วิธีการสังเกตเคลือบแก้วแท้หรือไม่
1.ใบรับรองระดับความแข็งของชั้นฟิล์มแก้ว ซึ่งค่าระดับความแข็งของชั้นฟิล์มแก้วสามารถแบ่งได้ตั้งแต่ 1H- 10H ตาม Mosh Scale มาตรฐานสากลโดยใช้เครื่องตรวจวัดความแข็งหรือที่เรียกว่า Pencil Hardness Tester 2. ความเงางาม เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น โดยนวัตกรรมเคลือบแก้วนอกจากจะสามารถปกป้องสีรถที่ดีแล้วยังให้ความเงางามของชั้นฟิล์มแก้วเมื่อเคลือบลงไปบนชั้นสีรถความเงานั้นจะติดทนยาววนานมากกว่า 1 ปีขึ้นไปด้วยการเคลือบเพียงครั้งเดียวโดยความเงางามของน้ำยาแต่ลแบรนด์จะแตกต่างกันออกตามส่วนผสม 3. ความหนาของชั้นฟิล์มแก้ว สามารถวัดค่าได้จากเครื่องวัดความหนาก่อนเคลือบและหลังเคลือบแก้ว 4. น้ำไม่เกาะสีรถ ซึ่งจะทำให้สิ่งสกปรกเกาะสีรถได้ยากขึ้น (HydrophobicEffect) โดยวิธีการสังเกตคุณภาพของเคลือบแก้วคือให้สังเกตหยดน้ำบนชั้นสีรถที่มีลักษณะกลมนูน เหมือนหยดน้ำกลิ้งบนใบบอน และสิ่งสำคัญคือการติดทนของเคลือบแก้วน้ำจะไม่เกาะสีรถในระดับ 6 เดือนขึ้นไปอย่างไรก็ตามการติดทนของเคลือบแก้วขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษารถอีกด้วย 5. การทนทานต่อการชะล้าง แรงดันน้ำ และสารเคมีเคลือบแก้วแท้จะเป็นการสร้างชั้นฟิล์มบางๆระดับไมครอนบนสีรถและจะผสานติดเข้ากับชั้นสีรถไป โดยทนทานต่อการชะล้าง แรงดันน้ำ และสารเคมีโดยสามารถทดสอบประสิทธิภาพของเคลือบแก้วได้ด้วยการล้างรถ และการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงลักษณะของน้ำจะต้องปลิวออก หรือกลมนูนเสมือนหยดน้ำกลิ้งบนใบบอนโดยเคลือบแก้วจะไม่หลุดออกถึงแม้มีการฉีดน้ำแรงดันสูง หรือมีการล้างรถด้วยแชมพูล้างรถทั่วไป 6. ปัญหาการแตกร่อนของตัวแก้ว ในสมัยก่อนๆเคลือบแก้วมีลักษณ์แข็งเป็นแก้วทำให้พบปัญหาการแตกร่อนหลังจากใช้งานไปสักระยะหนึ่งบริษัทผู้ผลิตน้ำยาเคลือบแก้วจึงมีการพัฒนาน้ำยาเคลือบแก้วที่มีความยืดหยุ่นไม่แข็งตัวเร็วจนเกินไป เพื่อลดปัญหาการแตกร่อนและช่วยให้การเคลือบแก้วง่ายขึ้นอีกด้วย เคลือบแก้ว รัชดา
Create Date : 15 ธันวาคม 2561 |
Last Update : 15 ธันวาคม 2561 17:19:09 น. |
|
0 comments
|
Counter : 484 Pageviews. |
|
|