การเตินทางเพื่อลับคมกระบี่ ตอนที่ 1
หลังจากที่ทำงานสอนต่อเนื่องยาวนานมา 10 ปี ก็รู้สึกว่าตัวเองอยู่ใน comfort zone มานานเกินไปจนเริ่มเฉื่อย ชีวิตสบายเกินไป(ไม่ชอบ?) ตื่นเช้า ดูข่าว ละเลียดกาแฟ อาบน้ำ แต่งตัว ขับรถออกจากบ้านพัก 5 นาทีถึงที่ทำงาน (จนป่านนี้ MP3 ในรถบางแผ่นยังฟังเพลงไม่ครบ) เตรียมสอน ไปสอน ดูงานวิจัย นศ. ป.โท-เอกห้าโมงเย็นไปเล่นกีฬา สองทุ่มเข้าบ้าน อาบน้ำ ดูงานที่ค้างนิดหน่อยบางวันขี้เกียจก็ไม่ทำ ไว้ทำวันหลัง แล้วก็เข้านอน วนเวียนอย่างนี้ทุกวัน
เริ่มหมดมุข ตัวอย่างที่ยกมาประกอบการสอนเริ่มวนลูบกลับไปที่ตัวอย่างเดิมๆ
ได้เวลาออกไปหาประสบการณ์จากโลกภายนอกอีกครั้งสินะ
โชคดีที่เคยได้รับทุนเป็นนักวิจัยแลกเปลี่ยนจากประเทศหนึ่งในทวีปยุโรปซึ่งมีนโยบายว่าทุก 5 ปี alumni หรือผู้ที่เคยได้รับทุนจากประเทศนี้ มีสิทธิ์ที่จะขอทุนติดตามผล (followup grant) เพื่อไปทำความร่วมมือ ทำวิจัย หรือไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในประเทศนี้อีกครั้ง เมื่อครบเวลา 5 ปี จะมีจดหมายส่งมาบอกว่าสมัคร follow up grant ได้แล้วนะ โดยในการสมัครทุนนี้ ผู้สมัครต้องติดต่อหา Host Professor และเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกกับผู้สมัครคนอื่นๆ ที่เป็น alumniเคยรับทุนจากประเทศนี้ เหมือนกับทุนทั่วๆ ไปทุกประการไม่มีการรับประกันว่าสมัครแล้วจะได้
ได้จดหมายเชิญให้สมัครตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ภาระเยอะมาก ทั้งงานสอนและงานวิจัยจนไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะปลีกตัวไปได้เลย (คิดไกลไปมั้ย แค่สมัครนะ เค้ายังไม่ได้รับ)
ปีนี้ได้รับจดหมายเชิญอีกครั้ง เห็นว่าภาระงานเริ่มน้อยลงแล้ว มีช่วงที่ว่างเลยตัดสินใจลองสมัครดู
อันดับแรก หา Host Professor ก็หาข้อมูลและเลือก Professor ที่มีงานวิจัยในแนวเดียวกัน จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนที่ยากมากๆ สำหรับตัวเราคือการ e-mail ไปแนะนำตัวและขอให้ Professor S (นามสมมติ) รับเป็น Host สำหรับการไปทำวิจัยให้
ส่ง e-mail ไปวันแรก
เงียบ
สงสัยยังไม่ได้เช็ค e-mail เวลาเราเร็วกว่าเค้า 6 ชั่วโมงเข้าใจได้
วันที่สอง..และวันที่สาม
เงียบสนิท
เริ่มทำใจ
คนนี้คงจะไม่ได้ละ ตอนสมัครทุนแลกเปลี่ยนครั้งที่แล้ว Prof. H (Host Professor ณ ตอนนั้น) ตอบ e-mail กลับมาภายใน 6 ชั่วโมง และมี response ที่ดีมากๆ แต่ว่า 5 ปีที่ผ่านมา ทิศทางงานวิจัยเราเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะมากถ้าสมัครไปที่เดิม หน่วยงานให้ทุนอาจจะเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีความร่วมมือทางงานวิจัยต่อไปในอนาคตน้อยจนไม่สนับสนุน (จริงๆ ถ้า Professor H เห็นทิศทางงานวิจัยที่เปลี่ยนไปของเราแล้วก็อาจจะไม่รับเป็น host แล้วก็ได้ --- คิดเองทั้งน๊านน)
วันที่สี่ เสียง e-mail เข้ามาตอนกำลังจะกินข้าวเย็น มือขวาถือช้อนค้างไว้ มือซ้ายสไลด์โทรศัพท์ดูอย่างไร้อารมณ์ ตาเหลือบเห็นชื่อคนส่ง Sxxxxxx ช้อนหลุดจากมือ รีบเปิด e-mail ดูอย่างไว
เห็น e-mail แล้วขำ เรา แนะนำตัวไปยาวเหยียด พร้อมแนบ CV ที่ผ่านการตกแต่งแล้วอย่างดี Prof.ตอบกลับมา2 บรรทัด แต่ไม่เป็นไรเพราะมันเป็น 2 บรรทัดที่มีค่าเหลือเกิน (ดูจากรูปบนเว็บไซต์ Prof. S ผมสีดอกเลา ไว้หนวดและเครา ดูน่าเกรงขาม ท่านอาจจะเป็นคนพูดน้อยด้วยก็ได้)
ที่สำคัญ Prof. ยังรู้งาน แนบจดหมายเชิญอย่างเป็นทางการมาให้พร้อม ไม่ต้องe-mail กลับไปขออีก
ขั้นตอนต่อไป กรอกใบสมัครสิครับ รอไร ทุนนี้ต้องสมัคร online เท่านั้น เอกสารทุกอย่างต้องอยู่ในformat ที่กำหนดไว้
สิ่งที่ยากก็คือการเขียนใบสมัครให้น่าสนใจ.... จะทำยังไง -_-'
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2559 |
|
5 comments |
Last Update : 13 มีนาคม 2559 7:12:41 น. |
Counter : 4052 Pageviews. |
|
|
|
พี่ X คิดฮอดน้องC+ แบบสุดติ่งกระดิ่งแมวกันเลยทีเดียว
จุ๊ฟๆๆๆ
ขอให้สำเร็จสมหวังทุกประการนะจ้ะ
ยังระทึกนึกถึงอยู่อย่างเสมอ รัญจวนใจมากเรย อิอิ ขอให้ได้กวนทีนน้องสักนีส ก็ยังดีเนาะ