|
ร่างกายอมตะ ในพระคริสต์
ในพระคริสต์ ข้าพเจ้าจะถูกรับขึ้น
ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาจากสวรรค์ด้วยพระดำรัสสั่ง ด้วยสำเนียงเรียกของเทพบดีและด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงในพระคริสต์ที่ตายแล้วจะเป็นขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นเราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่ จะถูกรับขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น และจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ อย่างนั้นแหละ เราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์ - ๑ ธส. ๔:๑๖, ๑๗
วันหนึ่งในอนาคตพระเยซูจะเสด็จมารับคริสตจักรของพระองค์ เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดความทุกข์ร้อนและวิบัติบนแผ่นดินโลก (วว. ๑๒:๑๒) แต่แทนที่เราจะรอคอยการปรากฏของพระองค์ (๑ ธส. ๑:๑๐) เรากลับรอการปรากฏของปฏิปักษ์พระคริสต์ เราควรพูดถึงพระองค์มากกว่าพูดถึงปฏิปักษ์ของพระองค์ คริสเตียนไม่ควรกลัวเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นตามคำทำนาย พระคัมภีร์กำชับให้เราเฝ้ารอคอยการเสด็จมาของพระองค์ด้วยความหวังและด้วยความสุข (ทต. ๒:๑๓) เมื่อพระองค์เสด็จมาปรากฏในฟ้าอากาศ มีบางสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับทุกคนที่อยู่ในพระคริสต์ พระคัมภีร์กล่าวถึงคนทั้งปวงในพระคริสต์ที่ตายแล้วกับเราทั้งหลายที่ยังเป็นหรือมีชีวิตอยู่ เรียงลำดับดังนี้
คนทั้งปวงในพระคริสต์ที่ตายแล้วจะเป็นขึ้นมาก่อน บางคนเข้าใจผิดว่าคริสเตียนที่ตายแล้ว วิญญาณยังคงล่องลอยอยู่ในโลง รอให้พระเยซูเสด็จมาชุบให้เป็นขึ้นมา เปาโลมั่นใจว่าเมื่อท่านตาย ท่านจะออกจากร่างกายนี้ไปอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้า (๒ คร. ๕:๘) วันที่คุณจากร่างกายนี้ วิญญาณคุณจะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้า วันที่พระองค์เสด็จมา คุณจะลงมากับพระองค์ พระองค์จะ สั่ง ให้ร่างกายคุณเป็นขึ้นใหม่ เป็นร่างกายสำหรับสวรรค์ (๑ คร. ๑๕:๔๐) เป็นกายที่มีศักดิ์ศรีหรือพระสิริของพระเจ้า (๔๓, ฟป. ๓:๒๑) เป็นกายวิญญาณ (๔๔, ๔๖) เป็นกายแบบขององค์พระผู้เป็นเจ้า (๔๗, ๔๘, ฟป. ๓:๒๑, ๑ ยน. ๓:๒) เป็นกายอมตะ (๑ คร. ๑๕:๕๓) หลังจากนั้นเราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่ จะถูกรับขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น หากวันนั้นคุณยังมีชีวิตอยู่ คุณจะได้พบคริสเตียนที่เสียชีวิตไปแล้วเป็นขึ้นมาต่อหน้าต่อตาคุณ คุณอาจคิดในใจว่า ฉันเพิ่งไปงานศพเขามาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเอง จากนั้นเขาทั้งหลายและคุณจะมีประสบการณ์เดียวกันกับพระเยซูเมื่อพระองค์เสด็จกลับสวรรค์ ...มีเมฆคลุมพระองค์ให้พ้นสายตาของเขา (กจ. ๑:๙) เปโตรเคยมีประสบการณ์กับเมฆปกคลุมนี้มาก่อน ...ก็บังเกิดมีเมฆสุกใสมาปกคลุมเขาไว้..." (มธ. ๑๗:๕) ภายหลังเปโตรกล่าวถึงเมฆนี้ว่าเป็นสง่าราศีหรือพระสิริของพระเจ้า (๒ ปต. ๑:๑๗) เมฆนี้คือการสำแดงของพระสิริของพระเจ้า เขาและคุณจะถูกปกคลุมด้วยพระสิริของพระเจ้า ร่างกายคุณจะถูกเปลี่ยนใหม่หมดด้วยพระสิริของพระเจ้าที่ปกคลุมคุณ (๑ คร. ๑๕:๕๑) และถูกรับขึ้นไปในพระสิรินั้น
และจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ เราจะได้พบพระองค์หน้าต่อหน้า เราจะได้รับศักดิ์ศรีหรือพระสิริของพระองค์ (๑ ปต. ๕:๔) เราจะได้รับบำเหน็จ (วว. ๒๒:๑๒) อย่างนั้นแหละ เราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์
นี่คือความหวังของทุกคนที่อยู่ในพระคริสต์ เป็นความหวังที่ก่อให้เกิดความสุข ไม่ก่อให้เกิดทุกข์ ให้เราทุกคนที่มีความหวังอย่างนี้ ชำระตนให้บริสุทธิ์ดังที่พระองค์ทรงบริสุทธิ์ (๑ ยน. ๓:๓) โดยการรับพระวจนะ ประพฤติตามพระวจนะ ดำเนินชีวิตด้วยความรักของพระเจ้า
คำกล่าวตามด้วยความเชื่อ: ข้าพเจ้าเฝ้ารอการเสด็จมาปรากฏขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าด้วยความสุข ข้าพเจ้ารับการชำระให้บริสุทธิ์ทุกวันโดยการดำเนินชีวิตด้วยความรักและประพฤติตามพระวจนะของพระเจ้า เมื่อพระองค์เสด็จมา พระองค์จะตรัสสั่งให้ร่างกายที่ต้องตายของข้าพเจ้าเป็นขึ้น ข้าพเจ้าจะถูกปกคลุมด้วยเมฆแห่งพระสิริของพระองค์ ร่างกายของข้าพเจ้าจะถูกเปลี่ยนแปลงใหม่หมด เป็นร่างกายสำหรับสวรรค์ที่มีพระสิริของพระเจ้า เป็นกายวิญญาณ เป็นกายแบบขององค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นกายอมตะ ข้าพเจ้าจะถูกรับขึ้นไปในเมฆแห่งพระสิรินั้น และจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ ข้าพเจ้าจะได้รับบำเหน็จจากพระองค์ ข้าพเจ้าจะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์ อาเมน
Create Date : 29 ธันวาคม 2550 |
Last Update : 3 มกราคม 2551 10:32:08 น. |
|
2 comments
|
Counter : 551 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ชาญชิต วันที่: 29 ธันวาคม 2550 เวลา:20:50:38 น. |
|
โดย: lukpad วันที่: 31 ธันวาคม 2550 เวลา:11:28:16 น. |
|
|
|
|
ชาญชิต |
|
|
|
|