date : 10 มิถุนายน 2552     Last Update : 21 มิถุนายน 2552 0:34:33 น. Counter : 788 Pageviews.   Share Tweet

>> ย้อนรอย 15 << How to : สวยแบบไทยประยุกต์ (ชมพู+เขียว) วันนี้จะแต่งหน้าให้เข้าคอนเซปต์งามอย่างไทย ด้วยสีเขียว+ชมพู ตามคอนเซปต์ที่ครูโอ๋สั่งมา ฝนไปตีลังกา 7 ตลบ พบว่ามันยากมากที่จะทำให้มันไปกันได้อย่างไม่ขัดหู ขัดตา จึงเปิดนิตยสารและค้นหาทาง Internet ก็ไม่ได้ผล เอาเป็นว่าพลิกตำราพี่จีน เจอบทแต่งหน้า (ตา) แบบนกนางแอ่น เมื่อครั้งกระนู่น เลยนำมาดัดแปลง เชิญชมได้เลยจ้า วันนี้ไม่ได้แต่งหน้า แต่เขียนคิ้วกับกรีดอายฯ ดังนั้นต้องล้างทำความสะอาดเสียก่อน จากนั้นเริ่มต้นด้วยการแต้มคอนซิวเลอร์สีที่เข้มกว่าเนื้อจริงลงไปที่รอยดำมหันตภัยร้ายที่สิวมันทิ้งไว้ และลงรองพื้น แตะให้เป็นจุดๆ ทั่วหน้า เกลี่ยอย่างเบามือ วันนี้งดเบสเขียวนะจ๊ะ เมื่อรองพื้นเสร็จก็ตบด้วยแป้งฝุ่นสีเนื้อจ้า เริ่มต้นการลงสีตาด้วย OP เนื้อครีม (สี Fuchsia) ทาให้ทั่วเปลือกตาดังรูป นำ SHEENE WOW (สีชมพู) ที่เป็นบรัชมาทาทับอายฯ เนื้อครีมเมื่อสักครู่นี้ ลงสีเขียว OP ตามรูปที่ตัดปะไว้ จากนั้นลงสีเขียว วิ้งๆ (เบอร์ 1) จาก KATE ในลักษณะตามภาพ วาดให้เป็นคล้ายหางนกนางแอ่น แบบบทเรียนพี่จีน กระดกสัก 2 ทีกำลังดี 555 เพราะเดี๋ยวจะมากไปจ้า นำสีทอง วิ้งๆ (เบอร์2) มาทาทับช่วงรอยต่อของ 2 สี คือ เขียวกับชมพู จะทำให้ได้สีที่ไล่กันดูกลมกลืน เขียนคิ้ว ด้วย OP เบอร์ 02 (Chocolate) ฝนจะเขียนคิ้วไม่ให้ยาวไป ไม่งั้นจะไปตีกับหางนางแอ่น โดยเลือกเขียนให้สั้นลงนิดนึงในลักษณะที่ปลายหางเรียวตามรูป ติดตั้งกันสาด.. เอ๊ย !! ขนตาที่เตรียมมา โดยฝนจะเลือกขนตาแบบแฟนซีให้รับกับการแต่งตาวันนี้ สำหรับปากกระจิ๊ดริดของฝน แต่งแต้มด้วย OP เนื้อครีม (สี Fuchsia) เพราะได้อารมณ์ชมพูไม่หลุดคอนเซปต์สีตา จากนั้นก็ทากลอสของคลินิกซ์เพิ่มความฉ่ำวาว ยังไม่จบ ต้องไล่สีตรงหางนางแอ่นอีกนิด เบลนสีชมพูให้ไปถึงขมับ และปิดทองสักนิดกับสีทองเดิม ด้วยการแต้ม แปะๆ ไปบนช่วงหางตาและโหนกแก้ม ปัดบรัช SHEENE WOW สีน้ำตาล ตรงช่วงกราม ก็เป็นการสร้างเฉดให้กับใบหน้า ตามด้วยปัด บรัช SHEENE WOW สีชมพู พาดแก้มทั้งสองให้หวานฉ่ำ ชวนมอง เสร็จแล้วจ้า มาชม AFTER กันนะจ๊ะ   Create Date : 10 มิถุนายน 2552     Last Update : 21 มิถุนายน 2552 0:34:59 น. Counter : 1029 Pageviews.   Share Tweet

>> ย้อนรอย 14 << How to : Stylish Couture หรูหราแฟนซี วันนี้ฝนขอส่งฮาวทูเฉพาะกิจ ฉบับคั่นเวลา จัดทำในเวลากลางคืน ภาพแสงสีอาจไม่แจ่มแจ้งเท่าไหร่ แต่พยายามปรับให้ชัดเจนแล้วจ้า ซึ่งแรงบันดาลใจครั้งนี้มาจากการนั่งเล่นคอมฯ แล้วไปเจอภาพนางแบบท่านหนึ่งแต่งหน้าเก๋ไก๋เลยทีเดียว ฝนเลยนึกสนุกขอลองฝึกฝีมือดูบ้าง ระหว่างการแต่งหน้าเพื่อทำฮาวทูครั้งนี้ ขอบอกเลยค่ะว่า “ถอดใจ” มันยากอ่ะ แต่ทำไงได้ ทำมาตั้งครึ่งทางและเลยต้องสู้อดทน กัดฟันต่อไป 555 โปรดสังเกตุตานางแบบนะคะ ลงสีและลายเส้นได้แฟนตาซีทีเดียว งานนี้ฝนขอแต่งหน้าแบบประยุกต์ ขอแค่คล้ายๆ ละหม้าย ก็พอ ไม่กะว่าจะเอาเหมือนนะจ๊ะ ฝีมือไม่ถึงขั้น ว่าแล้วก็ไปขุดหา คสอ. ในกรุที่มีสีใกล้เคียงและลงมือปฏิบัติจ้า เริ่มต้นด้วยหน้าเปลือยเปล่า .. ชี้จุดเกิดเหตุอีกสักครั้ง วิธีการแต่งตา งานนี้พยายามถอดจากแบบมาจากต้นฉบับมากมาย พยายามจะให้คล้ายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มาเพิ่มลูกเล่นด้วยการเติมประกายวิ้งเข้าไป เชิญรับชมค่ะ ลงไพรเมอร์ประกายวิ้งๆ บนเปลือกตาให้ทั่ว และแต้มสีนู้ดจาก KATE BR-1 ที่ฝนได้ขูดเอาไว้ จากนั้นลงลายเส้นด้วยอายแชร์โดว์ของ OP // Black ร่างให้คล้ายแบบจากหัวตาไปหางตายาวตามรูปด้านล่าง สำหรับลายเส้นที่จะให้คมชัดเลือกใช้เป็น BOBBI อายเจลค่ะ ดำและคมดีงานนี้เอามาวาดส่วนคิ้วด้วยนะคะ บริเวณหัวตา ภาพที่ 1 จะร่างเส้นห่างจากขอบตาล่างเล็กน้อย เพื่อเว้นที่ไว้ลงไฮไลท์สีขาว ส่วนบริเวณหางตาภาพที่ 2 เราลากให้เส้นบรรจบหางตาด้านบนค่ะ ในภาพที่ 3 ที่จุดๆ เป็นเส้นสีดำ ใต้หัวคิ้ว แรเงาเส้นสีดำไว้สำหรับไล้บริเวณดั้งคล้ายตามภาพ ลงไฮไลท์ชนิดฝุ่นให้ทั่วบริเวณเปลือกตาที่เหลือ และเลือกใช้สีน้ำเงินของ KATE จากตลับ BU1 มาไล้บริเวณหางตาแนวนอนยาวไปตามหางคิ้ว นำไฮไลท์สีขาวแบบดินสอ มาเขียนช่วงหัวตาในส่วนที่เราเว้นไว้ตั้งแต่แรก และดัดขนตา พร้อมกับติดตั้งขนตาแฟนซีที่ได้เตรียมไว้เลยจ้า สุดท้ายสำหรับดวงตา เพิ่มประกายวิ้งขั้นรุนแรงด้วย KATE สองสี จากภาพด้านล่างสีชมพูลงช่วงบริเวณหัวตา และสีดำประกายวิ้งเงิน ลงทับช่วงหางตา ลากยาวไปตามแนวอายแชร์โดว์ที่ร่างไว้ก่อนหน้านี้ และปัดแก้มแนวเฉียงตามภาพ ด้วยชีเน่ WOW สีน้ำตาลส้ม ทาปากด้วยชุดพาเลตลิปสติกของ COFFRET D’OR ที่ได้จากงานมิตติ้งจีบัน เลือกสีตามที่ลูกศรชี้ค่ะ และทาทับให้ปากสีวิ้งวาว อีกครั้งด้วย KATE BE-2 สีจะออกนู้ดๆ หน่อยนะคะ งานนี้ต้องการตาเด่น ปากเลยใช้สีอ่อนๆ จากนั้นเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ ไปถ่ายรูปเทสต์ความวิ้ง ฮาวทูนี้เป็นครั้งแรกที่ถ่ายแบบใช้แฟรช นะจ๊ะ มีภาพเปรียบเทียบให้ชมกัน 2 ภาพด้านล่างคือ ไม่เปิดแฟรช จ้า 2 ภาพด้านล่างนี้คือ เปิดแฟรช สาดส่อง และขออภัยเรื่องแสง ที่มืดไปในฮาวทูครั้งนี้ด้วยจ้า งกๆ เงิ่นๆ ลุกขึ้นมาทำตอนกลางคืน แบบว่าประกายไอเดียมันมาแบบไม่ตั้งตัว ว่าแล้วก็เลยปฏิบัติสะทันที หมายเหตุประเทศไทย การแต่งหน้าแบบนี้แฟนซีเกินไป ไม่สามารถใช้ในชีวิตจริงได้ ดูจะเหมาะกับงานปาร์ตี้มากกว่านะจ๊ะ เป็นที่น่าสังเกตุว่าพอไล้ดั้งแล้วมันดูโด่งเหลือคณา ปกติไม่ค่อยใช้วิธีไล้ดั้งเท่าไหร่ งานนี้เลยดูแปลกตาไปมากทีเดียว เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการฮาวทูครั้งนี้ ปรับภาพเฉด เงา ด้วยโปรแกรม Photoshop และ FaceFilter Studio2 ตกแต่งภาพใส่กรอบ จัดระเบียบรูปภาพด้วย โปรแกรม Photoscape ถ่ายภาพด้วยกล้อง Fuji FinePix ใช้โหมดบุคคลสำหรับภาพทั่วๆ ไป และภาพถ่ายตัวเอง ส่วนภาพที่เปิดแฟรชใช้โหมด Auto ค่ะ   Create Date : 10 มิถุนายน 2552     Last Update : 21 มิถุนายน 2552 0:35:29 น. Counter : 1062 Pageviews.   Share Tweet

>> ย้อนรอย 13 << How to : Save The World Save The World ( สวยกู้โลก !! ) สำหรับการแต่งหน้าในวันนี้ขออิงกระแส Save The World เน้นสีเขียวแบบอารมณ์ Green field สีเขียว + ทอง เพิ่มประกายวิ้งๆ ได้อารมณ์ประหนึ่งเหมือนยอดใบไม้ ในทุ่งหญ้ากว้าง ถูกแสงแดดสาดส่องและเปล่งประกายชวนมอง เครื่องสำอางค์ที่ฝนเลือกใช้วันนี้เชิญชมจ้า ^_____^ ขั้นตอนแรก : ( การลงรองพื้นเช่นนี้เป็น Step ส่วนตัวไปแล้วค่ะ ^^ ) 1 ใบหน้าเปล่าเปลือย หลังสงครามสิวสงบลง ก็ทิ้งรอยแดงไว้เล็กน้อย เพื่อให้กอบกู้กันต่อไป 2 ลงเบสเขียว ตามรอยแดงของสิว ใช้นิ้วแตะๆ เบสเขียวตามรอยและรอแห้งสักครู่ ขั้นตอนนี้ใจเย็นนิดนึง 3 ลงรองพื้นให้ทั่วหน้าและตรงรอยที่ทาเบสเขียว พยายามเกลี่ยเบามือให้สีของรองพื้นค่อยๆ กลืนไป ซึ่งการใช้รองพื้นสูตรน้ำจะง่ายต่อการเกลี่ยมากเลยค่ะ 4 ลงคอนซิวเลอร์สีอ่อน (warm beige) ซ้ำรอยเบสเขียวที่เราตั้งใจกลบรอยสิวและรอยแดงต่างๆ รวมทั้งถุงใต้ตาที่คล้ำนั้นด้วย เกลี่ยคอนซิวเลอร์ให้กลืนกับรองพื้น 5 จากนั้นนำ Corrector สี peach ตบซ้ำเพราะสีนี้จะให้ความเป็นผิวเสมือนจริงมากกว่า (ส่วนตัวฝนจะเลือกใช้แค่คอนซิวเลอร์ 2 สีนี้เท่านั้นจ้า ปรับเปลี่ยนไปมาแล้วแต่โอกาส) 6 นำแปรงแตะแป้งฝุ่น BOBBI BROWN สี SOFT SAND และเคาะๆ ฝุ่นแป้งที่ติดก่อนจะลงไปที่ใบหน้าจริง 7 ซับด้วยพับ และตบแป้งของ COFFRET D’OR อีกครั้งเพื่อให้แป้งติดทนนาน สีแป้งตัวเทสต์นี้เข้ากับแป้งฝุ่นที่ลงไปเมื่อสักครู่ได้ดีมาก และไม่ทำให้หน้ามันเร็วด้วยค่ะ แถมมี SPF 24 ปกป้องผิวจากแสงแดด 8 ใช้แป้ง TIFFA FACE POWDER ตัวนี้จะวิ้งในระดับหนึ่งที่เดียว ฝนเลือกมาทาทั่วเปลือกตาเพื่อที่จะได้ให้เปลือกตาวิ้งเล็กๆ และเป็นการซับความมันจากการลงรองพื้นไปในตัว อายแชร์โดว์จะได้ติดทนขึ้น เพื่อให้เข้ากับธรรมชาติ เราเลือกสีเขียวจาก RedEarth เขียวได้อารมณ์ใบไม้สุดๆ และ KATE BR-1 ตลับนี้มีสีทองวิ้ง ที่วิบวาวสุดๆ ใครมีก็คงจะรู้ว่ามันเรืองรองมากๆ เริ่มต้น >> ทาเปลือกตาให้ทั่วด้วยสีน้ำตาล (ตามที่ได้ทำเครื่องหมายไว้) นำอายไพร์เมอร์ของ MUS มาผสมกับอายแชร์โดว์สีเขียวและเบลนให้เข้ากัน ทาตามรอยพับบนเปลือกตาและใช้นิ้วไล้สีให้กลืนกันด้วยเกลี่ยขึ้นอย่างเบามือ 1 >> สีเปลือกตาที่ทาแต่สีน้ำตาล 2 >> สีเปลือกตาที่เบลนสีเขียวให้กลมกลืนกันเสร็จแล้ว เก็บช่วงสามเหลี่ยมมุมหางตา และช่วงใต้ตาด้วยสีน้ำตาลเข้ม (ตามที่ได้ทำเครื่องหมายไว้) ระหว่างที่นั่งทำฮาวทูอยู่นั้น แม่ก็เรียก.... “ฝน มีพัสดุมาอีกแล้ว” ฮืม.... อะไรอีกเหรอเนี่ย !! ใครส่งมาหว่า?? พอไปเห็นที่อยู่ผู้ส่ง..ก็นึกถึงเพื่อนสมาชิกจีบันท่านหนึ่งที่บอกว่าจะส่งของขวัญมาให้เล่น โห.. ไม่นึกว่าจะส่งขนตาปลอมมาให้ ดีใจมากเลย เพราะส่วนตัวฝนเพิ่งจะเริ่มสะสมขนตาปลอมได้ไม่นาน ใกล้ๆ กันนั้นก็มีเจลอาบน้ำกลิ่นหอมมากๆ แนบมาด้วย ว่าแล้วก็เลยนำขนตาปลอมที่คุณ OilCute หรือ คุณออย (เชียงใหม่) ส่งมาให้ ปฏิบัติการในฮาวทูครั้งนี้สะเลยจ๊ะ ขอเขียนคิ้วก่อนนะจ๊ะ เพื่อให้ได้โครงหน้าที่สมบูรณ์ จัดการเก็บอินลายด้วย LM สี STORMY GREY อายเพนซิลทั้งบนและล่าง ดัดขนตาเสร็จแล้ว อย่าลืมเก็บรายละเอียดของ คสอ. ที่อาจเปรอะช่วงใต้ตา ฝนจะมีปัญหาแทบทุกครั้งเวลาดัดขนตา อายแชร์โดว์มันจะเปื้อนบ่อยๆ มาถึงขั้นตอนสำคัญ คือ การติดขนตา ใช้กาวทาและค่อยติดตามแนวของขนตา ส่วนช่วงหางตาที่ขนตาจะตกลงไม่งอน ฝนจะนำที่ดัดขนตาไฟฟ้าของ Model Co มาดัดช่วงหางตา เปิดวอร์มไว้สักนาทีหนึ่งก็จะได้ที่ เมื่อนำมาดัดจะช่วยทำให้ขนตาจริงงอนดูกลมกลืนกับขนตาปลอมได้ดีทีเดียว และเนื่องจากขนตาที่ได้มาวันนี้ ส่วนขอบจะมีวิ้งๆ วับวาวอยู่แล้ว เพื่อความเนียนยิ่งขึ้นฝนจึงนำไลเนอร์ของชีเน่ WOW ที่มีวิ้งๆ มาเก็บตามรอยพับจะทำให้ความระยับของวิ้งกลมกลืนกันได้ดี เพิ่มประกายวิ้งงงงง.... สีทอง จากตลับ KATE BR-1 ด้วยการแต้มบนเปลือกตาอีกครั้งช่วงตรงรอยที่เราเบลนสีน้ำตาลกับสีเขียวและค่อยแตะให้ทั่วเปลือกตาอย่างเบาๆ (ถ้าลงเยอะจะเป็นคราบสีทองแทนที่จะวิ้งค่ะ) ขั้นตอนการทาปาก ฝนเลือกใช้สี OR-97 ของ COFFRET D’OR Lipstick Palette Sample ซึ่งได้มาจากงานมิตติ้งจีบันวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมาให้สีที่ธรรมชาติไม่แดงเกินไป เพราะงานนี้ฝนต้องการให้ดวงตาวิ้งประกายเด่นจ๊ะ ตบท้ายด้วย Stila Plumping lip glaze มีประกายระยิบเล็กๆ แถมให้ความรู้สึกที่เย็นๆ กับมิ้นท์หอมๆ บนปากทุกครั้งที่ทา ขั้นตอนการปัดแก้ม วันนี้ฝนเลือกปัดแก้มแบบใช้สีรวมๆ กัน ปัดวนๆ จากหน้าทั้ง 4 สี ของ LM CORAL RED QUAD และตบแป้งของ TIFFA อีกครั้ง เสร็จแล้วจ๊ะ ขั้นตอนง่ายสั้นกระชับ ^____^ มาชมใบหน้าชัดๆ กันก่อน ถ่ายในห้องค่ะ แต่ใช้แสงธรรมชาติซึ่งฝนได้เปิดประตูไว้ งานนี้ใช้กล้อง Fuji Finepix โหมด N จากนั้นไปลุยแสงธรรมชาติกันเลย ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงเท่านี้สาวจีบันก็จะกลายเป็นสาวทันสมัยเข้ากับโลกยุคใหม่ ปี 2008 อยากสนับสนุนให้สาวๆ มาร่วมมือ ร่วมใจรักโลก และเฉิดฉายความสง่างามของจิตใจด้วยความสดใสอย่างมั่นใจสไตล์ที่เป็นคุณ Credit ภาพประกอบจาก Captured Moments Photography , //www.pixpros.net by JiRA   Create Date : 10 มิถุนายน 2552     Last Update : 10 มิถุนายน 2552 8:49:59 น. Counter : 1004 Pageviews.   2 comment Share Tweet

>> ย้อนรอย 12 << How to : หนูจะเป็น Snow White !! "กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิดใครงามเลิศในปฐพีนี้...." กระจกวิเศษก็จะตอบว่า "ก็ต้องเป็นเจ้าหญิงสโนไวท์น่ะสิ....." โอ้ว... งานเข้าทันที ข้ายอมไม่ได้ ........... ยี้ ยี้ ต้องหาวิธีจัดการมัน “นังสโนไวท์” ราชินีสั่งนายพรานให้ดักฉุดสโนไวท์ พร้อมรับปากว่าถ้าสำเร็จจะให้รางวัลอย่างงาม แต่ด้วยความงามที่บริสุทธ์นายพรานใจอ่อนสงสารและยอมปล่อยเธอไป สโนไวท์กลัวมากจึงวิ่งหนีไปเจอบ้านหลังเล็กๆ พร้อมกับคนแคระทั้ง 7 ชายร่างน้อยเหล่านั้นใจดีให้ที่อยู่อาศัยแก่เธอ และปรนิบัติกับเธอด้วยดีเรื่อยมา เช่นเคยในทุกเช้าที่สดใสของสโนไวท์ คนแคระทั้ง 7 มักจะมาปลุกเธอเสมอ สาวน้อยลุกขึ้นทักทายและขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะรีบไปทำอาหารให้คนแคระทาน เธอลุกขึ้นมาแต่งหน้าทาปากเหมือนทุกเช้า โดยเริ่มที่การรองพื้นบนใบหน้า ทา Face Base ของ BOBBI BROWN ตามด้วยเบสเขียว แตะลงบริเวณรอยแดงของสิว (ยังไม่ต้องเกลี่ยให้เรียบเนียน) รอแห้งสักครู่ และลงรองพื้นสูตรน้ำให้ทั่วหน้า ตรงรอยที่ทาเบสเขียว พยายามเกลี่ยเบามือให้สีของรองพื้นค่อยๆ กลืนไป ซึ่งการใช้รองพื้นสูตรน้ำจะง่ายต่อการเกลี่ยมากเลยค่ะ ลงคอนซิวเลอร์สีอ่อน (warm beige) ซ้ำรอยเบสเขียวที่เราตั้งใจกลบรอยสิวและรอยแดงต่างๆ รวมทั้งถุงใต้ตาที่คล้ำนั้นด้วย เกลี่ยคอนซิวเลอร์ให้กลืนกับรองพื้นก่อนที่จะนำสี peach ตบซ้ำเพราะสีนี้จะให้ความเป็นผิวเสมือนจริง นำแปรงแตะแป้งฝุ่น BOBBI BROWN สี SOFT SAND และเคาะๆ ฝุ่นแป้งที่ติดก่อนจะลงไปที่ใบหน้าจริง จากนั้นซับด้วยพับอีกครั้งเพื่อให้แป้งติดทนนานก่อนจะใช้ ANNA SUI สีม่วงควบคุมความมัน ทาตาด้วยไพร์เมอร์สีชมพูของ OP จากนั้นเลือกทาอายแชร์โดว์ KATE DUO สีชมพูอ่อนจะเป็นประกายบริ๋งๆ เพิ่มความวาวๆ ดูสดใสให้ทั่วเปลือกตา ทาอายแชร์โดว์ OP สีชมพูตามรูปให้ทั่วตามแนวรอยพับของเปลือกตา และกรีดตาด้วย KATE สีดำ โดยลากไลเนอร์ตวัดช่วงปลายหางตาเล็กน้อยและเก็บช่วงขอบตาล่างตามภาพ จากนั้นดัดขนตา.... และเตรียมกาว + ขนตา ซึ่งขนตาที่นำมาใช้วันนี้จะดูเป็นธรรมชาติ เส้นขนตาดูบางๆ ไม่เป็นแฟนซีมากนัก เรานำมาตัดครึ่ง และแปะบริเวณตรงหางตาเท่านั้น จากนั้นดามขนตาให้เด้งดึ๋งด้วยเครื่องดัดขนตาไฟฟ้า ของ MODEL CO เมื่อรายละเอียดดวงตาเป็นที่เรียบร้อยก็เริ่มเขียนคิ้วให้รับกับรูปหน้า เลือกปัดแก้มให้ดูสุขภาพดี สวยใส ด้วย ชีเน่ว้าว.. สีชมพู ซึ่งซื้อมาตั้งแต่คอนเซปต์แม่นางหวานเย็น ปัดให้ฉ่ำแก้ม ดูแล้วย้อนกลับเป็นเด็กสาวอีกครั้ง เลือกทาปากสีแดงสด ด้วยชีเน่ วันนี้สโนว์ไวท์ขอนำ คสอ.อันเก่ามาเล่นปัดฝุ่นสักที ไม่งั้นคงจะไม่หมดแน่ๆ ทดสอบดูแล้วสีคล้ายๆ MUS ไชน่าเรด แต่ว่าไม่ค่อยจะติดทนนานเท่าไร เมื่อเธอแต่งหน้าเสร็จก็ออกไปเทสต์กับแสงยามเช้าริมหน้าต่าง ด้วยความแจ่มใส ^^ และก็แต่งตัวไปออกไปเดินเล่นกับคนแคระเหมือนเช่นเคย ระหว่างที่คนแคระแยกย้ายไปเดินเล่น บังเอิญสโนไวท์ได้พบหญิงชรานำแอปเปิ้ลอาบยาพิษมาให้ ซึ่งแอปเปิ้ลผลนั้นสีแดงสดดูน่ากินมาก หญิงชราบอกว่ามันคู่ควรกับเด็กสาวปากแดงๆ อย่างเธอ เธอยิ้มรับและกล่าวขอบคุณหญิงชราผู้นั้นพร้อมกับรับแอปเปิ้ลมาด้วยความดีใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจว่าทำไมในป่าแบบนี้ถึงได้มีคุณยายใจดี แต่ช่างมันเถอะ....ก็เวลานี้สโนว์ไวท์หิวแล้วนี่ 555 (แอบตะกละ) เมื่อหญิงชราเดินจากไป สโนว์ไวท์จึงงัดกล้องมาถ่ายกับแอปเปิ้ลผลงามว่ามันคู่ควรกับปากแดงๆ ของเราจริงหรือ?? โฮกกกกกกกกก................ นั่นไง.... เกิดเรื่องแล้ว เพียงแค่คำแรกเท่านั้น เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เธอรู้สึกมึนหัวอย่างแรงและสลบไปทันที ยาพิษที่เคลือบไว้ออกฤทธิ์แล้วสินะ โถ... แม่สาวน้อยปากแดง ต้องมาสลบอยู่กลางป่าแบบนี้แล้วใครจะมาช่วยเธอ คนแคระนำร่างเธอมาไว้ที่บ้าน และทุกๆ เช้า คนแคระจะมาปลุกสโนว์ไวท์เหมือนเช่นทุกครั้ง แต่เธอก็ยังคงนอนสงบนิ่ง ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือนเธอก็ยังคงงดงาม ส่วนคนแคระทั้ง 7 โศกเศร้าเสียใจเป็นอันมาก พวกเขานำเธอใส่ในโลงแก้วและรอคอยปาฏิหารย์ จนกระทั่งมีเจ้าชายองค์หนึ่งผ่านมาและหลงรักเธอเข้าทันทีแม้จะได้พบเพียงครั้งแรก ซึ่งเขาก็หาทางช่วยเธอ .. และปลดคำสาปด้วยการจุมพิศลงบนริมฝีปากที่แดงระเรื่อ วะ ฮิ้ววววววว ในที่สุดสโนไวท์ก็ฟื้นจากรอยจุมพิตของเจ้าชายและครองรักกับเจ้าชายอย่างมีความสุข จบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง นั่นก็เพราะริมฝีปากแดงของสโนไวท์นั่นเองทำให้เธอฟื้นอย่างปาฎิหารย์ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “อย่ารับแอปเปิ้ลจากคนแปลกหน้า....?!!!!!” 555 หาสาระกับคำสอนไม่ได้เลยจริงๆ จบแล้วจ้า ......   Create Date : 10 มิถุนายน 2552     Last Update : 10 มิถุนายน 2552 8:41:54 น. Counter : 4575 Pageviews.   2 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com