ตอนเป็นฆราวาสพูดกับพี่น้องไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอมาบวชตรงกันข้ามเพราะอะไร, วิธีการป้องกันการถูกหลอก
หลวงตาคะ ทำไมเวลาเป็นฆราวาสพูดกับพี่น้องไม่ค่อยรู้เรื่อง
คือเขาไม่ค่อยฟังเหตุผลของเรา แต่พอเราบวชมันกลับกันเลย
เวลาเราพูดเขาก็ฟัง แถมมีเรื่องก็มาปรึกษาทางธรรมเราตลอด
อันนี้เกิดจากเพราะอะไรคะ


เกิดจากรูปไง ถ้าหลวงตาเป็นฆราวาสนะ ยังไงก็หลอกคนไม่ได้อยู่แล้วฮะ
เขาไม่เชื่อหรอกใช่ไหม หลวงตาเป็นฆราวาสแต่ใจเป็นพระ เขาเห็นไหม
ไม่เห็น หลวงตาเป็นพระข้างนอกแต่ใจเป็นอะไรไม่รู้ เขาเห็นไหม
หลอกได้ไหมอย่างนี้ หลอกได้ เหมือนกัน

หลวงตาคะไอ้คำว่าหลอกได้ หลอกไม่ได้เนี่ย
เวลาเราสวดมนต์เนี่ย เราสามารถที่จะกันการหลอกได้ไหมคะหลวงตา
หลอกแบบที่ไม่ดีค่ะหลวงตา วิธีการค่ะหลวงตา
หนูเคยรู้มาว่าการที่สวดมนต์บทจักรพรรดิ์เนี่ย
ใครก็หลอกเราไม่ได้ วิธีการมันทำยังไงคะหลวงตา


ก็สวดไปเรื่อยๆ ก็สวดไปเรื่อยๆเนี่ย เห็นหน้าเขา
เราก็รู้แล้วว่าเขาจะหลอกเรา

มันจะรู้ได้ยังไงคะหลวงตา

อ้าว ตัวเขา จิตเขาควบคุมอยู่นะฮะใช่ไหม เหมือนเราดูหนุ่มๆอ่ะ
มองปั๊บเนี่ย หน้าตาสบตาปั๊บรู้ในใจ ตาคือหน้าต่างของใจไงใช่ไหม
เรามองปั๊บเราก็รู้เลย ความรู้สึกไง ทำไมเวลาเราไปไหนเนี่ย
มองปั๊บเนี่ย กูรู้สึกเกลียดเขาล่ะ เพราะเหตุไร ไม่รู้จักสักหน่อย
ในอดีตมันเคยเล่นกันมาไง ด่ากันมั่ง ทุบกันมั่งฮะ เห็นมันนะ
เข้าถึงใจมันเลยฮะ มันมีความรู้สึกไม่ชอบเลย นั่นคือความรู้สึก
เหมือนกับเรากำพระบ่อยๆ แล้วสวดเนี่ย จิตอยู่ที่พระ
มันก็มีความรู้สึกเหมือนกันอ่ะ แต่มันเป็นความรู้สึกของบุญไง
ของพลังงาน เพราะพระเนี่ยเป็นสื่อของพลังงานไง พอเรานึกไปเนี่ย
รูปลักษณ์ของพระท่าน พลังงานมาที่พระนะฮะ ไม่ใช่ไม่มา
มานะฮะ เราเป็นสื่ออย่างดีเลย

ที่มา : หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรม 3 มิถุนายน 2555 part 1



Create Date : 04 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 7:30:29 น.
Counter : 533 Pageviews.

0 comment
อยู่ที่วัดแล้วไม่มีความสุข อยากออกไปโลกภายนอก ควรทำยังไง, ถูกนินทาบีบคั้นมากต้องทำยังไง
อยู่ที่วัดแล้วไม่มีความสุข แต่ว่ามีงานที่จะต้องทำที่วัด
บาปไหมคะ ที่จะคิดแบบนั้นหรือมันคือกิเลสที่เราอยากจะออกไป
โลกภายนอก แล้วอยากกลับมาทำงานที่วัดใหม่
เพราะอยู่ที่วัดแล้วเครียดมากกว่าอยู่ที่บ้านตัวเอง
จะทำยังไงดีคะหลวงตา


ไม่ได้ทำยังไงฮะ มันต้องพิจารณาตัวเอง มันต้องมีสาเหตุนะฮะ
ทุกอย่างมีสาเหตุหมดฮะ ดูที่ต้นเหตุฮะ ต้นเหตุมาจากอะไร
เหตุน่ะมาจากอะไร นั่นน่ะก็ไปดับที่เหตุของตัวเองนั่นน่ะ
ที่เหตุตัวเองนะฮะ การทำกรรมฐานไม่ใช่วันสองวันนะ
ไม่ใช่นะฮะ ไม่มีประมาณนะฮะ ไม่มีฮะ ถ้าจิตยังนิ่งโอเคฮะ
ถ้าจิตยังดิ้นเนี่ย นั่นน่ะ สมควรจะอยู่แล้วนะฮะ แสดงว่าดิ้นมากนะฮะ
มันจะคิดนู่นคิดนี่ มันจะออกไปนู่นไปนี่ อะไรไม่รู้ บางครั้งคิดถึงคือความดี
อยากออกไปหาคนเข้าวัดมั่งอะไรมั่ง ของมันเรื่อยๆอ่ะ คือตัวจิตอ่ะ
มันยังไม่นิ่ง มันยังไม่สงบ มันยังไม่เข้าใจ มันยังไม่มีขันติ วิริยะ
มันไม่สัจจะ ไม่มีการอธิษฐานอ่ะ มันก็ไม่อยู่ฮะ มันเข้าข้างตัวเองไง
มันก็ไม่อยู่ เข้าใจนะคนถามน่ะ

อันนี้อยู่แล้วไม่มีความสุขนี่ ต้องใช้ตัวพิจารณาเยอะๆ
ใช่ไหมคะหลวงตา


ถูก

แล้วถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่เหมือนมันมีบททดสอบ
อาจจะมีเหตุเรื่องการนินทากันมั่ง อย่างข้อแรกอ่ะคะหลวงตา
เป็นสภาวะบีบคั้น เขาคนนั้นจะต้องทำยังไงคะหลวงตา


ในโลกนี้ไม่มีที่ไหนไม่นินทาหรอกฮะ คุณจะทำดีเขาก็นินทาอยู่แล้ว
คุณจะทำไม่ดีเขาก็นินทาอยู่แล้ว ถ้าคนจะนินทานะ อยู่เฉยๆเขาก็นินทา
มันอยู่ที่เราจะไปรับหรือเปล่าเท่านั้นเอง ถ้าคนสวดมนต์ทำกรรมฐานเนี่ย
เขาไม่สนใจนะฮะ คือ นักกรรมฐานจริงๆเนี่ย กรรมคือการกระทำเนี่ย
ฐานก็คือจิต เขาไม่สนใจใครนะฮะ ใครจะว่าอะไรเขาไม่สนใจหรอกฮะ
สนใจตัวเองฮะ สนใจบุญฮะ ลมหายใจเข้าออกคือบุญแล้ว
สนใจอารมณ์ จบไหม อือ ก็จบไง

ที่มา : หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรม 3 มิถุนายน 2555 part 1



Create Date : 04 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 7:30:41 น.
Counter : 293 Pageviews.

0 comment
ทำไมคนหมู่มากถึงอยู่ร่วมกัน แล้วมีอคติต่อกัน นินทากัน มีวิธีใดจะทำให้เขาคิดดีต่อกันครับ
ทำไมคนหมู่มากถึงเวลาอยู่ร่วมกัน ถึงมีแต่อคติต่อกัน นินทากัน
มีวิธีใดจะทำให้ทุกคนคิดดีต่อกัน คิดแต่สิ่งดีๆกันครับ


ศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเนี่ยฮะ ท่านสร้างมาระยะสั้นฮะ
สั้นมากนะฮะ ใช้เวลาแค่ 20 โดยประมาณนะฮะ 20 โดยประมาณ
ก็มาสุดท้ายคือ 4 อสงไขยกับแสนแค่นั้นเองฮะ ช่องเวลาที่ท่านทำเนี่ยเพราะฉะนั้นศาสนาที่เป็นปัญญาธิกะเนี่ย มักจะเป็นอย่างนี้นะฮะ
เพราะสมัยท่านอยู่เนี่ย ท่านยังช่วยไม่ได้นะฮะ ขนาดญาติท่านแท้ๆเนี่ย
ฆ่ากันทั้งยังช่วยไม่ได้นะฮะ ช่วยไม่ได้ มันเป็นลักษณะอย่างนี้ฮะ
มันดีสำหรับผู้ที่ฝึกตบะ คือฝึกพลังงานน่ะ พลังงานความดีหรือไม่ดีนะฮะ
ถ้าอย่างเราฝึกเนี่ย ถ้าอย่างเราสวดมนต์เนี่ยฮะ เราสบายๆนะฮะ
เราฟังก็ได้นะฮะสิ่งที่ได้ยิน เราไม่ฟังก็ได้นะฮะ เราจะบันทึกในสิ่งที่ดีนะฮะ
สิ่งที่ไม่ดีมันจะไม่บันทึก มันดีสำหรับผู้ที่พิจารณาใคร่ครวญไตร่ตรอง
ในกรรมฐานที่ตัวเองทำ ถ้าโลกมนุษย์เนี่ยดีทั้งหมดเลยนะฮะ
ยากนะฮะ เราไม่เห็นส่วนที่ไม่ดีเลยนะฮะ
เราไม่เห็นพลังงานที่ไม่ดีเลยนะฮะ เราเห็นพลังงานแต่ดีทั้งนั้นเลยฮะ
ไม่ใช่ไม่ดีนะฮะ สิ่งที่ไม่ดีไม่ใช่ไม่ดีนะฮะ ดีสำหรับคนพิจารณานะฮะ
ก็เหมือนเราอยู่ที่บ้านเราเนี่ย พลังงานซับซ้อนอยู่ที่บ้านเราเนี่ย
มันมีทั้งดีและไม่ดีนะฮะ ตั้งแต่อดีตนะฮะ เหมือนกันนะฮะ

เพราะฉะนั้นเนี่ย ไม่ต้องไปสงสัยหรอกฮะ ในยุคปัจจุบันเนี่ย
มันเป็นแบบนี้ แม้ในวัด แม้ในบ้าน หมู่บ้าน แม้แต่อำเภอ จังหวัด
แม้แต่โลกนะฮะ โลกเราเนี้ย ไม่ถูกกันนะฮะ
ปากว่าตาขยิบทั้งนั้นแหละฮะ ทั่วโลกนะฮะ เผลอไม่ได้นะฮะ
ต้องรักษาตัวเองแล้วอ่ะ พิจารณาตัวเอง พิจารณาพลังงานพวกนี้
โอ้โหมันสนุกนะฮะ เรานั่งดูเขาว่ากัน นั่งดูเขาดีกันอะไรพวกนี้
เราจะเห็นทั้งสองนะฮะ ปัญญาล้วนๆท่านบอก ปัญญาล้วนๆเลยท่านว่า
มันได้เห็นทั้งสองอย่าง ทั้งดีและไม่ดี คือมันอยู่ที่เราเนี่ย ท่านบอก
เพราะเราเนี่ย บางทีก็คิดดี บางทีก็คิดไม่ดี อะไรอย่างนั้นอ่ะ
ก็อยู่ในกระแสเขาอย่างเนี้ย คนที่พ้นจากตรงนี้ไปได้นะฮะ
จะสำเร็จได้นะฮะ โอ้โห สุดยอดนะฮะ
ต้องใช้ความเพียรอย่างหนักนะฮะ ต้องใช้กำลังอย่างหนักฮะ
ถึงจะฟอกตรงนี้แล้วไม่เกิดได้ ต้องพิจารณาอย่างหนักเลยนะฮะ
ใช้กรรมฐานอย่างหนักนะฮะ เพราะฉะนั้นบางองค์นี่ เวลาเดินจงกรม
ต้องคลานนะฮะ ต้องใช้ขนาดนั้น ใช้กำลัง เพราะฉะนั้นคนถามดีนะฮะ
ถามดีมากเลยฮะ ถามดี

มันจะไปดีก็ต่อเมื่อโน่นแหละ เกิดกลียุคช่วงที่อายุคนยืนนะฮะ
อายุยืนเนี่ย ก่อนพระศรีฯจะมาน่ะ ช่วงนั้นน่ะ
ช่วงนั้นมนุษย์เก็บศีลธรรมล้วนๆนะฮะ เพราะอายุมันยืนขึ้นไปเรื่อยๆ
คนที่เกิดมาเนี่ย อยู่ในสภาพสังคมเขาอย่างนั้น มันก็ต้องทำตามเขานะฮะ
เพราะงั้นมันจะคิดถึงความดี คิดเป็นชั้นๆไป อายุมันมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ถึงนู้นน่ะ 80,000 ปี - 100,000 ปีนู่นน่ะ พระศรีฯถึงจะมานู้นอ่ะ
เพราะฉะนั้นดีมากนะฮะ ให้ดู ท่านบอกให้ดู เข้าใจไหมคนถาม
ให้ดูตัวเองนะฮะ

ที่มา : หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรม 3 มิถุนายน 2555 part 1



Create Date : 04 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 7:30:55 น.
Counter : 262 Pageviews.

0 comment
มีปัญหาด้านการเงิน การงาน แล้วก็แฟน อยากทราบวิธีแก้ปัญหา
มีปัญหาด้านการเงิน การงาน แล้วก็แฟน อยากทราบวิธีแก้ปัญหา

ในยุคปัจจุบันนี้ยากนะฮะ เพราะในอนาคตมันจะเกิดภัยธรรมชาติ
ธุรกิจทั่วโลกมันก็กำลังจะล่ม ภัยธรรมชาติมันก็จะเกิด
ถ้าเป็นหลวงตา ถ้าหนีได้ก็หนีนะฮะ ถ้าไม่ก็สวดมนต์ภาวนา
ตั้งสัจจะอธิษฐาน บุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำในอดีตนะ
มาถึงปัจจุบันนี้ฮะ ขอมาเป็นประโยชน์ในปัจจุบันนี้
ข้าพเจ้าจะทำความดี จะนึกถึงความดีตลอดเท่าที่นึกออก
อธิษฐานเรื่องความดี สวดกำลังจักรพรรดิ์ไปเรื่อยๆ
นึกไปเรื่อยๆนะฮะ สิ่งที่ดี สิ่งที่เคยทำมาในอดีตฮะ

จะเป็นประโยชน์กับศาสนาฮะ เป็นประโยชน์กับคนหมู่มาก
ตั้งสัจจะไว้เลย จะเป็นประโยชน์ จะทำประโยชน์
นั่นล่ะจากหนักมาเป็นเบาท่านว่า
เพราะปัจจุบันมันเกิดจากกรรมในอดีตนะฮะ
กรรมมันมา บางครั้งจะสังเกตดูนะฮะ
ขนาดเราสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน บางครั้งเราหงุดหงิดนะฮะ
โดยไม่มีสาเหตุนะฮะ ไม่มีนะฮะ นั่นคือกรรมนะฮะ
อย่าไปโทษใคร เรื่องราวอะไรก็ไม่มีสักอย่างอ่ะ
แต่ทำไมต้องหงุดหงิดอ่ะ มันก็ต้องมีสาเหตุ
อดีตคือปัจจุบัน การกระทำปัจจุบันคืออนาคตนะฮะ
อย่าไปโทษนะฮะว่าสวดมนต์ตั้งนานแล้ว อย่าไปโทษนะฮะ

บางครั้งสิ่งที่เราทำกรรมเนี่ย บางครั้งทำตลอดชีวิตนะฮะ
บางชาติน่ะ กรรมไม่ดีอ่ะ จะสังเกตดูอ่ะ พอเริ่มแก่ อ้าวเริ่มคิดออก
ก็เริ่มมาเข้าวัดแล้ว ภาวนา พอยังมีสิ่งที่ดีมั่ง พอในภพต่อมา
นั่นก็เริ่มทำความดี สิ่งที่ไม่ดีก็ตามมา เพราะมันอยู่บันทึกอยู่ที่จิตอ่ะ
ทีนี้เราสวดมนต์ไปเนี่ย มันพลังงานของความดีฮะ มันเบรคในสิ่งที่ไม่ดี
มันเบรคฮะ โดยที่การตั้งสัจจะอธิษฐาน ทำอะไรก็ได้ ตั้งยังไงก็ได้
แล้วแต่กำลังมี มีกำลังเท่าไรตั้งเท่านั้น อย่าไปตั้งเกินนะฮะ
เดี๋ยวมันทำไม่ได้ ทำไม่ได้มันกำลังเสียฮะ เหมือนกับในอนาคต
มันจะเป็นคนที่โลเลเอาแน่เอานอนไม่ได้ท่านบอก ฝึกนั่นฝึกนี่ไปเรื่อยๆ
ไม่แน่นอน นั่นเป็นคนโลเล ขี้สงสัยด้วยท่านบอก อธิษฐานเอานะฮะ

ที่มา : หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรม 3 มิถุนายน 2555 part 1



Create Date : 04 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 7:31:02 น.
Counter : 257 Pageviews.

0 comment
ทำบุญเข้าวัดถวายสังฆทาน เมื่อป่วยแล้วนึกถึงพระไม่ได้เพราะอะไร, แจกรูปสื่อพลังงานได้อานิสงส์อย่างไร
คุณย่าทำบุญเข้าวัดถวายสังฆทาน
แต่พอป่วยกลับนึกถึงพระไม่ได้ เป็นเพราะอะไรคะ


ทาน ถ้าทำบ่อยๆแล้ว นึกได้นะฮะ ถ้านานๆทำก็นึกไม่ออก
แต่ถ้าฝึกจิตเนี่ยมันเกิดความเคยชิน ยังไงก็นึกออก ยังไงก็นึกออก
ก็มันอยู่ในจิตนึกออก นึกไม่ออกได้ไง นึกออกนะฮะ

เพราะฉะนั้นการฝึกจิต ท่านจึงเรียกว่ากรรมฐานนะฮะ
กรรม คือ การกระทำ
ฐาน คือ จิต
คืองานของจิต มันจะพ่วงไปทั้งบารมี 10,20 หรือ 30
การฝึกพวกเนี้ย ไม่ใช่ฝึกจิตอย่างเดียว ไม่ให้ทาน ไม่ใช่นะ
คิดผิดฮะ มันรู้เรื่องพลังงาน มันจำหมดอ่ะฮะ

จังหวะ เวลา สถานที่ ภพชาติที่เกิดทำหมดฮะ โดยการฝึกเนี่ย
ฝึกตัวเนี้ย ตัวรู้นี่แหละ จิตเป็นตัวรู้ฮะ ไม่ใช่มันจะไม่ทำ นึกไม่ออกนะฮะ
บางครั้งทานเนี่ย เพราะอะไรรู้เปล่า ธาตุมันบีบฮะ ธาตุเราเนี่ย

ถ้าเราจะสังเกตคนตายนะฮะ คนใกล้จะตาย ธาตุไฟมันจะแตกนะฮะ
ธาตุไฟมันแตก ธาตุลมมันจะดับนะฮะ ธาตุไฟแตกปั๊บ ธาตุลมดับเลย
ธาตุน้ำซึมเข้าหาธาตุไฟคือบังคับไม่ได้แล้ว จิตบังคับไม่ได้
เข้าไปก็ไม่ได้ เข้าไปมันผลักออก ถ้าไม่ได้ฝึกนะฮะ
ถ้าคนโดนภัยธรรมชาติหรือโดนอุบัติเหตุเนี่ยนะฮะ จะนั่งดูสังเกตดูเนี่ย
มันเข้าๆออกๆมากเลยนะฮะ แต่มันบังคับไม่ได้
มันก็เลยต้องตามธาตุมันไป เขาพามันไปไหนมันก็ไป
พยายามจะเข้า เข้าไม่ได้ บังคับไม่ได้ นั่นคือ เคลื่อน คือเปลี่ยน
เปลี่ยนเป็นโลกของโอปาติกะแล้ว คือตาย
แต่ถ้าเราฝึกนะฮะ มันเคลื่อนก็จริงนะฮะ มันไม่ไปในภูมิตรงนี้นะฮะ
ถึงจะตายก่อนกำหนดหรือไม่อะไรก็ช่างนะฮะ มันมีกำลังที่จะไป
ตามกำลังที่จะฝึกนะฮะ บางคนขึ้นพรหมนะฮะ บางคนไม่เกิดนะฮะ

เหมือนพระที่ท่านตกเครื่องบินใช่ไหม สมัยก่อนอ่ะ มันมีพระใน
หนังสือพิมพ์ เมื่อก่อนเอาหนังสือพิมพ์ไปให้หลวงปู่ท่านดูหลวงพ่อท่านดู
ท่านจับดูปั๊บ ท่านบอกพระทั้งหมดนี้ฮะ ตายก่อนตายแล้วท่านบอก
ตายก่อนที่จะตายแล้วท่านบอก เพราะท่านไม่เกิด หลวงปู่ท่านรู้นะฮะ
หลวงปู่ดู่เนี่ยฮะ หลวงพ่อดู่เนี่ยฮะ เพียงแต่รูปเนี่ยท่านจะรู้เลยฮะ
ถ้าเราเอารูปไปให้ท่านดูเนี่ย ท่านจะดูเนี่ยมาจากไหน
แต่ถ้าซี้กันจริงๆนะฮะ ท่านดูนะฮะ ถ้าซี้นะฮะ ท่านดูนะฮะ

เพราะเมื่อก่อนนี้ไปอยู่กับท่านเนี่ย คนน้อยยังไม่มาก
เพราะฉะนั้น เราถึงติดท่านไง ท่านจะสอนวิธีพวกนี้ให้ฮะ
สอนวันละเล็กละน้อยเราก็ไปบ่อย ถ้าท่านแย็บไปแย็บมา
เราก็ไปเรื่อยๆฮะ ขาดงานไปมั่ง เสาร์อาทิตย์มั่ง
หลบมั่ง อะไรพวกนี้ เราก็อยู่ตรงนั้นอ่ะนะ

เพราะว่าท่านบอกว่า รูปทุกอย่างเป็นสื่อพลังงานหมดนะ
ในหนังสือพิมพ์ที่เห็นน่ะคือสื่อพลังงาน รู้ได้ไงฮะ
ก็สื่อไง ก็เหมือนหมอดูดูเรา ดูเราปั๊บ เราถามปั๊บ
ทักขึ้นเลยท่านบอก ถามว่าลูกฉันเป็นยังไง
ภาพลูกขึ้นปึ๊บปั๊บ รูปร่างเป็นอย่างนี้อย่างงั้น นี่คือการฝึกท่านว่า
ฝึกทั้งนั้นฮะ สวดมนต์ไหว้พระภาวนาเนี่ยแหละฮะ
ไม่ต้องให้ใครมาดูเราหรอกฮะ เราต้องไปดูหมอ ดูมัน
ไม่ใช่ให้มันมาดูเรา เราไปดูมัน เข้าใจนะฮะ


รูปของบุคคลเป็นสื่อพลังงาน อย่างหนู(ฆราวาส)อยากทำบุญ
โดยการอัดรูปหลวงปู่แจกเนี่ย อานิสงส์เท่ากับการสร้างพระ
ไหมคะหลวงตา


เหมือนกัน มันอยู่ที่รูปท่านจะมัวเมื่อไหร่นะ มันอยู่ที่รูปท่าน
สื่อน่ะรูปท่านน่ะ ใช่ไหม กับพระพุทธรูปเนี่ย ก็อย่างไหน
มันอยู่ทนกว่ากันล่ะ ระยะเวลา ถ้ารูปใส่กรอบ ใส่ดี อากาศดีๆ
มันก็มากกว่าพุทธรูปก็ได้ เพราะพระพุทธรูปไปตากแดด
ตากฝนเนี่ย ไปก่อนก็มี เพราะฉะนั้นอธิบายไม่ได้
ว่าอย่างไหนมันมากกว่ากัน มากก็คือรูปนั้นอยู่นานแค่ไหนแค่นั้นเอง


ถ้าสมมติหนูไปแจกรูปภาพ(หลวงปู่)ภาพหนึ่งให้กับคนๆหนึ่ง
แล้วเขาเมมโมรี่ภาพไว้ในใจอย่างนี้ แล้วเขาสามารถนึกถึงหลวงปู่ได้ค่ะ
แล้วสามารถแนะนำคนอื่นให้เมมโมรี่อย่างเขาได้ อานิสงส์ละคะ


โอ้โหสุดยอดเลยฮะ บุญมันต่อบุญไปเรื่อยๆนะฮะ เก็บกินไปเรื่อยๆนะฮะ
ลมหายใจเข้าออก เมื่อไรเอ็งก็ได้บุญเมื่อนั้นแหละ

ถ้าหนูอารมณ์ดีนี่ก็คือ บุญนั้นก็คือเข้าใส่หนู
แสดงว่าหนูเป็นหัวหน้าทีมพุทธพรหมปัญโญแล้ว


ถูก อารมณ์ไม่ดีเมื่อไรก็ขอโทษเถอะ ต่อให้สร้างอะไรก็ช่างละ
หมดสิทธิ์ได้บุญแล้ว อารมณ์เสีย 2 ชั่วโมงก็หมดสิทธิ์
2 ชั่วโมงนั่นแหละ ก็บันทึกอารมณ์ไม่ดีตั้ง 2 ชั่วโมงอ่ะ
หลวงปู่ดู่ท่านบอกว่า ข้าสร้างบารมีมาตั้งนานๆ รูปลักษณ์
โอ้โหหลายชาติท่านบอก คนก็นึกถึงท่านอยู่ คนก็กราบท่านอยู่
รูปลักษณ์เก่าท่านอยู่ บุญก็เกิดกับท่านทุกลมหายใจเข้าออก
แล้วท่านบอก ท่านจะไปอารมณ์ไม่ดีไม่ได้ หายใจเข้าออก
นี่ท่านว่าถ้าเป็นบุญที่จะเสวยนะ เป็นกัปป์นะท่านบอก ถ้าเราทำไว้เยอะ
เพราะฉะนั้นเราทุกคนเนี่ย วันนี้สร้างพระ เมื่อวานก็สร้างบางคน
สร้างพระ สร้างรูป สร้างอะไรเยอะแยะไปหมดเลย บุญจะเข้า
ลมหายใจเข้าออกฮะ อารมณ์ดีนะฮะ ความดีมันก็ไปตามความดีใช่ไหม
อารมณ์ไม่ดีความดีมันเข้าไม่ได้ มันเป็นธรรมชาติอยู่แล้วท่านบอก
เข้าไม่ได้ฮะ ปิดสนิทฮะ อารมณ์ไม่ดีกรรมฐานขาดๆเกินๆนะฮะ
ถ้าทรงอารมณ์ดีๆเดี๋ยวก็นิ่งฮะ อารมณ์สบายๆทำไป เดี๋ยวก็นิ่งเดี๋ยวก็เพลิน
อารมณ์ขุ่นมัวโอ้โหใช้เวลาบางคนเป็นชั่วโมง เข้าใจนะฮะ

ที่มา : หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรม 3 มิถุนายน 2555 part 1



Create Date : 04 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 7:31:06 น.
Counter : 299 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  

basicka
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog