|
พม่า 3 วัน 2 คืน หงสาวดี พระธาตุอินทร์แขวน - ย่างกุ้ง - สิเรียม (ตอนที่ 3.1)
ตอนที่ 3 พาเที่ยวเมืองหงสาวดีกันต่อค่ะ สัญลักษณ์ของเมืองหงสาวดีคือรูปหงส์ 2 ตัว (ตัวผู้อยู่ข้างล่าง ตัวเมียบินมาเกาะข้างบน)
กลับเข้าเมืองหงสาวดีเช้าวันนี้ พวกเราโชคดีมากค่ะ ได้พบขบวนแห่งานบวชระหว่างทาง
ตอนนี้เราจะมุ่งหน้าสู่วัดพระไฝเลื่อน หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดไจ้ท์ปอลอ (พระไฝเลื่อน)
แล้วเราก็ได้มาเจอขบวนแห่งานบวชที่กำลังเดินแห่รอบวัดอีกค่ะ ขบวนนี้มีบวชกันหลายองค์เลยรีบวิ่งลงไปถ่ายภาพด้วยความตื่นเต้นเพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นระยะประชิดเช่นนี้
เอาละ เข้าวัดไปไหว้พระกันดีกว่าค่ะ ทางเข้าก็จะคล้าย ๆ กันเกือบทุกวัดที่เป็นที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันส่วนใหญ่ คือ จะมีร้านค้าต่าง ๆ ขายสินค้าอยู่สองฝั่งทางเข้าวัด
ด้านบนประตูก่อนเข้าโบสถ์ที่ประดิษฐานพระไฝเลื่อนค่ะ เป็นสัญลักษณ์ว่าอยู่ในกรุงหงสาวดี
พระไฝเลื่อน หรือ พระไจ้ท์ปอลอ ค่ะ ไฝจะอยู่ที่เศรียรพระ (ขมับ) ด้านขวามือ
เดินมาด้านข้างเพื่อชมไฝบนขมับขององค์พระค่ะ
พยายามถ่ายอยู่หลายภาพเพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าไฝของท่านเลื่อนหรือไม่แต่ไกด์ก็มาเฉลยค่ะว่า ไฝบนองค์พระจะเลื่อนก็เฉพาะวันดีเท่านั้นเช่น วันที่ 9 เดือน 9 เป็นต้น
ผนังด้านในของโบสถ์ค่ะ เหมือนเป็นดีบุกนูน ลวดลายวิจิตรสวยงามมากค่ะ
โฉมหน้าแบงค์ของพม่าค่ะ (สภาพแย่มาก แทบไม่อยากจับเลย เห็นแล้วก็นึกขอบคุณธนาคารแห่งประเทศไทยที่พยายามพิมพ์แบงค์ใหม่ ๆ ให้พวกเราได้ใช้กัน รักเธอประเทศไทย!)
เดินทางกันต่อเลยค่ะ มุ่งหน้าสู่วัดพระธาตุมุเตา
พระเจดีย์ชเวมอดอว์หรือพระธาตุมุเตา ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในหงสาวดีเป็นสัญลักษณ์ ยืนยันความเจริญรุ่งเรืองของกรุงหงสาวดี ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า
พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ทั้ง 4 ทิศ รอบ ๆ องค์พระธาตุมุเตา พวกเราจุดธูปเทียนไหว้พระกันตรงนี้ และเหลือธูปไว้ 1 ดอกค่ะ
เหลือไว้ทำไม..ต้องติดตามต่อไปค่ะ
องค์พระธาตุมุเตานี้ เดิมอยู่ในอาณาเขตของบริเวณพระราชวังบุเรงนอง (ซึ่งหากเป็นความจริง พื้นที่จะกว้างใหญ่มากๆๆๆๆ)
พระองค์ดำ หรือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชของไทยเราได้มาอธิษฐานจิตที่พระธาตุแห่งนี้เพื่อขอให้ท่านได้ออกจากแผ่นดินพม่ากลับประเทศไทย
จะเรียกว่าอะไรดี เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปรอบ ๆ พระธาตุมุเตา
นี่คือจุดอธิษฐานค่ะ ให้นำธูปที่เราตั้งใจเหลือไว้ 1 ดอกตั้งแต่ตอนเข้ามาไหว้พระด้านหน้าองค์พระธาตุมาอธิษฐานตรงนี้
อธิษฐานอะไรก็ได้ค่ะ ถ้าโลภหน่อยก็อธิษฐานหลายข้อ จากนั้นก็ให้เอาธูป 1 ดอกนั้นมาโค้งและค้ำตามรอยต่อของอิฐ ถ้าค้ำหรือโค้งได้โดยที่ธูปไม่หักหรือไม่กระเด็นหลุดออกจากก้อนอิฐ เชื่อกันว่าคำอธิษฐานจะเป็นจริงค่ะ (คำอธิษฐานของเราที่ขอไว้เป็นจริงแล้วด้วยแหล่ะ
ตามธรรมเนียม คนพม่ามักจะเดินวนรอบองค์พระธาตุตามเข็มนาฬิกา 1 รอบ หรือ 3 รอบค่ะ
ภาพองค์พระธาตุในอีกมุมหนึ่งค่ะ
พระพุทธรูปอีกทิศหนึ่งค่ะ
มุมยอดฮิตค่ะ
ขึ้นรถต่อไปอีกนิดเพื่อเข้าชมพระราชวังบุเรงนองค่ะ จากข้อมูลที่ไกด์เล่าให้ฟัง พื้นที่บริเวณพระราชวังเดิมกว้างใหญ่มาก ใหญ่ขนาดว่าพื้นที่ขององค์พระธาตุมุเตาที่เราเพิ่งไปมากันเนี่ย เป็นส่วนหนึ่งในเขตพระราชวังเลยค่ะ
ปัจจุบัน ชาวบ้านมีการสร้างรกรากบุกรุกเขตพระราชวังกันมานานหลายสิบปี รัฐบาลจึงไม่สามารถไล่ทีพวกเค้าออกไปได้ และคนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแถบนี้จะเป็นคนโยเดีย (คำใช้เรียกคนไทยหรือคนอยุธยาในภาษาพม่า) ตอนรถบัสเราแล่นเข้าไปก็มีชาวบ้านมาแอบถามเหมือนกันว่า "คนโยเดียมาเที่ยวกันหรอ" เหมือนเค้าได้พบญาติอ่ะค่ะ
พระราชวังบุเรงนองนี้เป็นหลังใหม่ที่รัฐบาลพม่าสร้างขึ้นมาใหม่ เพราะหลังเก่าถูกระเบิดไหม้เสียหายไปทั้งหลังเหลือแต่ตอไม้
อีกภาพด้านหน้าค่ะ
ด้านในของพระราชวังค่ะ
เมื่อตอนรัฐบาลเข้ามาบูรณะพระราชวัง ได้พบเพียงไม้แผ่นนี้แผ่นเดียวที่มีสภาพสมบูรณ์ นอกนั้นเหลือเพียงตอไม้เท่านั้น
ไม้แผ่นนี้เป็นไม้สักหนาประมาณ 2 นิ้ว เค้าเชื่อกันว่าบุรุษท่านนี้ (อยู่ตรงกลาง) คือท่านบุเรงนองค่ะ
เรามาดูด้านในพระราชวังกันค่ะ นี่เป็นประตูกลางพระราชวัง เป็นไงค๊ะ ดูคุ้น ๆ กันบ้างไหม
ด้านในค่ะ เหมือนฉากพระราชวังบุเรงนองในหนังเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเลยไหม ไกด์บอกว่าท่านมุ้ยทรงมาดูและจำลองไปเป็นฉากในหนังของท่านค่ะ
จากอาคารท้องพระโรง มองเห็นอีกด้านคือพระตำหนักของพระเจ้าบุเรงนองค่ะ พระตำหนักนี้ห้ามผู้ใดเข้าไปนอกจากพระเจ้าบุเรงนองเพียงพระองค์เดียว เหมือนเป็นที่บรรทมของท่านอ่ะค่ะ
จากนั้นเราเดินทางกันต่อไปทานข้าวกันค่ะ วันนี้เป็นร้านอาหารอีกร้านแต่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเมื่อวานที่มาทาน
จานนี้คือไก่ทอดค่ะ พ่อครัวเค้าช่างทำ แกะตัวไก่แครอทมาประดับน่ารักดีค่ะ
จานนี้หน้าตาแปลกไหมค๊ะ ไอ้ที่เหมือนไข่เจียวยักษ์ตรงกลางเนี่ยมันคือแป้งค่ะ รสชาดเหมือนปาท่องโก๋ซาลาเปาทอดบ้านเราอ่ะ ข้างล่างเป็นน้ำเหนียวข้นเหมือนน้ำราดหน้าอ่ะคะ รสชาดเฉย ๆ ค่ะ แต่หน้าตาดูแปลกดี
อิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อ เรากำลังมุ่งหน้ากลับสู่กรุงย่างกุ้งกันค่ะ
ระหว่างทางแวะวัดจีนในพม่า!!
Happy Budda เทพแห่งความสุข หรือพระสังคจายน์ค่ะ
บริเวณภายในวัด
ประธานในโบสถ์ ดู ๆ ก็คล้าย ๆ วัดจีนในไทยนะคะ
องค์เล็กนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเทพอะไร แต่เห็นกิริยาชี้นิ้วขึ้นฟ้าแล้วชอบค่ะ น่ารักดีเลยถ่ายภาพมา
เพิ่งจะนึกขึ้นได้ค่ะว่า หรือเค้าจะจำลองตอนพระพุทธเจ้าประสูตหรือเปล่าน๊า?
พระแม่กวนอิมค่ะ
Happy budda ปราบมังกรค่ะ
แผนการเที่ยววันนี้ยังไม่หมดค่ะ แต่หน้า blog ชักจะยาวไปแล้ว ขอตัดตอนไปเป็น ตอนที่ 3.2 นะคะ
Create Date : 30 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2552 14:10:22 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2103 Pageviews. |
|
|
|
โดย: goodsoul วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:27:44 น. |
|
|
|
โดย: natalee IP: 124.120.149.249 วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:30:42 น. |
|
|
|
| |
|
|
อยากเห็นบรรยากาศบ้านเมืองและผู้คนค่ะ