|
ความมั่นใจที่มีต่อพระเจ้า
ความมั่นใจที่มีต่อพระองค์
และนี่คือความมั่นใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้าเราทูลขอสิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงโปรดฟังเรา ๑ ยอห์น ๕:๑๔
พระเจ้าทรงประสงค์ให้คุณมีความมั่นใจต่อพระองค์ และหนึ่งในความมั่นใจที่คุณสามารถมีได้ คือความมั่นใจในการตอบคำอธิษฐานของพระองค์
คำว่า ความมั่นใจ ยังหมายถึง ความกล้า
ปัญหาคือ เมื่อเราเข้ามาทูลขอบางสิ่งจากพระเจ้า นอกจากเราทูลขอด้วยความไม่มั่นใจ เรายังเข้าหาพระองค์ด้วยความหวาดกลัว
พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราเข้าหาพระองค์ด้วยใจกล้า ฉะนั้นขอให้เราทั้งหลาย จงมีใจกล้าเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณ เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะได้รับพระคุณที่จะช่วยเราในขณะที่ต้องการ (ฮบ. ๔:๑๖)
คำกรีกของ ใจกล้า ในข้อนี้เป็นคำเดียวกันกับ ความมั่นใจ ในพระธรรมข้อหลักของเรา
นอกจากความมั่นใจและความกล้าคือเงื่อนไขในการเข้าหาพระเจ้า ยังเป็นเงื่อนไขในการรับพระเมตตาและพระคุณในขณะที่เราต้องการ
เราโยนความผิดให้พระเจ้าที่ไม่ทรงช่วยเราในขณะที่ต้องการ แต่ความจริงคือ เราต่างหากที่ไม่ทำตามเงื่อนไขของพระคัมภีร์
เราอ้ำอึ้ง อารัมภบท ออกตัวและหวาดกลัว หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไปโดยที่ได้แต่กล่าวถึงสาเหตุต่างๆ นานาที่เราไม่สมควรได้เข้าเฝ้า และกล่าวถึงสาเหตุที่พระองค์ไม่ทรงจำเป็นต้องสละเวลาฟัง ทั้งๆ ที่ความจริงคือ เรารบกวนพระองค์มาแล้วหนึ่งชั่วโมง เราพูดจนกระทั่งเราล้มเลิกความตั้งใจที่จะทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์
พระเจ้าทรงประสงค์ที่จะประทานทุกสิ่งที่คุณทูลขอ อัครทูตยอห์นกล่าวในข้อต่อมาว่า เมื่อเราทูลขอสิ่งใดๆ เราก็รู้ว่าเราได้รับสิ่งที่เราทูลขอนั้นจากพระองค์ (ข้อ ๑๕)
แต่อย่างไรก็ตาม พระสัญญาข้อนี้มีเงื่อนไข สิ่งใดๆ ที่คุณจะได้รับจะต้องเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ถ้าเราทูลขอสิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงโปรดฟังเรา และถ้าเรารู้ว่า พระองค์ทรงโปรดฟังเรา เมื่อเราทูลขอสิ่งใดๆ เราก็รู้ว่าเราได้รับสิ่งที่เราทูลขอนั้นจากพระองค์ (ข้อ ๑๔-๑๕)
ปัญหาคือ เราทูลขอทุกสิ่งยกเว้นสิ่งที่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า เมื่อเราไม่ได้ตามความประสงค์ของเรา เราก็ออกอาการไม่ต่างกับเด็กที่ไม่ได้ของเล่นตามห้าง
บางคนอาจไม่มีปัญหาเรื่องความกล้าในการเข้าหาพระเจ้า แต่มีปัญหาในเรื่องพระประสงค์ของพระเจ้า
เราเห็นความกล้าในสาวกของพระเยซู พวกเขาได้รับสิทธิอำนาจให้ขับผีและรักษาโรค แต่พอพบชาวบ้านที่ไม่ต้อนรับพระองค์ ยอห์นได้ทูลพระเยซูว่า "พระองค์เจ้าข้า พระองค์พอพระทัยจะให้ข้าพระองค์ขอไฟลงมาจากสวรรค์เผาผลาญเขาเสียหรือ" (ลก. ๙:๕๔)
บางคนความเชื่อแรงจริงๆ แต่ไม่ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า
พระเยซูทรงเปิดเผยพระประสงค์ของพระเจ้า พระคัมภีร์กล่าวต่อไปว่า แต่พระองค์ทรงเหลียวมาห้ามปรามเขา พระองค์ตรัสว่า "ท่านไม่รู้ว่าท่านมีจิตใจทำนองใด เพราะว่าบุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อทำลายชีวิตมนุษย์ แต่มาเพื่อช่วยเขาทั้งหลายให้รอด" (ข้อ ๕๕)
พระเจ้าไม่ทรงจำเป็นต้องตอบคำอธิษฐานที่ไม่เป็นพระประสงค์ของพระองค์
เราจะทราบได้อย่างไรว่าสิ่งใดเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า
พระประสงค์ของพระเจ้าเปิดเผยในพระคริสตธรรมคัมภีร์ตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย หนึ่งในสาเหตุหลักที่เราไม่ทราบพระประสงค์ของพระเจ้าก็คือ เราไม่อ่านพระคัมภีร์
เพราะเหตุนี้เวลาเราอธิษฐานทูลขอสิ่งใด เราจึงพ่วงท้ายคำอธิษฐานของเราว่า หากเป็นพระประสงค์ของพระองค์
เมื่อเราทูลขอให้พระองค์ทรงรักษาใครสักคน เรามักจะทูลขอว่า พระบิดาเจ้าข้า ขอทรงโปรดรักษา หากเป็นพระประสงค์ของพระองค์
คุณจะไม่พบคำอธิษฐานเช่นนี้จากพระโอษฐ์ของพระคริสต์เมื่อพระองค์ทรงรักษาแม้แต่ครั้งเดียว และจะไม่พบจากปากของสาวกของพระองค์ด้วย พระประสงค์ของพระเจ้าเรื่องนี้ปรากฏชัดตลอดพันธกิจของพระเยซูและสาวกของพระองค์
ยอห์นไม่เคยสอนให้เราเสี่ยงทายระหว่างอธิษฐานว่าเป็นพระประสงค์หรือไม่ ท่านต้องทราบเสียก่อนว่าสิ่งที่เราทูลขอคือพระประสงค์ของพระเจ้า เมื่อเราทูลขอ เราจึงจะมั่นใจได้ว่าพระองค์ทรงโปรดฟัง และเมื่อเราทูลขอสิ่งใดๆ เราก็รู้ว่าเราได้รับสิ่งที่เราทูลขอนั้นจากพระองค์
การลงท้ายว่า หากเป็นพระประสงค์ของพระองค์ จำเป็นอย่างยิ่งในการอธิษฐานทูลขอการทรงนำในชีวิตให้เป็นไปตามพระประสงค์ อย่างเช่นในเรื่องการรับใช้ เรื่องการเลือกคู่สมรส เพราะพระคัมภีร์ไม่ได้บอกเจาะจงว่าคุณต้องรับใช้ที่ไหน ด้านใด และคู่สมรสของคุณชื่ออะไร แต่ไม่ใช่สำหรับการรับความรอด และสิ่งอื่นๆ ที่ประทานมาพร้อมกับความรอด
พระเจ้าทรงประสงค์ที่จะตอบทุกคำอธิษฐานที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ ตัดสินใจวันนี้ที่ค้นดูพระประสงค์ของพระเจ้าในพระคัมภีร์ ทูลขอตามพระวจนะ จงเชื่อว่าได้รับ จงมั่นใจว่าพระองค์ทรงโปรดฟัง จงรู้ว่าคุณจะได้รับสิ่งที่คุณทูลขออย่างแน่นอน แล้วคุณจะได้รับพระเมตตา และจะได้รับพระคุณที่จะช่วยคุณในขณะที่ต้องการ และจะมีประสบการณ์กับชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่คุณ
คำกล่าวตามด้วยความเชื่อ: และนี่คือความมั่นใจที่ข้าพเจ้ามีต่อพระองค์ คือถ้าข้าพเจ้าทูลขอสิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงโปรดฟังข้าพเจ้า และถ้าข้าพเจ้ารู้ว่า พระองค์ทรงโปรดฟังข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าทูลขอสิ่งใดๆ ข้าพเจ้าก็รู้ว่าข้าพเจ้าได้รับสิ่งที่ข้าพเจ้าทูลขอนั้นจากพระองค์
Create Date : 21 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 21 ตุลาคม 2551 8:09:57 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1195 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ชาญชิต วันที่: 21 ตุลาคม 2551 เวลา:8:10:37 น. |
|
|
|
|
ชาญชิต |
|
|
|
|
พบบทความอื่นๆ อีกมากใน //www.inchrist.pantown.com