ทริป กระบี่หนีเที่ยว ไปคนเดียวที่ iSLANDA Villas Resort
วันนี้จะพาเพื่อนๆBP ไปพักผ่อน ที่รีสอร์ท น่ารักๆ เงียบสงบ ที่ เกาะกลาง จังหวัดกระบี่ ครับ ทริปนี้ เกิดจากการที่ได้ จองโปรหางแดง 199 ไว้เมื่อ ปี ที่แล้ว โดยการบินสองตุ๊บ ชร-กทม-กระบี่ เป็นทริปที่ผมเดินทางเมื่อวันที่ 18 -20 กพ ก่อนที่จะเดินทางไปทริป สมุย Ibis แค่วันเดียว ตามรีวิวในลิ้งค์ นะครับ//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10187914/E10187914.htmlก่อนไป ผมเจอปัญหา สองเรื่อง คือ เด็กดอยแฟนผม ลางานไม่ได้ และผมยังไม่ได้ จองที่พัก ที่กระบี่ไว้ เนื่องจากผมมีที่พักที่ได้รางวัลจาก การเล่นส์เกมส์ ของ นิตยสาร Voyage โดยได้รางวัลเป็นห้องพักที่ iSLANDA Villas Resort แค่คืนเดียว เมื่อไกล้เดินทาง ผมโทรไปจองหลายๆที่ ปรากฏว่าเต็ม ก็เลยเสี่ยงดวง กะว่าไปเดินหาเอาทริปนี้ผมมีข้อมูล ที่พัก หรือ ข้อมูลท่องเที่ยวน้อยมากๆ เพราะยุ่งๆ กับงานของตัวเอง --------------------------------------------------------------------------------------------ผมบิน ชร-กทม ไฟต์เช้า แล้วไปนั่งแหง่ว ที่ สุวรรณภูมิ ก่อนเดินทางไปกระบี่ไฟต์บ่าย ซึ่งส่วนมากมีแต่ ชาวต่างชาติเนื่องจากไม่ได้ จอง โรงแรมไว้ จึงไม่มีรถมารับ ต้องขึ้นรถไปเอง ผมได้โทรหา อัยลันด้า รีสอร์ท สอบถามทางที่จะไป และถามว่า คืนแรกนี้ผมสามารถเข้าพักที่ไหน หรือ โรงแรมใหนในเครือได้บ้าง ก็ได้คำตอบว่า ผมต้องนั่งรถไปลงที่ ท่าเรือธารา เพื่อจะข้ามไปที่เกาะกลาง ซึ่งอยู่ที่ปากแม่น้ำกระบี่ค่ารถ 90 บาท เมื่อมาถึง ท่าเรือ ธารา ก็จะมีเจ้าหน้าที่ทางรีสอร์ทมารับ เพื่อนำข้ามเรือ ไปยังเกาะกลาง ซึ่งจริงๆมีผมคนเดียวที่เป็นลูกค้าทางรีสอร์ท ในรอบนั้นส่วนเด็กในภาพ เป็นลูกของคนที่มารับผมครับ พี่แก มากระซิบ ว่า ขอรับลูกกลับไปด้วยนะครับ เพราะ เลิกเรียนพอดี ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ พี่ เกาะกลาง จังหวัดกระบี่ เป็นเกาะที่อยู่ห่างจากฝั่งกระบี่ โดยใช้เรือข้ามไปแค่ 5นาที เหมือนกับนั่งเรือข้ามแม่น้ำเท่านั้น บนเกาะกลาง มีถนนคอนกรีต ที่รถมอไซค์ และจักรยานเท่านั้นที่วิ่งได้ ดังนั้นจะเห็น ชาวบ้านบนเกาะ เอา มอไซค์ ข้ามเรือ ไปฝั่งกระบี่ และ ข้ามกลับมา ส่วนรถที่มารับผมเป็น รถสกายแลป ของทางรีสอร์ท ใช้เวลาเดินทางจาก ท่าเรือ ไปยังรีสอร์ท สามสิบนาที เมื่อมาถึงก็เช็คอิน และรับ เวลคัมดริ้ง อร่อยๆครับ ผมชอบครับ รสมะเฟือง หวานๆเปรี๊ยวๆ เช็คอินเสร็จแล้ว ผมก็ฝากกระเป๋าไว้ที่ล๊อปบี้ เพราะ เหลือบไปเห็น พระอาทิตย์ จะ ตก แล้ว เลยคว้ากล้องวิ่งมาที่สระน้ำ รีบกดชัตเตอร์ แต่โชคไม่ดี ที่มีเมฆเยอะ เลยมองไม่เห็น ตอนหล่นลงน้ำ หลังจากนั้นก็เอาของ จริงๆเป็นกระเป๋าใบเดียว ไปเก็บบนห้องครับ ห้องพักที่ iSLANDA จะเป็นบ้านแฝด ครับ สำหรับ บ้านแบบ ซีวิว ผมได้บ้านแบบสองเตียง ครับแต่คืนนี้ นอนคนเดียว พนักงานต้อนรับบอกว่า ตอนแรกรับโทรศัพท์ บอกว่ามาคนเดียว นึกว่าเป็นพวกเบื่อโลก หรืออ ติสแตกแหง๋ๆ กลายเป็นว่าเป็นหนุ่มบ้ากล้องถ่ายรูป เฉยเลย นี่คือคำสารภาพ จาก พนักงานต้อนรับ 555 บ้านพักแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนห้องนอน และส่วน ห้องน้ำและห้องนั่งเล่นทานอาหาร ผนังปูนดิบ ช่วยให้กลมกลืนกับ ธรรมชาติ ได้ดี ในตู้เสื้อผ้า มีร่ม เสื่อ และผ้าขนหนูให้ด้วยครับ ที่ห้องน้ำมีโอ่ง ด้วยครับ สำหรับคนที่ชอบแบบตักน้ำอาบ แต่ผมไม่ได้ใช้ครับ เพราะ ขี้เกียจรอน้ำเต็ม โอ่ง ครับ ตรงกลางบ้านระหว่างห้องทั้งสอง จะมี อ่างล้างมือไว้ไห้อีกอัน iSLANDA Villas Resort ตั้งอยู่ที่เกาะกลาง เป็นรีสอร์ทเดียวบนเกาะนี้ ที่รอบล้อมไปด้วยหมู่บ้านชาวประมง และป่าชายเลน ป่าโกงกาง แต่ตรงจุดที่ตั้งของรีสอร์ท มีหาดทรายส่วนตัวให้เล่น ถึงแม่ทรายอาจจะไม่ขาว เหมือนเกาะอื่นๆในกระบี่ น้ำทะเลก็ไม่ได้ใส ทรายไม่ได้สวย แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นคือ ความเงียบสงบไม่พลุกพล่าน แล้วทิวทัศน์ สวยๆ ผมใช้เวลาเดินสำรวจ พื้นที่รีสอร์ทสักพัก ก็กลับมาที่ล๊อบบี้ เพื่อสอบถามข้อมูลในการเที่ยวของพรุ่งนี้ แล้ว หาอะไรทานมื้อเย็นครับวันที่ผมไปพัก มี ลูกค้า แค่ สามกลุ่มเท่านั้น ไม่เกินสิบคน เป็นยุโรป สี่คนมาเป็นครอบครัว และก็มี ญี่ปุ่นสองคน หนุ่มสาว ทำให้ ห้องอาหาร นั้นโล่งไปทีเดียว เห็นแบบนี้ แล้วก็รู้สึกเหงานะครับ เวลานั้น ยิ่งเห็น คู่ญี่ปุ่น เดินมานั่งโต๊ะข้างๆแล้วด้วย เหอๆ อาหารที่นี่ จัดว่าค่อนข้างแพง แพงครับ แพงทุกอย่างสำหรับคนไทยครับ แต่ก็ต้องทานครับ เพราะ หลังหมดแสงตะวันไป รอบๆรีสอร์ท มืดสนิท ครับ ไม่มีร้านรวงใดๆเปิด เลยครับผมสั่งเจ้านี่ไปครับ สปาเก็ตตี้เนื้อ สนนราคาจานละ 200 บาท และน้ำดื่มขวดละ 50 บาท อยากบอกว่า นี่ ถูกที่สุดในร้านแล้ว นะครับ แต่ปริมาณ นี่ เหมาะกับฝรั่งมากครับ เพราะ เยอะจนจุกทีเดียววันนั้นผม เข้านอนเร็ว เพราะ ความเหนื่อย จากการเดินทาง ซึ่งทำให้คนที่ไม่ค่อยตื่นเช้าแบบผม สามาถ ตื่นมาถ่ายพระอาทิตย์ ขึ้น ทันด้วย ด้านหน้าทางเข้า รีสอร์ท จะมี บ่อเลี้ยงปลา และ กระชังปลา เพิ่มมุมสวยๆเข้าไปอีก สระว่ายน้ำที่นี่ สามารถว่ายน้ำไป มองวิวทะเลไปด้วย สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และเก้าอี้อาบแดด ที่ว่างๆ ไม่ต้องแย่งใครนั่งเงียบสงบดีแท้ เหมาะที่จะมาพักผ่อนสมอง จากหน้าที่การงาน จริงๆ หาหนังสือเล่มโปรด และนอนฟังเพลง ท่านกลางความสงบ ของที่นี่ แทบจะไม่ต้องไปไหน เลย ก็ว่าได้ เดินสำรวจไปเรื่อยๆ ที่นี่ ต้นไม้ยังไม่โตมากนักทำให้ ขาดความร่มรื่นไปบ้าง สระบัวที่เห็น จะอยู่ด้านหลัง สระว่ายน้ำ สนาม วอลเล่ย์บอล ชายหาด ภาพมุมกว้าง จากด้านชายหาด มองเข้าไปในรีสอร์ท ดอกไม้สวยๆ ริมสระ มีสปาด้วย แต่ผมไม่ได้ ใช้บริการ ผมติดต่อขอเช่า มอไซค์จากทางรีสอร์ท เพื่อตระเวณเที่ยว รอบเกาะกลาง ทางรีสอร์ทแจ้งว่าจะให้ ยืมของพนักงาน รอสักครู่ แนะนำว่า ใครจะมาพักที่นี่ ให้เช่ามอไซค์มาจาก ในเมืองกระบี่ แล้ว เอาข้ามเรือมาเลยครับ เพื่อความสะดวก ที่ชุมชนเกาะกลาง ส่วนใหญ่ เป็นมุสลิม และมีอาชีพ ทำประมง ขี่มอไซค์ผ่านแทบทุกบ้านจะมีภาพแบบนี้ ให้เห็น เลยอดไม่ได้ลงไปเก็บภาพ มุมมองลอกคุณ POGGHI มา นอกเหนือจากทำประมงที่นี่ยังทำนา ด้วยนะครับ ซึ่งหาได้ยากแล้ว ในกระบี่ ตลอกทาง จะเห็น ภาพแบบนี้ ซึ่งขนาดว่าบ้านผมอยู่ ตจว ยังไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว เด็กๆที่นี่ คงไม่มีร้านเกมส์ออนไลน์ คงไม่มีร้านเน็ตให้แชต แต่เด็กๆที่นี่ เลือกที่จะเล่นกับธรรมชาติ ที่มีมากมายบนเกาะ นี้ ที่นี่ยังมีการลงแขกเกี่ยวข้าว เพราะ รถเกี่ยวข้าวไม่สามารถเข้ามาวิ่งบนภนนของเกาะนี้ได้ การลงแขกเกี่ยวข้าว ก็คือการเอามือกัน วันนี้บ้านนี้เกี่ยวไปช่วยกัน พรุ่งนี้บ้านนั้นเกี่ยวไปช่วยกัน หากว่าเกี่ยวใครเกี่ยวมัน คงไม่ทันกันพอดีที่เกาะกลางนั้น นิยมปลูกข้าวสังค์หยด ผมคุยกับพี่คนนึงที่เกี่ยวข้าวบอกว่าเป็นข้าวที่หอมและนุ่มมาก ส่วนมากปลูกทางใต้ นี่เอง ชาวบ้านที่นี่ เลี้ยงแพะ เพื่อเอานม และ เนื้อ กันเกือบทุกบ้าน ส่วนงานอดิเรกที่ทำเงินของที่นี่ ซึ่งเห็นมีเกือบทุกบ้านเช่นกัน ก็คือ การเลี้ยงนก หัวจุก จะเห็นทั้งคนหนุ่มคนแก่ มานั่งฟัง และ วิจารณ์ กันเป็นกลุ่มๆ การที่ไม่มีสะพานข้ามมายังเกาะกลางนี้ ทำให้ วีถีชีวิต ของคนที่นี่ยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เข้ามากยากนั่นเอง ผมคุยกับพี่คนนึง บอกว่าเคยมีโครงการจะทำสะพาน แต่เลิกไป ชาวชุมชนเองก็ไม่ได้อยากได้เท่าไหร่นัก แต่ผมว่า อีกไม่นาน คงมีแน่นอน ก็ขอให้วันนั้นมาถึงช้าๆ แล้วกัน ครับกระต่ายตัวนี้ผมเห็นมันเดินเล่นที่ลานบ้าน โดยไม่มี กรงขัง กลับมาที่รีสอร์ทกันอีกทีครับ คราวนี้ จะพาไปชม ห้อง แบบบรีซฟร้อน เป็นบ้านเดี่ยว ราคาค่อนข้างสูงหน่อย (ผมตัดสินใจพักที่ อัยลันดา เป็นคืนที่สองเพราะบรรยากาศที่เงียบสงบหลังจากได้ไปชมโรงแรมอื่นในเครือเดียวกัน ซึ่งผมจะรีวิวแยกออกไปต่างหากอีกทีนะครับ) ทางขึ้นครับ ที่เตียงวางดอกไม้ไว้ต้อนรับ เตียงใบใหญ่วางกลางห้อง หันหน้าหาทะเล มุมมองออกไปนอกระเบียงที่มี เก้าอี้นอนเล่น และ อ่างไว้ให้แช่ ดื่มด่ำบรรยากาศทะเล เป็นอ่างเล็กๆน่ารัก เอาไว้นอนแช่คนเดียว ใครจะแช่สองคนก็ได้ ครับ แต่ข้อเสียคือ ข้างบ้านจะสามารถมองเห็นคุณได้ นะครับ สอบถามพนักงานแล้ว บอกว่า รอให้ไม้เลื้อยมันโต จะขึ้นมาบังระหว่างบ้านเอง อืมรออีกนิดนะครับ รีสอร์ท เพิ่มเปิดมาไม่ถึงสามปี หมอนใบใหญ่ๆสี่ใบ หนานุ่ม มากมาย มีไฟฉายไว้ยามไฟดับด้วย พื้นที่ในห้องดูเหมือนแต่จะคับแคบไปนิดแต่อย่างที่บอกครับ ส่วนของห้องน้ำและห้องครัว ห้องนั่งเล่นแยกไปต่างๆด้านหลังเป็นสัดเป็นส่วนดี ทางเดินภายในรีสอร์ท จะเห็นต้นไม้ที่ยังไม่โตมากนัก แต่ มีต้นมะพร้าวเยอะดี ให้บรรยากาศ ทะเล จริงๆ ตกเย็นผมก็อดไม่ได้ที่จะมาใช้ บริการสระว่ายน้ำของที่ แบบว่า สระนี้เป็นของเราคนเดียว ว่ายอยู่คนเดียวตั้งนาน กว่าจะมีป้าฝรั่งคนนึงลงมาว่ายอีกคน ว่ายน้ำไป ดู พระอาทิตย์ไปด้วย หากจะบอกว่า ที่ อัยลันด้า เป็นสถานที่ พักผ่อนและสงบใจ จิตใจได้มาก ก็ไม่ผิดนัก การอยู่ที่นี่ ทำให้ผม ตื่นเช้ามาสูดอากาศเย็นๆโชยมา นอนอ่านนิยายเล่มโปรดข้างสระน้ำ ตอนบ่าย และว่ายน้ำดูพระอาทิตย์ตอนเย็น โดยไม่ต้องสนใจเวลาที่หมุนไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ พระอาทิตย์วันนี้ไม่แกล้งผม ค่อยๆตกอย่างช้าๆ โดยที่ไม่มีเมฆบัง ฟ้าใสๆ ยามพระอาทิตย์ กับฉากหลังที่เป็น เกาะไก่ เกาะปอดะ ช่างสวยงามมากนัก สุดท้าย พระอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าไปจนได้ เป็นการย้ำเตือนว่า พรุ่งนี้ ผมต้องจากสถานที่นี้ไปแล้ว มืดแล้วขอพาชม ห้องพักยามค่ำคืนกันดีกว่าครับอาบน้ำอาบท่ากันก่อน ไฟไม่สว่างมากนัก กำลังพอดี บรรยากาศภายนอก เมื่อมองออกจากห้องพักดูเงียบสงบ อากาศไม่ร้อน ไม่เหนียวเหนอะหนะ ที่นี่ ยุงเยอะพอสมควร ควรติดโลชั่นกันยุงมาด้วยก็ดี ครับ ไฟภายในรีสอร์ท จะไม่สว่างมากนัก แต่ก็ไม่มืดจนเกินไปนัก บริเวณทางเดิน คืนที่สองผมก็ยังฝากท้องไว้ที่รีสอร์ท แต่เปลี่ยนเป็น ลาณานญ่าสนนราคา 220 บาท ส่วนน้ำ เอามาจาก ห้องพัก ครับ 555ไม่ได้กินผมหรอก ครั้งที่สอง ทานเสร็จแวะไปเอาเบียร์ อาซาฮี สองกระป๋องที่ฝากพนักงาน ซื้อมาจาก เซเว่น ที่ฝั่งตัวเมืองกระบี่ กินก่อนนอนแล้วตื่นมาทานอาหารเช้า ต้องรีบนิดนึงครับ เพราะ ว่ากลับไฟต์ สิบเอ็ดครึ่ง ต้องอกจาก ที่พัก เก้าโมง สำหรับผม หากมี โอกาส อีกครั้ง ผมจะพาเด็กดอย ไปพักที่นี่อีกแน่นอนครับ เพราะผมชอบ รีสอร์ท สไตล์นี้ครับ เหมาะแก่การพักผ่อน เป็นที่สุด ฝากรูปสุดท้ายไว้แค่นี้ครับ ขอบคุณ พนักงานทุกคนใน อัยส์ลันดา ที่ให้บริการในครั้งนี้ ครับขอบคุณ ทุกท่านที่แวะเข้ามาชม ปาด เม้น ให้กิ๊ฟ และ กดโหวต ครับ ผม
ถ่ายรูปสวยมากเลยค่ะ ชัดแจ๋วเลย เห็นรูปแล้วทำให้อยากไปเที่ยวกันเลยทีเดียว
อ่านแล้วได้ข้อมูลเพียบ จะเก็บไปฝากลูกสาวค่ะ เพราะเขามีโปรแกรม
จะไปเที่ยวกระบี่ปีหน้า ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ