All Blog
|
เมื่อเรามี "นามบัตร" ได้ง่ายๆ โดย "Gogoprint" ![]() "นามบัตร" คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นในการทำงาน เพราะมันคือสิ่งหนึ่งที่ชอบให้เราสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนคอนแทคกับคนอื่นๆ ได้มากขึ้น ![]() ปอเองก็เป็นคนหนึ่งที่อยากมีนามบัตรเป็นของตัวเอง แล้วที่สำคัญ การจะมี "นามบัตร" เป็นของตัวเองสักใบ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ฉะนั้นบล็อกนี้ ปอจะมาแนะนำคนที่อยากมีนามบัตรไว้เป็นของตัวเอง เพื่่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการติดต่องานแบบง่ายๆ แค่ Click! ทุกอย่างด้วยปลายนิ้ว เข้าไปที่ ![]() ![]() ![]() ![]() ก็ไม่ต้องไปยุ่งยากตามหาโรงพิมพ์อะไรให้เหนื่อย ![]() นอกเหนือจากนามบัตร Gogoprint ยังมีบริการอื่นๆ ให้คุณเลือกอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น - แผ่นพับ - โบรชัวร์ - ใบปลิว - โปสการ์ด - โรงพิมพ์ ก็สามารถทำตามความต้องการของคุณได้ โดยไม่ต้องวิ่งตามหาหลายต่อหลายที่ ![]() ![]() แต่ถ้าจะทำนามบัตร ก็แค่คลิกเข้าไปที่ตัวเลือก "นามบัตร" บนแถบตัวเลือกด้านบน ![]() เข้ามาในหน้านี้ ถ้าเรายังงงๆ ว่ามันคืออะไร ส่วนไหนเป็นส่วนไหนบ้าง ทาง Gogoprint ก็มีคำอธิบายในแต่ละส่วนให้ เพื่อจะได้ทำผลงานของเราออกมาได้ตามความต้องการมากที่สุด ![]() ไม่ว่าจะเป็นไซส์ของนามบัตร การพิมพ์สี การเลือกกระดาษ หรือแม้แต่การเคลือบ ก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ![]() ทั้งนี้ยังสามารถเลือกกระดาษได้ ซึ่งกระดาษแต่ละแบบก็จะมีคำอธิบายเอาไว้ด้วย สำหรับคนที่อาจจะไม่เข้าใจว่ากระดาษแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร ![]() ![]() และลำดับขั้นตอนการสั่งพิมพ์ ก็มีบอกไว้ด้วยเช่นกัน บอกแล้วว่าทุกอย่างง่ายๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัส! ![]() ![]() เอาล่ะๆ ถึงเวลาที่ปอจะบอกขั้นตอนการสั่งทำนามบัตรของปอเองให้ดูแล้ว กลับเข้าไปที่หน้าแรกของ "นามบัตร" จากนั้นก็เลือกรูปแบบที่ต้องการของนามบัตร ซึ่งเมื่อเข้ามาที่หน้านี้ จะมีหัวข้อให้เลือกตามนั้น 1. ขนาดของนามบัตร ทาง Gogoprint จะมีให้เลือกอยู่ 3 ขนาด ดังนี้ - 9 x 5.5 cm. (ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของนามบัตรทั่วไป) - 9 x 5 cm. (เป็นรูปแบบนามบัตรของตะวันตก) - 8.5 x 5.5 cm. (เป็นรูปแบบที่มีสไตล์และอินเทรนด์) "ปอเลือกไซส์ของนามบัตรอยู่ที่ 8.5x5.5 cm. ปอเลือกขนาดให้เล็กลงจากขนาดนามบัตรมาตรฐานนิดหน่อยเพื่อให้รองรับการเก็บในช่องกระเป๋าได้ทุกแบบ" ![]() ![]() 2. รูปแบบการพิมพ์ - พิมพ์สี่สีหน้าหลัง (คือมีการพิมพ์สีทั้งสองหน้า) - พิมพ์สี่สีหน้าเดียว (คือมีการพิมพ์สีแค่หน้าเดียว) "เนื่องจากว่าปอมีโลโก้ด้านหนึ่ง และใส่รายละเอียดการติดต่ออีกด้านหนึ่ง ปอจึงเลือกการพิมพ์แบบสองหน้า คือพิมพ์สี่สีหน้าหลัง" ![]() ![]() 3. เลือกประเภทของกระดาษ มีกระดาษให้เลือกหลักๆ อยู่ 2 แบบ และความหนาของกระดาษให้เลือกอีก 3 แบบด้วยกัน - กระดาษอาร์ตการ์ดมัน 300 แกรม - กระดาษอาร์ตการ์ดด้าน 300 แกรม - กระดาษอาร์ตการ์ดมัน 260 แกรม - กระดาษอาร์ตการ์ดด้าน 260 แกรม - กระดาษอาร์ตการ์ดมัน 230 แกรม - กระดาษอาร์ตการ์ดด้าน 230 แกรม "ปอเลือกประเภทกระดาษเป็นแบบกลางๆ คือไม่บางและไม่หนาจนเกินไป มีความแข็งแรงได้มาตรฐาน และดูหรูหราแบบมีระดับด้วย กระดาษอาร์ตการ์ดด้าน 260 แกรม" ![]() ![]() 4. การเคลือบ ก็มีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน - ไม่มีการเคลือบ (บางคนอาจจะชอบเนื้อสัมผัสของกระดาษโดยตรง) - เคลือบด้าน (เคลือบฟิล์มแบบไม่สะท้อนแสง) - เคลือบมัน (เคลือบฟิล์มแบบสะท้อนแสง) - เคลือบยูวี (เคลือบด้านสารเคมีและการฉายแสง UV) - เคลือบด้านและตัดของมุมโค้ง 4 มุม "ปอเลือกการเคลือบเป็นแบบด้านเพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกับกระดาษที่เลือก (โดยส่วนตัวชอบนามบัตรที่เป็นแบบด้านมากกว่า เพราะมันดูหรูหราไม่แพ้แบบมัน แต่ก็ดูมีระดับและดูน่าเชื่อถือ)" ![]() เลือกความต้องการทุกอย่างเสร็จในหน้าเดียวเลย แค่คลิกแล้วเลือกแค่นั้นก็ได้รูปแบบของนามบัตรที่ต้องการแล้ว ง่ายมากเลยเห็นไหม!! ![]() ![]() มาถึงขั้นตอนต่อไป 5. การเลือกจำนวนและระยะเวลาในการจัดส่ง ในส่วนนี้ นอกเหนือจากรูปแบบของนามบัตรที่เลือกไว้ในข้างต้น จำนวนและระยะเวลาในการจัดส่งจะเป็นผลต่อการราคาในการจัดพิมพ์ด้วยเช่นกัน ยิ่งจำนวนมากและระยะเวลาในการจัดส่งเร็วขึ้น ราคาก็จะยิ่งแพงขึ้น ![]() "ปอเลือกจำนวนในการพิมพ์ 300 ใบ และเลือกการพิมพ์แบบเร่งด่วน (ใช้ระยะประมาณ 3 วันทำการ ในการจัดส่ง) เพราะตัวปอไม่ได้เร่งรีบอะไรมากนัก" ![]() ![]() เมื่อเลือกทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ในหน้าเว็บไซต์ด้านขวามือ จะมีแถบสรุปรายละเอียดการสั่งทำนามบัตรของเราแจ้งเอาไว้ด้วย ว่ามันเป็นไปตามที่เราสั่งเอาไว้ไหม ![]() "รายระเอียดนามบัตรของปอ ก็จะมีขนาด 8.5 x 5.5 cm. เป็นการพิมพ์สีทั้งสองด้านลงบนกระดาษอาร์ตการ์ดแบบด้าน 260 แกรม พร้อมทั้งเคลือบด้าน เป็นจำนวน 300 ใบ" ![]() ![]() ในส่วนนี้หากมีข้อสงสัย สามารถแชทกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง โดยเลือกตรงแถบด้านซ้ายล่างของหน้าเว็บไซต์ ![]() ![]() ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกที่มีประโยชน์มาก สำหรับคนที่มีข้อสงสัย หรือต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม เพราะมีเจ้าหน้าที่มาคอยตอบคำถามจริงๆ ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงระบบการตอบกลับแบบอัตโนมัติด้วย นี่คือความเก๋ที่ Gogoprint มี ![]() ![]() เมื่อเลือกรูปแบบของนามบัตรได้ตามต้องการแล้ว ให้กดเข้าไปตรงจำนวนชิ้นและรูปแบบการจัดส่งที่ต้องการ จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมา เป็นสรุปการสั่งซื้อของเรา เพื่อให้เราเช็คอีกครั้งก่อนจะทำการตกลงสั่งสินค้า ในหน้านี้จะมีราคาที่รวมภาษีบอกไว้ด้วย นั่นคือราคาสุทธิที่เราต้องจ่าย ![]() จากนั้นจะเข้ามายังหน้ารถเข็นสินค้า ซึ่งเป็นหน้าสรุปยอดทั้งหมด ยอดการสั่งพิมพ์ของปออยู่ที่ 963 บาท (รวม VAT แล้ว) แต่ปอได้รับ code ส่วนลดจากทาง Gogoprint มา 1,000 บาท ดังนั้นยอดทั้งหมดจึงอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ ปอจึงไม่ต้องจ่ายเพิ่มแต่อย่างใด (ซึ่งใครมี code coupon เป็นส่วนลด สามารถใส่ลงในหน้านี้ได้เลยนะ ให้ใส่ก่อนจะกดดำเนินการชำระเงินนะ) ![]() เมื่อกดดำเนินการต่อแล้ว นั่นจะเข้าสู่ขั้นตอนการวางบิลและใส่ที่อยู่จัดส่งแล้ว ซึ่งขั้นตอนนี้จะต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบเสียก่อน เผื่อกลับมาสั่งพิมพ์อย่างอื่นครั้งหน้าจะได้สามารถดึงข้อมูลได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์อีก ![]() ![]() เมื่อใส่รายระเอียดครบถ้วน ก็จะเป็นการชำระเงิน รวมทั้งอัพโหลดไฟล์นามบัตรของเราด้วย โดยรูปแบบไฟล์ที่ใช้จะต้องเป็น .PDF เท่านั้น จึงจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ถ้าเป็นรูปแบบไฟล์อื่นๆ อย่างเช่น .JPEG, .PNG, .PSD, .ES, .TIFF, .AI ต้องเพิ่มเงินอีก 200 บาท รวมทั้งยังสามารถให้ทาง Gogoprint ออกแบบนามบัตรให้กับคุณได้ และสามารถแก้ไขงานได้ 3 ครั้ง โดยมีค่าใช้จ่าย 3,000 บาท ![]() ถึงหน้านี้จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว สามารถเลือกช่องทางการชำระเงินได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เก็บเงินปลายทาง, โอนเงิน หรือจ่ายผ่านเครดิตการ์ด แล้วแต่ความสะดวกเลย ![]() เมื่อเสร็จสิ้นการสั่ง ก็จะเป็นหน้าสรุปการสั่งสินค้า หลังจากนี้ก็แค่รอรับนามบัตรที่บ้านแค่นั้นเอง ![]() ![]() ![]() และแล้วนามบัตรของตัวปอเองก็มีถึงมือ เป็นไปตามที่คิดเอาไว้ และทำออกมาได้ดีมากๆ ทั้งตัวกระดาษที่ดูแข็งแรง การเคลือบที่ได้มาตรฐาน ทำให้ได้นามบัตรออกมาอย่างมีคุณภาพ พร้อมที่จะหยิบยื่นให้คนอื่นๆ เพื่อสร้างคอนแทคให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว โดยปอใส่โลโก้ของปอไว้เดี่ยวๆ เลยด้านหนึ่ง เป็นโลโก้ที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็เห็นได้โดดเด่นและชัดเจน ส่วนอีกฝั่งจะใส่รายละเอียดการติดต่อผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บล็อก, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล, facebook page และ instagram โดยเป็นรูปแบบที่เรียบง่าย คลาสสิค แต่ก็ดูทันสมัยในทุกโอกาส ![]() ![]() ![]() บอกแล้วว่าการจะมีนามบัตรเป็นของตัวเองสักใบ ไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไป แค่เพียงเข้าไปที่ คุณจะมีนามบัตรได้ไม่ยากเลย ![]() ![]() ข้อดี - ง่าย สะดวกเพียงนั่งอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงานก็สามารถสั่งทำนามบัตรหรืออื่นๆ ได้โดยไม่ต้องเดินทาง - เว็บไซต์ใช้ง่ายได้ง่าย รวมทุกอย่างไว้ในหน้าเดียว เพียงแค่คลิกเลือกเมนูต่างๆ - มีช่องทางการจ่ายเงินที่หลากหลาย รวมทั้งการเก็บเงินปลายทางซึ่งสะดวกสำหรับคนที่ไม่สะดวกโอนเงินหรือไม่มีบัตรเครดิต - สามารถแชทโต้ตอบหรือสอบถามกับพนักงานได้จริงๆ และได้คำตอบในเวลาอันรวดเร็ว(อันนี้ปอทดสอบมาแล้ว) - รู้วันที่จะรับของ สามารถกำหนดระยะเวลาในการจัดพิมพ์ได้ ทำงานรวดเร็ว - นอกจากการแชทแล้วยังสามารถโทรติดต่อผ่าน call center ได้อีกช่องทาง - รองรับทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ข้อเสีย - ตัวเลือกรูปแบบของนามบัตรยังไม่หลากหลายมากเมื่อเทียบกับรูปแบบนามบัตรในปัจจุบัน - ไม่สามารถต่อรองราคาได้ เพราะทุกอย่างถูก fixed ไว้ด้วยระบบอัตโนมัติ - ไม่สามารถดู preview รูปแบบของงานได้ก่อนที่จะสั่งซื้อ เพราะขั้นตอนการอัพโหลดรูปอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ![]() ![]() สุดท้ายปอคิดว่า gogoprint ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการทำนามบัตร แต่ไม่มีเวลาสำหรับการเดินทางหาหรือติดต่อสำนักพิมพ์ เพราะสะดวกตั้งแต่ขั้นตอนการสั่งพิมพ์ จนถึงการจัดส่งและชำระเงิน และผลงานที่ได้รับก็ได้คุณภาพอย่างที่ต้องการ แม้จะมีความหลากหลายของตัวเลือกยังน้อยอยู่ แต่ปอเชื่อว่าในอนาคตคงจะมีการปรับปรุงและพัฒนาให้หลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้ปอต้องขอขอบคุณทาง gogoprint ด้วยที่สนับสนุนปอมาตั้งแต่แรก รวมทังออกแบบนามบัตรให้ปออีกด้วย และหวังว่าบล็อกนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มองหาช่องทางการทำนามบัตร หรือสื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆ ทางออนไลน์ ที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก Sponsored Post! |
PorschePoR
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() สวัสดีจ้าทุกคน!!! ก่อนอื่นก็แนะนำตัวกันก่อนเลย ชื่อ "ปอ" นะ ใครใคร่จะเรียก "ปอร์เช่ ปอ" ก็ตามใจ บล็อกของปอก็จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเครื่องสำอางต่างๆ ทั้งรีวิว how to เทคนิค หรือสิ่งที่ปอชื่นชอบ ปลาบปลื้ม รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นด้วย ยังไงช่วยติดตามกันด้วยน๊าาา ^^ ![]() | |||