การทำบุญทุกวันสำคัญของแต่ละปีให้กับญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว กับทำให้เขาทุกวัน เขาจะดีใจกว่าหรือไม่
การหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ กรณีเราเขียนแผ่นทอง
ญาติที่เสียชีวิตไปแล้วจะได้รับทันทีหรือไม่ และจำเป็นหรือไม่
มนุษย์ต้องไปทำบุญทำทานทุกวันสำคัญของแต่ละปี เช่น
เช็งเม้ง สาสจีน วันวิสาขฯ ทำให้เขาทุกวัน เขาจะดีใจกว่าหรือไม่


เราก็เหมือนเขาฮะ ถ้าปีหนึ่งเรากินครั้งหนึ่งแล้วเป็นยังไง
กับได้กินทุกวันเป็นยังไงล่ะ มันก็เหมือนกันฮะ เราทำทุกวันนะฮะ
เราก็แผ่ทุกวันฮะ ไม่ใช่ ปีหนึ่งสองปีจะไปทำ ปีละครั้งสองครั้ง
ไม่ใช่แล้ว

ยกตัวอย่างนี้แสดงว่าช่วงวันเทศกาล ญาติที่เสียไปแล้ว ยังไม่ไปเกิดใหม่
ก็แสดงว่ารอเป็นกลุ่มเลยใช่ไหมครับ


รออยู่ฮะ

ที่มา : หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรม 3 มิถุนายน 2555 part 2



Create Date : 08 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 7:50:31 น.
Counter : 390 Pageviews.

0 comment
ปฏิบัติได้น้อยลง เวลาเจอกระแสไม่ดีก็รับเข้าไปเต็มๆ เหมือนถอยหลังลง จะแก้ไขอย่างไรดีคะ
เดี๋ยวนี้รู้สึกตัวเองปฏิบัติได้น้อยลง พอมีกระแสไม่ดีเข้าก็รับเต็มๆ
ยังมีรักโลภโกรธหลงอยู่ครบ และรู้สึกเหมือนตัวเองถอยหลังลง
จะแก้ไขอย่างไรดีคะ ขอหลวงตาเมตตาชี้แนะด้วยค่ะ


มันต้องตั้งสัจจะอย่างที่ว่านั่นล่ะ มันต้องเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆนะฮะ
ถ้างั้นมันจะเหมือนขี้เมานะฮะ เดินสะเปะสะปะแล้วก็ถอยไปถอยมาน่ะ
มันไม่ใช่นะฮะ ต้องใช้การอธิษฐานบังคับนะฮะ ถ้าจะเอาจริงๆนะฮะ
ถ้าจะฝึกจริงๆ

ที่มา : หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรม 3 มิถุนายน 2555 part 2



Create Date : 08 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 7:50:37 น.
Counter : 294 Pageviews.

0 comment
เพราะเหตุใดกลิ่นพลังงานของวิญญาณจึงไม่เหมือนกัน มีทั้งกลิ่นเหม็นและกลิ่นหอม
เพราะเหตุใดกลิ่นของพลังงานไม่เหมือนกัน อย่างเช่น
คนที่ตายโหงอย่างเพื่อน เวลามันมาหากลิ่นมันเหม็นเหมือนหมาเน่า
แต่อย่างเช่น คุณยายที่เสียไป รู้สึกว่าท่านไปเป็นเทวดา
กลิ่นจะเหมือนข้าวสุกหอมๆ แต่ไม่เหมือนกลิ่นหอมของข้าวสุก
ในโลกมนุษย์ อยากถามหลวงตาว่าอะไรเป็นตัวกำหนด
แล้วทำไมกลิ่นถึงไม่เหมือนกัน


กรรมเป็นตัวกำหนดไง จิตล้วนๆนะฮะ ตอนที่ตายอ่ะ มันเป็นจิต
แต่มันเอากลิ่นไปด้วยนะฮะ เคยไปสัพเพฯหลายครั้งแล้ว
คนที่ตายอุบัติเหตุนะฮะ ขนาดไปแล้วนะฮะ มันไปแล้วนะฮะ
เวลาสัพเพฯเรายังได้กลิ่นนะฮะ กลิ่นคาวเลือดอ่ะ มันเป็นธรรมดานะฮะ
พลังงานเนี่ยพลังงานที่เราทิ้งไว้เนี่ย มีทั้งรูปรสกลิ่นเสียงนะฮะ
พลังงานที่ทิ้งไว้เนี่ย

เคยไปที่จังหวัดอะไร สตูลใช่ไหมที่เราไปอ่ะ นั่งคุยกันนี่
กลิ่นเหม็นมากเลยฮะ โหย ทั้งฝรั่งทั้งอะไรอ่ะ มั่วไปหมดเลย

กระบี่ครับ พีพี

ต้องรีบสัพเพฯ ทุกคนได้กลิ่นหมดอ่ะ 13-14 คน ไม่มีใครไม่ได้
จนต้องรีบแผ่ฮะ เหมือนกัน เหมือนกัน ก็บอกแล้วว่า
รูปรสกลิ่นเสียงในมนุษย์ กับรูปรสกลิ่นเสียงของโอปาติกะ
หรือโลกของวิญญาณเหมือนกันนะฮะ มันจะอยู่ว่า ข้างบน
ข้างล่าง หรือตรงกลาง

ข้างบนก็คือโลกทิพย์ โลกที่เสวยความสุข เราแผ่ความทุกข์ไป
ไม่เอานะฮะ

โลกซึ่งถวายความทุกข์อยู่ข้างล่างนะฮะ เราเอาบุญไป
แผ่ไป ไม่ได้นะฮะ ลงไปไม่ได้

โลกที่อยู่ตรงกลางทั้งสองข้างบนข้างล่าง คือ โลกมีทั้งบุญและบาป
มีสารพัดเรื่องทิ้งไว้ในโลก

เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำไว้เนี่ย รูปรสกลิ่นเสียงพร้อมเลยฮะ พร้อม
เสียงร้องก็ได้ยินนะฮะ เสียงสวดมนต์ก็ได้ยินนะฮะ
เสียงเศร้าโศกก็ได้ยินนะฮะ เสียงรื่นเริงก็ได้ยินนะฮะ
บาร์ บาร์ ลองไปสัพเพฯที่บาร์ หรือไปนั่งที่บาร์
กำหนดสบายๆ ได้ยินเสียงเพลงที่เขาร้องซ้อนๆกันอยู่นะ
รูปรสกลิ่นเสียงเหมือนกันนะฮะ

หลวงตาอยู่ที่วัดพุทไธศวรรย์ ตั้งแต่บวช ดึกๆ
ได้ยินเสียงฟันดาบโฉ้งเฉ้งๆนะฮะ ลุกขึ้นมาไปดูไม่มีอะไร
ดึกตี 2-ตี 3 ไม่มี ย้อนไปย้อนมา ย้อนมาย้อนไป โอ มันเป็นพลังงาน
ที่พูดเมื่อกี้ฮะ รูปรสกลิ่นเสียงไม่หนีไปไหน เพระฉะนั้น บางครั้งเราเคลิ้มๆ
เราจะได้ยินนะฮะ เรานอนเคลิ้มๆน่ะ มันเป็นทางสามแพร่งนะฮะ
ครึ่งหลับครึ่งตื่นน่ะ มันจะรับรูปรสกลิ่นเสียงในโลกของโอปาติกะ
ที่มีวิญญาณ ทีนี้เวลาเรานอนเนี่ย เราหลับเนี่ย เราไม่รู้ เราไม่รู้นะฮะ
เราหลับเมื่อไรเนี่ย จิตมันไวฮะ ไวมากนะฮะ หลับยังไม่รู้เลยฮะ
ขนาดเราจ่อๆๆๆอยู่เนี่ยฮะ ตามไม่ทัน ปิดสวิตช์ฟิ้วเลยฮะ
ขนาดเราสวดๆจ่อๆๆอยู่ ยังหลับ ยังไม่ทัน จะรู้ก็ต่อเมื่อเราฝัน
เรื่องของบุญ นั่นก็โอเค แสดงว่าเราอยู่ในบทสวดมนต์
ถ้าเรายังฝันไม่ดีอยู่ แสดงว่าช่วงที่หลับน่ะ เราคิดแวบไปในสิ่งที่ไม่ดี
ก็ฝันไปในสิ่งที่ไม่ดี เพราะฉะนั้น ไม่ต้องถามหลวงตานะว่า
ผมสวดแล้วหลับอยู่ ยังฝันไม่ดีอยู่ คล้ายๆกับพระในครั้งพุทธกาล
ที่ท่านนึกถึงจีวรน่ะนะ พอตายปั๊บไปเกิดเป็นเล็นนะฮะ 7 วัน
ลักษณะเดียวกัน

คนที่จะตามจิตได้เนี่ย มันต้องเป็นผู้ที่มีมหาสตินะฮะ
สติต้องสุดๆเลยนะฮะ ต้องฝึกฝนอย่าง หลายภพชาตินะฮะ
นานนะฮะ เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจนะฮะ

ที่มา : หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรม 3 มิถุนายน 2555 part 2



Create Date : 08 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 7:50:57 น.
Counter : 7332 Pageviews.

0 comment
เพื่อนผูกคอตาย แต่ไม่กล้าเข้าไปในห้องนั้นเพื่อสวดมนต์ให้ จะทำยังไงครับ
หลวงตาครับ เพื่อนผูกคอตาย ตอนนี้ไม่มีใครรักเพื่อนคนนั้นเลย
หลังจากที่ตายไปแล้ว อยากถามหลวงตาว่า จะทำยังไง
จะกล้าเข้าไปในห้องมัน แล้วไปสวดมนต์ให้มันครับ


หาเพื่อนดิ หาเพื่อนไปด้วยดิ

รักกันมาก พอตายแล้ว ไม่กล้าเลย

ไม่มีใครรักเราเท่าตัวเราเองหรอกฮะ เชื่อเถอะ ตายปั๊บนี่
หนีทันทีเลยฮะ ไม่มีใครอยู่หรอก ทิ้งเลยฮะ หาเพื่อนไป
หาเพื่อนไปฮะ หาเพื่อนไปสวด นิมนต์แม่ชีก็ได้ แม่ชีเนี่ย

ที่มา : หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรม 3 มิถุนายน 2555 part 2



Create Date : 08 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 7:51:04 น.
Counter : 294 Pageviews.

0 comment
การบวช ผู้ชายกับผู้หญิง การสร้างบารมีเท่ากันไหมคะ,บวชสะสมระยะสั้นๆต่อๆกันได้ไหม
หลวงตาคะ การบวชเนี่ยต้องมีเชื้อในการบวชมาก่อน
เป็นผู้ชายมันง่ายกว่าผู้หญิงในการตัดสินใจบวช
แต่การสร้างบารมีเนี่ยมันเท่ากันไหมคะหลวงตา


เท่ากัน

แต่ศีลมันไม่เท่ากันนี่คะ หลวงตาขา

ถ้าหลวงตาไม่ทำงานนะ ถ้าหลวงตาไม่ต้องทำงานพวกนี้กับหลวงปู่นะฮะ
หลวงตาไม่บวชหรอกฮะ เพราะหลวงพ่อท่านบวชในให้ ตั้งแต่เจอท่าน
ปีที่สอง ปีที่สามแล้วฮะ

คำว่าบวชในของท่าน ก็คือ การนึกตัวเองเป็นพระ
อย่างที่นึกไปกราบพระน่ะ นึกไปกราบพระ ก็นึกตัวเองเป็นพระด้วยนะฮะ
ถ้าเราบวชในฮะ ตั้งสัจจอธิษฐานต่อหน้าพระพุทรูปหรือต่อหน้าหลวงปู่

ถ้าใครกำหนดได้ก็กำหนดเอหิภิกขุนะฮะ ถ้าทำได้นะฮะ
บวชในนึกถึงตัวเองเป็นพระตลอด ก่อนนอน ตื่นนอน
ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งภาวนาเนี่ยตัวเองเป็นพระตลอดนะ
ทำความดีทุกอย่าง เตรียมตัวเป็นพระทั้งนั้นนะฮะห่มผ้าเหลือง
นึกออกนะฮะ ทุกคนนึกออก หลายวัน หลายเดือน หลายปีเข้าเนี่ย
การกระทำ คำพูดนะฮะ มันจะเป็นพระ นี่คือหลักพิสูจน์ฮะ
สิ่งที่เขาไปๆกัน จะไม่ไปแล้ว ดูหนัง ดูละคร ไปรื่นเริง จะไม่ไปแล้ว
พูดก็เป็นหลักธรรมแล้วฮะ นั่นแหละคือการพิสูจน์ว่า การบวชใน
มันจะออกมาข้างนอก ถ้าบวชข้างนอกอย่างหลวงตา มันต้องเข้าข้างใน
มันต้องฝึกข้างใน ใช่ไหม บวชข้างในออกข้างนอก
บวชข้างนอกเข้าหาข้างใน ง่ายกว่ากันไหม ง่ายฮะ
ไม่เสียสตังค์ด้วย ผู้หญิงก็บวชได้ ผู้ชายก็บวชได้
เพราะพรหมไม่มีเพศ ปัญหาอย่างเดียว จะนึกออกหรือเปล่า
ลืมไหมแค่นั้นเอง มันจะค่อยๆๆๆ หลีกจากสังคมนะฮะ
มันจะค่อยๆๆๆเลย ไม่ใช่หลีกได้เลยนะฮะ ใครจะบวชก็ได้นะฮะ
ง่ายฮะ

หลวงตาคะเวลาบวชแล้ว สมมติว่าไม่มีสตังค์
แต่บวชกับหลวงปู่เสร็จแล้วเนี่ย แล้วเราปฏิบัติไปเรื่อยๆ
เกิดอยากบวชจากข้างนอกเข้าไปข้างในล่ะคะ
ไปที่วัดได้ไหมคะ


ขอ ขอได้นี่

ขอใครคะหลวงตาขา

ขอบอร์ดดิ ขอบอร์ดบริหารเลยนะคะ เจตนาที่ดี
ไม่ต้องกลัวหรอกฮะ โหย ไม่มีปัญหาฮะ

หลวงคะแล้วพวกที่อธิษฐานบวชช่วงซัมเมอร์เนี่ยค่ะ
บางคนมีภาระ มีลูก มีสามี มีงานที่จะต้องทำแล้วบวชได้ระยะเวลาสั้นๆ
แล้วก็อธิษฐานสั้นๆ บวชปีละครั้ง 2 ครั้งอย่างนี้ค่ะหลวงตา
เก็บสะสมใหม่อย่างนี้ได้ไหมคะหลวงตา


ดีมาก สาธุเลยฮะ มีคนรู้จักอยู่คนหนึ่งฮะ ทำงานอยู่
รู้สึกธนาคารเนี่ยแหละ รู้สึกจะ 3 ปี เขาจะบวชครั้งหนึ่งฮะ
เก็บพักร้อนไว้ฮะ ไม่พักเลย 3 ปี มันเป็นธนาคารของต่างชาติ
เขาทำได้นะฮะ ไปบวชที 3 เดือนฮะ ทุก 3 ปี บวช 3 เดือนฮะ
บวชทุกนิกายด้วย ปีละนิกายฮะ เพราะในประเทศไทยมันมีอยู่
5 นิกายนะฮะ คนธรรมดามันจะไม่เข้าใจนะฮะ นึกว่าเป็นพระๆเนี่ย
ไม่ใช่ มี 5 นิกาย นิกายใหญ่ๆ คือธรรมยุติกับมหานิกาย มันก็มีจีนนิกาย
มีรามัญนิกาย มีญวนนิกาย แล้วก็มีเละเทะนิกาย อีกนิกายหนึ่ง
เพราะฉะนั้นบวชได้

ที่มา : หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรม 3 มิถุนายน 2555 part 2



Create Date : 08 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 7:51:04 น.
Counter : 370 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  

basicka
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog